NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 667 จัดการทุกคนที่ไม่เชื่อฟังโดยเฉพาะ

“แข็งแกร่งขึ้นแล้วยังไง?เธอนอกจากจะเป็นคนของตระกูลตงฟางแล้ว ยังเป็นคนทรยศอีกด้วย”
โหจื่อพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา: “อีกไม่นาน ฉันจะเคลียร์เรื่องนี้ให้จบเอง”
มองไปที่โหจื่อ ลุงเฉียนส่ายหัวแล้วพูดขึ้นว่า: “เรื่องของฟีนิกซ์ พวกเราพักไว้ก่อน คำนวณเวลาดูแล้ว ลู่เฟยน่าจะถึงแล้ว”
“ลู่เฟย?” โหจื่อหัวเราะเคอๆ แล้วพูดขึ้นว่า: “เขาคือผู้ชายที่พูดว่าจะเป็นวันพีชเหรอ?”
“ไม่ใช่ลู่เฟยในการ์ตูน แต่เป็นลู่เฟยลูกชายของท่านลู่ เขาไม่ใช่คนธรรมดา จัดการไม่ง่ายเลย” ลุงเฉียนพูดออกมาด้วยสีหน้าหนักใจ
“ได้ยินมาว่า เขาคนนี้ เก่งทั้งบุ๋นและบู๊” ลุงเฉียนพูดออกมา
โหจื่อไม่แยแสนัก ยิ้มเหยียดออกมา: “ฉันว่าเป็นคนไร้ประโยชน์เสียมากกว่า”
“อย่าไปดูถูกเขา เขาเป็นลูกชายคนเล็กสุดของท่านลู่ แต่สามารถรับช่วงกิจการตระกูลลู่
สามารถยืนยันได้ว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน อย่าลืมสิ ว่าท่านลู่มีลูกชายสิบกว่าคน” ลุง
เฉียนพูดออกมา
“ท่านลู่นี่เป็นคนเจ้าชู้เหลือเกิน มีลูกชายถึงสิบกว่าคน” โหจื่อส่ายหัว แล้วพูดออกมา
ลุงเฉียนหัวเราะออกมาพร้อมกัน แล้วพูดขึ้นว่า: “ท่านลู่เป็นคนแปลกมากคนหนึ่ง เขาไม่มีลูกสาว แค่รู้ว่าลูกในท้องเป็นผู้หญิง เขาก็ให้ไปเอาออก”
“เป็นอีกคนที่เห็นผู้ชายดีกว่าผู้หญิง คนแบบนี้ สมควรตายจริง หรือว่าแม่เขาไม่ใช่ผู้หญิงหรือไง?” โหจื่อส่ายหัวอย่างดูถูก
พูดจบ ลุงเฉียนลุกขึ้นแล้วพูดขึ้นว่า: “ไปเถอะ ออกไปเดินดู เหมือนมีคนกลุ่มหนึ่งรวมตัวกันอยู่ ที่หน้าประตู”
โห่จื่อยิ้มออกมาอย่างเหยียดหยาม แล้วพูดขึ้นว่า: “มาคนหนึ่ง ฆ่าคนหนึ่ง มาสองคน ฆ่าสองคน มันก็ถึงเวลาแล้วที่จะให้คนพวกนี้ รู้ถึงความร้ายกาจของพวกเรา”
“เมื่อคืนนี้ ฉันเห็นฝีมือของซือปาจี้แล้ว”
โหจื่อหัวเราะเหะๆ ออกมา แล้วพูดขึ้นว่า: “หลังจากกลับมาจากต่างประเทศแล้ว ก็ไม่เคยเห็นพวกเขาอีกเลย คิดไม่ถึง ว่าพวกเขาจะอยู่ข้างกายเราแล้ว”
“ลุงเฉียน ฉันไม่เข้าใจจริงๆ มีคนพวกนี้อยู่ ทำไมลุงยังกลัวอีก?” โหจื่อยิ้มเบาๆ แล้วพูดออกมา
“พวกเราต้องป้องกันดีๆ ไม่เพียงแต่คนของตระกูลลู่ ยังมีสี่ตระกูลใหญ่อีก และยังมีพลังอื่นอีก” ตอนแรก สี่ตระกูลใหญ่ ไม่ได้อยู่ในขอบเขตที่ลุงเฉียงกังวล
แต่สืบเนื่องมาจากคนของตระกูลตงฟางปรากฏตัวออกมา ทำให้ลุงเฉียนต้องให้ความสำคัญ ของสี่ตระกูลใหญ่ขึ้นมาอีกครั้ง
“ศัตรูของพวกเรา เยอะมาก ยิ่งถ้าพวกเราเปิดเผยไพ่ใบสุดท้ายของพวกเราออกมาก่อน ยิ่ง
ไม่ดีสำหรับพวกเรา ดังนั้นซือปาจี้ ฉันยังไม่อยากใช้ เห้อ ถ้าไม่ต้องใช้ ยิ่งดี เพราะว่า
พวกเขาเป็นทีมงานของพี่ใหญ่”
ลุงเฉียนส่ายหัว แล้วพูดขึ้นว่า: “ฉันก็แค่ช่วยดูแลชั่วคราวเท่านั้นเอง”
“ไม่เป็นไร ในเมื่อซือปาจี้ไม่สะดวกออกหน้า ฉันออกหน้าเอง มันก็เหมือนกัน” โหจื่อตบหน้าอกตัวเองแล้วพูดออกมาอย่างมั่นใจ
“นายเหรอ?”
ลุงเฉียนส่ายหัว แล้วพูดขึ้นว่า: “แม้แต่แม่มดยังได้รับบาดเจ็บเลย นายคิดว่า นายรับมือไวเหรอ?”
“ฉันว่าลุงเฉียน ลุงหมายความว่ายังไงกัน ลุงดูถูกฉันใช่ไหม?” โหจื่อพูดออกมาอย่างหดหู่
“ฉันก็แค่เล่าความจริงให้ฟัง” ลุงเฉียนพูดจบ เดินออกไปจากออฟฟิศทำงานของตัวเอง
และเดินไปได้ไม่กี่ก้าว ลุงเฉียนก็เจอกับแม่มด
“ขาของเธอยังไม่หายดี รีบออกมาทำไม” ลุงเฉียนมองไปที่แม่มด พูดตำหนิ่ออกมา: “รีบกลับเข้าไปพักรักษาตัวเลย”
“ตอนนี้คนที่เฝ้าดูแลที่บ้านไม่ค่อยเยอะ ฉันก็อยากช่วยเหลืออีกแรง” แม่มดพูดออกมา
“กลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ ตอนนี้ยังไม่ต้องให้เธอช่วย”
ลุงเฉียนพูดออกมา
โหจื่อพูดเสริมออกมา : “ใช่แล้ว แม่มด เธอกลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ ฉันรับปากกับอาจารย์ส้าวส้วยแล้ว จะดูแลเธอให้ดี”
“ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเธอ เวลาที่อาจารย์ส้าวส้วยกลับมา ฉันจะบอกกับอาจารย์ยังไง” โหจื่อพูดออกมา
แม่มดมองด้วยสายตาดุใส่โหจื่อแล้วพูดขึ้นว่า: “หุบปากไม่เป็นมงคลของนายเลย ถึงแม้ขาของฉันจะบาดเจ็บอยู่ แต่ก็สามารถฆ่านายได้อย่างง่ายดาย”
โหจื่อไม่พูดต่ออีก แม่มดคนนี้เป็นคนอารมณ์ร้าย ตัวเขาไม่กล้ามีเรื่องด้วย
“เธอกลับไปก่อน ถ้าเวลาที่ต้องการให้เธอช่วย ฉันให้คนไปเรียกเธอเอง” ลุงเฉียนพูดขึ้น: “นี่คือคำสั่ง ห้ามฝ่าฝืน ถ้าเธอกล้าฝ่าฝืน ฉันจะไล่เธอออกไปจากตระกูลหลี่”
แม่มดเตรียมจะพูดอะไรอีก แต่เมื่อเหลือบไปเห็นสีหน้าของลุงเฉียน ที่ดิ่งลงขึ้นมาทันทีนั้น: “ทำไม ลูกพี่ใหญ่ไม่อยู่ ถือว่าคำสั่งของฉันเป็นแค่ลมตดเหรอ?”
“ไม่กล้า” แม่มดส่ายหัว เดินกลับไปห้องตัวเองอย่างช้าๆ
แม่มดในเวลานี้ อารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่
เพราะว่า เธอคือผู้มีชื่อเสียงคนหนึ่งบนโลกนี้เลยทีเดียว
ตอนที่อยู่ต่างประเทศนั้น แม้แต่สำนักหยิ่งซาก็ทำอะไรเธอไม่ได้ แต่ว่า บุคคลที่เก่งกาจขนาดนั้น วันนี้ กลับถูกคนทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ
วันนี้ แม่มดต้องหลบไปอยู่เบื้องหลังของด่านหน้า เพื่อรักษาตัว
ดังนั้น แม่มดรู้สึกว่าตัวเองไม่มีประโยชน์เลย
ลุงเฉียนเดินไปประตูด้านนอกของรีสอร์ต เมื่อเดินถึงหน้าประตู สิ่งแรกที่ลุงเฉียนเห็นคือ พี่ชายของเขานั่นเอง เฉียนโตโต
เฉียนโตโตยังคงไม่กลับไป
เขายังคงคุกเข่าอยู่ตรงนั้น
เพียงแต่ด้านหลังของเฉียนโตโต เหลือคนไม่มากแล้ว
คุกเข่ามาทั้งวัน หลายคนทนไม่ได้ กลับไปแล้ว
โดยเฉพาะผู้หญิงกับเด็ก ล้วนกลับไปแล้ว
มีเพียงผู้ชายที่ร่างกายแข็งแรง ถึงแม้เมื่อคืนจะฝนตกหนัก พวกเขายังคงคุกเข่าอยู่หน้า
รีสอร์ต ไม่ยอมกลับไป
เมื่อเห็นฉากนี้ ในใจของลุงเฉียน ยังไงก็เสียใจอยู่ไม่น้อย
โหจื่อรีบพูดขึ้นว่า: “ลุงเฉียน ช้าเร็วยังไงพวกเขาก็ต้องกลับ”
“พี่ชายของฉันนิสัยดื้อรั้น เห้อ น่าเสียดาย นิสัยฉัน ดื้อรั้นยิ่งกว่า นายวางใจได้ เรื่องที่ฉันตัดสินใจแล้ว จะไม่เปลี่ยนแปลงแน่นอน อีกอย่าง ตอนนี้ฉันออกมาจากตระกูลเฉียนแล้ว ไม่ใช่คนของตระกูลเฉียนอีกต่อไป สิ่งที่ฉันทำ จะคำนึงถึงฝั่งของพวกเราก่อน สำหรับตระกูลเฉียน ปล่อยให้พวกเขาดูแลกันเองก็แล้วกัน”
ลุงเฉียนพูดเย็นชาออกมา
คำพูดนี้ของลุงเฉียน เห็นได้ชัดว่าจงใจพูดให้เฉียนโตโตและคนของตระกูลเฉียนฟัง
หลังจากที่เฉียนโตโตได้ยินแล้ว เงยหน้าขึ้น มองลุงเฉียนด้วยสายตา ที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง
เมื่อคืนเฉียนโตโตโดนฝนตกใส่ บวกกับคุกเข่าไปทั้งคืนทั้งวัน ร่างกายเริ่มไม่ไหว แต่เขาก็ต้องฝืนทน เพราะมันช่วยอะไรไม่ได้
นี่เป็นทางออกเดียวที่ตระกูลเฉียนจะอยู่รอดได้
ถึงแม้ลุงเฉียนจะไม่รับปากเขา เขาก็จะคุกเข่า คุกเข่าอย่างนี้ ไม่เพียงคุกเข่าให้ลุงเฉียนดู และจะคุกเข่าให้สี่ตระกูลใหญ่ดู คุกเข่าให้ตระกูลลู่ดูอีกด้วย
ตระกูลลู่และสี่ตระกูลใหญ่ถ้าเห็นเขาเสียสละมากขนาดนี้ จะยังมุ่งเป้าไปหาเรื่องตระกูลเฉียนอีกได้ยังไง?
ลุงเฉียนเดินออกไป กวาดสายตาดูหนึ่งรอบ แล้วพูดขึ้น: “มองดูแล้ว พวกเราคงคิดผิดไป”
หน้าประตูรีสอร์ต นอกจากคนของตระกูลเฉียนแล้ว ไม่มีเงาของคนอื่นอีกเลย
ลุงเฉียนขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วพูดขึ้นว่า: “สงบนิ่งขนาดนี้ มันไม่ใช่เรื่องดีเลย”
หันกลับไปมองไอ้หน้าหนวด ลุงเฉียนถามขึ้นว่า: “ด้านหลังของรีสอร์ต มีเหตุการณ์ผิดปรกติอะไรหรือเปล่า?”
ลุงเฉียนสงสัย ลู่เฟยคนนี้อาจเข้ารีสอร์ตจากหลังเขา
ไอ้หน้าหนวดส่ายหัว แล้วพูดขึ้นว่า: “ปรกติดีทุกอย่าง ไม่มีอะไรที่ผิดปรกติเลย”
“แต่ว่า……” ไอ้หน้าหนวดอ้ำๆ อึ้งๆ ขึ้นมา
ลุงเฉียนรีบถามออกมาว่า: “แต่ว่าอะไร?”
“แต่เมื่อคืนนี้ บาร์เหล้าของพวกเรา ถูกคนกลุ่มหนึ่งครอบครองไปแล้ว” ไอ้หน้าหนวดพูดขึ้นว่า: “ตอนเช้าของวันนี้ ฉันได้รับแจ้งว่า คนของพวกเรา ถูกผู้ชายที่แซ่ลู่ ควบคุมตัวไว้แล้ว”
“เขาอยากเจรจากับพวกเรา สถานที่นัดหมายคือ Recalling the past”
ไอ้หน้าหนวดมองไปที่ลุงเฉียนแล้วพูดขึ้นว่า: “ฉันกำลังจะไปแจ้งลุงเรื่องนี้เลย”
“เคอๆ ถึงว่าหล่ะทำไมที่นี่สงบนิ่งขนาดนี้ ที่แท้ พวกเขายื่นมือไปจัดการที่ฝั่งตงไห่แล้ว” ลุงเฉียนหัวเราะเคอๆ แล้วพูดขึ้นว่า: “ช่างมันเหอะ อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด หลบหน้าไม่เจอกัน ก็ไม่ใช่เรื่องดี”
“เบอร์โทรเขาหล่ะ?” มองไปที่ไอ้หน้าหนวด ลุงเฉียนถามออกมา
ได้รับเบอร์โทรมาจากไอ้หน้าหนวด ลุงเฉียนกดเบอร์โทรออก แล้วถามออกมาว่า: “คุณลู่เดินทางไกลขนาดนั้น จะไม่พักผ่อนก่อนเลยเหรอ?”
“ตอนนี้ฉันกำลังพักผ่อนอยู่เลย เคอๆ คุณก็คือเจ้ารองเฉียนเหรอ?ผมเคยได้ยินชื่อเสียงของคุณ คุณคืออัจฉริยะด้านการค้า แต่น่าเสียดาย สามปีก่อน คุณออกจากประเทศ เพื่อไปหาความก้าวหน้าที่ต่างประเทศ หลายปีมานี้ ผมสังเกตคุณตลอด สิ่งที่คุณทำให้ต่างประเทศ สามารถออกหนังสือได้เลยทีเดียว”
“ผมชื่นชมคุณมาก และฝึกฝนกับคุณมาตลอด ตอนแรก ผมอยากให้คุณเป็นครูของผม แต่ใครจะไปรู้ คุณกลับลักพาตัวผมของผม”
ในขณะที่พูดถึงตอนนี้นั้น น้ำเสียงของลู่เฟย เริ่มเย็นชาลง: “คุณน่าจะรู้ นั่นเป็นเรื่องต้องห้ามของผม ซึ่งคุณไม่ควรไปเตะต้อง”
“คุณทำผิดพลาดที่ให้อภัยไม่ได้” ลู่เฟยพูดเย็นชาออกมา
เมื่อได้ยินคำพูดพวกนี้ โหจื่อที่ยืนอยู่ข้างๆ ทนฟังไม่ไหว
“แม่งเหี้ยแกพูดพร่ำอะไร นายคิดว่าเป็นเด็กใหม่ที่เพิ่งเข้าสังคมเหรอ?พูดพร่ำหลักการบ้าบออะไร โตขนาดนี้แล้ว ยังเล่นมุกนี้อีก จะเจรจาเหรอ?ก็มาที่รีสอร์ตสิ อย่าคิดว่าพวกเราจะไปหาแก นายคิดว่านายยิ่งใหญ่มาจากไหนเหรอ อย่าคิดว่าจะเอาคนในร้านบาร์เหล้ามาเป็นตัวประกัน บอกแกเลยนะ ไอ้เหี้ย รีบปล่อยตัวพวกเขา อีกอย่าง ขอโทษกับพวกเขาเสีย และชดเชยค่าเสียหายให้พวกเขา เข้าใจไหม ถ้ายังฟังไม่เข้าใจอีก อีกหนึ่งชั่วโมง นิ้วมือของพ่อแก ฉันจะส่งให้ถึงตรงหน้าแกเลย” หลังจากที่โหจื่อพูดจบ เสียงดังเพี๊ยะ ปิดโทรศัพท์ลง
ลุงเฉียนส่ายหัว มองไปที่โหจื่อแล้วพูดขึ้นว่า: “นายไปโกรธอะไรมา ถ้าเกิดเขาลงมือ……”
“ลุงคิดว่ามันกล้าเหรอ?ท่านลู่เป็นใคร แล้วคนที่บาร์เหล้าเป็นใคร?เป็นเพียงแค่พนักงานที่พวกเราจ้างเท่านั้นเอง เล่นกับพวกเรา ไพ่ในมือเขายังไม่ใหญ่พอ ลุงเฉียน ไพ่ที่พวกเรากำอยู่ในมือ ไม่ใช่หนึ่งสองสามสี่ห้าหกเจ็ด แต่คือไพ่คิงค์ ดังนั้น พลังของพวกเรา ต้องแข็งแกร่งหน่อย น้ำเสียง ต้องหยิ่งยโสหน่อย” หลังจากที่โหจื่อพูดจบ เขาหยิบโทรศัพท์ของลุงเฉียนมา แล้วปิดเครื่องเลย
“รอดูสิ ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงไอ้หมอนั่น ก็จะปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าของพวกเรา” โหจื่อพูดออกมาอย่างมั่นใจ
ผ่านไปสักพักลุงเฉียนยิ้มออกมาแล้วพูดขึ้นว่า: “เป็นเพราะฉันระวังมากเกินไป”
“นายพูดถูก บางครั้ง ยิ่งพวกเราแสดงไม่แคร์ออกมามากเท่าไหร่ ฝ่ายตรงข้าม ก็จะยิ่งกลัว” ลุงเฉียนส่ายหัวแล้วพูดออกมาว่า: “คืนนี้ ฉันคงกังวลมากเกินไป”
“ฉันไปนอนก่อน เดี๋ยวถ้าลู่เฟยมา นายต้อนรับเขาเองนะ”
ลุงเฉียนพูดออกมาว่า: “ฉันแก่แล้ว เวลาจัดการอะไร ไม่ค่อยเด็ดขาดแล้ว
โหจื่อมองไปที่ลุงเฉียน พูดออกมาอย่างไม่อยากเชื่อว่า: “ลุงเฉียน ฉันรู้สึกว่า ลุงกำลังชมฉัน”
“ใช่แล้ว ฉันกำลังชมนายอยู่จริงๆ”
ลุงเฉียนพูดขึ้นว่า: “ฉันรู้สึก คนที่จะเจรจากับลู่เฟย ถ้าเป็นนายออกหน้าจะเหมาะสมกว่า”
หลังจากที่ลุงเฉียนพูดจบ เหลือบไปมองโหจื่อ แล้วเดินเข้าไปในรีสอร์ต โหจื่อส่ายหัวแล้วหัวเราะออกมา จากนั้นมองไปที่ลุงเฉียน พึมพำออกมาว่า: “พูดให้กระจ่าง ก็คือกลัวตระกูลเฉียนติดร่างแหไปด้วย”
ถ้าลุงเฉียงเจรจากับลู่เฟย เกิดทำให้ลู่เฟยโกรธขึ้นมา แล้วความโกรธนี้ ถ้าหากไม่สามารถระบายอารมณ์ใส่รีสอร์ตนี้ได้ ก็ต้องไปหาที่ระบายที่อื่น
และสถานที่ที่ดีที่สุด ไม่ต้องสงสัยมันคือตระกูลเฉียนแน่นอน
แต่โหจื่อไม่เหมือนกัน พ่อแม่ของเขา ปู่ของเขา ล้วนตายหมดแล้ว ดังนั้น ถ้าหากทำให้ลู่เฟยโกรธ ลู่เฟยคนนี้ ก็ทำอะไรเขาไม่ได้
“เว๊ย ไอ้แก่ นายจะคุกเข่าอยู่ที่นี่ต่ออีกเหรอ?” มองไปที่เฉียนโตโต โหจื่อเดินไปถีบเขา
แต่ใครจะไปรู้ว่าเฉียนโตโตทนรับแรงถีบไม่ได้เลย โหจื่อแค่ถีบเบาๆ แต่กลับทำให้เฉียนโตโตล้มไปกองอยู่ที่พื้น แล้วเป็นลมไป
เวลานี้ เด็กหนุ่มสามสี่คนของตระกูลเฉียนลุกขึ้นหมด หนึ่งในนั้นอุ้มเฉียนโตโตขึ้นมา ส่วนที่เหลือ ร้อมรอบโหจื่อไว้ เหมือนจะเอาเรื่องกับโหจื่อ
โหจื่อหัวเราะเคอๆ ออกมา มองไปที่เด็กหนุ่มสามสี่คนของตระกูลเฉียนแล้วพูดขึ้นว่า: “ทำไม ไม่พอใจใช่ไหม?ฉันไม่มีความสามารถอะไร ความสามารถที่เก่งที่สุดของฉันก็คือจัดการจัดการทุกคนที่ไม่เชื่อฟังโดยเฉพาะ
โหจื่อพูดจบ ก็ลงมือจัดการทันที ไม่ถึงหนึ่งนาที ก็จัดการเด็กหนุ่มของตระกูลเฉียน ได้รับบาดเจ็บจนช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ส่วนไอ้หน้าหนวดก็ให้คนพาพวกเขาไปส่งที่โรงพยาบาล
“ไอ้พวกนี้ อยู่ที่นี่ รำคาญตาจริงๆ” โหจื่อพูดบ่นออกมา จากนั้นจุดบุหรี่ ผ่านไปครึ่งชั่วโมง มีรถวิบากคันหนึ่งมาจอดที่หน้ารีสอร์ต

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

พ่อแม่ที่หายตัวไปหลายปีจู่ๆ ก็โทรมา บอกว่าตัวเองเป็นบุคคลที่รวยที่สุดของดูไบ………….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset