NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 62 หลี่หลง คุกเข่าคำนับฉันซะ

บทที่ 62 หลี่หลง คุกเข่าคำนับฉันซะ
ในวันที่ลูกพี่หลี่เสียชีวิต คนของเขาได้ตรวจสอบหลี่ฝางไปแล้วรอบหนึ่ง
บ้านในชุมชนหยุนหู ก็ถูกค้นพบในตอนนั้นเช่นกัน เวลานั้นหลี่หลงก็ให้ความสนใจถึงเรื่องนี้
ชายหัวสกินเฮดพยักหน้าให้หลี่หลง “พี่ใหญ่ ตรวจสอบแล้ว สิ่งที่เด็กนั่นพูดคือความจริง”
“พวกแกไปถามใครมา ทำไมเร็วขนาดนี้?” ดวงตาของหลี่ฝางดูโง่งมอยู่บ้าง
“จะถามใครได้อีก ก็ถามพ่อแม่ของแกไง คนของฉัน ตอนนี้กำลังไปเป็นแขกของบ้านแกอยู่” ลี่หลงยิ้ม คำพูดแสดงออกถึงการคุกคาม
“ถ้าแกไม่ยินยอม พ่อและแม่ของแกก็จะลงเอยแบบเดียวกับแก”
“หลี่หลง ไอ้เฮี้ย! ” หลี่ฝางยืนขึ้นและพุ่งเข้าใส่หลี่หลง
เสียงปึงดังขึ้น!
หลี่หลงยื่นขาออกมาถีบหลี่ฝางกระเด็นออกไป
สมกับที่หลี่หลงเป็นแชมป์ซ่านต่า แค่ลูกเตะเดียวครั้งนี้ ทำเอาหลี่ฝางเจ็บเกือบตาย!
“อย่าแตะต้องพ่อแม่ฉัน บ้านและเงิน ฉันให้แกทั้งหมด” หลี่ฝางประนีประนอม พ่อแม่ของเขาจะเกิดเรื่องขึ้นไม่ได้
“นี่คือสัญญาโอนอสังหาริมทรัพย์ เซ็นซะ” หลี่หลงยิ้ม เห็นชัดว่าเขาเตรียมทุกอย่างไว้หมดแล้ว
หลังจากที่หลี่ฝางเซ็นอย่างเชื่อฟัง หลี่หลงก็นำเครื่อง POS ออกมาอีกครั้ง “ใส่รหัสผ่าน”
หลี่ฝางไม่ได้มองด้วยซ้ำและใส่รหัสผ่านทันที
“เวรเอ้ย มึงไอ้เด็กเปรต มึงกล้าโกงกู!” หลี่หลงยืนขึ้น และชกเข้าที่หน้าของหลี่ฝาง
“เวรเอ้ย ฉันไปโกงอะไรแกวะ เงินก็โอนไปแล้วไม่ใช่หรือไง?” หลี่ฝางจ้องมองไปที่เครื่อง POS และจากนั้นจึงเห็นคำว่า “การชำระเงินสำเร็จ” ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ
“แกรู้ไหมว่าฉันใส่เงินไปเท่าไหร่?” สีหน้าของหลี่หลงแฝงรอยยิ้มเย็นชา
“เมื่อกี้ฉันใส่ไปหนึ่งล้าน แกบอกว่าบัตรแกมีเงินแค่ 600000 ไม่ใช่หรือไง?” หลี่หลงตะคอก
ในตอนนั้นเอง หลี่ฝางถึงรู้แล้วว่าตนถูกหลอก
ให้ตายเถอะ ไม่คิดเลยว่าหลี่หลงไอ้บ้านี่จะมีลูกเล่นมากขนาดนี้
เสียงบี๊บดังขึ้น
เป็นเสียงโทรศัพท์มือถือในมือของชายหัวสกินเฮด
จู่ๆ ใบหน้าของหลี่ฝางก็ลุกลี้ลุกลน นี่คือโทรศัพท์มือถือของเขา เสียงที่ดังขึ้นเมื่อครู่ จะต้องเป็นข้อความแจ้งเตือนการหักบัตรธนาคารแน่
จบแล้ว จบเห่แล้ว พริบตาเดียวเงินกว่าแปดล้านล้วนคุมเอาไว้ไม่อยู่แล้ว
แต่ใครจะรู้ว่า เพียงชั่วครู่ชายหัวสกินเฮดกลับวางมือถือกลับเข้าไปในอกเสื้อเช่นเดิม
“เฮี้ยเอ้ย แกมีเงินเท่าไหร่กันแน่?” หลี่หลงหยิบมีดออกมา และชี้ไปที่หลี่ฝาง
หลี่ฝางกลืนน้ำลายและข่มความกลัวลงไปจากนั้นจึงพูดขึ้น “นั่นคือทั้งหมด”
“สามล้านห้า สองล้านซื้อบ้าน ฉันใช้ไปห้าแสน ที่เหลืออีกล้านหนึ่ง ให้แกหมดแล้ว” หลี่ฝางกล่าว
“ไอ้บ้าเอ้ย ลองรูดใหม่อีกที! ” หลี่หลงไม่เชื่อเขา และหยิบเครื่อง POS ออกมาทันที
ในตอนนั้นเอง แลนด์โรเวอร์คันหนึ่งก็พุ่งเข้ามาใส่หลี่หลง
“หลินชิงชิง?” หลี่หลงถอยกลับ คิ้วขมวดขึ้นมา
หลินชิงชิงและคนอื่นๆ ลงจากรถ จากนั้นจึงยืนอยู่ตรงหน้าหลี่ฝาง
“หลินชิงชิง เธอมาที่นี่ได้ยังไง? ” หลี่หลงถามอย่างสงสัย
หลินชิงชิงก้าวไปข้างหน้าและเอ่ยพูด “ฉันเคยได้ยินมานานแล้วว่า ลูกพี่หลี่เป็นคนเชื่อเรื่องโชคลางและสร้างวัดขึ้นมาให้ตัวเองแห่งหนึ่ง คิดไม่ถึงว่าจะเป็นความจริง”
เมื่อได้เห็นหลินชิงชิง จิตใจของหลี่ฝางก็สงบลงมาได้
“ทำไม คนชั่วร้ายขนาดนั้น ตายไปแล้วยังอยากให้คนมากราบไหว้บูชางั้นหรือ?” หลินชิงชิงหัวเราะเยาะ
“ห้ามดูถูกพ่อฉัน” หลี่หลงกำมีดในมือแน่น นั่นเพราะเขาเห็นว่าจางกงหมิงเองก็นั่งอยู่ในรถเช่นกัน
“เวรเอ้ย จางกงหมิง ไม่คิดว่าแกจะมาด้วย”
เมื่อมองไปที่จางกงหมิง ใบหน้าของหลี่หลงก็เหี้ยมขึ้นมาทันที “แกก็มารนหาที่ตายใช่ไหม?!”
จางกงหมิงไขว้ขาบิดตัว และนั่งอยู่ข้างคนขับ ในปากมีไม้จิ้มฟันแคะอยู่ เขามองไปที่หลี่หลงอย่างเหยียดหยาม
“หาที่ตาย? ฉันคงไม่อายุสั้นเหมือนลูกพี่หลี่ ฉันอายุยืนยาวจะตาย” จางกงหมิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
หลี่หลงหน้าอึมครึมขึ้นมาและหัวไปพูดกับชายหัวสกินเฮด “ขึ้นไป ไปจัดการสับไอ้จางกงหมิงให้ตายซะ! ”
ชายหัวสกินเฮดและคนอื่นๆ รับคำ ก่อนจะกลับเข้าไปในวัดและหยิบมีดพร้าเล่มหนึ่งออกมา
หลี่หลงมองไปที่จางกงหมิงและยิ้มอย่างเย็นชา “จางกงหมิง อีกเดี๋ยวฉันจะสับแกให้เป็นเนื้อบด! ”
เมื่อหลี่หลงพูดจบ เขาก็หยิบมีดพร้ามา ในขณะที่ชายหัวสกินเฮดและพรรคพวกก็ตามเขาไปติดๆ
มีคนจำนวนมากที่อยู่ภายใต้คำสั่งของหลี่หลง จนหลิวเฉียวเฉียวตกใจจนเริ่มวิ่งลงจากภูเขา
เซี่ยลู่นิ่งคิด จากนั้นเองก็เริ่มวิ่งลงจากภูเขาเช่นกัน
หลี่ฝางดึงชายเสื้อของหลินชิงชิงและเอ่ยถาม “พี่ พวกเราทำยังไงดี?”
เจ้าหัวแบนมีสีหน้าสงบ ไม่มีท่าทีตกใจแม้แต่น้อย
“ไม่ต้องกลัว” หลินชิงชิงตบไหล่หลี่ฝาง “ไม่เป็นไร”
หลี่ฝางกลืนน้ำลาย ในใจคิด ถึงแม้ว่าเจ้าหัวแบนจะเก่งกาจ แต่ก็คงสู้คนหมูมากไม่ได้หรอกมั้ง?
ยิ่งไปกว่านั้น คนของหลี่หลงทุกคนมีมีดพร้า
เมื่อหลี่หลงเข้ามาใกล้ จางกงหมิงก็หยิบปืนลูกซองลำกล้องแฝดออกมาและเล็งไปที่หัวของหลี่หลง “ลองเดินเข้ามาอีกสักก้าวดู! ”
หลี่หลงหยุดฝีเท้าลงทันที จากนั้นจึงกลืนน้ำลายด้วยความกลัว
เมื่อชายคนหนึ่งถูกปืนจ่อที่หัว ความรู้สึกนั้นช่างสิ้นหวังอย่างยิ่ง
ราวกับได้ก้าวเท้าเข้าสู่ยมโลกไปแล้วครึ่งหนึ่ง
“หลี่หลง อาศัยแก คิดจะมาแย่งตำแหน่งพี่ใหญ่ของเมืองตะวันออก แกมีความแข็งแกร่งพอหรือไง?” จางกงหมิงกระโดดลงจากแลนด์โรเวอร์ และเดินเข้าใกล้หลี่หลงอย่างช้าๆ
ลี่หลงหายใจเข้าลึก “จางกงหมิง แกอย่าเข้ามามั่วซั่ว”
จางกงหมิงวางปืนลูกซองสองลำกล้องแฝดลงบนศีรษะของหลี่หลงโดยตรง “มั่วซั่ว? มั่วซั่วตรงไหน?”
“ยิงเข้าใส่นายสักที แบบนี้เรียกมั่วซั่วรึเปล่า?”
“นายลองมองไปรอบๆ ป่าเขาลำเนาไพร ไม่มีใครสักคน ต่อให้ฉันยิงนายไป ก็คงไม่มีใครรู้ใช่ไหม?” จางกงหมิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “แน่นอน พวกชิงชิงรู้ แต่พวกเขาไม่ไปที่สถานีตำรวจเพื่อฟ้องฉันแน่”
“คนของนายเองก็รู้ แต่ถ้าฉันฆ่านายทิ้ง พวกเขาเองก็คงไม่กล้าไปสถานีตำรวจเพื่อฟ้องฉันเหมือนกัน” จางกงหมิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ชายผมสั้นคนหนึ่งเอ่ยขึ้น “จางกงหมิง นายควรคิดให้ดีๆ ก่อนจะยิง ปืนลูกซองลำกล้องแฝดของนายกระบอกนี้ มีกระสุนเพียงหกนัด แต่พวกเรามีมากกว่า 30 คน หากนายกล้าฆ่าลูกพี่ของพวกเรา พวกเราไม่มีทางปล่อยแกไปแน่” ที่นี่
“งั้นหรือ?”
จางกงหมิงยิ้มฮี่ฮี่ จากนั้นจึงขยับปืนและเล็งไปที่ชายผมสั้น “นายจะไม่ปล่อยฉันไป ใช่ไหม? ”
เสียงปืนดังขึ้น จางกงหมิงยิงเข้าใส่ไหล่ของชายผมสั้น อานุภาพของกระสุนนั้นรุนแรงมากและเจาะทะลุเข้าไปในร่างกายของชายหัวสกินเฮดด้วยทันที
เสียงกรีดร้องดังลั่นขึ้นมาจากปากของชายผมสั้น
“มา ฉันถามนาย หากฉันฆ่าลูกพี่ของพวกนายไปแล้ว พวกนายคนไหนจะล้างแค้นให้เขา ลุกขึ้นมา ให้ฉันดูสักหน่อย” จางกงหมิงกวาดปืนใส่ทุกคนรอบหนึ่ง จากนั้นจึงค่อยหยุดลงที่หัวของหลี่หลง
“ฉันมีกระสุนแค่หกนัดก็จริง แต่พวกนายสามสิบกว่าคนในที่นี่ มีใครหกคนกล้าออกมาตายหรือเปล่า?” จางกงหมิงถามด้วยรอยยิ้ม
“ขออภัย กล่าวให้ถูกคือ ยังมีอีกห้านัด” หลังจากหยุดไปชั่วครู่ จางกงหมิงก็เสริมด้วยรอยยิ้ม
“ห้าคนที่ไม่กลัวความตายมีไหม?”
ปืนนัดเมื่อครู่นั้น ทำให้ขวัญของทุกคนถึงกับผวา ในเวลานี้ ใครกันที่ยังกล้ายืนขึ้น?
เห็นได้ชัดว่า ใครยืนขึ้น จางกงหมิงก็ยิงคนนั้น
เมื่อเห็นว่าทุกคนนิ่งเงียบ จางกงหมิงก็ขมวดคิ้ว สีหน้าแสดงประกายสังหารออกมา “หลี่หลง ฉันนับถึงสาม แกจงคุกเข่าโขกหัวให้ฉันสามที แล้วฉันจะปล่อยแกไป”
“ไม่อย่างนั้น ฉันจะยิงแกซะ!”
จางกงหมิงเอ่ยอย่างเหี้ยมเกรียม “ในถิ่นทุรกันดารแบบนี้ อีกเดี๋ยวพอฉันฆ่านายเสร็จ ก็หาสักที่ฝังเอาไว้ แม้กระทั่งตำรวจก็หาศพนายไม่เจอ”
“สาม!” จางกงหมิงพูดจบก็เริ่มนับทันที
“พี่หมิง ผมผิดไปแล้ว” ใบหน้าของหลี่หลงมีเหงื่อไหลลงมา ถูกปืนจ่อไปที่ศีรษะแบบนี้ เขายอมแล้ว
“สอง! ” จางกงหมิงยังคงนับต่อไป
“พี่หมิง อาณาเขตทั้งหมดในเมืองตะวันออกผมให้พี่ ผมไม่เอาอะไรแล้ว” หลี่หลงตกใจจนตัวสั่น เขารู้ดีว่าจางกงหมิงไม่ได้กำลังล้อเล่น คนคนนี้สามารถยิงออกมาได้จริงๆ
อีกทั้งยังยิงเข้าที่หัวเขาด้วย หลี่หลงยังไม่อยากตาย!
“หนึ่ง! ” จางกงหมิงขยับมือและเริ่มเหนี่ยวไก
สุดเสียง หลี่หลงก็คุกเข่าลงทันที!
ปึงปึงปึง!
โดยไม่มีความลังเลใดๆ หลี่หลงคำนับจางกงหมิงสามครั้ง
“ให้เวลานายหนึ่งวัน ออกไปจากเมืองตงไห่ซะ” จางกงหมิงกล่าวอย่างเย็นชา
จางกงหมิงเก็บปืน ท่าทางเต็มไปด้วยความน่าเกรงขามของพี่ใหญ่แห่งยุทธภพ
หลังจากที่จางกงหมิงกลับไปที่รถ หลี่หลงก็รู้สึกว่าพลังทั้งหมดของตัวเองหมดลงแล้ว เขานอนอยู่บนพื้นอย่างทุรนทุราย ตกใจจนขวัญกระเจิง
“เด็กน้อย ฉันช่วยชีวิตนายไว้ เงินหนึ่งแสนนั่น ฉันไม่คืนนายแล้วนะ” จางกงหมิงหรี่ตามองหลี่ฝาง
“ไม่คืนก็ไม่คืน ไม่เป็นไรแล้ว”
หลี่ฝางพูดอย่างไม่ใส่ใจ จากนั้นจึงเดินเข้าไปที่ชายหัวสกินเฮด และพูดว่า “คืนโทรศัพท์มือถือให้ฉัน! ”
สายตาของชายหัวสกินเฮดแฝงแววซับซ้อนเล็กน้อย เมื่อกี้เขาเห็นแล้ว ว่าในบัตรของหลี่ฝางยังมีอีกมากกว่า 7 ล้าน

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

พ่อแม่ที่หายตัวไปหลายปีจู่ๆ ก็โทรมา บอกว่าตัวเองเป็นบุคคลที่รวยที่สุดของดูไบ………….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset