Omiai Shitakunakattanode, Muri Nandai na Jouken wo Tsuketara Doukyuusei ga Kita Ken ni Tsuite – ตอนที่ 4: การดูเเลของคู่หมั้น

chapter 4

“อึก!”

 

“ระวัง!”

 

ยูซูรุเดินโซเซไปมาจนจะล้ม แต่ต้องขอบคุณอาริสะที่เข้ามาประคองได้ทัน ทำให้ยูซุรุไม่ล้มลงไปจูบกับพื้น

 

แต่…

 

“คุณโอเคไหม?”

 

“อะ โอ้…ขอบคุณ” (ผมคิดว่ามีบางอย่างสัมผัสใบหน้าของผม)

 

ขณะลุกขึ้น ยูซุรุ คิดถึง “เบาะนุ่ม” ที่โดนใบหน้าของเขา

 

โชคดีที่อาริสะไม่ได้สังเกตหรือสนใจเพียง

 

(กลิ่นหอม และ…นุ่มมาก)

 

ขณะพยุงตัวเองด้วยไม้ค้ำยันที่ได้รับจากอาริสะ  

 

 

“รู้สึกเดินยากนิดหน่อย แต่ก็ไม่เป็นไร ผมไม่อยากรบกวนเธอ”

 

ที่สำคัญ …ข่าวลือแปลกๆ จะเริ่มแพร่กระจาย ถ้าอาริสะเริ่มดูแลเรา

 

 

ถ้ามีใครเห็นอาริสะร่วมกับเรา เขาอาจจะตีความความสัมพันธ์ของเราผิด และทั้งโรงเรียนก็จะรู้เรื่องหมั้นของเรา ที่โรงเรียนมีนักเรียนจำนวนมากที่ใกล้ชิดกับครอบครัวทาคาเสะกาวะ

 

 

ถ้ามีคนเริ่มพูดข่าวลือเเล้วก็อยากที่จะหยุดไว้ เราจะเป็นศูนย์กลางของความสนใจที่โรงเรียนในพริบตา

 

เราก็ปฏิเสธไม่ได้ด้วย เมื่อวานเราก็ดิ้นรนอยู่คนเดียวในห้อง

 

 

“ฉันแค่ไม่อยากติดค้างอะไรคุณ ให้ฉันตอบแทนคุณเถอะ”

 

 

“แต่เธอรู้ไหม ถ้ามีคนเห็นเราอยู่ด้วยกัน…”

 

 

“วางใจเถอะ ทาคาเสะกาวะซัง ฉันเข้าใจ. ฉันก็ไม่อยากให้ใครมาเริ่มข่าวลือแปลกๆ เหมือนกัน เมื่อคุณไปโรงเรียน ฉันจะช่วยคุณจนกว่าคุณจะออกจากอพาร์ตเมนต์ ถ้าทำอย่างนั้นเราจะไม่ถูกนักเรียนคนอื่นเห็นใช่ไหม”  

 

 

“นั่นสินะ … ก็ได้ ขอบคุณ”

 

 

แม้ว่าเราจะปฏิเสธเธอ เธอก็คงจะตามเรามา ก็เลยตัดสินใจขอยืมความช่วยเหลือจากเธอ อันที่จริง เราเองกำลังประสบปัญหาเพียงกดสวิตช์บนลิฟต์ จึงรู้สึกขอบคุณที่เธอช่วยเราตอนที่ออกจากอพาร์ตเมนต์

 

 

“งั้นฉันจะไปก่อนนะ …ไม่เป็นไรใช่ไหม”

 

 

“อือ ไม่เป็นไร”

 

 

ยูซูรุ อยากให้ อาริสะไปก่อน

เพราะถ้าเดินจากอพาร์ตเมนต์ของ ยูซูรุ ไปโรงเรียนนั้นใกล้ทำให้มีนักเรียนของโรงเรียนเดินผ่านตลอด

 

“ก่อนหน้านั้นฉันขอแลกที่ติดต่อก่อนได้ไหมคะ”

 

“ลองคิดดู เรายังไม่ได้แลกเปลี่ยนที่ติดต่อกันเลย”

 

ยูซูรุ พยักหน้า

 

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมือของเราต้องจับไม้ค้ำยัน เราจึงขอให้อาริสาหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าแล้วปล่อยให้เธอทำ

 

 

“เสร็จแล้วค่ะ ไว้ติดต่อฉันตอนคุณออกจากโรงเรียน”

 

 

“อื้ม เข้าใจเเล้ว”

 

 

อาริสะโค้งคำนับด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ใดๆและมุ่งหน้าไปโรงเรียนโดยเร็ว

 

จากนั้น ยูซูรุ ก็ไปโรงเรียนอย่างสบาย ๆ และระมัดระวังในขณะที่ใช้ไม้ค้ำยัน

 

………………………………………

 

 

เพื่อนร่วมชั้นของเราแปลกใจมากเมื่อเห็นเรามาที่โรงเรียนโดยใช้ไม้ค้ำยัน …พวกเขาไม่ไล่ตาม

เมื่อเราอธิบายว่ามันเป็นเพียงอาการขาแพลงเล็กน้อย

 

พักกลางวัน

 

ยูซูรุ กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะในห้องเรียนพร้อมกับเพื่อนๆของเขา

 

“เฮ้ รับนี่ไป ขนมปังตามที่ขอ”

 

“อื้ม ขอบคุณนะ”

 

 

โซอิจิโร เพื่อนคนหนึ่งของยูซูรุ โยนขนมปังที่ยูซูรุขอไป

จากนั้นเพื่อนอีกคนวางชาที่ซื้อไว้บนโต๊ะของ ยูซูรุ

 

“เเล้ว…นายไปทำอะไรมาถึงขาเเเพลง”

 

 

เพื่อนนิสัยไม่ดีอีกคนหนึ่งของยูซูรุ เรียวเซ็นจิ เซย์ ถามฉัน เขาเป็นนักเรียนที่ให้ความรู้สึกผู้ชายเจ้าชู้ เเถม

เขายังสวมเครื่องแบบเหมือน ยูซูรุและโซอิจิโรเล็กน้อย แต่ … นอกจากนี้ เขามีสร้อยคอสีดำห้อยอยู่ที่คอของเขา

 

 

การแต่งกายของโรงเรียนมัธยมนี้คือ “การแต่งกายและทรงผมที่เหมาะสมสำหรับนักเรียนมัธยมปลาย” จึงไม่ถือเป็นการละเมิดกฎของโรงเรียน

 

 

“ฉันออกไปซื้อขนมปังให้นายจากโรงอาหารเพราะนายบาดเจ็บ ตอบมาเถอะ นายต้องตอบฉัน!”

 

โซอิจิโร่ก็นั่งลงและถามยูซูรุเกี่ยวกับเรื่องนี้

 

ยูซูรุ โซอิจิโร่ และเซย์

 

 

สามคนนี้สนิทกันมากและพวกเขามักจะอยู่ด้วยกันเสมอ

 

อันที่จริง พวกเขาสามคนอยู่คนละห้องกัน พวกเขามักจะกินที่โรงอาหาร แต่เนื่องจากอาการบาดเจ็บของ ยูซูรุ พวกเขาตัดสินใจกินที่ห้องเรียนของ ยูซูรุ

 

 

“ก็… มีแมวอยู่บนต้นไม้เลยไปช่วย มันเป็นอาการบาดเจ็บที่มีเกียรติ”

 

เมื่อยูซูรุตอบอย่างนั้นให้พวกเขาฟัง

 

อย่างแรกที่โซอิจิโระพูดออกมา

 

เซย์ ก็หัวเราะออกมาในขณะที่ชี้นิ้วมาที่ฉัน

 

“นี่คือสิ่งที่ทำให้นายบาดเจ็บสินะ”

 

“ไม่แปลกใจเลยที่นายจะโง่!”

 

“เงียบไปเลย…”

 

“…มันคงจะเกลียดที่จะได้รับการช่วยเหลือจากนาย”(ช่วยเหลือเเมว)

 

“นายถูกแมวทิ้ง! มันตลกเกินไปเเล้ว”

 

โซอิจิโรและเซย์หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ส่วนยูซูรุก็พ่นลมหายใจเเละกอดอก

 

“ก…ก็อย่าโกรธสิ ฉันขอโทษ…”

 

“มันตลกเกินไป”

 

“ฉันไม่คิดอย่างนั้นนะ”

 

สุภาษิต “ชอบให้เหมือน” แวบเข้ามาในใจเราครู่หนึ่ง แต่เราขยำมันและโยนมันออกไป สองคนนี้ยังคงหัวเราะกันต่อไป แต่ไม่นานก็เบื่อและหยิบยกประเด็นอื่นขึ้นมา

 

“ยังไงก็ตาม ยูซึรุ เกิดอะไรขึ้นกับงานหมั้น”

 

 

“อ๋อ คุณสาวสวยผมบลอนด์ ตาสีฟ้า ผิวขาวซีด สาวหน้าอกโตใช่ไหม? สาวสวยมาตามคำสั่งเหรอ?”

 

“เฮ้ อย่าพูดออกมาเสียงดังสิ…”

 

อาริสะก็อยู่ในห้องเรียนนี้เช่นกัน กำลังรับประทานอาหารกลางวันกับเพื่อนร่วมชั้นของเธอ  

“สาวสวยผมสีบลอนด์ ตาสีฟ้า ผิวสีซีด” ก็ดีนะ แต่เราไม่อยากให้เธอได้ยินส่วน “สาวหน้าอกใหญ่”

 

“สรุปว่าไม่ได้มา…มาไม่ได้ใช่มะ”

 

“มันน่าเบื่อ”

 

“อืม บอกว่าเธอมาเเม้ว่ามันเป็นเรื่องโกหกก็ตาม”

 

เรื่องของการแต่งงานของ ยูซูรุ เป็นแค่เรื่องตลกสำหรับพวกเขา ซึ่งเป็นปัญหาของคนอื่น

 

…แน่นอน สำหรับเรามันเป็นสิ่งที่ดี เพราะมันจะเป็นปัญหาหากพวกเขาเอาจริงเอาจัง

 

(ไม่มีทางที่เราจะพูดว่า ฉัน”หมั้น” กับอาริสะ ยูกิชิโระ เเม้ว่าจะเป็นเรื่องจริงก็ตาม)

 

ในตอนนี้ เราไม่ควรจะพูดออกไป…เรานึกภาพออกเลยว่าจะถูกเยาะเย้ย ถ้าเราบอกความจริงกับพวกเขา

 

 

“ที่สำคัญกว่านั้น โซอิจิโร่ เกิดอะไรขึ้นกับอายากะจังและจิฮารุจัง?”

 

“ไม่ ไม่ เดี๋ยวก่อน จู่ๆ ก็เปลี่ยนเรื่องเลยเลยนะ”  

 

บังคับให้เปลี่ยนการสนทนาของ ยูซูรุ หลีกเลี่ยงการไล่ตามต่อไป

 

………………………………………………

 

หลังเลิกเรียน.

 

 

ยูซูรุขอให้เพื่อนๆ ช่วยเขาลงบันไดแล้ว ยูซูรุก็ไปที่อพาร์ตเมนต์คนเดียว

 

เมื่อเขากลับถึงบ้าน หน้าอพาร์ตเมนต์ อาริสะกำลังรอเขาอยู่

 

“ฉันถือกระเป๋าให้เองค่ะ”

 

“ขอบคุณ.”

 

ยูซูรุทำตามความตั้งใจของอาริสะอย่างเชื่อฟังและขอให้เธอพาไปที่ประตู แม้ว่าจะเป็นลิฟต์  

แต่ถ้ามีคนช่วยเหลือก็จะง่ายกว่า และที่สำคัญกว่านั้น รู้สึกปลอดภัยถ้ามีคนอยู่ข้างกาย

 

“ยูกิชิโระ วันนี้พอแค่นี้หล่ะ…”

 

“ให้ฉันช่วยถอดรองเท้าไหม?”

….

 

“มีกุญแจอยู่ในกระเป๋าเสื้อของผม”

 

เขาให้กุญแจกับเธอ เธออาจจะช่วยจนถึงที่สุดเพราะความเมตตา

 

อาริสะเปิดประตูด้วยท่าทางที่สงบตามปกติของเธอ

 

…แต่การแสดงออกของเธอหยุดนิ่งในทันที

 

เธอชะงักเเละดวงตาก็ได้เบิกกว้าง

 

“มีอะไรเหรอยูกิชิโระ?”

 

“ห้องนี้คืออะไร? …ไม่มีที่แม้แต่จะก้าว”

 

อาริสะขมวดคิ้ว เมื่อเห็นห้องนั้นเกลื่อนไปด้วยขยะ อาหารขยะ และเอกสารที่แจก ยูซึรุไม่ค่อยเก่งเรื่องความสะอาดและจัดของเท่าไหร่

 

“ตอนนี้ผมกำลังจัดระเบียบในแบบของตัวเอง ผมรู้ว่าสิ่งของของผมอยู่ที่ไหน…”

 

“ไม่ว่าคุณจะเข้าใจสถานการณ์ของคุณจริงๆ หรือไม่ คุณทาคาเสะกาวะ แต่มันอันตรายเกินไปสำหรับคุณที่จะเดินไปรอบๆ โดยที่มีไม้ค้ำยัน”

 

อาริสะพูดอย่างนั้นขณะช่วยฉันถอดรองเท้า  

ต้องขอบคุณอาริสะที่ทำให้เราสามารถเข้าไปในห้องได้โดยไม่ยาก

 

“ทาคาเสะกาวะซัง”

 

“หืม?”

 

“อย่างน้อยคุณควรเช็ดปลายไม้ค้ำก่อนเข้าห้อง มันสกปรกค่ะ”

 

อาริสะพูดอย่างนั้นขณะที่เธอหยิบทิชชู่เปียกออกจากกระเป๋าและเช็ดปลายไม้ค้ำอย่างระมัดระวัง แล้วเธอก็ถอนหายใจ…

 

“ดูแลตัวเองได้ไม่ใช่เหรอ”

 

“เสียใจด้วย เเต่ผมไม่ค่อยเเคร์”

 

“ได้โปรดดูแลตัวเอง!…ฉันจะไปเเล้ว โอเคไหม”

 

อาริสะพูดด้วยความกังวลอย่างสุดซึ้งขณะมองดูห้องที่โดนทำลายล้างและไม้ค้ำยันของเรา  ยูซูรุเดินไปรอบ ๆ ห้องเพื่อแสดงว่าไม่มีปัญหาโดยเฉพาะเพื่อให้อาริสะมั่นใจ

 

 

“ไม่เป็นไร นี่คือห้องของผม ผมจึงรู้ภูมิประเทศเป็นอย่างดี”

 

 

ขณะที่ยูซูรุกำลังสาธิต เขาก็เหยียบแผ่นกระดาษซึ่งทำให้เขาลื่นล้มและร่างกายของเขาโน้มตัวลง

 

“…ไม่เป็นๆไรใช่มั้ย!”

 

โชคดีที่อาริสะอยู่ข้างๆเลยพยุงเราทันเวลา

 

ตอนนี้ ยูซูรุรู้สึกร้อนใจ เเละเริ่มรู้สึกว่ามีเหงือไหลออกจากร่างกาย

 

“อ่า… ฉันไม่สามารถปล่อยให้คุณอยู่คนเดียวแบบนี้ได้ ฉันจะทำความสะอาดห้อง ตกลงไหม”

 

มีบางอย่างเกี่ยวกับอาริสะที่ทำให้เธอไม่อาจปฏิเสธได้

 

เป็นเรื่องน่าสมเพชที่มีเพื่อนร่วมชั้นสาวมาทำความสะอาดห้อง ดังนั้นเราอยากจะหลีกเลี่ยง แต่เราก็ปฎิเสธความจริงที่ว่าเกือบจะล้มหน้าทิ่มก่อนหน้านี้ไม่ได้

 

“ขอบคุณครับ”

 

 

ยูซูรุไม่มีทางเลือกนอกจากพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง

 

=====

 

FB : องค์หญิงผู้ชื่นชอบน้ำตาล

Omiai Shitakunakattanode, Muri Nandai na Jouken wo Tsuketara Doukyuusei ga Kita Ken ni Tsuite

Omiai Shitakunakattanode, Muri Nandai na Jouken wo Tsuketara Doukyuusei ga Kita Ken ni Tsuite

Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง Omiai Shitakunakattanode, Muri Nandai na Jouken wo Tsuketara Doukyuusei ga Kita Ken ni Tsuiteบนดาดฟ้าของโรงเรียนมัธยมปลายเเห่งหนึ่ง หลังเลิกเรียน. เป็นสถานที่เขตหวงห้ามที่ไม่ให้นักเรียนเข้า เเต่มีนักเรียนสองคนคุย มองเเวบเเรกดูชุดเครื่องเเบบพวกเขาไม่เรียบร้อย “เฮ้อ” หนึ่งในนั้น คือ ยูซูรุ ทาคาเสะกาวะ เด็กชายผมสีเข้มและตาสีฟ้าถอนหายใจเฮือกใหญ่

Recommended Series

Comment

Options

not work with dark mode
Reset