NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 832 ความหวาดกลัวของตงฟางเย่น

“แฮๆ เวลานี้ยังคิดจะถอยเหรอ สายไปเสียแล้ว!”
หลี่ฝางหัวเราะแฮๆ ใช้มือขวาบิดไปหนึ่งที แขนของชายผิวดำนั้นราวกับขนมแป้งทอด ถูกบดขยี้จนแหลกละเอียด
ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้นก็ตามชายผิวดำก็ไม่ได้ส่งเสียงร้องออกมาเลย เพียงแค่เหงื่อไหลเต็มหน้าและร่างกายที่สั่นสะท้าน แสดงถึงความหวาดกลัวของเขาออกมา
“ผนึกลมปราณให้เป็นพลัง! นี่มันคือกำลังภายในชัดๆ! แกถึงกับฝึกกำลังภายในสำเร็จแล้ว! นี่เป็นไปได้อย่างไร……”
ระหว่างที่สีหน้าของชายผิวดำตื่นตกใจอยู่นั้น ก็พูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้งที่สั่นเครือ
“ยังไม่เชื่ออีกเหรอ? ฮ่าๆๆ งั้นไปลงนรกแล้วค่อยๆช็อกต่อก็แล้วกันนะ!”
“ปั้ง!”
สายตาของหลี่ฝางเยือกเย็นเฉยชา ระหว่างนั้นก็โยกมือขวาออกไป ทำให้ชายผิวดำตรงหน้าราวกับเป็นขยะ ถูกโยนข้ามไปยังกำแพง
ชายผิวดำกระอักเลือดสดพ่นออกมา จากนั้นก็สลบไปไม่ได้สติอีกเลย
“หนีเร็ว!!”
ที่เหลืออีกสี่คนก็ได้เห็นฝ่ามือของหลี่ฝางไม่ธรรมดา ถึงกับต้านทานท่าไม้ตายของชายผิวดำได้ อีกทั้งยังบิดแขนของชายผิวดำจนหักได้อย่างง่ายดาย ทั้งสี่คนสายตาล้วนตื่นกลัวว้าวุ่น ถึงกับเริ่มคิดที่จะถอยหนีไป
แต่ว่าหลี่ฝางไม่มีทางที่จะให้เวลาพวกเขาหนีไปได้อย่างเด็ดขาด
“ปั้ง!!”
ใช้พละกำลังทั้งหมด เงาร่างของหลี่ฝางราวกับปีศาจ รวดเร็วกว่าก่อนหน้านั้นหลายเท่านัก เหมือนกับปีศาจร้าย กระโจนเข้าไปยังสี่คนที่เหลือนั่น เพียงแค่เวลาเสี้ยววินาทีเท่านั้น ร่างของสี่ คนนั้นราวกับขาดรุ่งริ่ง ถูกโยนไปบนพื้นอย่างรุนแรง
หน้าอกและแขนของแต่ละคนแทบจะถูกกระแทกจนแหลกละเอียด ยิ่งน่าอนาถน่ากลัวกว่าชายผิวดำเสียอีก อีกทั้งยังไม่ทันได้ส่งเสียงร้อง ก็ม้วยมรณาไปเสียแล้ว
“ตงฟางจัว ตอนนี้ก็ตาแกแล้วสินะ!”
ราวกับปีศาจร้ายที่ผุดขึ้นมาจากขุมนรก หลี่ฝางปาดเลือดในมือทิ้งไป แสยะปากอย่างเยือกเย็น แล้วเดินเข้ามายังตงฟางจัวทีละก้าวละก้าว
“แก แกอย่าฆ่าฉันนะ! อย่าลืมว่า ฉันเป็นคนของตระกูลตงฟาง ถ้าแกกล้าฆ่าฉันละก็ หลี่ฝาง! ปู่ของฉันจะไม่ปล่อยแกไว้แน่!”
ร่างของตงฟางจัวก็อ่อนตัวล้มลงไปกับพื้น ตงฟางจัวก็เป็นยอดฝีมือที่ได้ผ่านการฝึกฝนมาหลายปีแล้วเช่นกัน แต่ว่าตอนนี้พลังที่แผ่ซ่านออกจากตัวของหลี่ฝางนั้นมันน่ากลัวเกินไป ทำลายขีดความอดกลั้นภายในจิตใจของตงฟางจัวไปอย่างง่ายดาย ทำให้เขาเกือบจะล่มสลายไป
“ ฮื้อ!”
เมื่อได้ยินคำพูดของตงฟางจัวแล้ว สีหน้าที่เย็นชาของหลี่ฝางก็แสดงความดุร้ายออกมาทันที ส่งเสียงฮื้อแล้วยื่นฝ่ามือออกไปอย่างรวดเร็ว ราวกับกรงเล็บเหยี่ยว แล้วบีบคอของตงฟางจัวไว้
ตงฟางจัวหายใจติดขัดทันที สีหน้าแดงก่ำ นัยน์ตาทั้งคู่แสดงความเจ็บปวดรวดร้าวมาก
“อย่าฆ่าฉัน ไม่เช่นนั้นตระกูลตงฟางจะไม่ปล่อยแกไปแน่!”
ตงฟางจัวพูดอย่างเจ็บปวดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง
“จะตายอยู่แล้วยังกล้ามาขู่ฉัน ตงฟางจัว แกนี่ช่างห้าวหาญนักนะ งั้นฉันก็จะส่งแกลงไปห้าวหาญที่ขุมนรกก็แล้วกันนะ!”
“แก๊ก!”
คำพูดที่เยือกเย็นของหลี่ฝาง ราวกับลมหนาวที่มาจากขุมนรก พัดเข้ามาในใจของตงฟางจัว หลี่ฝางออกแรงบิดข้อมือ ก็บิดคอของตงฟางจัวจนหักไปเลย
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันจะค่อยๆจัดการตระกูลตงฟางให้ราบคาบไปเลย แกเป็นคนแรก!”
หลี่ฝางโยนศพของตงฟางจัวไปอีกด้านหนึ่ง แล้วเดินไปยังข้างลำตัวของชายผิวดำที่ยังมีลมหายใจอยู่นั้น ใช้ขาเหยียบลงไปหนึ่งที ก็ทำให้ชีวิตของชายผิวดำนั้นจบสิ้นลงไปในที่สุด
เมื่อสังหารชายผิวดำแล้ว หลี่ฝางไม่ได้พูดอะไร แต่กลับยืนอยู่ตรงนั้นอย่างเงียบๆ หวนนึกถึงการต่อสู้ที่ผ่านมาเมื่อครู่
แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่นึกไม่ถึงเลยว่า เขาสามารถก้าวหน้าได้เร็วถึงเพียงนี้ ถ้าหากเป็นเมื่อหนึ่งเดือนที่แล้ว พวกคนที่เขาเพิ่งฆ่าตายเมื่อครู่นั้นแต่ละคนสามารถจะสังหารตัวเองได้อย่างง่ายดาย แต่ว่าตอนนี้พวกเขาล้วนตายด้วยน้ำมือของหลี่ฝางกันทั้งนั้นเลย
นี่ก็คือความแข็งแกร่งของกำลังภายใน พลังแรงบริสุทธิ์ที่นำพาความแข็งแกร่งมาให้ ทำให้ผู้คนต้องหลงใหล
แต่ว่าในขณะเดียวกันในใจหลี่ฝางก็ยังมีความกังวลซ่อนอยู่ เขารู้สึกว่าตัวเองแข็งแกร่งมากแล้ว แต่แท้จริงแล้วพละกำลังของเขาอย่างมากก็ได้แค่ครึ่งหนึ่งของส้าวส้วยเท่านั้นเอง อีกทั้งส้าวส้วยก็เคยพูดไว้ว่าพละกำลังของท่านจวนทำให้เขารู้สึกหวาดผวา ถ้าเช่นนั้นแล้วอย่างท่านจวน หลอซ่าพวกเขาจะแข็งแกร่งถึงขั้นไหนกันล่ะ?
แล้วผู้กล้าแกร่งพวกนี้ถูกกักตัวในโซนปีศาจแล้วจะอันตรายขนาดไหนกัน?
วินาทีนี้หลี่ฝางรู้สึกว่าตัวเองเหมือนกบในกะลา เมื่อก่อนท้องฟ้าที่เขาเคยเห็นมันช่างคับแคบเหลือเกิน อีกทั้งแทบจะพูดได้ว่าเขาเป็นเพียงแค่คุณชายเจ้าสำราญที่อาศัยแต่ตระกูลตัวเองก็ไม่มากเกินไป แต่ตอนนี้หลังจากที่มีพละกำลังอันแข็งแกร่งนี้แล้ว โลกของหลี่ฝางก็เริ่มเปิดกว้างมากยิ่งขึ้น ทำให้เขาได้มองเห็นสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในโลกใบนี้ ตลอดจนได้เห็นทิวทัศน์ที่สวยงามมากยิ่งขึ้นด้วย
หลังจากได้สติกลับคืนมา หลี่ฝางก็มองไปยังคนที่ยังมีชีวิตเหลืออยู่เพียงคนเดียว ตงฟางเย่น
เธอตอนนี้ไม่พูดอะไรเลย สีหน้าขาวซีดนั่งอยู่บนรถเข็น ไม่พูดไม่จา เพียงแต่มือของเธอจับที่เท้าแขนของรถเข็นไว้แน่น ข้อกระดูกมือสะท้อนความไม่สงบนิ่งภายในจิตใจของเธอออกมา
เมื่อรู้สึกว่าหลี่ฝางกำลังมองเธออยู่ ตงฟางเย่นก็ไม่นิ่งเฉยอีกต่อไป พูดด้วยรอยยิ้มเศร้าสร้อยว่า “พวกเราแพ้แล้ว หลี่ฝาง ทุกคนต่างดูถูกคุณ ตอนนี้คุณเป็นอัจฉริยะแห่งวงการต่อสู้อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว พรสวรรค์อย่างที่พวกเรามีอยู่นั้นเมื่อเทียบกับคุณแล้วก็เหมือนขยะที่ไร้ค่า”
หลี่ฝางก็หัวเราะ “นี่คุณกำลังพูดยกยอฉันเหรอ?”
ตงฟางเย่นส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ไม่หรอก ฉันพูดตามความจริง อีกอย่างฉันก็ไม่คิดว่าจะอาศัยพูดเอาใจคุณแล้วจะรักษาชีวิตของตัวเองไว้ได้ จะฆ่าจะแกง ก็แล้วแต่คุณเลย”
พูดจบตงฟางเย่นก็หลับตาลง สีหน้าเรียบเฉย แต่ว่าขนตาที่ยาวนั้นสั่นไหวอยู่ตลอด สะท้อนความหวาดกลัวในใจของเธอออกมา
หลี่ฝางหัวเราะแฮๆ “ฉันจำได้ว่าตอนที่พวกเราพบหน้ากันคราวก่อนเคยพูดว่า คุณเป็นคนของฉันแล้ว จะช่วยทำงานให้ฉัน แล้วยังไงล่ะ พอได้กลับไปอยู่กับบ้านตระกูลตงฟาง ก็ไม่รักษาคำพูดแล้วเหรอ?”
ตงฟางเย่นลืมตาขึ้นมา ถามอย่างประหลาดใจว่า “คุณไม่ฆ่าฉันเหรอ?”
น้ำเสียงของเธออดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นบ้าง อย่างน้อยถ้าหากยังสามารถมีชีวิตอยู่รอดได้ ก็ไม่มีใครอยากจะตายหรอก
เธอยังคิดว่า คราวนี้ที่ลอบสังหารหลี่ฝางนั้น เขาจะต้องไม่ปล่อยตัวเองอย่างแน่นอน ถ้าพูดอย่างเป็นธรรม หากเธอเป็นหลี่ฝางละก็ จะไม่มีทางที่จะปล่อยตัวเองที่เคยนับเป็น “พวกเดียวกัน”คนนี้เหมือนกัน นึกไม่ถึงว่าคำพูดของหลี่ฝางยังแฝงความหมายที่จะปล่อยเธอไปอีก
“ฉันไม่ฆ่าคุณหรอก กว่าจะรับลูกน้องคนหนึ่งมาได้ไม่ใช่ง่ายเลย แล้วยังสะสวยขนาดนี้ ฉันจะฆ่าลงคอได้อย่างไรกันล่ะ?”
หลี่ฝางหัวเราะแล้วเดินตรงเข้าไปยื่นมือไปลูบแก้มใสวิ๊งของตงฟางเย่น แล้วยังทะเล้นหยิกแก้มเธอไปหนึ่งที
ตงฟางเย่นขมวดคิ้ว คิดอยากจะหลบแต่ก็หลบไม่พ้น จึงพูดด้วยความรังเกียจว่า “ถึงแม้ฉันจะตกลงฟังคำสั่งคุณ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณสามารถทำอะไรกับฉันก็ได้นะ ถ้าหากคุณคิดจะรังแกฉันละก็ ฉันจะยอมฆ่าตัวตายอยู่ตรงหน้าคุณเลย”
“เอาเถอะ ฉันเพียงแต่ล้อเล่นเท่านั้น ไม่คิดจะทำอะไรคุณหรอก” หลี่ฝางสะบัดมือด้วยความเสียดาย หวนนึกถึงความรู้สึกตลกที่หลงเหลืออยู่ตรงนิ้วมือตัวเอง
เขารู้ว่าคนอย่างตงฟางเย่นนั้น เป็นคนที่เห็นคุณค่าบางสิ่งบางอย่างมากกว่าชีวิตของตัวเองจริงๆ คำพูดเมื่อครู่ของเธอก็เป็นการพูดที่จริงจังแน่นอน ส่วนตัวเองตอนนี้ยังไม่อยากให้ตงฟางเย่นตาย หากมีตงฟางเย่นอยู่ในกำมือ ก็ยังสามารถช่วยเขาทำงานอะไรได้อีกหลายอย่าง เงื่อนไขสำคัญคือเธอจะยอมเชื่อฟังอย่างไม่ขัดขืนจริงเหรอ
แต่ว่าตอนนี้ก็ได้รับลูกน้องคนนี้ไว้แล้ว ปัญหาคือจะทำอย่างไรให้เธอยอมเชื่อฟังคำสั่งของตัวเองแต่โดยดี ในเวลานี้ทำให้หลี่ฝางต้องลำบากใจเสียแล้ว

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

พ่อแม่ที่หายตัวไปหลายปีจู่ๆ ก็โทรมา บอกว่าตัวเองเป็นบุคคลที่รวยที่สุดของดูไบ………….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset