NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 345 อุบายร้ายกาจของตระกูลมู่

บทที่345 อุบายร้ายกาจของตระกูลมู่
หูเฟยกับมู่เจิ้งถังสบตากัน สายตาทั้งสองเต็มไปด้วยความลับๆล่อๆ แต่หลี่ฝางกลับไม่กังวล
จากตำแหน่งสถานะของมู่เจิ้งถังที่เมืองเอก หากหูเฟยไม่ไว้หน้าเขา นั้นกลับดูไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่ แต่ถ้าหูเฟยกล้าที่จะปกปิดมู่เสี่ยวไป๋ งั้นก็ยิ่งดี
หลี่ฝางกำลังกังวลว่าจะจับจุดอ่อนของหูเฟยยังไง
ตำรวจสองนายด้านหลังหูเฟย ยกมู่เสี่ยวไป๋ออกไปจากสถานตากอากาศ
โหจื่อยืนขึ้น หัวเราะเหอะๆ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม:“ที่แท้แสดงเก่งที่สุดก็คือคุณชายมู่”
“คุณหมายความว่าไง?”หูเฟยมองโหจื่อ ถามไป
“ไม่ได้หมายความว่าไง ตรงนี้คนที่มีวิจารณญาณมองออกหมด มู่เสี่ยวไป๋แกล้งทำเป็นลม เหอะๆ”โหจื่อทำเสียงเยือกเย็น:“แต่ช่างเถอะ สวรรค์มีความยุติธรรม ผมเชื่อว่าคนเลวยากที่จะหนีกฎหมายได้”
“นั่นมันแน่นอน”หูเฟยกลอกตาใส่โหจื่อ มุมปากแสดงความดูถูกหน่อยๆ
โหจื่อที่เมื่อกี๊ร้องไห้งอแง ตอนนี้กลับดี ยืนขึ้นทันที ใบหน้าที่มีน้ำตาหายไป ความเสียใจก็ไม่มีแล้ว……
“พยาน และโจทก์ทั้งหมด ตามผมไปที่สถานีตำรวจให้หมด”หูเฟยโบกมือ พูด
หลี่ฝางคนอื่นๆ ต่างตามรถตำรวจไปที่สถานีตำรวจ
ก่อนขึ้นรถ ทุกคนต่างก็ระบายอารมณ์ ชี้นิ้วไปที่มู่เสี่ยวไป๋อย่างเป็นเอกฉันท์ ไม่ยอมประนีประนอมแน่
ไม่ว่าตระกูลมู่จะแอบเสนอเงื่อนไขที่น่าดึงดูดมากมายแค่ไหน ก็จะแอบทำลับๆไม่ได้ ปล่อยไปไม่ได้
หลังจากบันทึกคำสารภาพแล้ว ลุงเฉียนส่งรถธุรกิจสองสามคัน มาเพื่อรับหลี่ฝางโดยเฉพาะ
“คุณชาย นี่คือสัญญามอบหมายรับซื้อกิจการโรงเหล้าของตระกูลเหยน ท่านลองดู ถ้าไม่มีปัญหาอะไร ก็ลงชื่อ จากนั้นโรงเหล้าตระกูลเหยนก็เป็นของท่านแล้ว”ลุงเฉียนส่งสัญญาให้หลี่ฝาง พูดกับหลี่ฝาง
หลี่ฝางไม่ดูสักนิด เปิดไปหน้าสุดท้าย แล้วใช้นิ้วมือจิ้มไปที่ด้านล่างสุดของสัญญา:“นี่ใช่ไหม?”
“ครับ คุณชาย”
“ลุงเฉียน ท่านเรียกผมว่าเสี่ยวฝางเถอะ พ่อผมบอกแล้ว ท่านไม่ใช่คนนอก”พอหลี่ฝางลงชื่อไปที่สัญญาว่า‘หนีเตีย’ตัวใหญ่สองตัวนี้ ก็พูดขำๆกับลุงเฉียน
ลุงเฉียนหัวเราะ:“นับวันคุณยิ่งมีความเป็นคุณชายมากขึ้นนะ”
“ใช่สิ คุณชาย ปอร์เช่918คันนั้นซ่อมเสร็จแล้ว แล้วก็ส่งไปที่โรงจอดรถใต้ดินของมหาวิทยาลัยสุ่ยมู่แล้ว นี่คือกุญแจ”ลุงเฉียนยื่นกุญแจรถให้หลี่ฝาง
“เร็วขนาดนี้เชียว?”
“ใช่ ที่จริงรถชนจนพัง ผมจึงติดต่อหัวหน้าโรงงานของปอร์เช่ พวกผู้บริหารระดับสูงของพวกเขาประชุมขึ้นเป็นพิเศษ เอาอะไหล่ดั้งเดิมมาที่ตงไห่ เข้ารับการซ่อมแซม และก็ใช้ไม่ถึงหนึ่งอาทิตย์ รถก็ดูเหมือนใหม่เอี่ยมเป๊ะๆ แต่ผมไม่ได้ให้ถังหยู่ซวนรู้”
“ถังหยู่ซวนเป็นไงบ้าง?”พูดถึงถังหยู่ซวน ในใจของหลี่ฝาง ก็รู้สึกอึดอัดหน่อยๆ
หลี่ฝางไม่รู้ว่า เป็นตัวเองที่ทำลายเขา หรือเขาทำลายตัวเอง หรือว่า สิ่งล่อลวงกับความปรารถนาทำลายเขา?
ก่อนหน้านี้ ถังหยู่ซวนเป็นคนดีมากๆคนหนึ่ง
สมเหตุสมผลมาก จึงให้ความสนใจกับมิตรภาพเพื่อนรักมาก ……
ลุงเฉียนหัวเราะ:“ผมเห็นเขาไม่มีที่ไป ก็เลยให้เขากลับไปที่ผับ แต่เป็นพนักงานที่ผับนะ เมื่อกี๊ผมโทรไปถาม ถังหยู่ซวนก็ดูดี แค่เปลี่ยนเป็นเงียบไป”
“ผู้ชายนิ่งเงียบถือเป็นเรื่องดี”หลี่ฝางพูด
“หวังว่าเขาจะตระหนักได้ว่าตัวเองผิดตรงไหน……”หลี่ฝางถอนหายใจอีก แล้วพูด:“ไม่ว่าพูดยังไง เมื่อก่อนเขาก็สู้ตายเพื่อผม ลุงเฉียน ช่วยผมดูแลเขาดีๆ อย่าให้เขาถูกใครรังแก”
“วางใจเถอะ คุณชาย”
“เรียกผมเสี่ยวฝางก็ได้”
“เรียกคุณว่าคุณชายดีกว่า เมื่อก่อนเรียกคุณว่าเสี่ยวฝาง เพราะว่าคุณกำลังปิดบังตัวตน แต่ตอนนี้ ตัวตนของคุณปิดไม่อยู่แล้ว”
กำลังคุยอยู่นั้น เหยนเสี่ยวน่าและคนอื่นๆก็กลับมา
“เป็นไงบ้าง?”
หลี่ฝางเปิดประตูรถ เดินเข้าไป:“ไม่เจอเรื่องลำบากใจใช่ไหม?”
“ลำบากใจไม่มีหรอก แต่พอให้ปากคำเสร็จ ก็มีคนเข้ามาหาพวกเรา พวกเขาคือคนที่ตระกูลมู่ส่งมา”เหยนเสี่ยวน่าเบะปาก:“เรียกได้ว่าเป็นการข่มขู่และล่อลวงอย่างหนึ่ง”
“ทำไมข่มขู่ล่อลวงล่ะ?พูดมาสิ”
“ถามพวกเราว่าจะให้ชดเชยยังไง ให้พวกเราพูดออกมา พวกเขาบอกว่าจะช่วยพวกเราจัดการ จากนั้นฉันก็ไม่พูดอะไร หมายความว่าไม่เอาอะไรทั้งนั้น จากนั้นเขาก็เตือนฉันอีก พูดดีๆด้วยอย่าให้ต้องใช้กำลังบังคับ ที่ถิ่นของเมืองเอกนี้ เป็นศัตรูกับตระกูลมู่ ไม่มีผลดี”
สีหน้าเหยนเสี่ยวน่าแย่มาก ดูกลัวอย่างชัดเจน
“วางใจเถอะ ไม่เป็นไร พวกเขาไม่กล้าทำไรคุณหรอก”หลี่ฝางตบไหล่เหยนเสี่ยวน่า พูดปลอบใจ
จากนั้น สัญญาในมือของหลี่ฝางก็ยื่นให้เหยนเสี่ยวน่า:“ให้คุณ”
“นี่คืออะไร?”เหยนเสี่ยวน่าถาม
“สัญญามอบหมายของโรงเหล้า แค่มู่เสี่ยวไป๋เข้าคุกได้ โรงเหล้านั้น ก็ยังจะเป็นของพวกคุณตระกูลเหยน”หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆพูดว่า:“ผมไม่ให้พวกคุณเสี่ยงโดยเปล่าประโยชน์แน่”
“แต่……คุณจ่ายไปสองเท่าเพื่อรับซื้อโรงเหล้าของบ้านฉันแล้ว แล้วยังเอาโรงเหล้าคืนฉันอีก เงินนั่น……”
หลี่ฝางตัดบทเหยนเสี่ยวน่า พูดว่า:“เงินไม่ต้องคืน ถือเป็นค่าตอบแทนที่ทำเรื่องให้ผม”
“หลี่ฝาง ถ้าโรงเหล้าตระกูลฉันทำเรื่องโอน อย่างน้อยก็ห้าถึงหกสิบล้าน และคุณก็ยังจ่ายเงินเป็นสองเท่าเพื่อรับซื้อกิจการ ก็หมายความว่า สัญญาในมือฉันนี้ คุณจ่ายไปร้อยล้านเพื่อซื้อมา”
“คุณให้เป็นค่าตอบแทนฉันร้อยล้าน?”
เหยนเสี่ยวน่าปฏิเสธ:“พวกเราคือเพื่อนกัน ช่วยคุณมันสมควรแล้ว แล้วอีกอย่างมู่เสี่ยวไป๋ไอ้ระยำนั่น ก็ควรเข้าคุกจริงๆ”
“สัญญานี้คือคุณเถอะ”เหยนเสี่ยวน่ารู้ดี ตระกูลของตัวเองทำเงินได้ห้าสิบถึงหกสิบล้านไปแล้ว
อีกอย่างโรงเหล้าก็ยังเป็นพ่อแม่ตัวเองที่ดำเนินการ ที่จริงแล้ว โรงเหล้าก็ยังอยู่ในมือของพ่อแม่ตัวเอง
ถึงแม้กฎหมายจะเป็นของหลี่ฝาง แต่แบบนี้ พ่อแม่ตัวเองก็ไม่ต้องกังวลความเสี่ยงนี่?
ไม่นานนัก หวางเสี่ยวโก๋กับเลี่ยวข่ายก็ออกมา
หวางเสี่ยวโก๋วิ่งมาตรงหน้าหลี่ฝาง สูดหายใจ พูดอย่างเจ็บปวดมากๆ:“เห้อ หลี่ฝาง คุณรีบมากอดผมที”
“ทำไม?หนาว?ถ้าคุณหนาว ผมถอดเสื้อคลุมให้คุณใส่เอง”หลี่ฝางพูด
“ไม่ใช่ ผมรู้สึกว่าคุณต้องกอดผมหน่อย คุณรู้ไหมเมื่อกี๊ตระกูลมู่ล่อลวงผมยังไง?วิลล่าหนึ่งแห่ง ราคาหลายสิบล้าน แล้วยังมีงาน ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น ทำเป็นผู้จัดการ แล้วก็ได้รับเงินเดือนล้านหนึ่ง!”
“เท่ากับว่าจะได้เข้าสู่ช่วงสุดยอดของชีวิตในทันที!”
“เห้อ เพื่อช่วยคุณ ผมจึงปฏิเสธไป”
หลี่ฝางโอบหวางเสี่ยวโก๋ ตบไหล่ของเขา:“โอเค มิตรภาพนี้ผมจะจำไว้”
“เลี่ยวข่าย คุณล่ะ ไม่ถูกล่อลวงใช่ไหม?”หวางเสี่ยวโก๋หันไปมองเลี่ยวข่าย
เลี่ยวข่ายพูดอย่างเจ็บปวด:“พวกเราพอๆกัน เธอเสอนเงื่อนไขให้ผมที่น่าล่อลวงไม่น้อย แม้ว่าผมว่าอะไร เธอก็รับปากหมด แต่สุดท้ายผมบอกขอคิดดู จึงแยกออกจาก เราสองคนทิ้งช่องทางติดต่อไว้ ผมเตรียมว่าคืนนี้ค่อยไปลวนลามเธอ”
“ผู้หญิง?”หวางเสี่ยวโก๋ถาม
“ใช่ รูปร่างดีมาก หน้าตาก็สวยมาก”เลี่ยวข่ายพูดไป เอารูปให้หวางเสี่ยวโก๋ดู ทำเอาหวางเสี่ยวโก๋รู้สึกโลภมาก
“ห่า อะไรกัน ทำไมคุณได้เป็นสาวสวย ของผมได้เป็นผู้ชายที่ดูน่าสมเพช”หวางเสี่ยวโก๋พูดประท้วง
โหจื่อกับส้าวส้วย ไม่ใช่ผู้ได้รับความเสียหาย แค่ทำหน้าที่เป็นพยาน
“ไปเถอะ กลับไปเถอะ”
ทางที่ขับรถกลับไปสถานตากอากาศ มีรถสองสามคันตามมา
“มีคนตามพวกเรามา”หลี่ฝางขมวดคิ้วพูด
ลุงเฉียนหัวเราะ พูด:“พวกเขาตามมานานแล้ว”
ลุงเฉียนหยิบโทรศัพท์ออกมา โทรไปนิ่งๆ จากนั้นรถตู้สองสามคัน ก็ออกมาจากด้านหลัง ขวางทางรถพวกนี้
สีหน้าหวางเสี่ยวโก๋กับเลี่ยวข่ายและคนอื่น ก็ยิ่งดูกังวลมากขึ้น
“หลี่ฝาง คุณว่าตระกูลมู่จะจับตาดูพวกเราไหม?”เหยนเสี่ยวน่าพูดอย่างกังวล
หวางเสี่ยวโก๋ขมวดคิ้ว:“ผมกลับไม่กลัว ผมกลัวพวกเขาลงมือกับครอบครัวผมมากกว่า เมื่อกี๊ตอนที่อยู่ข้างใน พวกเขาพูดถึงที่อยู่ของครอบครัวผม ที่บ้านมีกี่คน พ่อแม่ทำอะไร แล้วยังให้ผมทักทายพ่อแม่ด้วย”
“ใช่ พวกเขาก็พูดกับผม หลี่ฝาง ผมยังมีน้องสาว เธอเพิ่งเข้าอนุบาล คุณว่าตระกูลมู่จะจับตัวน้องสาวผม มาขู่ผมไหม?”เลี่ยวข่ายกังวลปัญหานี้เช่นกัน
หลี่ฝางคิดแล้วพูด:“ไม่งั้นพาพวกเขามาที่สถานตากอากาศละกัน?ผมดูแลเรื่องกินเรื่องดื่มและคอยดูแลเอง โอเคไหม?”
หลี่ฝางพูดจบ โทรศัพท์ของหวางเสี่ยวโก๋ก็ดัง……
จากนั้น สีหน้าของหวางเสี่ยวโก๋ ก็ดูแย่ไป

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

พ่อแม่ที่หายตัวไปหลายปีจู่ๆ ก็โทรมา บอกว่าตัวเองเป็นบุคคลที่รวยที่สุดของดูไบ………….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset