NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 338 ส้าวส้วยหนึ่งต่อศัตรูทั้งสี่

บทที่338 ส้าวส้วยหนึ่งต่อศัตรูทั้งสี่
ส้าวส้วยกลัวว่าระหว่างทางหลี่ฝางเจออันตราย จึงรีบตามออกไปจากห้องประชุม
หมาทิเบตันยังอยู่ที่สถานตากอากาศ ถึงแม้จุดประสงค์เขาไม่ใช่หลี่ฝาง ส้าวส้วยก็ต้องป้องกัน
หลี่ฝางมองเห็นส้าวส้วยที่อยู่ด้านหลัง หัวเราะเหอะๆถามว่า:“ทำไม กลัวผมเจออันตรายระหว่างทางเหรอ?”
“ไม่ใช่เหรอไงล่ะ?บอดี้การ์ดติดตัวสี่คนนั้น ต่างไม่ได้ตามไป ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าอยู่ไหน อีกอย่าง ยังมีหมาทิเบตันด้วย เจ้านายทางนี้ ไม่แน่นอนจริงๆ!”ส้าวส้วยเลียปากพูดไป
หลี่ฝางพยักหน้า เดิมทีก็อยากเรียกส้าวส้วยมา แต่เห็นแก่หน้า ดังนั้นจึงไม่พูดเอง แต่ส้าวส้วยกลับตระหนักได้ ตามมาเอง
“เจ้านาย ความหมายของโหจื่อ คุณเข้าใจไหม?”เดินที่ถนน ส้าวส้วยก็พูด
หลี่ฝางพยักหน้า หัวเราะ:“ผมไม่ได้โง่นะ”
โหจื่อให้หลี่ฝางไปเรียกฉินวี่เฟย เพื่อให้หลี่ฝางเป็นคนช่วยพูดระหว่างกลาง
ถ้าไม่อย่างนั้น โหจื่อจะกล้าให้เจ้านายของตัวเองวิ่งมาแทนได้ไง?
เห็นชัดๆว่าโทรก็แก้ไขเรื่องได้ ทำไมต้องวิ่งมาด้วย?
หลี่ฝางเดินไปไม่กี่นาที ทันใดนั้นมู่เจิ้งถังก็ขมวดคิ้ว
ในเมื่อเขาตระหนักว่าผิดปกติ จึงหันไปมองมู่เสี่ยวไป๋:“เสี่ยวไป๋ คุณมีเบอร์ฉินวี่เฟยไหม?”
“ผมมีวีแชทเธอ ถึงแม้จะไม่เคยคุยเลย”มู่เสี่ยวไป๋รีบพูด
“งั้นคุณส่งข้อความหาเธอ ว่าผมมา ให้เธอมานี่หน่อย”มู่เจิ้งถังไม่ค่อยสบายใจ
เวลานี้โหจื่อหัวเราะหึหึ พูดกับมู่เจิ้งถัง:“ท่านมู่ ห้องประชุมนี้ห่างจากสถานที่ที่คุณหนูฉินอยู่ไม่กี่นาทีเอง สันนิษฐานว่าตอนนี้ คุณชายของผมน่าจะถึงแล้ว”
“ไม่จำเป็นหรอก”มุมปากมู่เจิ้งถังหัวเราะอย่างซับซ้อน น้ำเสียงเต็มไปด้วยความสนุก
มู่เจิ้งถังพูดจบ สบตาหลี่ต๋าคางอย่างเย็นชา
ในเมื่อตระกูลหลี่กล้าหักขาของมู่เสี่ยวไป๋ งั้นมู่เจิ้งถังก็กล้าลงมือหลี่ฝาง
มู่เจิ้งถังหัวเราะอย่างเย็นชา พูดในใจ คิดว่าตัวเองเป็นคนโดนแกล้งง่ายจริงๆเหรอ?
“ปู่……”ใบหน้าของมู่เสี่ยวไป๋ จู่ๆก็ขมวดคิ้ว
“ทำไม?”มองสีหน้ามู่เสี่ยวไป๋ผิดปกติหน่อยๆ มู่เจิ้งถังรีบถาม
เวลานี้เอง จะเกิดเรื่องอะไรไม่ได้แล้วจริงๆ
“ฉินวี่เฟย ยัยดอกทองนี่ บล็อกผมไปแล้ว”มู่เสี่ยวไป๋พูดอย่างหมดคำพูดหน่อยๆ
มู่เสี่ยวไป๋กับมู่เจิ้งถังเข้าใจดี ตอนนี้ความพ่ายแพ้ของพวกเขา อยู่ในการควบคุมของฉินวี่เฟย
ในมือของโหจื่อมีหลักฐาน แค่คำพูดของฉินวี่เฟย มู่เสี่ยวไป๋จะกลายเป็นนักโทษทันที
ถึงตอนนั้น ถึงตระกูลมู่มีความสามารถแค่ไหน ก็ไม่มีทางช่วยมู่เสี่ยวไป๋ได้
หลี่ฝางเดินไปได้ครึ่งทาง จู่ๆก็ถูกส้าวส้วยดึงแขนไว้
“ทำไมเหรอ?”หลี่ฝางถาม
ส้าวส้วยหัวเราะหึหึ พูดกับหลี่ฝาง:“คุณชาย รอเดี๋ยวค่อยไป มีแขกมาล่ะ”
“แขก?”หลี่ฝางขมวดคิ้ว ไม่ค่อยเข้าใจ:“แขกอะไร?”
ส้าวส้วยชี้ไปที่หญ้าข้างๆ พูด:“แขกหลบพวกเราอยู่”
หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ จึงเข้าใจความหมายของส้าวส้วย:“ที่แท้ก็เขิน”
“ถูกจับได้หมดแล้ว ยังจะหลบไปถึงไหนเหรอ”
หลี่ฝางทำเสียงฮึดฮัด ตะโกนไปในป่า:“ทำไมต้องหัวหดคอเต่าด้วย รีบออกมาให้ผมดูสิ”
สี่คนมองหน้ากัน สุดท้ายก็กระโดดออกมาจากในป่า
สี่คนนี้ ต่างผิดหน้ามิดชิด สวมชุดที่ใส่ยามวิกาลสีดำทั้งชุด มองหุ่นก็รู้ นี่คือบอดี้การ์ดสี่คนที่มู่เจิ้งถังมาพา
“สี่คนพอดี นินจาเต่าเหรอ?”หลี่ฝางหัวเราะ พูดกับส้าวส้วย:“ส่งให้คุณละกัน ผมไปหาฉินวี่เฟยละ”
ด้านหน้าไม่กี่ก้าวก็เป็นห้องชุดของฉินวี่เฟยแล้ว
ส้าวส้วยพยักหน้า ยื่นมือยื่นปืนกระบอกหนึ่งให้หลี่ฝาง
“นี่คือปีพกสีทองของโหจื่อ?”หลี่ฝางตะลึงเล็กน้อย
“ไม่ใช่ทอง”ส้าวส้วยแก้ไป
“นี่เป็นของก็อป”ส้าวส้วยพูด
หลี่ฝางส่ายหน้า ก็ไม่รู้ว่าส้าวส้วยกับโหจื่อใครพูดความจริง ใครกำลังโกหก
แต่ หลี่ฝางมั่นใจว่ากระบอกปืนในมือของส้าวส้วยนี้ ก็คือกระบอกนั้นที่โหจื่อเพิ่งเอาออกมา
ของขวัญราชวงศ์อะไรกัน สัญลักษณ์ของเกียรติยศ สัญลักษณ์ของสถานะอะไรนั่น
สรุปคือ โหจื่อต้องพึ่งปืนเล่มนี้ ให้หมาทิเบตันอึ้งตะลึงไป
หลี่ฝางรับปืนสั้นนี้มา ก็รู้สึกถึงความเยือกเย็น
ตอนที่หลี่ฝางเอามีดแทงคน ก็เคยกลัว แต่ความกลัวแบบนั้น ยังไปไม่ถึงจิตวิญญาณ
ถ้าให้หลี่ฝางเอาปืนฆ่าคน หลี่ฝางฉี่ราดกางเกงจริงๆ
แทงคนกับฆ่าคน เป็นความคิดที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง
“เจ้านาย ถ้ามีอันตราย ก็ยิงไปเลย ไม่ต้องลังเลใดๆทั้งนั้น”ส้าวส้วยกำชับหลี่ฝาง
หลี่ฝางลังเลเล็กน้อย แล้วจึงพยักหน้า
“ได้ยินเสียงปืน ผมจะรีบไป”ส้าวส้วยรีบพูดตาม
หลี่ฝางถอนหายใจ พูด:“ผมคิดว่าคุณจะให้ผมยิงปืนเพื่อฆ่าคน ทำเอาผมตกใจหมด”
หลี่ฝางถือปืน ใจเต้น ใจเต้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ปืนนี้ก็เหมือนกับหัวใจของตัวเอง
“คุณเอาปืนให้ผม งั้นคุณจะทำอย่างไร?พวกเขาสี่คนนี่?อีกอย่างมองดูก็เป็นคนฝีมือดี”หลี่ฝางมองส้าวส้วยอย่างกังวลหน่อยๆ
“ในสายตาผมเป็นคนฝีมือดี แต่ในสายตาผม เป็นขยะทั้งนั้น”ส้าวส้วยเลิกคิ้ว พูดอย่างอวดเก่ง
“ได้ คุณพูดแบบนี้ผมก็โล่งอก ถ้าคุณจัดการพวกเขาได้ก่อนที่ผมพาฉินวี่เฟยออกมาได้ ผมจะเลี้ยงแฮมเบอร์เกอร์คุณ”หลี่ฝางพูดไปประโยคหนึ่ง แล้วหมุนตัวออกไป
“อยากเลี้ยงแฮมเบอร์เกอร์ผม ทำไมต้องใช้เหตุผลที่อดกลั้นขนาดนี้ล่ะ ขยะทั้งสี่นี้ ไม่เพียงพอที่จะแลหรอก”ส้าวส้วยจ้องทั้งสี่คน พูดอย่างไม่พอใจ
“เจ้าสาม เจ้าสี่ คุณไปตามคุณชายตระกูลหลี่ ส่วนคนนี้ ผมกับเจ้าสองจัดการเอง”
ระหว่างที่เผชิญหน้ากันทั้งสี่ พี่ใหญ่ก็เริ่มเตรียมการจัดแจง
“ครับ พี่ใหญ่”
เจ้าสามรีบเคลื่อนไหว ไม่มองส้าวส้วยสักนิด วิ่งไปที่หลี่ฝางทันที
เสียงหมัดดังปัง!
ไม่รู้ว่าตอนไหน ส้าวส้วยก็ปรากฏตรงหน้าของเจ้าสาม
ส้าวส้วยปล่อยหมัดออกไป ต่อยไปที่หน้าอกของเจ้าสาม ทันใดนั้น แววตาของเจ้าสามก็จ้องเหมือนตาวัว จากนั้น คุกเข่าลงพื้น แล้วสำลักอ้วกออกมาเป็นเสียง
ส้าวส้วยตบมือ มุมปากยิ้มอย่างสบาย :“จัดไปหนึ่งคน”
“เจ้าสาม เจ้าสาม พี่สาม”
คนที่เหลือสามคน แทบจะร้องออกมาเป็นเสียงเดียว
เจ้าสามคุกเข่าลงพื้น ใบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อ
“รีบลุกขึ้น เจ้าสาม!”พี่ใหญ่ตะโกนเสียงดัง
ผ่านไปหนึ่งนาทีเต็มๆ เจ้าสามก็ยังลุกขึ้นมาไม่ได้
เวลานี้ พวกชุดดำก็ตระหนักถึงความผิดปกติของสถานการณ์
“ไอ้ระยำ!”
“ผู้ชายคนนี้เป็นคนฝีมือดี”
“พี่ใหญ่ ผมว่าพวกเราลุยไปด้วยกันดีกว่า”
หลังจากที่จู่ๆเจ้าสามถูกฆ่า เจ้าสองก็แสดงสีหน้าระแวดระวัง
พี่ใหญ่พยักหน้า พวกเขามองหน้ากัน จากนั้นก็ลงมือกันตามเข้าใจโดยปริยาย
ทั้งสามรีบวิ่งเข้ามา ล้อมรอบส้าวส้วยไว้
“เจ้าสาม เป็นยังไงบ้าง ยังลุกขึ้นได้ไหม?”พี่ใหญ่ยืนอยู่ห่างจากเจ้าสามประมาณสองเมตร ถามไป
“ครับ”
เวลานี้ เจ้าสามก็รวมพลัง ค่อยๆลุกขึ้นช้าๆ
แต่ตอนที่เขาจะยืนอย่างมั่นคง ส้าวส้วยลงมือเหมือนสายฟ้าแลบ ปล่อยไปอีกหมัด โจมตีไปที่ท้องน้อยของเจ้าสามอีกครั้ง
“แม่เอ๊ย!”พี่ใหญ่มองเห็นฉากนี้ ก็ร้องออกมาเสียงดัง
เจ้าสองกับเจ้าสี่ ปรากฏใบหน้าร้ายกาจออกมา
เจ้าสามคุกเข่าลงที่พื้นทันที หลังจากร่างกระตุกไปสองสามครั้ง ก็ไม่ขยับอีกเลย
“คิดไม่ถึงว่าความสามารถการโจมตีกลับของเพื่อนคุณจะแข็งแกร่งขนาดนี้ เมื่อกี๊คิดว่าแค่รับหมัดหนึ่งก็ไม่ไว้แล้ว”ส้าวส้วยพูดอย่างชื่นชม
“แม่เอ๊ย!”
“ไอ้หมานี่ ผมจะแก้แค้นให้พี่สาม!”
ชายชุดดำชื่อเจ้าสี่ หยิบคุไนออกมาจากอ้อมแขน มันเป็นอาวุธที่คล้ายกับกริช
เขาถือคุไน พุ่งเข้ามาที่ส้าวส้วย
“เจ้าสี่ หยุด!”พี่ใหญ่ขมวดคิ้ว ตะโกนอย่างร้อนใจ
การลงมือสองครั้งของส้าวส้วย ทั้งเร็ว แม่นยำ และโหดเหี้ยม แค่มองก็รู้ว่าเป็นคนอำมหิต
พี่ใหญ่ก็มองออก ถ้าให้ความร่วมมือกันดีๆ เข้าโจมตีด้วยกันไม่ได้ ก็จะจัดการส้าวส้วยไม่ได้เลย
เขาอยากห้ามเจ้าสี่ แต่น่าเสียดาย ที่ช้าไปแล้ว
ห่างกันใกล้มาก ไม่กี่วินาทีเจ้าสี่ก็มาตรงหน้าส้าวส้วย
คุไนในมือของเจ้าสี่ บาดไปที่คอของส้าวส้วย
แต่ไม่ได้โจมตี ส้าวส้วยได้แต่ถอยหลังเล็กน้อย และหลบได้
“หลงใหลเทิดทูนของต่างชาติ แต่ดันเอามาใช้ในประเทศจีน”
ส้าวส้วยกลอกตาใส่ ยื่นมือออกไปรับ
ถึงแม้เจ้าสี่ปล่อยมีดอย่างว่องไว แต่เทียบกับส้าวส้วยแล้วนั้น ห่างไกลกันมาก
“จัดไปสองคน”
ส้าวส้วยจับข้อมือของเจ้าสี่ไว้ เอาคุไนในมือ แย่งมา
เลือดไหลออกมาเป็นหยด
ส้าวส้วยใช้คุไนกรีดไปที่คอของเจ้าสี่
เจ้าสี่ล้มลงไปที่พื้น ตาทั้งสองข้างปรากฏความไม่อยากจะเชื่อ
“คุณฆ่าพี่น้องผม?”พี่ใหญ่หายใจหอบด้วยความโกรธ
ขณะเดียวกัน ใบหน้าของพี่ใหญ่กับเจ้าสอง ก็มีความน่ากลัวปรากฏ
ไม่ถึงสามสิบวินาที เจ้าสี่ก็ถูกจัดการแล้ว?
ส้าวส้วยย่อตัวลง ยื่นมือไปบีบคอของเจ้าสี่
“อย่าฆ่าเขา!”พี่ใหญ่ตะโกนไปที่ส้าวส้วย

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

พ่อแม่ที่หายตัวไปหลายปีจู่ๆ ก็โทรมา บอกว่าตัวเองเป็นบุคคลที่รวยที่สุดของดูไบ………….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset