NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 52 กูนี่แหละเจ้าของบาร์แห่งนี้

บทที่ 52 กูนี่แหละเจ้าของบาร์แห่งนี้
หลี่ฝางคิดไปสักพัก ก็ตัดสินใจอยู่ดื่มเป็นเพื่อนเซี่ยลู่และหลิวเฉียวเฉียว
หลี่ฝางคิดในใจ ตรงนี้เป็นถิ่นของตัวเอง ต่อให้ลูกพี่หลี่จะเจ๋งแค่ไหน ก็คงไม่กล้าที่จะมาทำร้ายตัวเองถึงที่นี่มั้ง?
อีกอย่าง ดื่มเหล้าเป็นเพื่อนสาวสวย มันคือสิ่งที่ผู้ชายหลายคนใฝ่ฝัน หลี่ฝางก็ไม่อยากปฏิเสธ หากเมาแล้ว ดีไม่ดีอาจจะได้ของแถมก็ได้
“ได้” ฉันจะดื่มเป็นเพื่อนพวกเธอสักแป๊บ หลี่ฝางตอบตกลง นั่งลงแล้วรินเหล้าให้ตัวเองแก้วหนึ่ง
ดื่มไปไม่นานนัก ลูกค้าก็ทยอยเดินเข้าร้าน
เวลานี้ หลิวเฉียวเฉียวกล่าว: “ลูกค้ามาแล้ว นายไม่ไปต้อนรับเหรอ?”
หลี่ฝางชี้ไปที่ส้าวส้วย: “ยังมีพวกเขาไม่ใช่เหรอ? ไม่ใช่ว่ายุ่งจนจะไม่ทันสักหน่อย”
หลิวเฉียวเฉียวมองหลี่ฝางอย่างดูแคลน: “ฉันนึกว่านายเป็นคนขยันสักอีก ไม่คิดว่านายอู้งานเก่งขนาดนี้”
เซี่ยลู่ก็โบกมือไล่ แล้วกล่าว: “นายไปทำงานเถอะ ไม่ต้องสนใจพวกเราแล้ว กว่านายจะหางานได้ก็ไม่ง่าย หากถูกเถ้าแก่มาเห็นเข้า ว่านายแอบดื่มเหล้าในเวลางาน ถูกไล่ออกจะทำไง?”
หลี่ฝางหัวเราะในใจ ตัวเองก็คือเถ้าแก่ ใครจะสามารถไล่ตัวเองออก
เขาคิดในใจ หากตัวเองบอกฐานะที่แท้จริงให้กับเซี่ยลู่และหลิวเฉียวเฉียว พวกเขาจะเชื่อมั้ย?
บอกไม่ได้อย่างแน่นอน
พอดีหลี่ฝางก็ดื่มจนรู้สึกแน่นท้องแล้ว จึงได้ลุกขึ้นแล้วกล่าว: “งั้นฉันไปทำงานก่อนนะ เธอสองคนมีอะไรก็เรียกฉัน”
“อืมๆ”
หลิวเฉียวเฉียวและเซี่ยลู่ต่างพยักหน้าพร้อมกัน
ก่อนที่หลี่ฝางจะเดินไปนั้น จู่ๆ เซี่ยลู่ก็เรียกเขา: “เฮ้ย รอก่อน!”
“มีอะไร?” หลี่ฝางหันหน้ามาถาม
“ฉันอยากจะขอโทษนายสักคำ” เซี่ยลู่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ : “ฉันรู้ว่าหลายปีที่ผ่านมาฉันทำไปหลายสิ่งหลายอย่าง หลี่ฝาง นายจะให้อภัยฉันได้มั้ย?”
หลี่ฝางไม่ได้ตอบ
เห็นได้ชัดว่าในใจเขายังมีปม แต่ว่าใบหน้าเขาก็ยังคงฝืนยิ้มแล้วกล่าว: “ช่างเถอะ มันผ่านไปแล้ว”
หลังจากที่เดินจากไป หลี่ฝางก็ด่าในใจ แม่งเอ๊ย ลืมตอนที่วางแผนทำร้ายตัวเองแล้วเหรอ?
ยังจะให้ตัวเองอภัยให้เธอ เอาหน้าที่ไหนมาถาม สมองมีปัญหาหรือเปล่า
หลังจากที่ส้าวส้วยยุ่งเสร็จ หลี่ฝางได้เรียกเขามาที่ข้างกายตัวเอง: “เสี่ยวส้วย ผู้จัดการทำไมยังไม่มา?”
“ผู้จัดการต้องยุ่งอยู่แน่ๆ เลย เถ้าแก่ คุณยังกังวลเรื่องขี้ปะติ๋วอย่างลูกพี่หลี่อยู่อีกเหรอ” ส้าวส้วยหัวเราะกล่าว
ส้าวส้วย ฉันดูนายเหมือนไม่อยากจะทำงานที่นี่แล้วนะ หลี่ฝางทำตาถลนใส่ส้าวส้วย: “ชีวิตของเถ้าแก่นาย เป็นเรื่องขี้ปะติ๋ว?”
“เถ้าแก่ ลูกพี่หลี่ไม่สามารถทำอะไรคุณได้หรอก” ส้าวส้วยหัวเราะหยาม
“ก็ฉันกลัว” ระหว่างทางนั้น หลี่ฝางก็ได้ยินหลินชิงชิงพูดแล้ว ฝ่ามือของลูกพี่หลี่ ฆาตกรรมไปหลายศพแล้ว
ฆ่าคนสำหรับลูกพี่หลี่แล้ว ไม่ใช่เรื่องหนักหนาอะไร
หลี่ฝางยังไม่อยากตาย เพิ่งจะผ่านพ้นชีวิตความยากจน ไม่ว่ายังไงก็ไม่สามารถที่จะให้ลูกพี่หลี่มาฆ่าเขาตาย
ส้าวส้วยได้วางบิลเหล้าในมือลง: “เถ้าแก่ หากคุณกลัวจริง งั้นผมไปช่วยคุณเก็บเขาดีมั้ย”
“งั้นนายไปสิ” หลี่ฝางพูดล้อเล่น
ใครจะไปรู้ว่าส้าวส้วยได้ไปเปลี่ยนชุดจริงๆ จากนั้นก็เดินออกไปจากร้านเหล้า
หลี่ฝางอึ้งไปสักพัก เขาไม่เชื่ออย่างแน่นอนว่าส้าวส้วยจะไปหาลูกพี่หลี่
“แม่งเอ๊ย โดดงานต่อหน้าต่อตาเถ้าแก่เลยนะ!”
หลี่ฝางหาหัวหน้างานจนเจอ ขมวดคิ้วแล้วกล่าว: “บันทึกไว้หน่อย ส้าวส้วยโดดงานหนึ่งวัน หักค่าแรงเขาสามวัน”
หัวหน้างานเงยหน้ามองหลี่ฝางไปแวบหนึ่ง: “เถ้าแก่ เป็นเถ้าแก่ใหม่ที่ใช้อำนาจเก่งจริงๆ เลยนะ”
“ใครให้เขาเล่นฉันละ” หลี่ฝางกล่าวอย่างเซ็งๆ
หลังจากที่ส้าวส้วยออกไป หลี่ฝางก็แทนตำแหน่งของเขา เป็นบริกรชั่วคราว
“ลู่ลู่ เธอเลิกกับตู้เฟยแล้ว เคยพิจารณาหลี่ฝางมั้ย” หลิวเฉียวเฉียวถามอย่างลองเชิง
“ฉันดูแล้วในเขายังมีใจให้เธออยู่นะ” หลิวเฉียวเฉียวกล่าว
เซี่ยลู่มองดูเขาท่าทางที่ยุ่งเดินสลับไปมาอยู่ตรงบาร์ ก็ส่ายหัว: “เขาเป็นคนดีมาก แต่ว่าจนเกินไป”
“หากเป็นแฟนเขาจริง ต่อไปเรื่องข้าวปลาอาหารก็ยังต้องกังวล เสื้อผ้าก็ไปซื้อในห้างไม่ได้ ซื้อได้เพียงซื้อผ้าตามตลาดนัด ทานข้าวก็ต้องร้านอาหารเล็กหรือร้านริมทาง มีทั้งคราบน้ำมันและไม่สะอาด”
เซี่ยลู่กล่าว: “มันไม่ใช่ชีวิตแบบที่ฉันต้องการ”
เซี่ยลู่คว้ามือของหลิวเฉียวเฉียวมาจับไว้ แล้วกล่าว: “เฉียวเฉียว เธอสนใจหลี่ฝางใช่ไหม?”
หลิวเฉียวเฉียวไม่พูดไม่จา เงียบไปสักพัก
“กับฉันเธอยังอายที่จะพูดอีกเหรอ เราสองคนเป็นเพื่อนรักกันนะ” เซี่ยลู่ทำตาถลนใส่หลิวเฉียวเฉียว แกล้งทำเป็นโกรธ
“ครั้งที่แล้วที่ Lotus ทั้งๆ ที่เขาสามารถมีอะไรกับฉัน แต่สุดท้ายเขากลับไม่ทำ เขาเป็นคนดีคนหนึ่ง อีกอย่างเขายังได้ให้โทรศัพท์ที่มีราคาแพงกับฉัน ฉันก็ไม่รู้ว่าเขาชอบฉันจริงหรือเปล่า”
“เขาดีกับฉันมาก และดีกับเธอมากด้วย เธอโยนโทรศัพท์เขาทิ้ง เขาไม่ได้ให้เธอชดใช้ อีกอย่างเธอทำแบบนั้นกับเขา เขายังเลี้ยงเธอดื่มเหล้าที่แพงขนาดนี้ ลู่ลู่ เธอว่าหลี่ฝางชอบเธอ หรือว่าชอบฉันกันแน่?” หลิวเฉียวเฉียวถามอย่างร้อนใจ เห็นได้ชัดว่าหวั่นไหวต่อหลี่ฝางแล้ว
เซี่ยลู่ก็ได้มองไปทางหลี่ฝางอีกครั้ง รู้สึกว่าในใจหลี่ฝางยังมีตัวเองอยู่
“ใครจะไปรู้ล่ะ แต่ว่าหลี่ฝางให้โทรศัพท์ที่แพงแบบนั้นกับเธอ ต้องชอบเธอแน่เลย”
“ลูกคนรวยอย่างตู้เฟย ยังไม่ซื้อไอโฟนXSให้ฉันเลย เธอดูหลี่ฝางสิ เขาทำงานที่บาร์เหล้าทุกวัน แต่กลับซื้อโทรศัพท์ไอโฟนXSให้เธอ ถ้าไม่ใช่รักแล้วคืออะไร?”
เซี่ยลู่พูดจบ หลิวเฉียวเฉียวพยักหน้าซ้ำๆ : “งั้นเดี๋ยวเขาเดินมา ฉันจะบอกเขา ว่าฉันชอบคน”
“โง่หรือเปล่าเธอ เรื่องสารภาพรักผู้หญิงอย่างเราไม่ควรเป็นคนเริ่มก่อน ต้องให้ผู้ชายเป็นคนเริ่ม แบบนี้พวกเขาถึงจะทะนุถนอมพวกเรา” เซี่ยลู่จ้องมองหลิวเฉียวเฉียวแล้วกล่าว
เวลานี้ ได้มีกลุ่มหนุ่มสาวเดินเข้ามาในร้าน เห็นคนกลุ่มนี้แล้ว เซี่ยลู่ตื่นเต้นเล็กน้อย
“ผู้ชายเลว!”
เซี่ยลู่เห็นตู้เฟยเดินเข้ามา อีกอย่างในอ้อมแขน ยังได้กอดสาวสวยรูปร่างดีไว้คนหนึ่ง
“จางเชี่ยนก็อยู่”
จางเชี่ยนพิงอยู่ในอ้อมอกของโจวเจ๋ ก็มองเห็นเซี่ยลู่กับหลิวเฉียวเฉียวเหมือนกัน
“ตู้เฟย นายดูซิว่าใคร?” จางเชี่ยนชี้ไปที่เซี่ยลู่อย่างไม่หวังดี
ตู้เฟยเห็นเซี่ยลู่ คิ้วก็ตึงขึ้นมาทันที รีบปล่อยสาวสวยในอ้อมแขนออก
“นายจะกลัวเธอทำไม ตอนนี้เธอไม่ได้เป็นแฟนนายแล้ว” จางเชี่ยนจ้องเขม็งตู้เฟยไปแวบหนึ่ง
ตู้เฟยเดินไปทางที่เซี่ยลู่อยู่ ขณะที่เขาเห็นเหล้า Royal Saluteที่วางอยู่บนโต๊ะ ก็พูดอย่างเยาะเย้ย: “ดื่ม Royal Saluteด้วย เดี๋ยวเธอสองคนจะมีเงินเช็กบิลเหรอ?”
“ไม่เกี่ยวกับนาย” เซี่ยลู่พูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดี
“เซี่ยลู่ ท่าทางเธอมันคืออะไร ถึงแม้เราสองคนจะเลิกกันแล้ว แต่ว่ายังสามารถเป็นเพื่อนกันได้นี่นา” ตู้เฟยขมวดคิ้วกล่าว
เซี่ยลู่พูดอย่างเย็นชา: “เห็นนายฉันก็ขยะแขยง นายไปให้ไกลๆ เลย”
“เซี่ยลู่ เธอจะยโสโอหังต่อหน้าฉันทำไม เธอคบกับฉัน ก็เพราะหวังเงินของฉันไม่ใช่เหรอ?” ตู้เฟยหัวเราะเยาะ แล้วกล่าว
“พ่อของฉันกำลังพัฒนาโครงการใหม่ ประเมินคร่าวๆ สามารถสร้างรายได้สองถึงสามพันกว่าล้าน” ตู้เฟยยิ้มกล่าวอย่างได้ใจ
เป็นดังเช่นนั้นหลังจากที่ตู้เฟยพูดจบ เซี่ยลู่ก็รู้สึกเสียใจเล็กน้อย
“ยังไง จะกลับมาคบกับฉันเหมือนเดิมมั้ย?” ตู้เฟยเลิกคิ้วถาม: “รอให้โครงการใหม่ของพ่อฉันเสร็จสิ้น ฉันสามารถซื้อรถให้เธอคันหนึ่ง”
เซี่ยลู่ลังเลไปสักพักก็จึงกล่าวขึ้น: “ไม่จำเป็น”
ตู้เฟยโกรธทันที เขาทุบโต๊ะเหล้าอย่างแรง: “เซี่ยลู่ เธอต้องการอะไรกันแน่!”
“ฉันแค่นอกใจเธอไปครั้งเดียวเอง? ไม่สามารถให้โอกาสฉันสักครั้งเลยเหรอ?” ตู้เฟยกัดฟันพูด
“นายสามารถนอกใจครั้งหนึ่ง ก็จะสามารถนอกใจอีกนับครั้งไม่ถ้วน อีกอย่าง คนที่นายไปมีอะไรด้วยไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นเพื่อนรักของฉัน” ขณะที่เซี่ยลู่พูด ก็ได้มองไปที่จางเชี่ยนแวบหนึ่ง
เวลานี้สีหน้าของจางเชี่ยนซีดลงทันที เธอตื่นเต้นจนกำมือแน่น กลัวว่าเซี่ยลู่จะเปิดเผยเรื่องอัปยศของเธอกับตู้เฟยออกมา
จางเชี่ยนรีบร้อนกล่าว: “พี่เจ๋ เราไปหาที่นั่งกันก่อนดีกว่า”
“ได้สิ” โจวเจ๋พยักหน้า
หลังจากที่จางเชี่ยนและพวกนั่งลงกันแล้ว หลี่ฝางก็ได้เดินเข้ามา: “ทุกท่านจะดื่มอะไรกันดีครับ?”
“หลี่ฝาง?!”
จางเชี่ยนเห็นหลี่ฝาง ก็สะดุ้งตกใจ: “นายทำไมมาเป็นบริกรแล้วละ?”
โจวเจ๋และส้งเสียงเห็นหลี่ฝาง ก็ตกใจเหมือนกัน จากนั้นก็ได้หัวเราะขึ้นมา: “หลี่หลงตามหานายจนทั่วก็หาไม่เจอ คิดไม่ถึงนายกลับมาหลบอยู่ที่นี่”
“ฉันต้องโทรหาหลี่หลงสักหน่อยแล้ว แจ้งข่าวดีนี้กับเขา” โจวเจ๋หยิบโทรศัพท์มือถือออกมากดไปที่เบอร์ของหลี่หลง
“เย็ดแม่เอ๊ย” หลี่ฝางมองไปที่โจวเจ๋ ด่าอย่างเย็นเยือก: “มึงนี่มันเหี้ยจริงๆ ฉันไม่ได้มีความแค้นกับนายมั้ง”
“มึงกล้ามาด่ากู? กูเป็นแขกวีไอพีที่นี่ มึงมันก็แค่บริกร กล้าด่ากู? โจวเจ๋ได้ยินหลี่ฝางด่าตัวเอง ก็โกรธทันที
“เรียกผู้จัดการมึงมาหน่อยซิ กูจะคอมเพลนมึง!”
“คอมเพลนแม่มึงดิ กูนี่แหละเจ้าของบาร์แห่งนี้!” หลี่ฝางกล่าวอย่างเสียงดัง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

พ่อแม่ที่หายตัวไปหลายปีจู่ๆ ก็โทรมา บอกว่าตัวเองเป็นบุคคลที่รวยที่สุดของดูไบ………….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset