NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 342 ฉินวี่เฟยโมโห สถานการณ์ร้ายแรงมากจนละเลยไม่ได้

บทที่342 ฉินวี่เฟยโมโห สถานการณ์ร้ายแรงมากจนละเลยไม่ได้
มู่เสี่ยวไป๋จ้องมองไปที่หลี่ฝาง พูดไม่ออก
ตอนนี้หลักฐานไม่มีแล้ว เขาพูดอะไรไปก็เปล่าประโยชน์
มู่เจิ้งถังมองหลี่ฝาง หัวเราะเหอะๆ:“ทำไม คิดจะเก็บหลานชายผมจริงๆเหรอ?”
ตอนนี้ หน้าถูกหักหมดแล้ว หลี่ฝางก็ไม่สนใจสักนิด
พูดตามจริง ตระกูลหลี่แคร์ตระกูลมู่ด้วยเหรอ?
ไม่แคร์เลยสักนิด
“ทำไม ไม่ได้เหรอ?”หลี่ฝางพยักหน้า มองมู่เจิ้งถังอย่างไม่เกรงกลัว:“ท่านมู่ พวกเราคิดว่าจะส่งตัวหลานชายคุณให้ตำรวจ เมื่อกี๊ผู้บัญชาการตำรวจหูอยู่ข้างนอกใช่ไหม?”
“ถ้าใช่ล่ะก็ งั้นก็เชิญผู้บัญชาการตำรวจหูเข้ามานี่หน่อย”
มู่เจิ้งถังจ้องฉินวี่เฟย:“สาวน้อย ตระกูลฉินกับตระกูลมู่นั้นคบกันมาหลายชั่วอายุคนแล้วนะ”
“ท่านมู่ คบกันมานานก็ทำแบบนี้ไม่ได้หรอก หลานชายคุณเป็นผู้ใหญ่แล้ว ควรรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเอง”หลี่ฝางพูดยิ้มๆ
มู่เจิ้งถังก็คิดไม่ถึง ความกล้าของฉินวี่เฟยจะมากขนาดนี้
พวกรุ่นน้องในเมืองเอก ยังไม่มีใครกล้าไม่ไว้หน้าเขามู่เจิ้งถังเลย
มู่เจิ้งถังหัวเราะอย่างขมขื่น พูดกับตัวเอง:“แก่แล้ว แก่แล้ว ไม่ได้ผล หน้าของผมนี้ใช้ไม่ได้แล้ว”
มู่เจิ้งถังส่ายหน้า หยิบโทรศัพท์ออกมา โทรหาปู่ของฉินวี่เฟย
โทรศัพท์ยังไม่ทับรับ จู่ๆฉินวี่เฟยก็พูด:“คุณปู่มู่ อีกเดี๋ยวค่อยโทร”
“อ้อ คิดได้แล้ว?”มู่เจิ้งถังรีบวางสาย
หน้าของมู่เจิ้งถัง ปรากฏรอยยิ้มออกมา
ถ้าฉินวี่เฟยขายหน้าให้มู่เจิ้งถังเอง มู่เจิ้งถังก็พอใจมาก
เพราะถ้าคุณท่านฉินโทรไป ก็ถือว่าติดหนี้น้ำใจคุณท่านฉินอีกหนึ่งอย่าง
ใครจะไปรู้ว่า จู่ๆฉินวี่เฟยก็พูด:“คุณปู่มู่ ถ้าฉันเดาไม่ผิด เมื่อกี๊ท่านจะโทรหาปู่ฉันใช่ไหมคะ?”
มู่เจิ้งถังพยักหน้า
“คุณปู่มู่ ท่านโทรหาปู่ฉันก็ไม่มีประโยชน์ หลานชายของท่านไม่ใช่คน บุกเข้ามาในห้องฉัน ไม่ใช่แค่เอาเชือกมามัดฉันไว้ แต่ยังพยายามขืนใจฉัน ฉันไม่ยอม ก็ยังตบตีฉัน แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยเห็นผู้ชายที่หน้าไม่อายขนาดนี้ และก็ยิ่งไม่เคยเห็นผู้ชายที่ใจอำมหิตขนาดนี้เลย”
ชี้ไปที่แผลที่มุมปาก ฉินวี่เฟยพูด:“ผลงานชิ้นเอกของหลานชายท่าน ฉันว่าท่านก็น่าจะเห็นแล้วสินะ?”
ทันใดนั้นฉินวี่เฟยก็ยิ้ม ยิ้มอย่างไร้อารมณ์มาก:“ท่านมู่ ฉันเคารพท่าน และก็หวังว่าท่านจะเคารพฉันหน่อยนะคะ เคารพสิทธิสตรี อย่าพูดว่าฉันกับมู่เสี่ยวไป๋ยังไม่หมั้นกัน ยังไม่แต่งงาน ถึงจะหมั้นกัน แต่งงานกันแล้ว แต่ทำแบบนี้กับฉันก็เหมาะสมมั้งคะ?ทั้งจับมัด ทั้งทำร้ายร่างกาย……”
“ทำไม ผู้หญิงของตระกูลฉินพวกเราไม่มีสถานะในสายตาของพวกคุณตระกูลมู่ขนาดนี้เลยเหรอ?”
มู่เจิ้งถังได้ยินคำนี้ รอยยิ้มที่ใบหน้า ก็แข็งใส่ทันที
“คุณหนูฉิน ความหมายของคุณคือ จะฟ้องหลานชายผมให้ได้ใช่ไหม?”สีหน้ามู่เจิ้งถังหม่นลง พูด:“ตระกูลมู่ของพวกเรากับตระกูลฉินของพวกคุณไม่ใช่แค่คบกันมานมนาน ด้านธุรกิจ ก็ติดต่อกันตั้งมากมาย คุณต้องคิดตรงนี้ให้ดี”
“ถ้าต้องหักหน้ากัน ผมคิดว่า เสียหายไม่ใช่แค่เงิน ไม่ใช่แค่คอนเนคชั่น พ่อคุณหลายปีมานี้ก็ ……”
“ช่างเถอะ ถือว่าผมไม่ได้พูด คุณน่าจะเข้าใจดี”
มู่เจิ้งถังยิ้มอย่างร้ายกาจ:“เสี่ยวไป๋ คุณวางใจเถอะ ผมจะให้ลุงฉินเข้าไปดูแลคุณ”
ความร่วมมือของตระกูลมู่กับตระกูลฉิน สนิทแนบชิดมาก อีกอย่างเรื่องธุรกิจ ก็มักจะใช้วิธีการที่ไม่ค่อยสะอาด
สีหน้าของฉินวี่เฟย ดูลำบากใจขึ้นมาทันที:“มู่เจิ้งถัง คิดไม่ถึงจริงๆ คุณจะต่ำช้าได้ขนาดนี้”
“คุณคิดเตรียมการกับตระกูลฉินไว้นานแล้วใช่ไหม?”ฉินวี่เฟยพูดด้วยความโมโห
“การระวังผู้อื่นนั้นมิควรขาด สาวน้อย คุณยังเด็ก ไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้ รอคุณเติบโต เรียนรู้เยอะๆก่อน”มู่เจิ้งถังพูดอย่างชิลๆ
ได้ยินคำนี้ ใบหน้าของมู่เสี่ยวไป๋ ก็ปรากฏความภูมิใจ
“คุณปู่ ผมไม่เป็นไร ผมยังอายุน้อย ทนความทุกข์ยากด้านในได้ครับ อีกอย่างถ้าคดีพยายามข่มขืนถูกตัดสิน อย่างมากถ้าประพฤติตัวดี ก็น่าจะได้ออกมาไว”
“ฉินวี่เฟย แต่เรื่องพวกนั้นที่ลุงฉินทำ ถ้าถูกเปิดเผย……”
“อีกอย่างนะ ที่อ่าวน้ำใสดูเหมือนถูกขุดออกมา ……”
มู่เจิ้งถังขมวดคิ้ว พูดตัดบท:“หุบปาก!”
“ในใจของยัยสาวน้อยตระกูลฉินเข้าใจดี คุณอย่าพูดละเอียดขนาดนั้นสิ”
ช่วงก่อนหน้านี้ ที่อ่าวน้ำใสของตระกูลฉิน ขุดหลุมฝังศพมา
สถานการณ์แบบนี้ ต้องรีบจัดการทิ้งซะ ทำเป็นไม่เห็นอะไร
ถ้าให้แผนกที่เกี่ยวข้องรับรู้ งั้นอ่าวน้ำใส จะต้องถูกปิดเป็นช่วงเวลาหนึ่งแน่ ถึงตอนนั้น โครงการที่อ่าวน้ำใส ก็จะไม่สามารถดำเนินการได้
อ่าวน้ำใสเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่สุดของตระกูลฉินในอีกสองปี ถ้าไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ ตระกูลฉินจะขาดทุนเงินเป็นจำนวนเงินมหาศาล
จุดนี้ คนของตระกูลฉินรู้ คนของตระกูลมู่ก็รู้
ตระกูลมู่ลงทุนไปยี่สิบเปอร์เซ็นต์ แต่ตระกูลฉินลงทุนไปแปดสิบเปอร์เซ็นต์
ความหมายของมู่เสี่ยวไป๋ คือคิดว่าตัวเองเหนือกว่า แต่ที่จริงแล้วตอนนี้ทั้งสองฝ่ายต่างเสียเปรียบ
สีหน้าของฉินวี่เฟย ก็ยิ่งดูแย่ เวลานี้ หลี่ฝางตบไหล่ของฉินวี่เฟย พูดเบาๆ:“อย่าถูกครอบงำ พวกเขามีจุดอ่อนของพ่อคุณ ตระกูลฉินพวกคุณ ก็มีของพวกเขาตระกูลมู่เช่นกัน”
“ยี่งเป็นเวลานี้ ยิ่งอย่าขี้ขลาด”
ฉินวี่เฟยพยักหน้า พูดด้วยใบหน้าเด็ดเดี่ยว:“คุณปู่มู่ คุณอยากเอาไงก็เอาตามนั้นเถอะ ยังไง พวกนั้นก็ไม่เกี่ยวข้องกับฉัน วันนี้ฉันมาเพื่อสู้ นี่คือความสุขของฉัน”
“หมายความว่าไง เอาผมเข้าคุก คุณมีความสุขเหรอ?”มู่เสี่ยวไป๋ขมวดคิ้วมองฉินวี่เฟย
“แน่นอน พวกคุณก็มีทางเลือกอื่น คุณปู่มู่ แค่คุณยอมยกเลิกงานหมั้นของฉันกับมู่เสี่ยวไป๋ แบกรับความสูญเสียทั้งหมดเพียงฝ่ายเดียวงั้น ฉันก็จะไม่ฟ้องมู่เสี่ยวไป๋”
“คุณปู่มู่ ฉันรู้ว่าคุณก็รู้ ในคุกมีทั้งคนดีคนเลวปะปนกัน หลายปีมานี้พวกคุณตระกูลมู่ขัดใจคนอื่นไม่น้อย มู่เสี่ยวไป๋เข้าไปอยู่ข้างใน จะปลอดภัยจริงๆเหรอ?”
“ตระกูลมู่มีคุณชายแค่สองคน คนหนึ่งกลายเป็นคนพิการ อีกคนถ้าเกิดเรื่องไม่คาดคิดอะไรขึ้นมา ตระกูลมู่ ก็จะไม่มีทายาทแล้ว”
ฉินวี่เฟยพูดอย่างเยือกเย็น
มู่เจิ้งถังขู่ฉินวี่เฟยได้ งั้นฉินวี่เฟยจะขู่มู่เจิ้งถังไม่ได้เหรอ?
แน่นอนว่าได้!
ฉินวี่เฟยหัวเราะเหอะๆ:“ส่วนพ่อฉัน ถ้าเขาทำผิด ก็ควรจะยอมรับกฎหมาย แต่ฉันไม่เชื่อหรอก หลายปีนี้พ่อฉันติดต่อสัมพันธ์กับพวกคุณตระกูลฉิน ถ้าพ่อฉันต้องเข้าไป พวกคุณตระกูลมู่จะสนใจแต่ตัวเองอย่างเดียวได้จริงๆเหรอ?”
“ส่วนโครงการอ่าวน้ำใส อย่างมากก็ไม่ต้องทำ ตระกูลฉินเป็นครอบครัวใหญ่มีธุรกิจขนาดใหญ่ และก็มีภูมิหลังที่ดี ไม่ใช่แค่เสียเงินไปนิดหนึ่งเหรอไง ?จะปล่อยให้ฉันหิวตายได้เหรอ?”
มู่เจิ้งถังฟังจบก็หัวเราะเหอะๆ:“เสี่ยวไป๋ ดูเหมือนคุณหนูฉินจะไม่ชอบคุณนัก”
“พอดีเลย ผมก็ไม่ได้ชอบเธอนักเหมือนกัน วันๆทำเป็นเสแสร้งเย็นชา ไม่ยุ่งเรื่องทางโลก ลับหลังกลับแอบทำเรื่องระยำ ……”
คำพูดมู่เสี่ยวไป๋ยังไม่ทันพูดจบ ฉินวี่เฟยก็เดินเข้าไป ตบใส่หน้าของมู่เสี่ยวไป๋
“คุณพูดอีกคำ ตอนนี้ฉันจะโทรแจ้งความ!”ฉินวี่เฟยมีสีหน้าเย็นชา ใช้นิ้วชี้ชี้ไปที่จมูกมู่เสี่ยวไป๋แล้วพูด
“เสี่ยวไป๋ ขอโทษคุณหนูฉิน”มู่เจิ้งถังไอออกมา พูด
มู่เสี่ยวไป๋กัดฟัน ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจนัก“คุณหนูฉิน ขอโทษ”
“ต่อไปออกไปไหนก็จำไว้ว่าต้องแปรงฟันด้วย”ฉินวี่เฟยกลอกตาใส่มู่เสี่ยวไป๋ พูด:“กลิ่นปากจะได้ไม่มีแต่กลิ่นโคลนปุ๋ยแบบนี้”
มู่เจิ้งถังโทรหาคุณท่านฉินอีกครั้ง พอโทรติด มู่เจิ้งถังพูด:“พี่ฉิน มีเรื่องอยากจะคุยกับคุณหน่อย เรื่องงานแต่งหลานชายผมกับหลานสาวคุณ ยกเลิกเถอะ ……ไม่ ความรับผิดชอบของหลานชายผม ไอ้เด็กนี่ไปทำคนอื่นท้อง จนเกิดปัญหาในตระกูล……วางใจเถอะ เรื่องนี้ ผมจะไปอธิบายกับทุกๆคนเอง ……ครั้งนี้ถือว่าผมขอโทษพี่ละกัน อีกสองวันผมจะไปตระกูลฉิน พาเสี่ยวไป๋เจ้าเด็กนี่ไปขอโทษด้วยตัวเอง”
จากนั้น มู่เจิ้งถังก็เหมือนกับหลานชายในโทรศัพท์ โอเคๆๆ ใช่ๆๆ
ไม่กี่นาทีก็วางสายลง ที่หน้าของมู่เจิ้งถังรู้สึกแสบร้อน
วางสาย มู่เจิ้งถังก็มองฉินวี่เฟยนิ่งๆ ในใจแอบมีความโกรธและแค้นใจ:“คุณหนูใหญ่ตระกูลฉิน งานหมั้นคุณกับเสี่ยวไป๋ ผมยกเลิกกับปู่คุณแล้ว ตอนนี้ คุณน่าจะปล่อยเสี่ยวไป๋ไปได้แล้วใช่ไหม?”
ฉินวี่เฟยพยักหน้า พูด:“ขอบคุณมากคุณปู่มู่”
มู่เสี่ยวไป๋ทำเสียงฮึดฮัด หันไปจับแขนของมู่เจิ้งถังขึ้น เดินไปที่หน้าประตูห้องประชุม
และเวลานี้ ที่หน้าประตูมียืนอยู่สองคน
“มู่เสี่ยวไป๋ จะไปแบบนี้เหรอ?”หลี่ฝางหัวเราะอย่างเย็นชา:“คุณคิดว่ามีแค่บัญชีนี้เหรอ?”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

พ่อแม่ที่หายตัวไปหลายปีจู่ๆ ก็โทรมา บอกว่าตัวเองเป็นบุคคลที่รวยที่สุดของดูไบ………….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset