NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 812 นายเกลียดฉันมั้ย?

“ฉันไม่ไป ฉันจะให้จ้าวโหย่วฉายจับฉัน ต่อหน้าจ้าวโหย่วฉาย ในหลายปีนี้สิ่งแมงป่องทำผิด ฉันจะพูดออกมาให้หมด”
เมื่อมาถึงประตูหลัง จ้าวหางก็สะบัดมือหลี่ฝางออก
แขนของจ้าวหาง ยังคงมีเลือดไหลอยู่
ปืนนัดนั้นของแมงป่อง ทำร้ายจ้าวหางสุดๆ ไม่ใช่แค่ทำร้ายจ้าวหางคนนี้ ยิ่งไปกว่านั้นยังทำร้ายจิตใจของจ้าวหางด้วย
“ทำไมนายถึงเป็นเหมือนเด็กน้อยแบบนี้ นายกำลังเล่นกับความโกรธอยู่หรือไง? ดูสินายโตขนาดไหนแล้ว อย่าทำตัวปัญญาอ่อนได้มั้ย คนอย่างแมงป่องมันก็แค่ขยะ แต่นายไม่ใช่ นายไม่จำเป็นจะต้องฝังตัวเอง เพียงเพราะไอ้ขยะคนเดียว” หลี่ฝางถลึงตามองจ้าวหาง และพูดอย่างไม่สบอารมณ์ต่อความไม่เอาถ่านของเขา
ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าหลี่ฝางกลัวว่าจะใช้แรงมากเกินไป จนทำให้จ้าวหางเจ็บล่ะก็ อยากจะตบเขาสักทีจริงๆ
“ฝังกลบ? เหอะๆ ฉันในตอนนี้ กลายเป็นอาชญากรที่อำเภอหลินต้องการตัวแล้ว ด้านนอกตามตรอกซอกซอย ก็แปะประกาศจับฉันเต็มไปหมด ที่บ้านฉัน ก็มีคนของจ้าวโหย่วฉายจับตามองทุกวัน ญาติของฉันพวกนั้น ก็กลัวว่าฉันจะติดต่อพวกเขาไป นายรู้มั้ย? ตอนนี้ฉันมันก็แค่ไอ้คนน่าสมเพชเวทนา มีบ้านนะ แต่ก็กลับไปไม่ได้”
“ส่วนแมงป่อง เขาทำเรื่องไม่ดีมาตั้งเยอะ แต่เขากลับอยู่ภายใต้แสงอาทิตย์ได้อย่างเฉิดฉาย อิ่มเอิบกับความรุ่งโรจน์ในทุกๆ วัน มีสิทธิ์อะไรกัน? คนที่ได้รับผลตอบแทนมากที่สุด เป็นเขา คนที่ออกแรงมากที่สุด กลับเป็นพวกเรา และที่น่าโมโหที่สุด สุดท้ายแล้วเขายังเสร็จงานฆ่าโคถึกเสร็จศึกฆ่าขุนพล”
จ้าวหางหัวเราะเหอะๆ : “ที่จริงแล้ว ตอนนี้ฉันไม่มีทางให้ถอยกลับแล้ว แบบนี้ให้พังพินาศไปพร้อมกับแมงป่องยังจะดีกว่า ได้ตายอย่างมีความสุข”
“นายไปหาจางซินเฟย เขาจะรับนายไว้” หลี่ฝางพูด
หลี่ฝางได้ยินเสียงตึงๆ ที่ดังจากด้านหลัง จู่ๆ ก็เปลี่ยนเป็นลนลาน: “เอาล่ะ อย่าพูดมาก รีบไป ถ้ายังไม่ไปก็จะไปไม่ได้แล้วนะ”
“ฟังให้ดี เมื่อกี้ฉันช่วยชีวิตนายไว้ ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป นายก็เป็นคนของฉันแล้ว ลูกพี่ของนายไม่ใช่แมงป่องอีกต่อไป แต่เป็นฉัน”
หลี่ฝางพูด
สีหน้าของจ้าวหางคนนั้น ก็ชะงักอยู่ครู่ เขามองหลี่ฝาง ด้วยสีหน้าสีซับซ้อน: “จะมีสักวัน ที่นายเขี่ยฉันทิ้งมั้ย?”
“ถึงแม้ฉันจะทิ้งตัวเอง ก็ไม่มีทางทิ้งพวกพ้องของฉัน”
หลี่ฝางตบไปที่ไหล่ของจ้าวหาง และเอากุญแจรถปอร์เช่ ยื่นให้กับจ้าวหาง: “รีบไป ตามเส้นทางนี้ เข้าไปเรื่อยๆ ก็คือลานจอดรถใต้ดิน ขับรถของฉันออกไป ถึงแม้พวกเขาจะพบนาย แต่ก็จับนายไม่ได้ รถของฉันกันกระสุน”
จ้าวหางมองหลี่ฝาง ลังเลอยู่หลายวินาที และก็รีบวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
ขณะที่หลี่ฝางกลับไปถึงห้องพักผู้ป่วย ก็พอดีกับที่จ้าวโหย่วฉายเดินเข้ามา จ้าวโหย่วฉายมองแมงป่อง แล้วก็หัวเราะเหอะๆ : “ลูกน้องของนายจ้าวหางล่ะ?”
“จ้าวหาง? จ้าวหางอะไร ฉันไม่เข้าใจเลยว่านายกำลังพูดอะไร”
แมงป่องพูดด้วยหน้ากวนๆ จนจบ ก็นอนลงบนเตียง ควักโทรศัพท์ออกมา ฟังเพลง
“แมงป่อง นายแกล้งทำเป็นไม่รู้กับฉันให้มันน้อยๆ หน่อย เมื่อกี้ตอนฉันอยู่ที่หน้าประตูโรงพยาบาล ได้ยินเสียงปืนชัดๆ แล้วก็ มีพยานบอกว่า เห็นจ้าวหางเข้ามา แถมพกปืนมาด้วย”
จ้าวโหย่วฉายขมวดคิ้ว พลางมองแมงป่อง: “จ้าวหางมาหานายทำไม? เขามาล้างแค้นนายใช่มั้ย?”
“มาล้างแค้นฉัน?” แมงป่องหัวเราะเหอะๆ : “จ้าวโหย่วฉาย นายกำลังพูดอะไรมั่วซั่วเหนี่ย ทำไมฉันฟังไม่เข้าใจเลยสักคำ จ้าวหางเป็นพวกพ้องที่ดีของฉันนะ ฉันก็ไม่ได้ทำเรื่องอะไรที่ผิดต่อเขา ทำไมเขาจะต้องมาล้างแค้นฉันด้วย? อยู่ก็พูดอะไรแปลกๆ”
“ห่างออกไปประมาณเจ็ดหรือแปดกิโลเมตร มีเนินเขารกร้างอยู่ บนเนินเขานั่นมีกระท่อมฟางอยู่สองสามหลัง เมื่อกี้คนของฉัน พบศพของคนหลายศพอยู่ในนั้น นายว่ามันบังเอิญมั้ย คนที่ตายพวกนั้น เป็นคนที่ติดตามนาย ที่ชื่อว่าเกาซง”
“เขาตายแล้ว นายรู้มั้ย?” จ้าวโหย่วฉายมองแมงป่องพลางถาม
แมงป่องหัวเราะเหอะๆ : “ฉันจะไปรู้ได้ยังไงเล่า เกาซงคนนั้นฉันก็รู้จักจริงๆ แหละ นายก็รู้ ฉันเป็นคนที่ทำธุรกิจใหญ่นะ มีสถานที่มากมายที่ต้องการคนคอยดู เกาซงคนนั้นก็แค่คนงานใต้บัญชาของฉันคนนึงเท่านั้น แต่ว่า เขาเกิดเรื่อง ก็ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับฉันเลยสักนิด ถ้านายไม่เชื่อล่ะก็ ก็ถามคนข้างๆ ฉันก็ได้ ว่าฉันนอนอยู่แต่ในโรงพยาบาลนี่ พยาบาล กับหมอในโรงพยาบาลนี้ ก็ช่วยเป็นพยานให้ฉันได้”
“จ้าวโหย่วฉาย นายจะมาโยนความผิดให้ฉันแบบนี้ไม่ได้หรอกนะ?”
แมงป่องหัวเราะอย่างดูถูก
จ้าวโหย่วฉายพยักหน้า แล้วพูด: “เกาซงไม่ได้ถูกนายฆ่า แต่เขาถูกลูกน้องของนายจ้าวหางฆ่าตาย”
นัยน์ตาของแมงป่อง มีความตระหนกขึ้นมาแว๊บนึง
ถึงยังไง เรื่องนี้มันก็เพิ่งจะเกิดขึ้นเท่านั้น ถ้าผ่านไปสามถึงห้าวัน แล้วจ้าวโหย่วฉายเพิ่งจะพบศพของเกาซง นั่นมันจะไม่แปลกเลย แต่ในคืนเดียวกัน เรื่องที่เกาซงตาย ก็ถูกจ้าวโหย่วฉายรู้แล้ว
นั่นก็แสดงได้ว่า ต้องมีคนแพร่ข่าวออกไปแน่ๆ
ส่วนคนคนนั้น เป็นไปได้แค่จ้าวหาง หรือว่าคนข้างกายของจ้าวหางเท่านั้น
จู่ๆ แมงป่องก็เลิ่กลั่ก คนของจ้าวหาง ถึงกับไปหาจ้าวโหย่วฉาย งั้นได้เอาเรื่องของตนไปขายมั้ยเหนี่ย?
ถึงแม้ในใจจะตระหนกสุดๆ แต่ฝีมือการแสดงสีหน้าของแมงป่อง กลับทำได้ดีมากๆ
“พวกเขาสองคนมีความแค้นกันเหรอ? เมื่อก่อนเคยได้ยินว่าเกาซงชอบเมียของจ้าวหาง แถมยังมีความสัมพันธ์กับเมียเขาด้วย หรือว่าจะเป็นเพราะเรื่องนี้? เฮ้อ การฆ่าคนเพราะความรัก นับวันยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จริงๆ ”
แมงป่องพูดพลางยิ้ม
จ้าวโหย่วฉายยกยิ้ม แล้วพูด: “เกาซงเป็นคนคุมผับนะ สาวสวยในมือเขาเยอะจะตาย ส่วนเมียของจ้าวหาง ก็เป็นสาวอ้วน รูปลักษณ์ก็น่าเกลียด นายจะแต่งเรื่อง ก็ช่วยแต่งให้มันน่าเชื่อถือหน่อยได้มั้ย”
“จ้าวโหย่วฉาย ฉันว่านายไม่เข้าใจนะ แบบนี้เขาเรียกว่า ลางเนื้อชอบลางยา” แมงป่องพูด
“สาเหตุการตายที่แท้จริงของเกาซง เป็นเพราะเกาซงได้รับคำแนะนำจากนาย จากนั้นจึงเอาเงินสิบล้าน แกล้งส่งเงินให้จ้าวหาง เป้าหมายที่แท้จริง ไม่ใช่การส่งเงิน แต่เป็นการฆ่าปิดปาก แต่ว่า เป้าหมายของเกาซงถูกจ้าวหางจับผิดได้ก่อน จึงทำให้จ้าวหางลงมือก่อน ทุกคนที่เกาซงพาไปด้วย ถูกยิงตายกันหมด”
“เมื่อคืน ในโรงแรมใกล้สถานีขนส่ง ก็มีคดีฆ่าคนตายเกิดขึ้น และก่อนที่ผู้ตายจะเสียชีวิต ก็กำลังดื่มเหล้ากับจ้าวหางและคนอื่นๆ แต่จ้าวหางไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จู่ๆ ก็เรียกพรรคพวกของตนทั้งหมดเข้ามา ทำให้คนพวกนั้น ถูกฆ่าตายกันหมด”
“ได้ยินมาว่า ที่จ้าวหางทำแบบนั้น เพราะว่านายเป็นคนบงการ ส่วนนายก็ให้เกาซงไปฆ่าจ้าวหาง ก็เพื่อปิดปากเขา”
สีหน้าของแมงป่อง เปลี่ยนเป็นเข้มขึ้นทันที: “จ้าวโหย่วฉาย ของกินจะกินมั่วซั่วก็ได้แต่คำพูดจะพูดมั่วซั่วไม่ได้นะ ที่นายพูดมาเหนี่ย ล้วนแต่เป็นการคาดเดาของนายทั้งนั้น นายมีหลักฐานมั้ย?”
แมงป่องรู้ว่าจ้าวหางถูกหลี่ฝางเอาตัวไปปล่อยแล้ว ดังนั้นจึงมีความมั่นใจเล็กน้อย
ขอแค่จับตัวจ้าวหางไม่ได้ งั้นแมงป่อง ก็ยังมีโอกาสพลิกล็อกอยู่
แมงป่องพูด: “ถ้าหากนายมีหลักฐานล่ะก็ ก็จับตัวฉันไปเลยสิ ไม่จำเป็นจะต้องมาพูดให้เปลืองน้ำลายอยู่ที่นี่ ถ้าหากนายไม่มี งั้นก็เชิญนายออกไป ฟ้ายังไม่สว่างเลย นายไม่อยากพักผ่อน แต่ฉันต้องการพักผ่อนสงบๆ ”
“คาดเดามั่วซั่ว? แมงป่องเอ๊ย ถ้าหากฉันแค่คาดเดาล่ะก็ จะพูดได้ถูกต้องขนาดนี้เหรอ?” จ้าวโหย่วฉายยิ้มอย่างเย็นชา
เมื่อครู่จ้าวโหย่วฉาย ได้พูดความจริงทั้งหมด ออกมาแล้ว
ได้ยินอย่างนี้ ถ้าแมงป่องบอกว่าไม่กลัว นั้นต้องโกหกแน่ๆ
เห็นได้ชัด ว่าในมือขอจ้าวโหย่วฉายมีข้อมูลบางอย่าง ความจริงพวกนี้ ถ้าไม่ใช้เวลาพักนึง คงไม่มีทางตรวจสอบได้
ความจริงแล้ว ที่จ้าวโหย่วฉายรู้เรื่องพวกนี้ เป็นเพราะว่าภรรยาของเขาบอกมา
นั่นก็เป็นเรื่องที่จ้าวหางพูดจากปากของตัวเอง แต่ว่า นี่มันไม่พอที่จะทำให้จับตัวแมงป่องได้
ถ้าหากอยากจะจับแมงป่อง ก็จำเป็นจะต้องจับตัวจ้าวหางให้ได้
ในตอนนั้น ด้านนอกห้อง ก็มีคนคนนึงวิ่งมา คนคนนั้นคือลูกน้องของจ้าวโหย่วฉาย หลังจากเขาเข้ามา ก็พูดด้วยสีหน้าไม่ค่อยดี: “จ้าวหางหนีไปได้แล้ว เขาขับรถปอร์เช่สีแดงคันนึงหนีไป ความเร็วรถของเขาเร็วมาก พวกเราตามไม่ทันเลย”
“รถปอร์เช่สีแดง?”
จ้าวโหย่วฉายขมวดคิ้ว แล้วถามต่อ: “งั้นวิดีโอของกล้องวงจรปิดล่ะ?”
“เมื่อกี้ตอนที่พวกเราไปตรวจวิดีโอกล้องวงจรปิด ก็พบว่าวิดีโอที่เกี่ยวข้องกับจ้าวหาง ถูกลบออกไปหมดแล้ว ดังนั้น……”
จ้าวโหย่วฉายได้ยินดังนั้น สีหน้าจึงเปลี่ยนเป็นดูไม่ได้สุดๆ เขามองไปทางแมงป่องที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย แล้วพูด: “แมงป่อง แน่ดีนี่ พวกเรามาค่อยๆ เล่นกัน ต้องมีสักวัน ที่ฉันจับตัวจ้าวหางได้ จากนั้นฉันจะลงโทษนายตามกฎหมาย”
แมงป่องแค่หัวเราะหึใส่ และไม่ได้สนใจอะไรจ้าวโหย่วฉาย
จ้าวโหย่วฉายมองหลี่ฝาง เหมือนกับว่าเขาจะไม่รู้ฐานะของหลี่ฝาง แค่พูดเตือนหลี่ฝางว่า: “นายไม่ใช่คนของแมงป่องใช่มั้ย? ทางที่ดีที่สุดฟังพี่ไว้ เปลี่ยนห้องพักซะ”
หลี่ฝางอืมใส่ และจ้าวโหย่วฉายก็ออกไป
เมื่อจ้าวโหย่วฉายเดินมาถึงหน้าประตูก็พูดขึ้น: “ปอร์เช่สีแดงคันนั้น เด่นสะดุดตามากๆ ไปตรวจสอบมาเดี๋ยวนี้ ตรวจสอบความเป็นมาของรถคันนั้น ที่สำคัญคือต้องติดตามรถคันนั้น จะต้องลากคอไอ้สารเลวจ้าวหางนั่นมาให้ได้”
ในตอนนี้ จ้าวโหย่วฉายรู้สึกกดดันอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
อย่างแรกคือมีคนตายอยู่ในโรงแรมเก้าคน จากนั้นบนเนินเขา ก็มีคนจำนวนมากเสียชีวิต
ในคืนเดียว ก็ทำเอาจ้าวโหย่วฉายรู้สึกปวดหัวเลย เพียงครู่เดียวมีคนตายมากขนาดนี้ ถ้าหากไม่สามารถสืบหาความจริง และจับผู้ร้ายออกมาได้ งั้นเขาก็คงแย่ไปด้วย
ถึงยังไง ก็มีตั้งหลายชีวิต
ที่น่าโมโหที่สุด ก็คือไอ้สารเลวจ้าวหางนั่น ถึงกับมาหาภรรยาของจ้าวโหย่วฉาย ทำเอาจ้าวโหย่วฉายตกใจจริงๆ
แน่นอนว่า ก็ทำเอาภรรยาของเขาตกใจมากด้วยจริงๆ
ไม่ว่ายังไง จ้าวโหย่วฉายจะต้องจับจ้าวหางให้ได้
หลังจากจ้าวโหย่วฉายไป หวางเหมียวคนนั้นก็รีบเดินเข้ามา แล้วพูดกับหลี่ฝางเสียงเบา: “คุณชายหลี่ ทำให้เสร็จเรียบร้อยแล้วครับ ดีที่ผมไปเร็ว ถ้าไปช้ากว่านี้แค่ก้าวเดียว ผมคงถูกจับได้แล้ว”
หวางเหมียวเช็ดเหงื่อที่หน้า เห็นทีจะกลัวจนใจหาย
ถึงยังไงคนเป็นหมอแบบเขา ก็ไม่เคยทำเรื่องอะไรที่ผิดกฎหมายผิดวินัยอยู่แล้ว
เขารู้ว่าสิ่งที่เขาทำไปเมื่อครู่ ถ้าหากถูกจับได้ ไม่ใช่แค่จะรักษาตำแหน่งงานเขาไว้ไม่ได้ แถมยังอาจจะต้องติดคุกด้วย
หลี่ฝางพยักหน้า แล้วควักบัตรออกมาหนึ่งใบ และพูด: “เอาไปเถอะ นี่เป็นรางวัลของนาย แล้วก็ เอาไปแบ่งให้คนในห้องมอนิเตอร์สองคนนั้นด้วย อย่าให้พวกเขาปริปากพูดเรื่องนายไปล่ะ”
หวางเหมียวรับบัตรไป เขาทำงานให้หลี่ฝาง แน่นอนว่าไม่ใช่แค่เพราะว่าเงิน ถึงยังไง หวางเหมียวที่ไม่มีภาระหนี้สิน ชีวิตจังราบรื่นอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ และไม่จำเป็นต้องมาเสี่ยงอะไรเลย
เหตุผลที่เขาช่วยหลี่ฝางไว้ ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะว่าเคยติดค้างหลี่ฝางไว้อยู่ครั้งนึง
นี่ก็แค่เป็นการตอบแทนบุญคุณเท่านั้น
“ไปเถอะ ช่วยฉันจับตาดูหน่อยนะ ผู้ป่วยในโรงพยาบาลนี้ ฉันอยากได้ข้อมูลหน่อย แล้วก็ ผู้ป่วยที่เข้ามาใหม่ ฐานะของพวกเขา ช่วยฉันตรวจสอบหน่อย ถ้าหากฐานะน่าสงสัยล่ะก็ ไม่ต้องให้พวกเขาเข้าพัก บอกกับเจ้าของโรงพยาบาลนะ มีค่าเสียหายอะไร มาคิดกับฉันได้เลย”
หลี่ฝางพูดอย่างใจใหญ่: “ฉันจะชดใช้คืนพวกนายสองเท่า”
ถึงแม้หวางเหมียวจะไม่รู้เป้าหมายของหลี่ฝาง แต่เขาก็ยังพยักหน้า และทำตามที่หลี่ฝางสั่ง
ในตอนนี้ หลี่ฝางเดินมายังด้านหน้าของแมงป่อง พลางมองแมงป่องและถาม: “ในใจของนายตอนนี้ เกลียดฉันอยู่ใช่มั้ย?”
แมงป่องยู่ปาก มือข้างนึงจุดบุหรี่ให้ตัวเอง มองหลี่ฝางพลางหัวเราะเหอะๆ : “นายเป็นถึงคุณชายหลี่ ฉันแมงป่องคนตัวเล็กๆ ชีวิตก็อยู่ในกำมือของนาย ฉันจะกล้าไปเกลียดคุณได้ยังไงล่ะ?”
“คุณชายหลี่ อย่าเอาผมไปล้อเล่นเลย” แมงป่องพูดอย่างครุมเครือ
หลี่ฝางพูด: “นายเข้าใจก็ดี”
“ถึงแม้จะเกลียดฉัน ก็ไม่มีประโยชน์ นายฆ่าจ้าวหางไม่ได้” หลี่ฝางพูด: “เรื่องเมื่อกี้ ฉันไม่ถือสากับนายแล้ว แต่ถ้าหากมีครั้งต่อไปละก็……ฉันต้องฆ่านายแน่ๆ”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

พ่อแม่ที่หายตัวไปหลายปีจู่ๆ ก็โทรมา บอกว่าตัวเองเป็นบุคคลที่รวยที่สุดของดูไบ………….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset