NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 423 ความเย็นชาของฉินวี่เฟย

บทที่ 423 ความเย็นชาของฉินวี่เฟย
ฉินวี่เฟยเพิ่งตื่นขึ้นมา สภาพจิตใจของเธอไม่ค่อยดีนัก ใบหน้าซีดเซียว และดูเหมือนจะหวาดกลัวกับฝันร้าย
หลี่ฝางไม่ต้องการบอกความจริงกับฉินวี่เฟยในเวลานี้ ซึ่งมันจะทำให้เธอหวาดกลัวอีกครั้ง จึงพูดโกหก “นายท่านฉินไม่เป็นไร เพียงแต่เสียเลือดมากเกินไป โชคดีที่ส่งตัวไปโรงพยาบาลทันเวลา และโรงพยาบาลก็ได้เติมเลือด ทำแผลให้ ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว”
“จริงเหรอ?” เมื่อได้ยินคำตอบนี้ ฉินวี่เฟยก็ยิ้มที่มุมปาก
หลี่ฝางพยักหน้าอย่างเคร่งเครียด
ปัจจุบัน วิดีโอที่นายท่านฉินกระโดดลงแม่น้ำฆ่าตัวตาย ได้รับการโพสต์บนอินเตอร์เน็ต ขอเพียงฉินวี่เฟยออนไลน์ เธอจะได้รู้ความจริง
หลี่ฝางไม่อยากปิดปัง แต่เขาลำบากใจจะบอกความจริงกับฉินวี่เฟย
“ถ้างั้นก็ดีมาก คุณรู้ไหม เมื่อกี้ที่ฝันร้าย ทำให้ฉันตกใจมาก” พอฉินวี่เฟยตื่นเต้น สองมือโอบไหล่หลี่ฝาง และพูดอย่างตื่นเต้นว่า “เมื่อกี้ฉันฝันว่าปู่ของฉันเสียชีวิตไปแล้ว ฉันก็ตกใจจนตื่น แต่โชคดีที่มันเป็นแค่ความฝัน”
“ความฝันมันตรงข้ามกับความจริง ฮ่าฮ่า” หลี่ฝางยิ้มแหย่ๆ แต่หัวใจของเขากลับอึดอัดใจมากขึ้น
ในขณะนี้ ฉินวี่เฟยยิ่งมีความสุขมาก เและยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นเท่าไหร่ หัวใจของหลี่ฝาง ก็ยิ่งกระวนกระวายใจมากขึ้นเท่านั้น
เพราะฉินวี่เฟยยิ่งมีความสุขมากเท่าไหร่ ในอนาคตเมื่อรู้ความจริง ก็จะยิ่งโศกเศร้ามากยิ่งขึ้น
บางที ฉินวี่เฟยอาจจะโกรธเกลียดหลี่ฝาง โกรธเกลียดที่หลี่ฝางโกหก
ฉินวี่เฟยพูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุข “แม้ปกติฉันจะเกลียดความเห็นแก่ตัวของคุณปู่ ใช้อำนาจ หยาบกระด้างและไร้เหตุผล ยังไงท่านก็เป็นปู่ของฉัน ตระกูลฉินมีขนาดใหญ่ขนาดนี้ ต้องการให้ท่านมาสนับสนุน ทุกสิ่งที่ท่านทำ ก็เพื่อพัฒนาผลประโยชน์ของตระกูลฉิน แม้ว่าฉันจะตำหนิท่าน แต่ฉันก็เข้าใจท่าน ได้ถ้าไม่ใช่อย่างนั้น ตระกูลฉินก็จะไม่สามารถยืนหยัดจนถึงปัจจุบัน”
“ฉันแทบไม่สามารถจินตนาการได้หากตระกูลฉินไม่มีคุณปู่ จะเป็นอย่างไร”ฉินวี่เฟยถอนหายใจ และพูด
“ใช่สิ อาการบาดเจ็บของคุณปู่คงที่แล้วหรือยัง? อยู่โรงพยาบาลไหน ฉันอยากไปเยี่ยมท่าน ฉินวี่เฟยลุกจากเตียงแล้วนั่ง
“เรื่องนี้ ฉันคิดว่าพวกเราควรกลับไปเรียนก่อน หลังเลิกเรียนแล้ว ฉันจะพาคุณไปพบคุณปู่ว่าเป็นอย่างไรบ้าง?” หลี่ฝางพูดด้วยรอยยิ้ม
ในเมื่อได้โกหกไปแล้ว หลี่ฝางก็ทำได้เพียงยืดเวลาออกไปได้แค่ไหนแค่นั้น
ฉินวี่เฟยลังเลอยู่ครู่หนึ่ง พยักหน้าและพูดว่า “ถ้างั้นก็ได้”
หลี่ฝางและฉินวี่เฟยเดินลงไปชั้นล่าง ในเวลานี้ ร้านกาแฟเงียบสงบ มีเพียงสองหรือสามคู่ที่กำลังนั่งดื่มกาแฟอยู่ในร้านอย่างเงียบๆ
หลิงหลงนั่งอยู่ที่เคาน์เตอร์คิดเงิน ในมือกำลังเล่นส้อมเหล็กที่ใช้กินอาหารฝรั่ง
บนพื้น ไม่มีคราบเลือดอยู่ที่พื้น
หลี่ต๋าคางและลุงเฉียน ก็จากไปที่นี่แล้ว
“เฮ้อ”
เมื่อเห็นหลิงหลง ฉินวี่เฟยมีความรู้สึกซับซ้อนขึ้นมา
เมื่อกี้ หลิงหลงเกือบจะฆ่านายท่านฉิน แววตาของฉินวี่เฟยที่มองหลิงหลง เต็มไปด้วยความเกลียดชัง
เพียงแต่ว่าฉินวี่เฟยก็เข้าใจเป็นอย่างดี ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่คนที่เธอจะจัดการได้ง่ายๆ
ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะคำสั่งของนายท่านฉินในตอนนั้น ฉินวี่เฟยคงจะโทรแจ้งตำรวจไปแล้ว ให้ตำรวจมาจับกุมหลิงหลงไป
ช่างมันเอะ
ฉินวี่เฟยคิดในใจ ในเมื่อปู่ของเธอยังไม่ตาย ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหา
ฉินวี่เฟยก็ไม่ใช่คนโง่เช่นกัน ตอนนั้นจากการสนทนาระหว่างปู่ของเธอกับหลิงหลง ฉินวี่เฟยก็ฟังเข้าใจ ในอดีตปู่ของเธอต้องทำสิ่งเลวร้ายไว้กับหลิงหลง มิเช่นนั้น หลิงหลงเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง คงจะไม่มีเอามีดแทงคุณปู่ของเธอแน่นอน
ทันทีที่เดินไปถึงประตู หลิงหลงจับแขนของหลี่ฝางไว้
“คุณโกหกผู้หญิงคนนี้เหรอ?” หลิงหลงมองไปที่หลี่ฝางอย่างมั่นใจ
“ใช่ ฉันกลัวว่าชั่วขณะเธอจะยอมรับความจริงไม่ได้ เฮ้อ” หลี่ฝางถอนหายใจ และพูด
“ฮึฮึ ความจริงมักจะโหดร้าย เด็กผู้หญิงคนนี้บรรลุนิติภาวะแล้ว หัวใจของเธอคงไม่อ่อนแอขนาดนี้ คุณปู่ตายไปแล้ว การเป็นหลานสาว เสียใจมันเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ คุณไม่จำเป็นต้องโกหกเธอ เพราะเรื่องอย่างนี้ คุณปิดไม่ได้นาน” หลิงหลงส่ายหัว
“นอกจากนี้ นายท่านฉินอายุมากแล้ว ความสุขความรุ่งโรจน์และความมั่งคั่งแบบไหนที่เขาไม่เคยได้ลอง ตายแล้วมันก็ไม่น่าเสียดาย” หลิงหลงพูดเสียงเบา และยิ้มอย่างเหยียดหยาม “เป็นพวกเรานั่นแหละ สามปีมานี้ ไม่รู้ว่าทนทุกข์ทรมานมามากแค่ไหน”
“แม้ว่าเมื่อสามปีที่แล้วฉันจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ฉันคิดว่า ในเมื่อพวกคุณคิดว่าทำถูกแล้ว ก็ไปทำ” หลี่ฝางพูดเบาๆ
หลี่ฝางไม่เข้าใจหลิงหลง แต่เขาเข้าใจพ่อของตัวเอง
พ่อของตัวเอง เป็นผู้ชายที่มีความรักและความเกลียดแยกแยะได้ชัดเจน
ทุกสิ่งที่หลิงหลงทำ คือความคิดของพ่อตัวเอง
หลี่ฝางไม่อาจเอนเอียงเข้าข้างคนนอก ในเมื่อนายท่านฉินเคยทรยศต่อพ่อของเขาก่อน เขาก็สมควรตาย หลี่ฝางไม่ได้เห็นใจเลยสักนิด
คนที่หลี่ฝางแคร์ มีแต่ฉินวี่เฟยเท่านั้น
“คุณชาย ฉันแนะนำให้คุณ ไปบอกความจริงกับเธอ” หลิงหลงเกลี้ยกล่อมหลี่ฝาง
หลี่ฝางพยักหน้าและพูดว่า “สักพักฉันจะหาโอกาส บอกเธอ เฮ้อ ฉันคิดว่าถ้าเธอเห็นวีดีโอที่นายท่านฉินกระโดดลงแม่น้ำ คงจะร้องไห้เสียใจมาก”
เมื่อคิดถึงฉินวี่เฟยจะต้องร้องไห้ฟูมฟาย ในใจของหลี่ฝาง ก็รู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย
หลี่ฝางตามฉินวี่เฟยไป และเพื่อให้เธอเตรียมใจให้พร้อม จากนั้นก็บอกความจริงกับเธอ เฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่ง ก็หยุดอยู่ตรงหน้าฉินวี่เฟยและหลี่ฝาง
นี่คือรถของฉินจื่อยี่
ฉินจื่อยี่เปิดประตูรถ และลงจากรถ
ใบหน้าของเขาเย็นชามาก บริเวณระหว่างคิ้วเต็มไปด้วยความโกรธ
“ทำไมโทรศัพท์ของเธอถึงโทรไม่ติด” มองฉินวี่เฟย ฉินจิอยี่ถามเสียงดัง
“มีอะไรเหรอ พี่?”
เมื่อเห็นฉินจื่อยี่ตะโกนเสียงดัง ฉินวี่เฟยตกใจ และตระหนักถึงความผิดปกติของฉินจื่อยี่
ก่อนหน้านี้ ความคิดของฉินจื่อเฟยกับฉินวี่เฟยจะไม่ค่อยลงรอยกันมากนัก บางครั้งก็มีถกเถียงกัน แต่ไม่เคยเป็นเช่นนี้ พอเจอกันก็ตะคอกใส่ด้วยความโกรธ
ฉินวี่เฟยตกใจจนสีหน้าซีดเซียว และเธอถามด้วยความรู้สึกผิด “พี่ ฉันทำอะไรผิดหรือเปล่า?”
“เธอยังไม่รู้อีกเหรอ?”
มองฉินวี่เฟย ฉินจื่อยี่ขมวดคิ้วเข้าหากันจนเป็นก้อนขึ้นมา “ฉินวี่เฟย ฉันรู้สึกผิดหวังกับเธอมาก เธอเห็นคุณปู่ถูกคนอื่นแทง ถูกคนอื่นบังคับให้กระโดดลงไปในแม่น้ำ… …”
“คุณปู่ตายแล้ว เธอยังทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น” ฉินจื่อยี่มองฉินวี่เฟยด้วยสีหน้าเย็นชา และพูดไม่ออก
“คุณปู่ตายแล้วเหรอ?”
เมื่อได้ยินข่าวนี้ ฉินวี่เฟยเหมือนถูกฟ้าผ่า ยืนนิ่งอึ้งอยู่ที่เดิม
“เธอไม่รู้เหรอ? คุณปู่ถูกบีบบังคับให้ตายต่อหน้าต่อตาเธอ ยังแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง?” ฉินจื่อยี่ยังคงขมวดคิ้วไว้แน่น มองฉินวี่เฟยอย่างโกรธเกรี้ยว
“ตอนนี้คนทั้งเมืองเอกรู้กันหมด”
แววตาที่นิ่งอึ้งหันหัวกลับมา และมองไปที่หลี่ฝาง “หลี่ฝาง ไหนคุณบอกฉันว่า คุณปู่ของฉันได้รับการช่วยเหลือทันเวลา รอดชีวิตมาได้?”
“คุณโกหกฉันเหรอ?” ดวงตาของฉินวี่เฟย เปล่งประกายความเกลียดและโกรธทันที
ใบหน้าของหลี่ฝาง เปลี่ยนเป็นซีดเซียวทันที รู้สึกละอายใจและรู้สึกผิด
“ขอโทษ ที่ฉันหลอกคุณ เมื่อกี้ฉันเห็นว่าคุณเพิ่งตื่น และอาการของคุณก็ไม่ค่อยดี ฉันจึงไม่กล้าบอกความจริงกับคุณ เพราะกลัวจะทำให้คุณสะเทือนใจ”หลี่ฝางพูดเหมือนไม่มีเรี่ยวแรง
ฉินวี่เฟยส่ายหัว รู้สึกผิดหวังกับหลี่ฝางมาก และแม้กระทั่งความสิ้นหวัง
ฉินจื่อยี่ก้าวไปข้างหน้า และเดินไปหาหลี่ฝาง
สีหน้าของเขาดุร้าย และเมื่อไปถึงตรงหน้าหลี่ฝาง ฉินจื่อยี่ก็กำหมัดแน่น ต่อยหมัดออกไป ต่อยใส่หน้าหลี่ฝาง
ด้วยหมัดนี้ ฉินจื่อยี่ใช้ความแข็งแกร่งทั้งหมด ต่อยจนหลี่ฝางถอยหลังสองหรือสามก้าว
“แน่นอนนายไม่กล้าพูดอยู่แล้ว เพราะตระกูลหลี่ของนาย เป็นฆาตกรที่ฆ่าปู่ของฉัน ปู่ของฉัน ถูกตระกูลหลี่ของนายบีบบังคับให้ตายใช่ไหม?”
ฉินจื่อยี่กัดฟันและมองไปที่หลี่ฝาง “นายกลัวว่าน้องสาวของฉันรู้ความจริง จะเกลียดนายใช่ไหม?”
“นายมันเลว!”
ฉินจื่อยี่ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว และต่อยที่ใบหน้าหลี่ฝางอีกครั้ง
หลี่ฝางไม่ได้ตอบโต้ ไม่ใช่ว่าเขาไม่สามารถเอาชนะฉินจื่อยี่ได้ เพียงแต่ว่าปู่ของอีกฝ่ายเสียชีวิตแล้ว เรื่องจริงก็เป็นไปตามที่ฉินจื่อยี่พูด ตระกูลหลี่บีบบังคับให้เขาฆ่าตัวตาย
หลี่ฝางรู้สึกไม่ได้เสียเปรียบ เมื่อเทียบกับคนตาย ตัวเองโดนหมัดไม่กี่ครั้ง มันไม่ได้หนักหนาสาหัสอะไร
“ฉันจะต่อยคนเลวอย่างนายให้ตาย!”
ฉินจื่อยี่ต่อยหลี่ฝางไปเรื่อยๆ ต่อยจนหลี่ฝางล้มลงกับพื้น และต่อยอีกสี่หรือห้าครั้งติดต่อกัน มุมปากของหลี่ฝาง ถูกต่อยจนมีเลือดออก
แต่ฉินวี่เฟยก็ยืนดูอยู่ข้างๆ สีหน้าเย็นชา ไม่มีร่องรอยของความทุกข์ในสายตาของเธอ
เมื่อหลี่ฝางเห็นแววตาของฉินวี่เฟย ก็รู้เหน็บหนาวในหัวใจ
ฉินจื่อยี่ยิ่งต่อยยิ่งมีพลังมากขึ้นเรื่อยๆ ราวกับว่าเขากำลังจะฆ่าหลี่ฝางจริงๆ ในขณะนี้ หลิงหลงนำมีดเล่มหนึ่ง วางไว้ที่คอของฉินจื่อยี่

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

พ่อแม่ที่หายตัวไปหลายปีจู่ๆ ก็โทรมา บอกว่าตัวเองเป็นบุคคลที่รวยที่สุดของดูไบ………….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset