NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 816 ต่อยลูกพี่ตัวเอง?

ในตอนนั้นพนักงานคนนี้ตกใจจนฉี่แทบราด ทันใดนั้นก็รีบชี้ไปทางด้านในห้องส่วนตัว แล้วพูด: “อยู่ในที่ที่สูงส่ง……”
แต่เมื่อเพิ่งพูดจบ พนักงานก็ช็อกจนนิ่งไปเลย
ด้านในนั้นมีแมงป่องอยู่นะ…….
ลูกพี่ใหญ่ของอำเภอหลินอยู่ด้านใน พวกนายไป ไม่ใช่หาเรื่องตายหรอกเหรอ?
ขณะที่พนักงานคนนั้นกำลังจะเตือนไอ้อ้วนบวมเหล้า ไอ้อ้วนบวมเหล้านั่นก็ออกแรง ผลักเขาลงไปกองกับพื้น จากนั้นก็นำคนของตัวเอง เข้าไปในห้องส่วนตัวของหลี่ฝาง
“พวกนายคุยกันไป ฉันขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อน”
หลี่ฝางลุกขึ้น และเดินไปทางประตู
ตรงใกล้ๆ ประตูของส่วนตัวแต่ละห้อง ล้วนมีห้องน้ำอยู่ในตัว เมื่อหลี่ฝางเดินมาถึงหน้าประตู จู่ๆ ประตูก็เกิดเสียงดังขึ้นปังๆๆ
หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ ทำงานกันเร็วเกินไปมั้ยเหนี่ย
เพิ่งจะออกไปไม่ถึงสองนาทีเอง ก็เอาเหล้ามาเสิร์ฟแล้วเหรอ?
หลี่ฝางยื่นมือออกไป เปิดประตู วินาทีที่เปิดประตู ไอ้อ้วนบวมเหล้าก็นำคนกลุ่มนึง พุ่งเข้ามา แล้วล้อมหลี่ฝางเอาไว้
“ลูกพี่ ไอ้หนุ่มนี่แหละที่ตีฉันเมื่อกี้”
ไอ้อ้วนบวมเหล้าชี้ไปที่หลี่ฝาง แล้วพูดกับลูกพี่ของตน: “ที่น่าโมโหที่สุด คือไอ้เลวนี่มันยังเอาเปรียบแฟนผมอีก”
ไอ้อ้วนบวมเหล้าพูดจบ ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ
ลูกพี่ของไอ้อ้วนบวมเหล้ามองไปที่หลี่ฝาง ขมวดคิ้วเล็กน้อย: “นี่ นายเรียกฉันมา เพียงเพื่อจะให้ต่อยไอ้เด็กน้อยนี่เหนี่ยนะ?”
ดูจากสภาพของหลี่ฝาง เหมือนคนอายุยี่สิบต้นๆ เท่านั้น
แต่ไอ้อ้วนบวมเหล้า อย่างน้อยก็อายุสามสิบกว่าแล้ว
คนอายุสามสิบกว่าคนนึง ถูกคนอายุยี่สิบกว่าคนนึง รังแกเอา ไปเอาหน้ามาจากไหนมาเรียกว่าคนกัน?
ครู่นึง ลูกพี่ของไอ้อ้วนบวมเหล้า ก็รู้สึกว่าตนทนไม่ได้เพราะความอับอายและโกรธเล็กน้อย
เรียกพวกพ้องของตนมารวมกัน เพื่อมาจัดการไอ้เด็กหนุ่มนี่คนเดียว นี่มันทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ไปแล้วไม่ใช่เหรอ
“นายอย่าบอกฉันนะ ว่านายถูกมันตีมาอ่ะ?
“ถ้าหากเป็นแบบนั้นละก็ ฉันจะไปทันที แม่งเอ๊ย ถ้าหากเรื่องนี้แพร่ออกไป ต่อไปนายจะให้ฉันทำยังไง? การมาที่โรงแรมจุนเยว่เพื่อทำร้ายคนก็มากพอแล้ว ประเด็นคือต้องมาทำร้ายไอ้เด็กน้อยคนนึง”
ในตอนนั้น ลูกพี่ของไอ้อ้วนบวมเหล้า ก็รู้สึกถึงความหดหู่อย่างหาที่เปรียบไม่ได้ แต่ว่า เขาก็ไม่รู้จะพูดอะไรดี ถึงยังไงก็มาแล้ว
แต่ไอ้อ้วนบวมเหล้าก็พูดขึ้นมาทันที: “ไม่ใช่แค่เขา ยังมีอีกคนนึง”
ไอ้อ้วนบวมเหล้ามองเข้าไปในห้องส่วนตัว แล้วพูด: “อยู่ด้านในนั้นแหละ”
ในตอนนั้น แมงป่องกำลังนั่งดื่มชาอยู่ แม้ว่าจะได้ยินที่โวยวายที่ประตู แต่เขาก็ไม่รีบไม่ร้อน
ถึงยังไง อำเภอหลินที่นี่ ขอแค่ตระกูลตงฟางไม่ออกหน้าล่ะก็ เขาก็ไม่มีอะไรต้องกลัว
และตามบทสนทนาของคนพวกนี้ ยิ่งทำให้แมงป่องมั่นใจ คนที่เข้ามาก่อเรื่อง ก็แค่พวกนักเลงในสังคมธรรมดาๆ เท่านั้น
“ไปหาคนนั้นก่อน จะพูดยังไงฉันก็เป็นคนมีหน้ามีตาในอำเภอหลิน ให้ฉันลงมือกับเด็กน้อยคนนึง ฉันทำไม่ได้ และก็เป็นแบบนั้นไม่ได้ด้วย” ลูกพี่ของไอ้อ้วนบวมเหล้า พูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
หลี่ฝางส่ายหน้าพลางยิ้ม สองมือกอดอก ทันใดนั้นก็ไม่รู้จะพูดอะไรดี
“แต่ว่านายก็อย่าได้ใจไป นายตีน้องชายฉัน จะตีเฉยๆ แบบนี้ไม่ได้หรอกนะ” ลูกพี่ของไอ้อ้วนบวมเหล้าชี้ไปที่หลี่ฝางแล้วพูดกับไอ้อ้วนบวมเหล้า: “ไอ้น้อง อีกแป๊บพวกเราอยู่ที่นี่ดู นายลงมือตีมัน ถ้าหากมันกล้าสวนนาย ฉันจะหักแขนมัน”
หลังจากพูดจบ ลูกพี่ของไอ้อ้วนบวมเหล้าก็เริ่มเดินเข้าไปด้านในห้องส่วนตัว
และก็ในตอนนี้ แมงป่องหันหน้ากลับมา แล้วมองมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
ลูกพี่ของไอ้อ้วนบวมเหล้า เมื่อเพิ่งเดินเข้าด้านในห้อง ก็มองเห็นแมงป่อง ส่วนไอ้อ้วนบวมเหล้าก็ชี้ไปทางแมงป่อง แล้วพูดอย่างโอเวอร์: “ลูกพี่ ไอ้หมอนี่แหละที่มันลงมือตีผม”
“เ**ดแม่ง มึงรีบลุกขึ้นมา ลูกพี่กูมาแล้ว คอยดูว่าลูกพี่กูจะสั่งสอนมึงยังไง” ไอ้อ้วนบวมเหล้าพูดอย่างเย่อหยิ่ง
แมงป่องยิ้มเบาๆ พลางมองลูกพี่ของไอ้อ้วนบวมเหล้า แล้วพูดขึ้น: “ฉันเห็นนายนี่ เหมือนว่าจะหน้าตาคุ้นๆนะ นายเป็นนักเลงอยู่ที่ไหนเหรอ?”
ลูกน้องของแมงป่อง มีไม่ถึงพัน แต่ก็มีเป็นร้อย
เหมือนลูกน้องประเภทนี้ แมงป่องอย่างมากก็แค่เคยเห็น จะเคยคุยมั้ย นั่นก็ไม่แน่แล้ว
ลูกพี่ของไอ้อ้วนบวมน้ำ ในตอนนี้ ก็ช็อกจนแข้งขาอ่อน แต่ไอ้อ้วนบวมเหล้ากลับมองสถานการณ์ไม่ออก และยังคงพูดอย่างเย่อหยิ่งต่อ: “นี่ตาเฒ่า นายมามุขนี้ให้มันน้อยๆ หน่อย มาแกล้งทำเห็นคนในวงนักเลงอะไรกับฉันห้ะ? ยังจะมาบอกว่าลูกพี่ฉันหน้าคุ้น ทำไม อยากตีสนิทไง? ฉันจะบอกให้ แม้แต่ประตูให้เข้าหายังไม่มีให้”
“แล้วก็ ฉันจะบอกนายให้ว่าลูกพี่ฉันเป็นนักเลงอยู่ที่ไหน ลูกพี่ฉันคอยติดตามแมงป่อง นายรู้จักแมงป่องมั้ย ลูกพี่ใหญ่ของอำเภอหลินคนนั้น คนทั้งอำเภอหลิน มีใครกล้าไม่ไว้หน้าลูกพี่แมงป่องบ้าง?” ไอ้อ้วนบวมเหล้าพูด บนใบหน้า แสดงให้เห็นถึงความพึงพอใจ
เขาแม้แต่แมงป่องยังไม่เคยเจอเลย แต่ว่าสีหน้าอารมณ์มึนๆ แบบนี้ ราวกับแมงป่องเป็นพ่อแท้ๆ ของเขาอย่างนั้น
แมงป่องหัวเราะเหอะๆ พลางมองไอ้อ้วนลงพุงอย่างเหยียดหยาม และพูด: “นายรู้ว่าฉันเป็นใครมั้ย?”
“ฉันไม่สนว่านายเป็นใคร ชื่ออะไร ยังไงแล้ว ตอนนี้นายต้องคุกเข่าแล้วขอโทษฉันซะ จากนั้นหักแขนตัวเองทิ้ง บางทีฉันอาจจะปล่อยนายไปสักครั้ง ถ้าไม่อย่างนั้นละก็……” ไอ้อ้วนบวมเหล้าพูด
“ถ้าไม่อย่างนั้น นายจะทำไม?” แมงป่องถามขึ้นอย่างสนใจ
หลังจากแมงป่องพูดจบ คิ้วของไอ้อ้วนบวมเหล้าก็ขมวดขึ้นทันที: “เฮ้ย ฉันว่านายนี่ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตานะ ลูกพี่ ผมว่าพวกเราไม่จำเป็นต้องไปพูดมากกับมันแล้ว ไอ้เฒ่านี่แม่งไม่รู้จักแยกแยะสถานการณ์ งั้นพวกเราก็ลงมือเลยเถอะ”
ไอ้อ้วนบวมเหล้าพูดจบ ก็หันกลับไปมองลูกพี่ของตน ในตอนนั้น เขาพบว่าบนหน้าลูกพี่ของตน กลับเหงื่อแตกผลัก
ไอ้อ้วนบวมเหล้าถามอย่างแปลกใจ: “ในห้องนี้ร้อนขนาดนั้นเลยเหรอ? ลูกพี่ ทำไมบนหน้าพี่เหงื่อถึงได้ออกเยอะขนาดนี้”
แมงป่องมองลูกพี่ของไอ้อ้วนบวมเหล้า แล้วถามขึ้น: “เขาไม่รู้จักฉัน งั้นนายรู้จักฉันมั้ย?”
แมงป่องยิ้มอ่อนพลางพูด ถึงยังไงคนที่ติดตามตน ก็ควรจะรู้จักตนถึงจะถูก ถ้าหากแม้แต่ตนยังไม่รู้จัก ก็คงไม่มีทางกลัวถึงขนาดนี้
แล้วก็ อำเภอหลินมีนักเลงไม่กี่คน ที่กล้าหน้าใหญ่ เสี่ยงเอาชื่อของเขามารังแกคนแบบนี้
แค่ได้ยินเสียงดักปึ้ก ลูกพี่ของไอ้อ้วนบวมเหล้า ก็ลงไปคุกเข่าที่พื้น
ฉากนี้ ทำเอาไอ้อ้วนบวมเหล้าตกใจ ไอ้อ้วนบวมเหล้าเดินเข้าไปทันที แล้วจะพยุงลูกพี่ของตนขึ้น จากนั้นก็เริ่มพยุงขึ้น: “ลูกพี่ ลูกพี่เป็นอะไรไป ทำไมถึงคุกเข่าล่ะ?”
ในตอนนั้น คนกลุ่มด้านหลังไอ้อ้วนบวมเหล้า ก็ต่างตกใจพอกันหมด
ถึงยังไง คนส่วนมากของพวกเขา ต่างก็เคยเจอแมงป่องกัน
แล้วในวันนี้ ตนกับจะมาตีแมงป่อง ตีลูกพี่ใหญ่ของอำเภอหลิน แบบนี้ราวกับการหาเรื่องคนใหญ่คนโตเลย การกระทำรนหาที่ตายแบบนี้ พวกเขาดันทำออกมาได้ วินาทีนี้ จะไม่ให้พวกเขาหวาดกลัวได้ยังไงกัน?
เขาพวกตกใจจนขาแข้งอ่อนแรงไปหมด
ลูกพี่ของไอ้อ้วนบวมเหล้า จะลากยังไม่ก็ลากไม่ขึ้น
จากที่เขาคุกเข่าลง คนด้านหลังเขา ทั้งหมดก็คุกเข่าลงไปตามๆ กัน หันไปทางที่แมงป่องอยู่
พวกเขารู้ว่าแมงป่องเป็นคนยังไง
ทำให้แมงป่องเคืองโดยไม่ตั้งใจ หรือว่าบังเอิญปะทะกับคนของแมงป่อง ล้วนแต่ไม่เจอเรื่องดี
วันนี้ พวกเขาทำผิดร้ายแรงแบบนี้ ถ้าหากแมงป่องเอาเรื่องขึ้นมา คนพวกนี้ เกรงว่าจะต้องถูกอัดจนขาหักไปข้าง
ถ้าหากการคุกเข่าสามารถทำให้ได้รับการยกโทษจากแมงป่องล่ะก็ แม้ว่าจะให้พวกเขาคุกเข่าเป็นวัน พวกเขาก็ยินดีสุดๆ
ถึงยังไง คุกเข่าลงก็ไม่ต้องแลกด้วยอะไรทั้งนั้น
“เชี่ย พวกนายเป็นอะไรกันวะเหนี่ย? ทำไมถึงได้คุกเข่ากันหมดวะ หรือว่าพวกนายเห็นฮ่องเต้หรือไงกัน?”
สีหน้าของไอ้อ้วนบวมเหล้านั้นหดหู่บวกกับมึนงง: “นี่ไม่ใช่ในยุคสมัยก่อนนะ นี่พวกนายเป็นอะไรกันแน่เหนี่ย?”
“พูดน้อยๆ รีบคุกเข่าลง” ในตอนนั้น ลูกพี่ของไอ้อ้วนบวมเหล้า ก็พูดกับไอ้อ้วนบวมเหล้าอย่างเย็นชา
“ถ้าหากนายไม่อยากตาย ก็รีบคุกเข่าลง คนข้างหน้านาย ก็คือลูกพี่ฉัน แมงป่อง” ลูกพี่ของไอ้อ้วนบวมเหล้า พูดขึ้นเสียงเบา
ตอนที่ไอ้อ้วนบวมเหล้าได้ยินประโยคนี้ ก็ชะงักไปทั้งร่างทันที เขารู้สึกว่าสมองของตน มีภาพมึนงงขึ้นก่อน ต่อมา ก็ลงไปกองกับพื้น
“เห็นที่น้องของนาย ตกใจจนเป็นลมไปแล้ว นายช่วยฉันปลุกมันขึ้นมาที ถ้าหากไม่ตื่นขึ้นมา งั้นก็ให้มันหลับไปตลอดกาล” แมงป่องพูดอย่างนิ่งๆ
ลูกพี่ของไอ้อ้วนบวมเหล้า ได้ยินแบบนี้ ในใจก็สั่นอย่างรุนแรง
แมงป่องคิดจะเก็บชีวิตของน้องชายตนไว้สินะ
เขารีบเข้าไปบีบตัวไอ้อ้วนบวมเหล้าทันที แล้วตบเข้าไป ที่หน้าเขาอย่างแรง ไม่นาน ไอ้อ้วนบวมเหล้าก็ตื่นขึ้นอย่างมึนๆ ไอ้อ้วนบวมเหล้าที่ตื่นขึ้นมา ก็ราวกับความทรงจำขาดหายไป เขาลืมไปแล้วว่าเมื่อกี้เขาเป็นลมไปได้ยังไง
เขามองลูกพี่ของตน แล้วถามอย่างโมโห: “ไม่มีอะไรจะตบฉันทำไม แถมยังตบซะโคตรเจ็บเลย นายบ้าไปแล้วเหรอ”
“แกสิบ้า แถมยังบ้ามากเลยด้วย นายรู้ว่านายเรียกพวกฉันมาตีใครมั้ย?”
ลูกพี่ของไอ้อ้วนบวมเหล้าพูดอย่างเย็นชาพลางขมวดคิ้ว: “แกนี่มันบ้าไปแล้วจริงๆ แกถึงกับเรียกฉันมาตีลูกพี่ตัวเอง”
“ลูกพี่นายคือแมงป่องไม่ใช่ไง?”
ไอ้อ้วนบวมเหล้าพูดอย่างโง่ๆ ต่อมาทั้งตัวก็ราวกับถูกฟ้าผ่า จนเกือบจะเป็นลมไปอีกรอบ ถึงแม้ครั้งนี้จะไม่ได้เป็นลมไป แต่ทั้งตัวเขาก็ตกใจจนเอ๋อไปเลย สีหน้าซีดเผือด พูดไม่ออก กระทั่ง ความกล้าที่จะหันกลับไปมองแมงป่องยังไม่มีเลย
คนที่อยู่ด้านหลังตน วันนี้เป็นไปได้มากว่าต้องการชีวิตเขา ตรงนี้ ไอ้อ้วนบวมเหล้าก็เข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง
ครั้งนี้ ถือได้ว่าเขาดูถูกคนอื่นจนงานเข้าเต็มๆ เลย
“ทำไม นายจะให้ลูกพี่นายมาตีฉันไม่ใช่เหรอ? ทำไม ไม่ตีแล้วเหรอ?” แมงป่องหัวเราะเหอะๆ พลางถาม: “ยังจะตีอยู่มั้ย?”
“ฉันจะยืนตรงนี้ รับประกันว่าจะไม่สวนกลับ ยืนให้พวกนายตี เป็นไง?”
แมงป่องมองพวกลูกน้องของตน แล้วพูดด้วยน้ำเสียงน่ากลัว
หลี่ฝางสองมือกอดอก ตัวพิงผนัง ได้เห็นฉากนี้ ในใจก็รู้สึกว่าน่าขำเล็กน้อย
พวกคนที่คุกเข่า ทั้งหมดไม่กล้าพูด สักคำก็ไม่กล้าพูด แน่นอนว่า พวกเขาก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี
ครั้งนี้ ถือได้ว่าพวกเขาแพ้แล้ว
อยู่ในอำเภอหลินทำให้แมงป่องไม่พอใจ นั้นก็คือทางตายทางนึงเลย
ใจกับมือของพวกเขา ก็กุมเหงื่อไว้อยู่ ในใจก็ร้องไม่หยุดว่า ฉิบหายแล้ว ฉิบหายแล้ว ฉิบหายสุดๆ แล้วจริงๆ
สีหน้าของแมงป่องเย็นชาลง แล้วพูด: “ความกล้าของพวกนาย เยอะดีจริงๆ นะ ทำไม คิดจะกบฏหรือไง?”
ถึงแม้แมงป่องจะรู้ว่าคนพวกนี้ไม่มีใจคิดแบบนั้น แต่ก็ยังมีคนหนึ่งที่ก่อชื่อเสียงไม่ดีมาให้อยู่ เมื่อประโยคนี้พูดออกไป พวกคนที่คุกเข่า ทั้งหมดก็ตัวสั่นเทา
“มาทำร้ายคนที่โรงแรมจุนเยว่ ความกล้าของพวกนาย ก็มากอยู่จริงๆ หรือว่าพวกนายไม่รู้ ว่าเจ้าของโรงแรมจุนเยว่ เป็นเพื่อนของฉันเหรอ? พวกนายมาก่อเรื่องที่นี่ เกรงว่าเจ้านายหลิวจะคิดว่าฉันบงการอยู่ข้างหลังนะ ไอ้กลุ่มคนชั่วอย่างพวกนาย หาเรื่องมาให้ฉันเก่งจริงๆ”
น้ำเสียงของแมงป่อง เปลี่ยนเป็นเย็นชาขึ้นเรื่อยๆ
ถึงแม้เรื่องนี้จะเป็นเรื่องเข้าใจผิด ถ้าแมงป่องใจใหญ่ขึ้นมา บางทีอาจจะปล่อยพวกเขาไปสักครั้ง แต่ว่า เบื้องหลังเรื่องนี้ ยังมีจุดสำคัญอยู่
ลูกน้องของตน ทำตามอำเภอใจไปแล้ว แม้แต่กล้ามาก่อเรื่องที่โรงแรมจุนเยว่ ทำแบบนี้ มันจะทำให้เจ้าของโรงแรมนี้เข้าใจผิดแมงป่องแน่ๆ
ส่วนความเข้าใจผิดนี้ ถึงแม้แมงป่องจะอธิบาย เจ้านายหลิวคนนั้น เกรงว่าจะไม่เชื่อ
พอจ้านนายหลิวก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในวันนี้ และแน่นอนว่าเขาคงคิดว่าเขาทำให้แมงป่องขุ่นเคือง ถึงจะมีฉากแบบนี้ปรากฏขึ้น
“ลูกพี่ พวกเราผิดไปแล้ว”
ลูกพี่ของไอ้อ้วนบวมเหล้าพูดขึ้นทันที: “ต่อไปนี้พวกเราไม่กล้าทำแล้ว”
“ต่อไปนี้? เหอะๆ น่าขำสิ้นดี นายถึงกับคิดว่าตัวเองจะมีวันต่อไปอีกเหรอ?”
เสียงหัวเราะของแมงป่อง เย็นชาสุดขั้ว: “นายบอกว่าต่อไปไม่กล้าแล้ว คือคิดว่าวันนี้ฉันจะให้โอกาสนาย ปล่อยนายไปครั้งนึง ใช่มั้ย?”
“ไอ้หนู นายไร้เดียงสา คิดจบสวยเกินไปแล้วมั้ง?”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

พ่อแม่ที่หายตัวไปหลายปีจู่ๆ ก็โทรมา บอกว่าตัวเองเป็นบุคคลที่รวยที่สุดของดูไบ………….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset