NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 37 ตัวตนของพนักงานคลับ

บทที่ 37 ตัวตนของพนักงานคลับ
“เหี้ยเอ๊ย นั่นรถใคร!”
เขาด่าชุดใหญ่ เมื่อกำลังเตรียมจะวิ่งหนี รถกลับเร่งความเร็วขึ้น
เป็นรถเบนซ์G-Classคันหนึ่ง ที่มีแรงม้ามากพอ ที่จะเร่งความเร็วถึงร้อยไมล์ได้ในพริบตาเดียว รถคันดังกล่าวขับเข้ามาพุ่งชนคนของหลี่หลงโดยตรง
ตู้เฟยตกใจจนตัวสั่น: “พี่หลง ใครเป็นคนขับรถ?”
“คุณถามฉัน แล้วฉันจะถามใคร คุณบอกว่าหมอนี่ไม่มีใครหนุนหลังไม่ใช่เหรอ แล้วเบนซ์G-Classนี่มาจากไหน?” หลี่หลงมองเหยียดใส่ตู้เฟย สีหน้าน่าเกลียดเต็มที
“หรือว่าจะเป็นหลินชิงชิง?” ตู้เฟยเดาถาม
“หลินชิงชิงขับLand Rover!” หลี่หลงกัดฟันกรอด ตะโกน: “พี่น้อ รีบจับอาวุธ ไม่สนว่าคนบนรถจะเป็นใคร ฆ่ามันให้ฉัน!”
หลี่หลงนำหน้า ถือเอาไม้เบสบอลแล้ววิ่งเข้าไป
ในตอนนั้นเอง หัวโล้น ๆ ก็ยื่นโผล่ออกมาจากรถเบนซ์G-Class: “เจ้าหนุ่ม ยังจำฉันได้ไหม?”
หลี่ฝางมองหัวโล้นที่คุ้นเคย สีหน้าดีใจ: “พี่ใหญ่ ทำไมเป็นพี่!”
“กำลังออกมาก็เจอแกถูกตี เลยมาช่วยแกไง” คนหัวโล้นหัวเราะเหอ ๆ เปิดประตูรถแล้วลงมา
คนหัวโล้นมองกลุ่มคนท่าทางอันตรายของหลี่หลง ยิ้มออกมาเล็กน้อย: “เด็กเปรตพวกนี้ มันเหลือเกินจริง ๆ”
เมื่อคนหัวโล้นเรียก รถเบนซ์G-Classก็มีคนลงจากรถมาอีกสามคน
ในแง่ของจำนวนคน เห็นได้ชัดว่าฝั่งของคนหัวโล้นสู้ฝั่งของหลี่หลงไม่ได้
แต่ฝั่งของคนหัวโล้นล้วนดูสงบและใจเย็น คนหัวโล้นมองพี่ใหญ่ของตัวเองแล้วหัวเราะ “พี่หยวน พี่น้องพวกเรานานเท่าไหร่แล้วที่ไม่ได้ต่อยตี?”
“นานแล้ว”
“ใช่แล้ว อย่างน้อยก็หลายปีแล้ว ให้ตายสิ หมัดนี่ขึ้นสนิมหมดแล้ว!”
“วันนี้ก็ถือว่าเคาะสนิมหน่อยแล้วกัน!”
คนของหัวโล้นสีหน้าแสดงถึงความตื่นเต้น เข้าไปเผชิญหน้ากับคนของหลี่หลง
และในตอนนั้นเอง หลี่ฝางก็เข้าไปพยุงถังหยู่ซวนขึ้น: “โง่เง่า นายมันโง่จริง ๆ!”
“แค่นายคนเดียว จะขวางใครได้ฮะ?” หลี่ฝางมองบนใส่ถังหยู่ซวน ในใจนั้นกลับซาบซึ้งวุ่นวายไปหมด
ถังหยู่ซวนยิ้ม นอนในอ้อมแขนของหลี่ฝาง
มองการต่อสู้ที่วุ่นวายที่นี่ ถังหยู่ซวนถามขึ้น: “หลี่ฝาง นั่นคือพวกที่นั่งข้างพวกเราเมื่อกี้ไม่ใช่เหรอ?”
“ใช่แล้ว” หลี่ฝางพยักหน้า
“ทำไมพวกเขาถึงช่วยพวกเราล่ะ!” ถังหยู่ซวนถามอีกครั้ง
“ฉันก็ไม่รู้” หลี่ฝางก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน
“อาจจะเพราะฉันเคยเชิญพวกเขาดื่มเหล้า?” หลี่ฝางหัวเราะ นี่อาจเป็นการพูดคุยเพียงครั้งเดียวของตนกับพวกของคนหัวโล้นแล้ว
พวกของหลี่หลงในตอนเริ่มแรกพึ่งอาวุธในมือของตัวเอง ยังทำให้ได้เปรียบกว่าเล็กน้อย แต่ผ่านไปไม่นาน พวกของคนหัวโล้นก็แย่งเอาอาวุธของพวกเขาไปได้ สถานการณ์จึงเริ่มแย่ลง
พวกของคนหัวโล้นยิ่งสู้ยิ่งรุนแรง แต่ละคนราวกับเสือร้าย หลายคนลงมือดุเดือดรุนแรง ไม่มีความลังเลเลยแม้แต่น้อย
มีคนโดนไม้เบสบอลฟาดเข้าที่หัว ล้มลงบนพื้นเลือดไหลออกตามหู
ไม่ถึงสามนาที พวกของหลี่หลง นอกจากตัวหลี่หลงแล้ว คนที่เหลือก็ล้มลงกันหมดแล้ว
คนหัวโล้นถุยน้ำลายปนเลือดลงบนพื้น มองหลี่หลงพลางพูด: “พี่หยวน หมอนี่ต่อสู้ได้ไม่เลวเลย หมัดเดียวก็ทำให้ฉันเลือดกบปากแล้ว”
พี่หยวนพยักหน้า พูดพลางหัวเราะ: “เมื่อฉันอายุเท่ามัน คงเหลือทนได้เป็นศัตรูกับมันจริง ๆ”
หลี่หลงเหลือเพียงแค่คนเดียวแล้ว เขาไม่กล้าสู้ต่อ พวกของคนหัวโล้นล้วนโหดเหี้ยม ตัวคนเดียวเขาไม่มีทางชนะ
หลี่หลงเป็นเพียงแค่แชมป์ซ่านโฉ่วรุ่นเยาวชน แต่พวกของหัวโล้นนั้น อายุน้อยที่สุดก็มีเลขสามแล้ว
หลี่หลงสีหน้ามืดครึ้ม มองพวกของคนหัวโล้นไม่กี่คนนั้น: “พวกคุณเป็นใคร ทำไมถึงช่วยหลี่ฝาง?”
“หลี่ฝาง ที่แท้เจ้าหนุ่มนี่คือหลี่ฝาง” คนหัวโล้นปราดตามองหลี่ฝาง หัวเราะเหอ ๆ
“พวกคุณแม้แต่ชื่อมันยังไม่รู้ ก็ยื่นมือมาช่วยมัน?” หลี่หลงสีหน้าเขียวคล้ำด้วยความโกรธ พูดไม่ออกเล็กน้อย
คนหัวโล้นหัวเราะเหอ ๆ เอ่ย: “เมื่อกี้ที่คลับ เจ้าหมอนี่ชวนฉันดื่มเหล้า พวกฉันเป็นติดหนี้น้ำใจเขา”
“ถ้าไม่ออกมาเห็นว่าเขากำลังมีปัญหาพอดี ก็เลยมาช่วย เอาน้ำใจมาคืน”
คนหัวโล้นพูดจบ หลี่หลงก็หัวเราะเสียงเย็น: “งั้นคุณรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?”
“ฉันรู้ว่าคุณเป็นใครที่ไหนกัน ฉันไม่รู้จักคุณ แล้วยังตีคุณได้ด้วย?” หัวโล้นมองหลี่หลงราวกับมองคนโง่
“ฉันจะบอกคุณให้ ฉันเป็นถึงลูกชายของลูกพี่หลี่ คนที่คุณตีเมื้อกี้ ล้วนเป็นคนของพ่อฉัน” หลี่หลงพูดข่มเสียงเย็น: “นี่ที่คือเมืองตงไห่เขตเมืองตะวันออก เป็นเขตของพ่อฉัน กล้าตีคนในเขตของพ่อฉัน พวกคุณอยากตายหรืออย่างไร?”
“พ่อคุณคือลูกพี่หลี่?” คนหัวโล้นหัวเราะเหอ ๆ : “ลูกพี่หลี่เป็นใคร พวกฉันไม่รู้จัก หรือฉันจะถามพ่อคุณดี ว่ารู้จักเฉินเจียโล่ไหม?”
“เฉินเจียโล่คือชื่อของฉัน ถ้าหากต่อไปแกอยากแก้แค้น ก็ไปหาฉันที่เมืองเอก!”
คนหัวโล้นหัวเราะ พูดอย่างไม่รู้สึกรู้สา: “ถ้าหากไม่กล้ามาหาฉัน ก็อย่าเสือกคุยโวต่อหน้าฉัน!”
“อ้างถึงคนนั้นคนนี้ต่อหน้าฉัน จะมีประโยชน์เหี้ยอะไร ออกมาระยำด้วยกันทั้งนั้น ถ้าแค่ชื่อคนคนหนึ่งยังทำให้ตกใจได้ ถ้าอย่างนั้นหลายปีที่ผ่านมาฉันก็ระยำมาเสียเปล่าน่ะสิ”
คนหัวโล้นพูดจบ ก็ใช้ไม่เบสบอลชี้หน้าหลี่หลง: “ฉันจะถามแก ยังจะสู้อีกไหม ถ้ายังจะสู้ก็มา ถ้าไม่สู้แล้ว พวกฉันก็จะไปแล้ว”
หลี่หลงกัดฟันกรอด คนที่เขาพามาด้วย ล้วนนอนกองกันอยู่บนพื้นแล้ว เหลือเพียงแค่เขาคนเดียวที่ยังยืนอยู่
คนหัวโล้นถามประโยคนี้ เห็น ๆ อยู่ว่าแกล้งเขา เขาตัวคนเดียว จะสู้ได้อย่างไร!
“เฉินเจียโล่ คุณกล้ารอพ่อฉันมาหรือเปล่า!” หลี่หลงมองหัวโล้นแล้วด่ากราด
คนหัวโล้นวิ่งเข้าไปไม่กี่ก้าว ยกเท้าข้างหนึ่งกระโดดถีบหลี่หลง: “ไอ้เด็กเปรต คุณคิดว่าฉันโง่เหรอ คนที่มีฝีมือก็ยากที่จะจัดการกับเจ้าถิ่นได้หลักการแค่นี้คุณคิดว่าฉันไม่รู้เหรอ!”
“ถ้าคุณบอกว่าแม่คุณจะมา ฉันถึงจะพิจารณาสักหน่อย” คนหัวโล้นเหลือบมองหลี่หลงแล้วกลับไปที่รถเบนซ์G-Classของตัวเอง
แต่ว่าคนหัวโล้นกลับไม่ได้กลับออกไปทันที แต่พูดกับหลี่ฝางแทน: “เจ้าหนุ่ม แกออกไปก่อนสิ”
หลี่ฝางพยักหน้า แล้วพยุงถังหยู่ซวน
ในตอนนั้นเอง หลี่ฝางก็นึกถึงใครอีกคนหนึ่ง หลิวเฉียวเฉียว
เขาหันหน้าไป มองหลิวเฉียวเฉียวที่นั่งยอง ๆ อยู่กับพื้น แล้วเอ่ยถามหนึ่งประโยค: “ต้องการไปกับพวกฉันไหม?”
หลิวเฉียวเฉียวได้ยินดังนั้น พยักหน้าอย่างแรง รีบลุกขึ้นแล้ววิ่งไปข้างหน้าหลี่ฝาง
“เหี้ยเอ๊ย ผู้หญิงของฉัน!” ส้งเสียงมองหลิวเฉียวเฉียวที่วิ่งไป กัดฟันด่ากราด
เมื่อสักครู่หลิวเฉียวเฉียวถูกจับได้ว่าแอบแจ้งเบาะแสเตือนหลี่ฝาง หลี่หลงก็ต้องการจะเปลื้องผ้าเธอ ดีที่ส้งเสียงขัดขวางไว้ จึงทำให้หลิวเฉียวเฉียวปกป้องตัวเองไว้ได้
ส้งเสียงทำเป็นคนดีต่อหน้าหลิวเฉียวเฉียว จุดประสงค์เพื่อที่คืนนี้จะได้นอนกับเธอ แต่ใครจะคิดว่า ตอนที่หลี่ฝางกำลังจะออกไปกลับตะโกนเรียกเธอไปด้วย
ส้งเสียงอยากตะโกนเรียกหลิวเฉียวเฉียวกลับมามาก แต่คนของหัวโล้นหลายคนนั่งในรถจ้องเขาอยู่ เขาจะเอาที่ไหนมากล้าพูด!
รอจนพวกหลี่ฝางเรียกรถแท็กซี่ออกไปแล้ว คนหัวโล้นถึงจะสตาร์ตรถ
“เฮ้ย เจ้าหนุ่ม!” ตอนจะจากไป คนหัวโล้นก็ตะโกนเรียกหลี่หลง
หลี่หลงเงยหน้าขึ้น มองคนหัวโล้น
“ถ้าคุณไม่ยอมแพ้ จำไว้ให้มาหาฉันที่เมืองเอก!” หัวโล้นโยนนามบัตรของตัวเองไว้ให้หลี่หลงหนึ่งใบ พูดยุแหย่: “ฉันต้อนรับคุณทุกเวลา”
พูดจบ คนหัวโล้นถึงเร่งความเร็วรถจากไป
“เฉินเจียโล่ ฉันไปแกแค้นคุณแน่” มองเบนซ์G-Classที่ไกลออกไป หลี่หลงกัดฟันพูด
หลี่หลงลุกขึ้น เดินไปข้างหน้าตู้เฟย เอ่ยถามสีหน้ามืดครึ้ม: “ตู้เฟย จะคิดบัญชีนี้อย่างไร?”
“พี่หลง พวกเรามีบัญชีอะไรกัน?” สีหน้าตู้เฟยซีดลงเล็กน้อย
หลี่หลงสีหน้าน่ากลัว ตบหน้าตู้เฟยไปหนึ่งครั้ง แรงตบแรงมาก ตบจนตู้เฟยเซไปหลายก้าว
“เหี้ยเอ๊ย ทำเป็นเลอะเลือนต่อหน้าฉัน ถ้าไม่ใช่เพราะจัดการเรื่องให้คุณ คนของฉันจะเป็นแบบตอนนี้ไหม?” หลี่หลงชี้ไปที่กลุ่มคนบนพื้น: “บัญชีนี้ฉันไม่คิดที่คุณ หรือจะให้คิดที่ฉันเอง?”
คนที่โดนรถชนจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้สติ คนที่เหลือก็บาดเจ็บกันทั้งหมด คนพวกนี้ต้องนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่หลี่หลงไม่กล้าแจ้งความ ให้ตำรวจไปจับคนหัวโล้น
ถึงแม้ว่าคนหัวโล้นจะชนคน แจ้งความแล้วคนหัวโล้นก็ต้องรับผิดชอบค่าเสียหายนี้ แล้วถ้าแจ้งความจะพูดว่าอย่างไร บอกว่าตอนที่ตนเองกำลังจะตีขาคนอื่น แล้วถูกรถชน นั่นไม่ใช่โจรตะโกนให้จับโจรหรือไง?
ตู้เฟยแม้จะกลุ้มใจอย่างมาก กลับไม่กล้าพูดอะไรมาก เขาพยักหน้าให้หลี่หลง: “พี่หลง ค่ารักษาพยาบาลพวกเขาคิดที่ฉัน”
“มีแค่ค่ารักษาพยาบาล?” หลี่หลงสายตาอำมหิต
“ยังมีค่าทำขวัญ ค่าเลี้ยงดู…..ล้วนคิดที่ฉัน” ตู้เฟยไม่กล้าขัดใจหลี่หลง
……
ในตอนนั้นเอง ยอดตึกของRecalling the past มีเงาดำของร่างหนึ่งค่อย ๆ ลุกขึ้น เก็บปืนไรเฟิลขึ้นมา
เงาดำมองพวกของหลี่หลง ด้วยรอยยิ้มเย็นบนใบหน้า
ไม่นาน เขาก็ซ่อนปืนไรเฟิลเสร็จ เปลี่ยนเป็นชุดทำงานของตัวเอง กลับไปที่ชั้นล่างเพื่อเป็นพนักงานของคลับตนเอง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

พ่อแม่ที่หายตัวไปหลายปีจู่ๆ ก็โทรมา บอกว่าตัวเองเป็นบุคคลที่รวยที่สุดของดูไบ………….

Recommended Series

Comment

Options

not work with dark mode
Reset