NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 327 อัดมู่เสี่ยวไป๋

บทที่ 327 อัดมู่เสี่ยวไป๋
ก่อนหน้านี้หลี่ฝางคิดว่ามู่เสี่ยวไป๋เป็นพวกหนุ่มรักเดียวใจเดียว ภักดีต่อหลินชิงชิงไม่ว่อกแว่ก
แต่เมื่อครู่ มู่เสี่ยวไป๋ไม่เพียงแต่ตบก้นของเหยนเสี่ยวน่าต่อหน้าตน แต่ยังคิดจะครอบครองเธอด้วย ในตอนนั้นหลี่ฝางก็เปลี่ยนความคิดของเขาทันที
“มู่เสี่ยวไป๋ นายทำให้ฉันผิดหวังอย่างมาก” หลี่ฝางเดินไปที่ด้านข้างของมู่เสี่ยวไป๋ ในมือถือเข็มขัดเอาไว้ ก่อนจะพูดกับมู่เสี่ยวไป๋อย่างเย็นชา
มู่เสี่ยวไป๋กลืนน้ำลาย ทั้งร่างตัวสั่นไปหมดด้วยความกลัว
มู่เสี่ยวไป๋รู้อย่างแจ่มแจ้งจนถึงก้นบึ้งในใจ หลี่ฝางไม่กลัวเขาเลยสักนิด
ครั้งที่แล้ว หลี่ฝางก็เกือบจะแทงมู่เสี่ยวไป๋ตายแล้วไม่ใช่หรือไง?
มู่เสี่ยวไป๋ก้าวถอยและนั่งลงไปบนเตียง ก่อนจะพยายามลุกขึ้นหนี
“ไอ้ลามกนี่ เมื่อกี้กีบเท้าของแกไปตบโดนอะไร?” หลี่ฝางกระโดดขึ้นไปบนเตียงและเหยียบลงบนมือของมู่เสี่ยวไป๋
พูดไป หลี่ฝางก็ฟาดเข็มขัดลงบนใบหน้าของมู่เสี่ยวไป๋ทันที ใบหน้าของมู่เสี่ยวไป๋เกิดเป็นรอยแดงขึ้นมาแถบหนึ่ง
มู่เสี่ยวไป๋เอามือข้างหนึ่งขึ้นมาปิดหน้าไว้ เขาขมวดคิ้ว “หลี่ฝาง แกอย่าให้มันมากเกินไป ถึงยังไง ฉันก็เป็นถึงคุณชายใหญ่ของตระกูลมู่”
“คุณชายใหญ่ตระกูลมู่ นายนี่ช่างยอดเยี่ยมจริงๆ”
“เก่งกาจ เก่งกาจ!”
หลี่ฝางพูดพร้อมถอนหายใจ ก่อนจะยกแขนขึ้น ก่อนจะฟาดใส่มู่เสี่ยวไป๋อีกสองที
“ฉันก็เป็นคุณชายใหญ่แห่งตระกูลหลี่!” หลี่ฝางพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“เอาสถานะพังๆ นั่นมาขู่ฉันให้มันน้อยๆ หน่อย นายคิดว่าฉันจะกลัวนายหรือไง?” หลี่ฝางรู้สึกว่านี่น่าขันอยู่บ้าง
มู่เสี่ยวไป๋อันที่จริงทำพลาดไปแล้ว
เขาคิดว่าตนเองฉลาดอย่างยิ่ง เรียกหมาทิเบตันให้หลอกทำให้ตนและส้าวส้วยสับสน ก่อนจะให้เจ้าหัวแบนไปจับตัวฉินวี่เฟยเอาไว้
“ฉันถามนาย นายจับตัวฉินวี่เฟยเอาไว้ทำไม? นายจะทำอะไรกับเธอ?” หลี่ฝางถามอย่างเย็นชา
มู่เสี่ยวไป๋ขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาไม่เอ่ยพูด ทันใดนั้นหลี่ฝางก็ฟาดเข็มขัดลงที่ใบหน้าของมู่เสี่ยวไป๋ “มาตอนนี้นายยังจะมาทำสีหน้าอะไรใส่ฉันอีก นายมองไม่เห็นว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไงใช่ไหม? ฉันจะบอกนายให้ หมาทิเบตันและเสี่ยวโจว ไม่มีใครมาสนใจนายแล้ว ถ้านายทำให้ฉันโกรธสุดๆ ขึ้นมา วันนี้ฉันจะให้นายตายอยู่ที่นี่!”
“หมาทิเบตัน?”
สีหน้าของมู่เสี่ยวไป๋เปลี่ยนไป เขาถามอย่างประหลาดใจ “แกรู้ได้อย่างไรว่าเขามีชื่อเรียกว่าหมาทิเบตัน?”
“ไอ้เชี่ยเอ๊ย ดูถูกอำนาจตระกูลหลี่มากเกินไปหน่อยมั้ง? ก็แค่ขยะชิ้นหนึ่ง นายคิดว่าพวกฉันจะสืบหาไม่เจอหรือไง?” หลี่ฝางแสดงสีหน้าดูถูกเหยียดหยาม “ฉันจะบอกให้ หมาทิเบตันนั่นถ้าเทียบกับฝั่งฉัน แม้กระทั่งพวกลูกน้องตัวน้อยๆ ของฉันเขายังจัดการไม่ได้ด้วยซ้ำ ถ้านายไม่เชื่อ ก็ลองไปดูให้ดีๆ ได้”
“นายคิดว่าอาศัยแค่หมาทิเบตันก็สามารถฆ่าส้าวส้วยได้? คิดอะไรอยู่น่ะ?” หลี่ฝางหัวเราะขึ้นมา
เสียงเพี้ยะดังขึ้น หลี่ฝางฟาดเข็มขัดลงที่ใบหน้าของมู่เสี่ยวไป๋ “รีบตอบคำถามของฉันมา จับฉินวี่เฟยไปทำไม?”
“ทำไมแกต้องฟาดหน้าอยู่ได้? เมื่อกี้ฉันฟาดใส่แขนของเหยนเสี่ยวน่า ถ้าแกแก้แค้นแทนเธอ แกก็ควรปาดใส่แขนฉันถึงจะถูก” มู่เสี่ยวไป๋ขมวดคิ้วพูดอย่างอับจนหนทาง
“ฉันเห็นหน้านายแล้วหงุดหงิด รู้ไหม ฉันเกลียดผู้ชายที่ดูหล่อกว่าฉัน เข้าใจรึเปล่า?” หลี่ฝางหัวเราะเยาะ จากนั้นจึงสะบัดเข็มขัดลงที่ใบหน้าของมู่เสี่ยวไป๋อีกสองที
มู่เสี่ยวไป๋หมดคำพูดใด ๆ เกิดมาหล่อ ก็เป็นความผิดหรือไงกัน?
หลี่ฝางโมโหอยู่บ้าง “ฉันถามนาย นายหูหนวกหรือไง? ฉันจะถามนายครั้งสุดท้าย นายจับฉินวี่เฟยไปทำไม ถ้ายังไม่พูด ฉันจะทำลายหน้าแกซะ”
หลังจากถูกฟาดมาหลายครั้ง มู่เสี่ยวไป๋ก็เริ่มเจ็บแล้วจำขึ้นมาเช่นกัน
มู่เสี่ยวไป๋เก่งในการเล่นกับจิตใจและเล่นลูกไม้ แต่เทียบกับคนที่หน้าด้าน ไร้ยางอายอย่างหลี่ฝางแล้ว ความเคยชินพวกนี้กลับทำให้เกิดเป็นเรื่องยากที่จะโจมตีทางจิตวิทยาได้…ดังนั้นมู่เสี่ยวไป๋จึงไม่มีผลเลยสักนิด
อันที่จริง หลี่ฝางหน้าด้านอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นคู่ต่อสู้ที่รับมือยากแค่ไหน เขาก็ล้วนสามารถทำให้อีกฝ่ายอับจนปัญญาขึ้นมาได้
บางที นี่อาจจะเกี่ยวข้องกับประสบการณ์ของหลี่ฝาง
ในช่วงสามปีของโรงเรียนมัธยมปลาย หลี่ฝางถูกคนมากมายรังแกและได้รับความลำบากอย่างยิ่ง ดังนั้นจึงเกิดเป็นวิธีของเขาขึ้นมา
นั่นคือการใช้ความทรมานขัดเกลาคุณจากเบาไปหนัก
มู่เสี่ยวไป๋มองไปที่หลี่ฝางและพูดว่า “บอกกับแกตามตรง พอได้ยินว่าฉินวี่เฟยและแกกลับไปที่วิลล่าตอนดึกดื่น ฉันไม่เพียงแต่ไม่โกรธ แต่ยังดีใจอีกด้วย ผู้หญิงอย่างฉินวี่เฟย วันๆ เอาแต่แสร้งทำเป็นบริสุทธิ์ ฉันคิดจะหาธาตุแท้ของเธอมาตั้งนานแล้วแต่ก็แค่ยังหาไม่เจอ”
“ใครจะไปรู้ เมื่อเช้านี้มีปาปารัสซี่มาติดต่อฉัน บอกว่ามีหลักฐานว่าฉินวี่เฟยนอกใจ ตอนนี้ฉันก็ยังไม่เชื่อ คิดว่าผู้หญิงอย่างฉินวี่เฟย เกิดในครอบครัวตระกูลฉินแบบนั้น อีกทั้งยังใกล้จะถึงงานหมั้นแล้วด้วย ทำไมถึงได้นอกใจ?”
“อย่างไรก็ตาม ฉันก็ยังคิดจะลองดูท่าที ก็เลยตอบรับเจอหน้ากับพวกเขา ฉันพิสูจน์แล้ว รูปภาพที่เขาถ่าย ไม่ได้มีการตัดต่อ ฉินวี่เฟยนอกใจจริงๆ แถมยังเป็นกับแกด้วย”
“เมื่อกี้ตอนที่ฉันไปหาฉินวี่เฟย ฉันก็เข้าใจแล้วว่า แต่เดิม เธอเองก็ไม่อยากแต่งงานกับฉัน ดังนั้นก็เลยไปอยู่กับแก หลี่ฝาง แกตื่นเถอะ แกคิดว่าฉินวี่เฟยรักแกจริงๆ หรือไง เธอก็แค่เห็นแก่ตัวตนของแก และต้องการใช้เพื่อกำจัดฉันก็เท่านั้น”
หลี่ฝางพยักหน้าและพูดเรียบๆ “ฉันรู้ ฉินวี่เฟยก็บอกกับฉันแล้ว ว่าเธอแค่ใช้ประโยชน์จากฉัน”
“แกรู้?” มู่เสี่ยวไป๋มีสีหน้าไม่อยากจะเชื่ออยู่บ้าง “นี่แกถึงขนาดเต็มใจที่จะให้ผู้หญิงสารเลวนั่นหลอกใช้?”
“แม่งเอ้ย แกต่างหากที่สารเลว”
หลี่ฝางฟาดเข็มขัดเข้าอย่างแรงลงบนศีรษะของมู่เสี่ยวไป๋ มู่เสี่ยวไป๋กัดฟันด้วยความเจ็บ
หลี่ฝางเข้าใจขึ้นมาในทันทีว่า มู่เสี่ยวไป๋คิดไปว่าหลี่ฝางชอบฉินวี่เฟยจริงๆ ดังนั้นถึงได้คิดจะพาตัวฉินวี่เฟยไปเพื่อให้หลี่ฝางเสียใจ
แต่ความจริงแล้ว ต่อให้หลี่ฝางจะไม่ได้รู้สึกเสียใจ แต่เขาก็ไม่สามารถปล่อยให้มู่เสี่ยวไป๋ไปฉินวี่เฟยไปได้
“กลับไปบอกปู่ของนาย ให้เขารีบไปขอตระกูลฉินถอนหมั้น ได้ยินไหม?” หลี่ฝางเอ่ยเตือนพร้อมชี้ไปที่จมูกของมู่เสี่ยวไป๋
“แม่เจ้าโว้ย ยังไม่รีบรับปากอีก?”
หลี่ฝางเห็นว่ามู่เสี่ยวไป๋ไม่ตอบสนอง ดังนั้นจึงยกเข็มขัดในมือขึ้นทันที
“รับปากแล้ว ฉันรับปาก!” มู่เสี่ยวไป๋รีบขอความเมตตาทันที หากยังโดนฟาดต่อไปอีก ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาเห็นทีคงเสียโฉมแน่
“มา สาบานให้ฉันฟัง”
หลี่ฝางเริ่มบีบบังคับให้มู่เสี่ยวไป๋เอ่ยสาบานหลังจากที่มู่เสี่ยวไป๋สาบานเสร็จ หลี่ฝางถึงค่อยลุกขึ้น
เมื่อเดินออกมาจากห้อง ก็เห็นว่าเหยนเสี่ยวน่ากำลังยืนอยู่ข้างนอก
“หลี่ฝาง นายไม่ได้ทำอะไรกับเขาใช่ไหม?” เหยนเสี่ยวน่าถามอย่างกังวล
“ทำไม เธอเป็นอะไรถึงได้เป็นห่วงเขานัก? ชอบไอ้สุนัขตัวนี้หรือไง” หลี่ฝางถามอย่างไม่สบอารมณ์
“ไม่ใช่ โรงกลั่นเหล้าของพ่อฉัน ทุกปีจะต้องได้รับการตรวจสอบจากสำนักตรวจสอบคุณภาพ ส่วนผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบคุณภาพก็มีความสัมพันธ์กับตระกูลมู่อย่างมาก หากฉันไปทำให้มู่เสี่ยวไป๋ขุ่นเคืองเข้า เขาเอ่ยแค่ประโยคเดียว โรงกลั่นเหล้าของเราก็จะถูกปิดทันที” เหยนเสี่ยวน่ากัดริมฝีปากของเธอและพูดอย่างลนลาน
“นั่นเป็นแหล่งรายได้เดียวของตระกูลเรา หากโรงกลั่นเหล้าเจ๊งขึ้นมา ตระกูลของเราก็จะจบเห่ พ่อของฉันยังเป็นหนี้เงินกู้ธนาคารอีกตั้งเยอะ”
หลี่ฝางตบไหล่เหยนเสี่ยวน่า เขาเอ่ย “เอาเถอะ เธอกลัวอะไรกัน มีฉันอยู่ไม่ใช่หรือไง? ถ้าโรงกลั่นเหล้าของบ้านเธอมีเรื่องอะไร ฉันจะรับผิดชอบเอง พอใจไหม?”
ก็แค่โรงกลั่นเหล้าพังๆ ไม่ใช่หรือไง ต่อให้หลี่ฝางต้องซื้อโรงกลั่นเหล้าของตระกูลเหยน ก็ยังไม่เป็นปัญหาเลยสักนิด!
“ไป ไปดูพวกวี่เฟย”
เดินไปไม่กี่ก้าว พวกเขาก็มาถึงห้องชุดของฉินวี่เฟย
ในเวลานี้ฉินวี่เฟยถูกมัดมือมัดเท้าติดอยู่กับเตียง ในปากมีรอยเลือดแห้งกรัง บนใบหน้า เต็มไปด้วยรอยฝ่ามือทั้งห้านิ้วอย่างชัดเจน
ส่วนกระโปรงสีขาวหิมะของเธอก็เต็มไปด้วยรอยเท้า
หลี่ฝางเห็นฉากนี้เข้า ใบหน้าของเขาก็เหี้ยมเกรียมขึ้นมาทันที หวางเสี่ยวโก๋และเลี่ยวข่ายล้วนนอนอยู่ที่พื้น ไม่สามารถลุกขึ้นมาได้
“นี่มันเกิดเรื่องอะไรกันแน่?”
“เสี่ยวโจวเป็นคนทำ?”
หลี่ฝางขมวดคิ้วอย่างไม่อยากจะเชื่ออยู่บ้าง
เสี่ยวโจวลงมือโหดร้ายขนาดนี้ได้ยังไงกัน
หลี่ฝางรีบช่วยฉินวี่เฟยปลดเชือกออกก่อน และถามอย่างปวดใจ “เป็นมู่เสี่ยวไป๋ที่ตบตีเธอหรือ?”
ฉินวี่เฟยพยักหน้าเล็กน้อยและกระซิบเสียงอืมตอบรับ
“ไอ้เวรนี่ ฉันจะฆ่ามัน!” หลี่ฝางพูดพลางกัดฟัน
“อย่าไป…ช่างเถอะ”
ฉินวี่เฟยดึงแขนของหลี่ฝางไว้และเอ่ย “เขารู้เรื่องของพวกเราแล้ว เขาตีฉันก็ถูก”
“ถูกอะไรกัน ฉินวี่เฟย เธออย่าลืม เธอยังไม่ได้หมั้นกับเขา ตอนนี้พวกเธอไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกัน ต่อให้พวกเราคบกันอย่างเปิดเผยขึ้นมา เขาก็ไม่มีสิทธิ์มาโมโห ต่อให้เขาโมโห ฉันก็จะฟาดเขาให้ตาย ไม่ได้การ ฉันจะต้องไปฟาดเขาให้ตายซะตั้งแต่ตอนนี้เลย”
หลี่ฝางไม่สนใจต่อการขัดขวางของฉินวี่เฟย และหันหลังเดินกลับไปหามู่เสี่ยวไป๋
แม้ว่าฉินวี่เฟยจะไม่ต้องการให้หลี่ฝางไปหามู่เสี่ยวไป๋เพื่อแก้แค้น แต่เมื่อเห็นท่าทางที่เขาปกป้องตน ในใจของเธอก็รู้สึกซาบซึ้งอย่างยิ่ง
ในขณะนี้ ในใจของฉินวี่เฟยรู้สึกอบอุ่นขึ้นมา
หลี่ฝางวิ่งกลับไป ในขณะที่กำลังจะไปคิดบัญชีกับมู่เสี่ยวไป๋ ก็เห็นว่ามู่เสี่ยวไป๋กำลังหลบหนีไปพอดี
มู่เสี่ยวไป๋ดูเหมือนจะคาดการณ์เอาไว้ก่อนแล้ว ว่าเมื่อหลี่ฝางเห็นสภาพของฉินวี่เฟยเข้า จะต้องกลับมาแก้แค้นตัวเองอย่างแน่นอน ดังนั้น หลี่ฝางเพิ่งจะลุกจากไป มู่เสี่ยวไป๋ก็เริ่มหนีทันที
หลี่ฝางไล่ตามไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่กำลังจะไล่ตามมู่เสี่ยวไป๋ไป เขากลับเห็นการต่อสู้ของเจ้าหัวแบนและโหจื่อพอดี
ไม่คิดเลยว่านานขนาดนี้แล้ว โหจื่อและเจ้าหัวแบนยังสู้กันอยู่อีก อีกทั้งยังไม่ได้มีใครแพ้ชนะ
ในเวลานี้ ทั้งโหจื่อและเจ้าหัวแบนล้วนมีบาดแผลบนตัว
หลังจากมู่เสี่ยวไป๋วิ่งเข้ามา เขาก็ด่าเจ้าหัวแบนอย่างโมโห “ไอ้เอ่ย คิดจะให้แม่เฒ่านั่นตายใช่ไหม?”
“มาจัดการให้ฉันเดี๋ยวนี้!”
หลี่ฝางเข้าไปและใช้เท้าเตะมู่เสี่ยวไป๋จนพลิกคว่ำลงไปบนพื้น “หุบปาก ได้ยินไหม?”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

พ่อแม่ที่หายตัวไปหลายปีจู่ๆ ก็โทรมา บอกว่าตัวเองเป็นบุคคลที่รวยที่สุดของดูไบ………….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset