NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 569 แลกเปลี่ยนข้อมูล

“คุณว่างั้นไหม?” หลี่ฝางพูดไป พร้อมกับหยิบบุหรี่ให้หูเฟย
หูเฟยปิดปากสนิท เงียบอยู่นานกว่าจะยอมพูดออกมา “ต้องขอโทษด้วย คุณชายหลี่ ฉันไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว พูดตรงๆนะ ตั้งแต่เล็กจนโต ฉันกับเสี่ยวน่าวต่างดูแลซึ่งกันและกัน กล้าพูดออกไปด้วยไม่กลัวว่าพวกคุณจะหัวเราะเยาะ ที่ฉันมีจุดยืนทุกวันนี้ได้ ล้วนเป็นเพราะน้องสาวของฉัน”
“ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะน้องสาวของฉัน เกรงว่า ฮ่าๆ ฉันคงจะตายไปตั้งนานแล้ว”
หลี่ฝางอึ้งไปพักนึง เคยได้ยินแต่เรื่องที่พี่ชายดูแลน้องสาวของตัวเอง แต่ทำไมพอมาถึงหูเฟย ถึงกลายเป็นหูเสี่ยวน่าวเป็นคนดูแลหูเฟยได้ล่ะ
“การที่คุณมีความสำเร็จทุกวันนี้ ไม่ใช่เพราะได้คุณปู่สวี กับสวีส้าวชิวที่ค่อยๆช่วยแกไต่เต้าขึ้นมาไม่ใช่รึไงกัน?” ส้าวส้วยถามออกไปด้วยความสนใจ
“ในสายตาของพวกคุณ คงจะเห็นว่าฉันถูกดูแลมาอย่างดี แต่ความเป็นจริง ฉันต่างหากล่ะที่ใช้ความสามารถของตัวเองค่อยๆไต่เต้าขึ้นมา สิ่งที่ตระกูลสวีช่วยเหลือฉันนั้น น้อยเอามากๆ”
“พอฉันไต่เต้าได้ในระดับนึง ก็ถึงเวลาที่ควรจะเลื่อนตำแหน่ง สวีส้าวชิวจึงมาหาฉัน เขาเอาหลานสาวของตัวเอง จัดงานแต่งให้กับฉัน ให้ฉันกลายเป็นลูกเขยของตระกูลสวี”
“ฉันไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ และไม่มีเหตุผลที่ต้องปฏิเสธ ถ้าเกิดฉันปฏิเสธขึ้นมา สวีส้าวชิวคงจะเสียหน้าไม่น้อย เพราะว่าในเมืองนี้เขา เรียกได้ว่าเป็นคนที่มีอำนาจอยู่ไม่น้อย อีกอย่าง การแต่งเข้าตระกูลสวี สำหรับฉันแล้ว มีแต่กำไร ไม่ได้มีผลเสียอะไร”
“แต่ในความเป็นจริง พอฉันกลายเป็นลูกเขยของตระกูลสวี สวีส้าวชิวก็ไม่ได้ให้การช่วยเหลือฉันแม้แต่น้อย แน่นอนว่า ถึงจะไม่ได้ช่วยตรงๆ แต่ขอแค่อยู่ในตระกูลสวี พวกเบื้องบน ก็ไม่กล้าบีบบังคับฉัน”
“ส่วนสวีส้าวชิว ก็ไม่ได้ให้ฉันช่วยเหลืออะไรเขา เขาก็แค่อยากจะเพิ่มอำนาจของตัวเองก็เท่านั้นเอง”
“ที่ฉันมีทุกวันนี้ได้ จริงๆแล้ว ล้วนเป็นเพราะน้องสาวของฉัน ตอนวัยรุ่น ฉันทำเพื่อผู้หญิงคนนึง ทำให้ไปมีเรื่องกับลูกพี่ของแก๊งนักเลงนึงเข้า ตอนนั้นแทบจะถูกพวกเขาจับตัดแขนตัดขา แต่ต่อมา น้องสาวของฉันไปก็คบกับหัวหน้านักเลงที่มีอำนาจที่สุดของเมืองในตอนนั้น แล้วกลายเป็นผู้หญิงของเขา จากนั้น ฉันจึงถูกช่วยเอาไว้ และด้วยความช่วยเหลือของพวกเขา ทำให้ฉันได้กลายเป็นทหาร”
“หลังจากที่ฉันกลับมา น้องสาวของฉันก็ถูกหัวหน้านังเลงคนนั้นทิ้ง”
หูเฟยพูดไป พร้อมกับสีหน้าที่เย็นชา “ฉันใช้ความพยายามเป็นอย่างมาก ในที่สุดก็จับหัวหน้านักเลงนั้นได้ แล้วส่งเขาเข้าไปยังลานประหาร เพราะเรื่องนี้นี่เอง ที่ทำให้สวีส้าวชิวเกิดความสนใจในตัวฉัน”
“ก่อนหน้านี้น้องสาวของฉันเป็นคนที่สวยมาก และดูใสซื่อ ไม่ใช่เหมือนอย่างตอนนี้ ล้วนเป็นเพราะหัวหน้านักเลงคนนั้น เขาเป็นคนสั่งให้น้องฉันไปสักรอยสัก เสพยา ให้เสพสุขในชีวิตกลางคืน แถมยัง ยัง……”
“แถมยังเอาน้องสาวของฉันให้คนอื่นร่วมเสพสุข”
หูเฟยพูดไป พร้อมกับกัดฟันไปด้วย แถมยังกำหมัดแน่น “ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะฉัน น้องสาวของฉันก็คงไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับหัวหน้านักเลงคนนั้น ยิ่งไม่มีทางเดินอยู่ในสายทางนี้”
“เพราะงั้น ไม่ว่าเธอจะทำอะไร ฉันก็ไม่มีสิทธิ์ไปต่อว่าเธอ”
“ฉันอยู่ในตำแหน่งนี้มาก็นานแล้ว ไม่เคยเอาเรื่องส่วนตัวมาเกี่ยวข้องกับงาน แต่เรื่องน้องสาวของฉัน เป็นข้อยกเว้น ฉันรู้ดีว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่ แต่ฉันก็ไม่ได้ห้ามเธอ”
“เธอค่อนข้างจะโกรธฉัน เธอโกรธที่ตอนนั้นฉันหนีไปเป็นทหาร ตั้งแต่เล็กจนโต พวกเราไม่เคยห่างกันมาก่อน มีเพียงครั้งนั้น ที่ฉันไปเป็นทหาร”
“พวกคุณรู้ไหม? ตอนนั้นที่ฉันขึ้นรถไฟ เธอไม่ได้มาส่งฉันด้วยซ้ำ ไม่แม้แต่จะมองหน้าฉัน”
หูเฟยพูดด้วย สีหน้าที่ตึงเครียด “เฮ้อ ฉันไม่โทษเธอ หนี้ชั่วชีวิตนี้ ฉันไม่มีทางใช้เธอได้หมด”
“เธอชอบที่จะหาเงินด้วยตัวเอง เงินของฉัน เธอไม่เคยแตะต้องด้วยซ้ำ เธอมีบ้านหลังนึง มีมูลค่ากว่าร้อยล้าน แน่นอน ว่าใช้วิธีผ่อนเอา แต่ที่มาที่ไปของเงินพวกนี้……”
หลี่ฝางพูดแทรกหูเฟย ว่า “คุณไม่ต้องพูดพวกเราก็เข้าใจ”
“หลายปีมานี้ ฉันก็ไม่ได้ไปจับตัวเธอ แกล้งทำเป็นไม่เห็นสิ่งที่เธอทำ แถมยังแนะนำเพื่อนในที่ทำงานกับเธอ พอเป็นแบบนี้ เพื่อนร่วมงานของฉัน ก็จะทำเหมือนกับฉัน แกล้งทำเป็นมองไปไม่เห็น”
“เฮ้อ ฉันเองก็ไม่รู้ว่ากำลังช่วยเธอ หรือทำร้ายเธอกันแน่”
“คุณรักเธอ แต่ก็ไม่รู้จะต้องรักยังไง ถูกไหม?” หลี่ฝางมองไปยังหูเฟย แล้วพูดว่า “ตอนนี้คุณคงจะเข้าใจแล้ว ว่าทุกอย่างเป็นความผิดของตัวเองถูกไหม?”
“เส้นทางที่เธอเดินอยู่เป็นเส้นทางที่ผิด คุณที่เป็นพี่ชาย ไม่เพียงแค่ไม่ยอมแนะนำทางที่ถูกต้อง แถมยังให้เธอทำตามใจตัวเอง สิ่งที่คุณทำไม่ใช่การช่วยเหลือเธอ แต่กำลังทำร้ายเธอต่างหาก”
หูเฟยถอนหายใจ แล้วพูดว่า “คุณชายหลี่ สองชั่วโมงก่อนหน้านี้ ฉันได้รับคลิปๆนึง ถึงแม้จะไม่รู้ว่าใครเป็นส่งมา แต่ฉันรู้ดีว่า ต้องเป็นฝีมือของสี่ตระกูลใหญ่แน่ พวกเขาจับตัวน้องสาวฉันไป พร้อมกับหาหลักฐานที่จะเอาผิดน้องสาวของฉัน”
“ฉันไม่กล้าทำอะไร ไม่งั้น ฉันคงเสียน้องสาวของตัวเองไปแล้ว”
“ในตอนที่เห็นคลิปๆนี้ ฉันก็รู้สึกกลัวขึ้นมา หลายปีมานี้ ฉันไม่เคยกลัวขนาดนี้มาก่อน ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายเป็นใครกันแน่ ฉันจึงทำได้แค่สงสัยว่าเป็นฝีมือของพวกสี่ตระกูลใหญ่”
“นอกจากสี่ตระกูลใหญ่ ไม่มีใครกล้าแบบนี้ ยิ่งไม่มีใครกล้าทำ เพราะงั้น ฉันจึงมอบเงินให้ด้วยตัวเอง”
“มีเรื่องบางเรื่อง คุณชายหลี่คงจะไม่เข้าใจ ที่มาของคลิปๆนี้ กับคลิปที่เฉินฝูเซิงฆ่าคน มาจากที่เดียวกัน ฉันให้คนตรวจสอบดูแล้ว ที่นั่นเป็นถนนใหญ่ มีคนสัญจรไปมา ไม่มีทางหาได้เลยว่าเป็นฝีมือของใคร”
“ฉันเข้าใจสิ่งที่พวกเขาต้องการจะสื่อ พวกเขาต้องการบอกว่า ในเมื่อฉันมีคลิปๆนี้แล้ว ก็สามารถเอาผิดเฉินฝูเซิงได้ ถ้าเกิดฉันไม่ทำแบบนี้ งั้นน้องสาวของฉัน ก็คงจะอยู่ในอันตราย”
หลี่ฝางพูดด้วย สีหน้าที่ตึงเครียด “พอได้ยินแบบนี้ อีกฝ่ายยังไม่ทันได้พูดอะไร ที่คุณทำทั้งหมดนี้ ก็เพราะว่ากลัวอย่างงั้นเหรอ?”
“ใช่แล้ว ฉันรู้ดีว่าฉันทำตัวเอง แต่……”
หูเฟยพูดต่อ “แต่ว่าฉันไม่มีทางเลือกแล้วจริงๆ”
“ฉันได้ส่งคนไปตรวจสอบดูแล้ว แต่ว่า พวกเขากลับไม่มีเบาะแสของน้องสาวฉันแม้แต่น้อย อย่าว่าแต่ถูกใครจับตัวไปเลย แม้แต่เรื่องที่น้องสาวฉันไปที่ไหนมาบ้าง พวกเขายังสืบไม่ได้เลย”
หลี่ฝางพูด พร้อมกับหันไปมองหูเฟย “น้องสาวของคุณถูกเพื่อนสนิทของตัวเองเรียกออกไป ชื่อว่าหวางหยวนหยวน ไม่รู้ว่าคุณรู้จักหรือเปล่า”
“รู้จัก รู้จักสิ เธอเป็นเพื่อนสนิทกับน้องสาวของฉัน แต่ผู้หญิงคนนี้ค่อนข้างจะเป็นเด็กดี ไม่มีทางที่จะร่วมหัวกันเพื่อจับน้องสาวของฉันหรอก? พวกคุณเข้าใจอะไรผิดรึเปล่า” หูเฟยมองไปยังหลี่ฝางกับส้าวส้วยด้วยใบหน้าที่สงสัย เพื่อว่ากำลังสงสัยอยู่
“สถานที่สุดท้ายที่น้องสาวของคุณหายตัวไป ก็คือร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ของพวกเรา หวางหยวนหยวนเรียกน้องสาวของคุณออกไปจากหลังร้าน จากนั้นก็ขึ้นรถตู้สีเทาไป ทะเบียนรถเป็นของที่อื่น คงจะเป็นทะเบียนปลอมแน่ๆ”
หลี่ฝางเปิดโทรศัพท์ออกมา จากนั้นก็ส่งรูปให้กับหูเฟย “คุณลองดูสิ ใช่น้องสาวของคุณกับหวางหยวนหยวนรึเปล่า”
“เป็นหวางหยวนหยวนจริงๆด้วยที่เป็นคนจับน้องสาวฉันไป”
หูเฟยกัดฟันแน่น แล้วพูดว่า “นังสารเลว ฉันจะไปจับตัวเธอเดี๋ยวนี้แหละ”
“ฮ่าๆ ถ้าเกิดคุณสามารถจับตัวเธอได้ล่ะก็ ก็คงจะหาตัวน้องสาวของคุณได้ไม่ยาก เธอหายตัวไปพร้อมกับน้องสาวของคุณ คุณลองดูดีๆ ตอนที่น้องสาวของคุณกับหวางหยวนหยวนขึ้นรถ ไม่มีความผิดปกติแต่อย่างใด มีเพียงแค่ตอนที่อยู่ตรงหน้าประตูรถ มีร่องรอยการขัดขืน หลังจากนั้นรถก็ขับออกไป”
“ตอนนี้คุณสามารถตรวจสอบได้ด้วยใช้สองเส้นทางนี้ อย่างแรกก็คือเบอร์โทรศัพท์ของน้องสาวของคุณ ลองดูว่าช่วงนี้เธอติดต่อหาใครบ้าง แต่คุณคงจะตรวจสอบไปแล้ว คงจะไม่เจอเบาะแสอะไรใช่ไหม? ส่วนอีกอย่างก็คือหาจากหวางหยวนหยวน ลองตรวจประวัติการโทรของเธอ ค่อยๆตรวจสอบไปทีละรายชื่อ”
“อีกอย่าง ลองไปตรวจที่บ้านของหวางหยวนหยวนดูซะหน่อย ไม่แน่ว่าอาจจะเจอเบาะแสอะไรขึ้นมาก็ได้”
“ฉันได้ยินมาว่า ครอบครัวของหวางหยวนหยวน กำลังเก็บข้าวของ ได้ข่าวมาว่าไปหาบริษัทขนย้ายมาแล้ว กำลังเตรียมตัวที่จะย้ายออกไป ไม่รู้ว่ากำลังจะย้ายไปไหน ถ้าเกิดคุณเร่งมือล่ะก็ ไม่แน่ว่าอาจจะไปทันเวลาก็ได้”
พอหลี่ฝางพูดจบ สีหน้าของหูเฟยก็ร้อนรนขึ้นมาทันที
ครอบครัวของหวางหยวนหยวน ไม่มีทางที่จะย้ายบ้านโดยที่ไม่มีเหตุผล การที่ย้ายบ้านออกไปบ่งบอกว่าต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นแน่
“แม่งเอ๋ย คิดจะหนีงั้นเหรอ!” หูเฟยกัดฟัน
“รีบไปเถอะ บัตรของพ่อหวางหยวนหยวน เมื่อกี้เพิ่งตรวจสอบเจอว่ามีเงินเกินมาหนึ่งล้าน”
หลี่ฝางหัวเราะ “หูเฟย ฉันสามารถช่วยคุณได้เท่านี้”
“ขอบคุณมาก คุณชายหลี่ ฉันจะสั่งให้ลูกน้องค่อยดูแลเฉินฝูเซิงให้ดีๆ เรื่องของเฉินฝูเซิง ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉันเอง แน่นอน คุณเองก็ต้องหาหลักฐานมาให้ได้มากกว่านี้ อย่างเช่น คลิปที่อัดมาก่อนหน้านี้ มันไม่เพียงถ่ายติดแค่เฉินฝูเซิงกับไอ่ลูกน้องของแก๊งนักเลง ยังมีพวกคนในแก๊งนักเลง แล้วก็ยังมี หมอพวกนั้น ล้วนดูน่าสงสัย”
“จริงสิ ไอ่เจ้าคนที่อยู่ในรถพยาบาลในตอนที่กำลังถูกส่งไปโรงพยาบาท ก็ดูน่าสงสัย”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

พ่อแม่ที่หายตัวไปหลายปีจู่ๆ ก็โทรมา บอกว่าตัวเองเป็นบุคคลที่รวยที่สุดของดูไบ………….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset