NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 35 หลิวเฉียวเฉียวผู้ทรยศ

บทที่ 35 หลิวเฉียวเฉียวผู้ทรยศ
หลังจากเจ้าหัวแบนพาถังหยู่ซวนออกไป ก็เหลือแต่หลี่ฝางและหลินชิงชิง
“พี่ชิงชิง พี่มั่นใจหรือเปล่า?” หลี่ฝางมองไปที่หลินชิงชิง แล้วกล่าวด้วยความเป็นห่วง
“คุณกลัวฉันแพ้เหรอ” หลินชิงชิงยิ้ม เห็นได้ชัดว่าเธอไม่แยแส
“วางใจเถอะ นี่ก็มีเสี่ยวโจวอยู่ไม่ใช่เหรอ?” หลินชิงชิงพูดขึ้นอีกครั้งทันที
“นี่เป็นการต่อสู้แบบกลุ่มนะ ไม่ใช่ต่อสู้แบบตัวต่อตัว แม้ว่าเจ้าหัวแบนจะสุดยอดขนาดไหน แต่ว่าเขาก็ยากที่จะชนะสี่แขนนะ พี่ว่าใช่หรือเปล่า พี่ชิงชิง?” แม้ว่าหลี่ฝางจะไม่อย่าทำร้ายกำลังใจของหลินชิงชิง แต่ว่าเขาก็ไม่อยากให้เธอดูถูกศัตรู
สิ่งต้องห้ามที่สุดในการต่อสู้ ก็คืออย่าดูถูกศัตรูไม่ใช่เหรอ?
หลินชิงชิงส่ายหัว: “ไม่แน่”
“เมื่อกี้ตอนอยู่โต๊ะไวน์ของพวกเขา ฉันพูดกระตุ้นหลี่หลงหลายครั้ง แต่ว่าหลี่หลงนั้นก็ไม่กล้าที่จะแตะต้องฉัน คุณเดาดูว่าเป็นเพราะอะไร?” หลินชิงชิงยิ้มและถาม
“เพราะอะไร?” หลี่ฝางคิดไม่ออก เมื่อกี้ตอนหลินชิงชิงยั่วยุหลี่หลงซ้ำ ๆ และหลี่หลงก็กลั้นและอดทนไว้ ซึ่งเขานั่งอยู่ตรงหน้าของหลี่หลง สามารถสัมผัสความโกรธของหลี่หลงได้ทั้งหมด
หลี่หลงมีหลายครั้ง ที่จะระเบิดอารมณ์ออกมา แต่ไม่รู้เพราะอะไร สุดท้ายเขาก็ทนไว้
“เพราะว่าเขากลัวเสี่ยวโจว” หลินชิงชิงยิ้ม และอธิบายเหตุผลออกมา
“แต่ด้านหลังของหลี่หลงนั้นมีคนอยู่อีกตั้งเจ็ดถึงแปดคนนะ พวกเขาเยอะขนาดนี้ แต่ก็เอาชนะเจ้าหัวแบนคนเดียวไม่ได้เหรอ?” หลี่หลงมีความไม่เชื่อเล็กน้อย เจ้าหัวแบนเก่งขนาดนี้เลยเหรอ?
หลินชิงชิงพยักหน้า: “เสี่ยวโจวสุดยอดกว่าที่คุณคิดไว้เยอะ”
ผ่านไปสักพัก เจ้าหัวแบนและถังหยู่ซวนก็กลับมา
แต่ว่าครั้งที่พวกเขากลับมา ดวงตาข้างหนึ่งของถังหยู่ซวนอย่างกับหมีแพนด้า และบนร่างกายของเขาก็สกปรกและมอมแมมมาก เหมือนกับว่าไปกลิ้งเล่นที่พื้นมายังไงอย่างงั้น
“ฉันว่าพี่ซวน นี่เพิ่งยังไม่ถึงสองนาทีเลย ทำไมคุณก็โดนตีจนเป็นสภาพที่เวทนาแบบนี้แล้วล่ะ?” หลี่ฝางมองไปยังสภาพที่น่าเวทนาของถังหยู่ซวน ก็อดไม่ได้จนกุมท้องของตัวเองและหัวเราะอย่างเสียงดัง
“มีอะไรน่าหัวเราะ คุณลองทดสอบฝึกกับเจ้าหัวแบนดูไหมล่ะ” ถังหยู่ซวนมองไปที่หลี่ฝางด้วยสายตาที่มองบน: “หรือเราสองคนลองดูก็ได้”
หลี่ฝางส่ายหัว และยังคงหัวเราะเยาะเขาไม่หยุด: “ฉันสู้คุณไม่ไหว ฉันยอมแพ้”
“หยุดหัวเราะได้แล้ว ถ้ายังหัวเราะอีกฉันโกรธจริงด้วย” ถังหยู่ซวนกล่าวอย่างหดหู่
หลี่ฝางเห็นว่าถังหยู่ซวนโกรธแล้วจริง ๆ เขาจึงหยุดหัวเราะ
หลินชิงชิงถามขึ้น: “เป็นยังไง?”
“ไม่ผ่าน” เจ้าหัวแบนส่ายหัว และดื่มไวน์เพียงลำพังต่อ
“พี่ชิง พี่ก็รับฉันเข้าไปคนหนึ่งเถอะ ฉันขอร้องพี่” ถังหยู่ซวนมองไปที่หลินชิงชิงด้วยสีหน้าวิงวอน และไม่ยอมยอมแพ้
“ฉันรู้ว่าคุณกระตือรือร้นที่จะแก้แค้นมาก แต่ที่ฉันไม่ให้คุณเข้าร่วมนั้น เพราะหวังดีกับคุณ” หลินชิงชิงกล่าวปฏิเสธอย่างเย็นชา
“เอาล่ะ เวลาไม่เช้าแล้ว ฉันก็ต้องไปละ หลี่หลง จะไปด้วยกันหรือเปล่า?” หลินชิงชิงลุกขึ้น และถามหลี่ฝาง
หลี่ฝางเข้าใจทันที ถ้าหลินชิงชิงไปแล้ว เป็นไปได้ว่าพวกตู้เฟยเขาอาจจะเดินมาหาเรื่องเขาได้ ดังนั้น เขาต้องกลับไปพร้อมกับหลินชิงชิง
“ไปเถอะ ยังไงก็ดื่มไปพอประมาณแล้ว” หลี่ฝางเรียกพนักงานเสิร์ฟมาคิดเงิน แต่หลินชิงชิงกลับบอกว่าจ่ายเงินไปแล้ว
“จ่ายไปตอนไหน?” หลี่ฝางมองไปที่หลินชิงชิงอย่างประหลาดใจ เหมือนว่าหลินชิงชิงจะไม่เคยละสายตาจากเขาเลยไม่ใช่เหรอ?
“เสี่ยวโจวช่วยฉันจ่ายน่ะ ฉันเป็นพี่สาวนะ จะให้น้องชายอย่างคุณเลี้ยงฉันได้ตลอดได้อย่างไร” หลินชิงชิงยิ้มและกล่าว
หลี่ฝางรู้สึกผิดเล็กน้อย ถ้าเขารู้ก่อนหน้านี้ว่าหลินชิงชิงจะจ่ายเงิน เขาก็จะไม่สั่งเครื่องดื่มมามากมายขนาดนั้นแน่นอน
นี่มันหลอกลวงพี่ไม่ใช่เหรอ?
หลังจากออกมาจากบาร์ หลี่ฝางก็เรียกรถแท็กซี่ และเตรียมกลับโรงเรียน
แท็กซี่ออกตัวไปได้ไม่นาน หลี่ฝางก็ได้รับข้อความวีแชทที่หลิวเฉียวเฉียวส่งมา:อย่ากลับโรงเรียนเลย ที่นั่นมีกับดัก
หลี่ฝางมองไปยังข้อความที่ส่งมาทางวีแชท แล้วรู้สึกสงสัย ที่โรงเรียนที่กับดักเหรอ?
ช่างเถอะ เรื่องแบบนี้เชื่อดีกว่าไม่เชื่อ และหลี่ฝางก็ตัดสินใจไม่กลับไปที่โรงเรียนแล้ว
“พี่ครับ รบกวนเปลี่ยนเส้นทางหน่อยครับ ไปที่ชุมชนหยุนหูครับ” หลี่ฝางบอกกับคนขับแท็กซี่
“ได้เลย”
เมื่อมาถึงชุมชนหยุนหู หลี่ฝางก็ลงจากรถ แต่เมื่อเขากำลังจะเดินเข้าไปในชุมชน โทรศัพท์มือถือของหลี่ฝางก็ดังขึ้น และสายที่โทรเข้ามาเป็นหมายเลขแปลกๆ
หลี่ฝางลังเลไปชั่วขณะ แล้วกดรับสาย: “ใครครับ?”
“หลี่ฝาง ไม่ใช่บอกว่าจะเอากุญแจรถปอร์เช่ให้คุณเหรอ คุณหนีไปไหนแล้ว?” ตู้เฟยหัวเราะอยู่อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์: “จะกลับมาเอาหรือเปล่า!”
“ตู้เฟย?กุญแจรถไว้ค่อยให้ฉันพรุ่งนี้ละกัน”
“หลี่ฝาง คุณไปไหนแล้ว เมื่อกี้ฉันได้ยินจางเสี่ยวเฟิงบอกว่า คุณไม่ได้กลับโรงเรียนเหรอ ฮึ คุณได้รับข้อความจากใครบางคนใช่หรือเปล่า?” ตู้เฟยถามขึ้นจากอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์
หลี่ฝางไม่ได้ตอบกลับอะไร และเขาจะกดวางสายโทรศัพท์ แต่เมื่อตอนที่เขากำลังจะกดวางนั้น เขาก็ได้ยินเสียงของถังหยู่ซวนดังขึ้น
“หลี่ฝาง คุณรู้หรือเปล่าว่านี่เป็นเบอร์โทรศัพท์ของใคร?” ตู้เฟยยิ้มอย่างดุร้าย
“จะว่าไปกระดูกของเจ้าของโทรศัพท์เครื่องนี้ก็แข็งใช่ย่อยนะเนี่ย พวกเราทุบตีเขาจนเกือบจะตายอยู่แล้ว เขายังไม่ยอมโทรศัพท์หาคุณ และเรียกคุณกลับมาเลย” ตู้เฟยถอนหายใจ: “ช่วยไม่ได้ ฉันเลยทำได้แค่โทรศัพท์หาคุณด้วยตัวเองเท่านั้น”
“อีกครึ่งชั่วโมง เจอกันที่หน้าประตูบาร์”
“ถ้าคุณไม่มา ไอ้หมอนี่ตายแน่!”
“เออใช่ เหมือนว่าเขาจะชื่อถังหยู่ซวนนะ”
ตู้เฟยพูดจบ ก็กดวางสายโทรศัพท์ทันที
หมายเลขโทรศัพท์นี้เป็นของถังหยู่ซวนเหรอ?
หลี่ฝางยืนอยู่ที่เดิม และงุนงงไปชั่วขณะ และเมื่อตอนที่เขากำลังจะโทรศัพท์หาหลินชิงชิง ตู้เฟยก็ใช้โทรศัพท์มือถือของถังหยู่ซวนส่งข้อความเข้ามาหาเข้าว่า:จำไว้ มาคนเดียว และห้ามบอกหลินชิงชิง!
แม่งเอ้ย หลี่ฝางเดินไปมาที่ประตูของชุมชนหยุนหู เขากำลังคิด ว่าตัวเองจะกลับไปดีหรือเปล่า!
ถ้ากลับไป ตัวเองต้องตายแน่ ๆ
แต่ถ้าไม่กลับไป งั้นถังหยู่ซวนก็ต้องตายแน่
แม้ว่าเขากับถังหยู่ซวนจะเพิ่งเจอกันวันแรก แต่หลี่ฝางกลับรู้สึกว่าตัวตนของเขานั้นไม่เลว
“ไป!” หลี่ฝางไตร่ตรองไปชั่วขณะ แล้วเรียกรถแท็กซี่
เหตุผลที่หลี่ฝางกลับไปนั้นง่ายมาก ซึ่งก็คือถังหยู่ซวนนั้นเป็นคนที่ซื่อสัตย์ ยอมให้เขาโดนทุบตีจนตาย ก็ไม่หักหลังตัวเอง
ใจเขาใจเรา แล้วหลี่ฝางจะทิ้งถังหยู่ซวนไว้ไม่ถามไถ่ได้อย่างไร
“พี่ครับ รบกวนพี่ขับไวหน่อยครับ ภายใน30นาที ผมต้องไปถึงประตู Recalling the pastให้ได้” หลี่ฝางหยิบเงินออกมาจำนวนหนึ่ง แล้ววางไปที่ตรงหน้าของคนขับรถ
“ถ้าคุณสามารถทำได้ เงินทั้งหมดนี้ก็ให้คุณหมดเลย” หลี่ฝางกล่าวโดยตรง
เงินจำนวนนี้ ประมาณ5000กว่าหยวน คนขับแท็กซี่กลืนน้ำลายลงคอ และถามขึ้นอย่างสงสัย: “ไอ้หนุ่ม คุณกำลังแกล้งอาอยู่ใช่หรือเปล่า?”
“ผมไม่ได้แกล้งคุณ แต่ผมมีเรื่องด่วน และหวังว่าคุณจะขับไวกว่านี้หน่อย” หลี่ฝางพูดขึ้นอย่างกังวล
“ถ้าอย่างนั้นอาขอเก็บเงินก่อนนะ” หลังจากที่คนขับแท็กซี่เก็บเงินเข้าไปในกระเป๋า ก็เริ่มขับไวขึ้น เพื่อที่จะให้ไปถึงบาร์ภายใน30นาที และเขายังได้ฝ่าไฟแดงไปอีกสองไฟแดง
เมื่อมาถึงหน้าประตูของบาร์ หลี่ฝางก็ลงมาจากรถ และในเวลานี้เองตู้เฟยพวกเขาก็รอคอยอยู่ที่นี่นานแล้ว
“ตรงเวลาดีนิ” ตู้เฟยมองไปที่นาฬิกาข้อมือของเขา และยิ้มแล้วกล่าว: “ดูเหมือนว่าไอ้หมอนี่จะสำคัญกับคุณมากนิ ถึงได้คุ้มค่าที่คุณจะเสี่ยงตายกลับมาช่วยเขา”
หลี่ฝางพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่บึ้งตึง: “ถังหยู่ซวนล่ะ?”
“มากับฉัน”
ตู้เฟยพาหลี่ฝาง เดินไปประมาณร้อยเมตร และในที่สุดก็ได้เห็นถังหยู่ซวน
และถังหยู่ซวนในขณะนี้ ไม่มีความเป็นคนหลงเหลืออยู่เลย เขาล้มอยู่ตรงพื้น และบนร่างกายของเขาก็เต็มไปด้วยเลือด และบนใบหน้าของเขาก็มีรอยฟกช้ำเต็มไปหมด
และด้านข้างของถังหยู่ซวน ก็มีหลิวเฉียวเฉียวนั่งอยู่ บนใบหน้าของเธอมีรอบฝ่ามือเพิ่มขึ้นมาหลายรอย และผมของเธอก็ยุ่งเหยิงมาก ดูเหมือนว่าเพื่อที่เธอจะแจ้งข่าวให้กับหลี่ฝางนั้น เธอได้ชดใช้ค่าเสียหายที่เจ็บปวดไปมากเช่นกัน
เซี่ยลู่และจางเชี่ยนยืนอยู่ด้านข้าง และพวกเธอต่างก็กลัวจนไม่กล้าพูดอะไร
“ถังหยู่ซวน!” หลี่ฝางวิ่งไปตรงหน้าของถังหยู่ซวน แล้วกอดไปที่เอวของเขาเพื่อที่จะพยุงเขาลุกขึ้น
“แม่งเอ้ย ทำไมคุณถึงได้โง่ขนาดนี้ ยังจะกลับมาตายอีกจริงเหรอ!” ถังหยู่ซวนยกแขนขึ้นมาอย่างยากเย็น และเช็ดคราบเลือดที่มุมปากของเขา แล้วมองไปที่หลี่ฝางด้วยสายตาที่ดูซับซ้อน
“คุณไม่โง่กว่าเหรอ ถ้าคุณยอมเชื่อฟังพวกเขาตั้งแต่แรก แล้วโทรศัพท์หลอกให้ฉันกลับมา แล้วคุณจะโดนทุบตีรุนแรงขนาดนี้เหรอ?” หลี่ฝางยิ้มอย่างขมขื่น
แปะ แปะ แปะ
หลี่หลงปรบมือ แล้วพูดขึ้น: “คู่พี่น้องที่ลำบากด้วยกัน พวกคุณต่างก็ซื่อสัตย์ดีนิ”
“หลี่ฝาง คุณอย่ามัวแต่สนใจพี่น้องของคุณสิ คุณสนใจหลิวเฉียวเฉียวด้วย หลิวเฉียวเฉียวเพื่อที่จะแจ้งข่าวกับคุณ ก็ได้รับความเสียหายมากเช่นกัน” ตู้เฟยชี้ไปที่หลิวเฉียวเฉียวที่อยู่ด้านข้างแล้วกล่าว
“พวกแกนี่มันไม่ใช่คนจริง ๆ เลย แม้แต่ผู้หญิงคนหนึ่งก็รังแก!” หลี่ฝางกัดฟัน แล้วพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่บึ้งตึง
“ใครให้เธอบ้า แล้วแจ้งข่าวกับคุณล่ะ เดิมทีพวกเราต่างก็วางแผนไว้แล้ว ว่าไปรอคุณอยู่ที่หน้าประตูโรงเรียน แต่ใครจะรู้ว่าเธอจะบอกกับคุณร่วงหน้าก่อน จนทำลายแผนการของเรา”
“คอยยังดีที่เราไปเจอถังหยู่ซวนที่หน้าประตูบาร์ มิฉะนั้น คืนนี้คงจะจับตัวคุณยาก”
ตู้เฟยพูดจบ แล้วมองไปที่หลี่หลง: “พี่หลง ที่เหลือก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคุณละ”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

พ่อแม่ที่หายตัวไปหลายปีจู่ๆ ก็โทรมา บอกว่าตัวเองเป็นบุคคลที่รวยที่สุดของดูไบ………….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset