NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 58 ไม่ใช่ส้าวส้วยเป็นคนฆ่า?

บทที่ 58 ไม่ใช่ส้าวส้วยเป็นคนฆ่า?
เมื่อคืนส้าวส้วยออกจากร้านเหล้าประมาณหนึ่งชั่วโมง หรือว่าจะไปฆ่าลูกพี่หลี่จริงๆ?
นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางเหงื่อไหลลงมาเต็มหน้า ถ้าเป็นเรื่องจริง งั้นส้าวส้วยก็คือฆาตกรที่ฆ่าลูกพี่หลี่ ส่วนตนเองก็คือผู้บงการอยู่เบื้องหลังงั้นหรือ?
แม่เจ้า คิดเช่นนี้แล้ว ตนเองก็เป็นผู้ร้ายไปด้วยสิ?
“พี่ ลูกพี่หลี่เขาตายตอนกี่โมงเหรอครับ? ” หลี่ฝางรีบถาม
“ประมาณหนึ่งทุ่มครึ่ง ไม่ขาดไม่เกินจากเวลานี้ห้านาที” หลินชิงชิงคิดแล้วคิดอีก ค่อยพูดออกมา
ประมาณหนึ่งทุ่มครึ่ง หลี่ฝางนึกย้อนกลับไปสักพัก จากสีหน้าของเขาซีดขึ้นมาทันที
“เสี่ยวฝาง ทำไมเหรอ? ” หลินชิงชิงเห็นสีหน้าของหลี่ฝางไม่ค่อยปกติ รีบสอบถามขึ้นมาทันที
หลี่ฝางพยายามทำให้ตนเองใจเย็นสงบนิ่ง เขายิ้มๆ และพูด: “ผมไม่เป็นไรครับพี่ ผมก็แค่กลัวว่าหลี่หลงจะมาหาเรื่องผมอีก”
“วางใจเถอะ หลี่หลงตอนนี้กำลังยุ่งกับงานศพของพ่อเค้าอยู่ อย่างน้อยต้องยุ่งไปอีกสองสามวัน” หลินชิงชิงกล่าว
“แล้วหลังจากสองสามวันนี้ล่ะ? ” หลี่ฝางขมวดคิ้ว ในใจคิดอยู่ว่านี่ก็ไม่ใช่หนทางที่จะหนีพ้น ดีที่ตอนนี้ก็ใกล้จะสอบเข้ามหาลัยแล้ว รอให้สอบเสร็จ ตนเองก็ออกจากเมืองตงไห่ได้แล้ว
ถึงตอนนั้น ตนก็ไม่ต้องกังวลว่าคนของหลี่หลงจะมาแก้แค้นอีก
“หลังจากสองสามวันนี้นายก็ไม่ต้องกลัวอีกแล้ว ถึงตอนนั้นพี่ชายของฉันก็จะออกมา พี่ชายฉันต้องการจะควบคุมเขตพื้นที่ภาคตะวันออกอย่างจริงจัง รอให้พี่ชายฉันออกมา เขาก็จะโต้ตอบกับหลี่หลง ถ้าเขาสองคนสู้กันขึ้นมา จะหาเรื่องนายอีกได้ยังไง” หลินชิงชิงหัวเราะและพูด
หลังจากที่หลินชิงชิงไปแล้ว หลี่ฝางไม่ไปเข้าห้องเรียน รีบไปที่ร้านเหล้าทันที
ตอนนั้นส้าวส้วยกำลังเล่นเกมKings of Glory หลี่ฝางไปถึงที่นั่น เข้าไปนั่งข้างๆ เขา: “อย่าเพิ่งเล่น ผมถามอะไรนายหน่อย”
“เถ้าแก่ ผมรู้ว่าคุณจะถามอะไร แต่คุณรอให้ผมเล่นเกมนี้จบก่อนค่อยคุยนะครับ” ส้าวส้วยกำลังตั้งใจเล่นอยู่ประมาณสิบกว่านาที แต่สุดท้ายก็แพ้
“ไอ้บ้าเอ้ย เพื่อนๆ ในทีมแย่จริงๆ ” ส้าวส้วยโมโหใส่มือถือและด่าไปด้วย
“ทั้งๆ ที่นายเป็นคนเอาเปรียบพวกเขาเอง ทำไมยังไปว่าคนอื่นแย่ได้ไง” หลี่ฝางส่ายหัว พูดอะไรไม่ออก
หลี่ฝางหยิบไวน์มาหนึ่งแก้ว รินให้ส้าวส้วยด้วยหนึ่งแก้ว: “ส้าวส้วย ผมถามอะไรนายหน่อย นายต้องตอบความจริงนะ ห้ามโกหกนะ”
“เถ้าแก่ คุณจะถามผมเรื่องของลูกพี่หลี่ใช่ไหม? ”
ยังไม่ทันรอให้หลี่ฝางเอ่ยปากถาม ส้าวส้วยก็ส่ายหัวบอกว่า: “เรื่องนั้นไม่ใช่ผมเป็นคนทำ”
“ไม่ใช่นาย? ” หลี่ฝางตะลึง
“เมื่อคืนนายออกจากร้านหนึ่งทุ่ม กลับมาสองทุ่ม ช่วงเวลานี้ เป็นเวลาที่ลูกพี่หลี่ถูกฆ่าพอดี ยังบอกว่าไม่ใช่นายงั้นเหรอ? ” หลี่ฝางจ้องหน้าส้าวส้วยและพูดอย่างสงสัย: “อีกอย่างเมื่อคืนนายพูดกับผมไม่น้อยกว่าหนึ่งครั้ง ว่านายฆ่าลูกพี่หลี่ให้ตายแล้ว”
“ตอนนั้นผมยังนึกว่านายจะโม้สักอีก แต่นึกไม่ถึงเมื่อกี้พี่สาวมาหาผม บอกว่าลูกพี่หลี่ถูกฆ่าตายแล้วจริงๆ ”
“แต่นั่นก็ไม่ใช่ผมฆ่านี่นา ลูกพี่หลี่ตายเพราะถูกรถชน ผมก็เพิ่งรู้เมื่อกี้นี้” ส้าวส้วยพูดด้วยสีหน้าเหมือนถูกปรักปรำ: “เถ้าแก่ครับ ผมไม่มีแม้แต่ใบขับขี่นะครับ”
“ลูกพี่หลี่ไม่ได้ตายเพราะอุบัติเหตุรถชน แต่ตายเพราะถูกคนฆ่าตาย” หลี่ฝางบอก: “อุบัติเหตุรถชนเป็นแค่ข่าวปลอมที่หลี่หลงแกล้งปล่อยออกมาเท่านั้น”
“นายบอกว่าไม่ใช่นาย แล้วเมื่อคืนเวลาหนึ่งชั่วโมง นายไปทำอะไร? ” หลี่ฝางซักถาม
“เมื่อคืนหลังจากที่ผมออกจากร้านเหล้า ไปที่เขตพื้นที่ลูกพี่หลี่จริงๆ แต่เห็นลูกน้องของเค้าเยอะเกินไป เขาเดินไปถึงไหนก็มีคนคอยคุ้มกันเขา ผมเห็นว่าไม่มีโอกาสลงมือ ดังนั้นจึงกลับมา” ส้าวส้วยกล่าว
“จริงๆ เหรอ? ” หลี่ฝางมองหน้าส้าวส้วยอย่างสงสัย
“เถ้าแก่ครับ คุณว่าถ้าผมฆ่าคนจริงๆ ยังสามารถมานั่งเล่นเกมอย่างสบายใจตรงนี้ได้เหรอ? ถ้าฆ่าคนจริงๆ ผมหนีไปนานแล้ว” ส้าวส้วยหัวเราะเหอะๆ และพูด
“ก็ใช่” หลี่ฝางก็รู้สึกว่าส้าวส้วยไม่เหมือนคนที่ฆ่าลูกพี่หลี่
หนุ่มที่ดูเอ้อระเหยลอยชายคนนี้ ดูยังไงก็ไม่เหมือนนักฆ่าผู้ลึกลับที่พูดในปากของหลินชิงชิงเลย
“เถ้าแก่ครับ หลี่หลงทำไมต้องปกปิดสาเหตุการตายของลูกพี่หลี่ด้วยล่ะ? ” ส้าวส้วยถามด้วยความสงสัย
“เหมือนจะเป็นหม่าเทียนที่ต้องการทำเช่นนี้ ถ้าลูกพี่หลี่ตายเพราะการถูกฆาตกรรม ถ้าอย่างนั้นคดีเรื่องนี้ก็จะจัดการยุ่งยากมาก ต้องยื่นเรื่องสืบสวนโดยทันที นายก็รู้ว่าลูกพี่หลี่คนนี้มีเบื้องหลังที่ไม่สะอาด ถ้าตรวจสอบขึ้นมาจริงๆ ต้องสืบสาวราวเรื่องเก่าๆ ที่เค้าเคยทำไว้ออกมาทั้งหมดแน่ๆ ถึงแม้เขาจะตายแล้ว แต่พี่น้องของเขายังอยู่ ถ้าทำให้พี่น้องทั้งหลายของเค้าเดือดร้อนไปด้วย จะทำยังไง หลี่หลงก็กลายเป็นลูกพี่ใหญ่ที่โดดเดี่ยวไม่มีลูกน้องแม้แต่คนเดียว? ”
“อีกอย่างฆาตกรไม่ทิ้งร่องรอยไว้แม้แต่น้อย นายว่าฆาตกรคนนั้นเท่ไม่เท่ ถึงแม้ลูกพี่หลี่จะถูกฆ่าตาย แต่บนตัวของลูกพี่หลี่ กลับไม่มีรอยนิ้วมือใดๆ หลงเหลือไว้สักนิดเดียว ดังนั้นถึงแม้ว่าตำรวจจะสืบสวนขึ้นมายังไง ก็ไม่มีทางสืบหาฆาตกรเจอ งั้นก็ปล่อยให้หลี่หลงเป็นคนไปสืบเอาเองดีกว่า”
“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง” ส้าวส้วยยิ้มๆ อย่างตลก แววตาลึกๆ ด้านในยิ้มอย่างเยือกเย็น แต่หลี่ฝางไม่สังเกตเห็นอะไรเลย
“ในเมื่อไม่ใช่นาย ผมค่อยรู้สึกโล่งใจหน่อย ถ้านายเป็นคนฆ่าลูกพี่หลี่จริงๆ งั้นผมก็กลายเป็นผู้บงการไปด้วย” หลี่ฝางตบๆ ที่หน้าอกของตนเอง ในที่สุดก็โล่งใจหน่อย
หลังจากที่หลี่ฝางไปแล้ว ลุงเฉียนเข้ามายืนอยู่ข้างๆ ตัวของส้าวส้วย
ส้าวส้วยมองดูลุงเฉียน รู้สึกผิดและพูดว่า: “ลุงเฉียนครับ ผมผิดไปแล้ว ลุงทำโทษผมเถอะครับ”
“ช่างมันเถอะ แต่ต่อไปนี้นายต้องจดจำไว้ให้ดี ลูกพี่หลี่เพิ่งปล่อยข่าวออกมาว่าจะไปหาเรื่องเสี่ยวฝาง หลังจากนั้นนายก็ลงมือฆ่าเขา ไม่ว่าคนของลูกพี่หลี่ หรือว่าผู้มีอำนาจกลุ่มอื่น ก็จะหันเป้าหมายมาที่เสี่ยวฝาง ถ้าพวกเขาสืบค้นอะไรได้ขึ้นมาจริงๆ งั้นเสี่ยวฝางก็ต้องมีอันตรายไม่ใช่หรือ? ” ลุงเฉียนดุว่าส้าวส้วย
“ลุงเฉียน เรื่องนี้ผมไม่คิดให้รอบคอบ ผมแค่เห็นว่าเถ้าแก่น้อยต้องคอยหวาดกลัวตลอดเวลา รู้สึกทนดูต่อไปไม่ไหว ดังนั้นจึงต้องลงมือ” ส้าวส้วยขมวดคิ้วและพูด
“เอาล่ะ เรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว การตายของลูกพี่หลี่ ยังถือว่านายทำได้ละเอียดรอบคอบดี” ลุงเฉียนกล่าวชื่นชม: “แกยังคิดจะช่วยเถ้าแก่น้อยแก้ไขปัญหา ก็เป็นเรื่องที่ดีอย่างหนึ่ง”
“ชีวิตของผม ลูกพี่ใหญ่เป็นคนช่วยเอาไว้ เขาเป็นลูกชายของลูกพี่ใหญ่ ผมต้องยอมรับและเคารพเขาเหมือนกัน ลุงเฉียน” ส้าวส้วยยิ้มๆ : “ยิ่งไปกว่านั้นคือ เถ้าแก่น้อยเป็นคนที่มีจิตใจดีงาม เป็นคนดี เหมือนลูกพี่ใหญ่”
“ใช่สิ เสี่ยวฝางจิตใจดีงาม อีกทั้งยังเข้มแข็ง” ลุงเฉียนรู้สึกภูมิใจและยิ้มๆ
……
ออกจากร้านเหล้า หลี่ฝางรู้สึกโล่งอกไปเยอะ
ในเมื่อส้าวส้วยบอกว่าเขาไม่ใช่คนที่ฆ่าลูกพี่หลี่ ตนเองก็ไม่เกี่ยวอะไรแล้ว
หลังจากนั้นสองสามวัน หลี่ฝางตั้งใจอ่านหนังสือเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย
ส่วนจางกงหมิงก็ออกมาจากเรือนจำแล้ว เขารวมตัวพี่น้องและคนของเขาทั้งหมดไปที่เขตเมืองภาคตะวันออก เริ่มทำการยึดพื้นที่ลูกพี่หลี่ที่เขาเคยทิ้งไว้ทั้งหมด
แม้แต่เมืองแห่งราตรีที่อยู่ใกล้ๆ มัธยมตงไห่ ก็ถูกจางกงหมิงแย่งไปครอบครอง
วันนี้หลี่เสี่ยวเสี่ยวชวนหลี่ฝางออกมากินข้าวด้วยกัน เจอกับจางกงหมิงพอดี
“พี่หมิง” หลี่ฝางยิ้มๆ และกล่าวทักทาย
“อ้าว เป็นแกนี่เอง!” จางกงหมิงนั่งลงบนเก้าอี้ และจ้องมองหน้าหลี่เสี่ยวเสี่ยว: “แฟนแกเหรอ หน้าตาก็ไม่เลวนี่? ”
“เพื่อนนักเรียนเท่านั้นครับ” หลี่ฝางยิ้มๆ
สองสามวันนี้หลี่เสี่ยวเสี่ยวคอยเกาะติดตามหลี่ฝางทุกวัน ที่จริงแล้วในใจของหลี่ฝางก็รู้ดี เธอติดตามทุกวันเช่นนี้ ก็เพราะรู้ว่าเขารวยไม่ใช่หรือ?
ถ้าตนไม่มีเงินล่ะก็ หลี่เสี่ยวเสี่ยวต้องไปจากตนแน่นอน
ผู้หญิงแบบนี้ หลี่ฝางไม่มีทางเอาแน่นอน ก็แค่เอาไว้เล่นๆ เท่านั้น
จางกงหมิงกอดไหล่ของหลี่ฝางไว้ ยิ้มและพูดว่า: “เสี่ยวฝาง พี่ขอคุยอะไรกับแกหน่อยดิ”
“เรื่องอะไรครับ? ” หลี่ฝางถามกลับ
“พี่อยากยืมเงินแกมาใช่หน่อย…..นี่พี่ก็เพิ่งจะแต่งงาน เงินก็ใช้จนหมดแล้ว ครั้งนี้พาพี่น้องออกมาแย่งพื้นที่ ถึงแม้จะแย่งพื้นที่ได้แล้ว แต่ก็เสียพี่น้องไปหลายคน ยังไงพี่ก็ต้องเอาเงินไปปลอบขวัญทางบ้านเค้าบ้าง”
“พื้นที่ที่แย่งมาได้ ยังไม่ทันเริ่มต้นทำอะไรไม่มีกำไร อย่างนี้ แกว่าพี่จะเอาอะไรให้พวกเค้าล่ะ” จางกงหมิงพูดอย่างน่าสงสาร
หลี่ฝางขมวดคิ้ว รู้สึกลังเลหน่อย ถ้าเป็นหลินชิงชิงมาขอยืมกับตน หลี่ฝางต้องหยิบบัตรธนาคารให้เธอยืมได้เลยโดยไม่พูดอะไร แต่จางกงหมิง หลี่ฝางไม่สนิทสักหน่อย
“เรื่องที่นายไปกินข้าวที่Lotusแค่คืนเดียวก็ใช้เงินไปแสนกว่า พี่ได้ยินข่าวมาแล้ว ครั้งก่อนนายเลี้ยงเหล้าพวกเราก็จ่ายไปหลายหมื่น อย่าบอกว่านายไม่มีเงินนะ พี่ไม่เชื่อหรอก” จางกงหมิงมองหน้าหลี่ฝางและพูด
“พี่หมิง จะยืมเท่าไหร่” หลี่ฝางถอนหายใจลึกและถาม
“ไม่เยอะ แค่สองแสนก็พอ” จางกงหมิงยิ้มและหัวเราะ
“สองแสน? !” หลี่ฝางอ้าปากค้างกว้าง ทำหน้าตกตะลึง ที่จริงสำหรับเขาแล้ว เงินสองแสนไม่เยอะแยะมากมายอะไร แต่ถ้าให้ไปเฉยๆ อย่างรวดเร็ว อีกหน่อยจางกงหมิงมาขอยืมอีกจะทำยังไง?

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

พ่อแม่ที่หายตัวไปหลายปีจู่ๆ ก็โทรมา บอกว่าตัวเองเป็นบุคคลที่รวยที่สุดของดูไบ………….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset