One Man Army – ตอนที่ 38 หาทอง (1)

ทะเลสาบที่ซางฮยอคตกลงมาถูกเรียกว่าทะเลสาบแห่งการเริ่มต้นซึ่งมันจะมีผู้เล่นนับไม่ถ้วนตกลงมาที่ทะเลสาบแห่งนี้ในอนาคต และหมู่บ้านชั่วคราวที่ผู้เล่นสร้างขึ้นมาอยู่รอบข้างในอนาคต

ในเวลานั้นผู้เล่นจะเปิดแผงลอยขายแผนที่ซึ่งถูกวาดโดยผู้เล่นหรือไอเทมที่จำเป็นสำหรับการเดินทางในทะเลทราย

แผนที่ที่พวกเขาจะขายคือแผนที่ของทะเลทรายโลกันต์ที่เชื่อมต่อกับทะเลสาบแห่งการเริ่มต้น

EL นั้นไม่มีระบบแผนที่โลก ดังนั้นผู้เล่นจึงต้องวาดแผนที่ขึ้นมาเอง

โชคดีที่มีระบบช่วยวาดแผนที่ขึ้นมา แน่นอนว่าการวาดแผนที่จะต้องมีสกิลพื้นฐาน ‘วาดแผนที่’ และมันจะวาดอัตโนมัติโดยการเดินไปทั่วพื้นที่ด้วยเท้า

เนื่องจากเขามีเวลามากมาย ซางฮยอคจึงตัดสินใจจะวาดแผนที่และเดินทางไปยังหมู่บ้านแรกในทะเลทรายโลกันต์ ‘บลูโอเอซิส’

มันเป็นเรื่องยากอย่างมากที่จะหาหมู่บ้านในทะเลทรายเจอโดยไม่แผยที่

ในชีวิตก่อนของเขา ผู้เล่นปาร์ตี้แรกที่เข้ามาในทะเลทรายโลกันต์นั้นใช้เวลา 10 วันในการค้นหาหมู่บ้านบลูโอเอซิส

อย่างไรก็ตามซางฮยอคฝ่าความร้อนสุดขั้วและเหล่ามอนเตอร์จนไปถึงหมู่บ้านโอเอซิสโดยใช้เวลาเพียงแค่ 4 ชั่วโมงเท่านั้น

เนื่องจากทะเลทรายโลกันต์นั้นเป็นสถานทีที่เขาเดินทางไปรอบๆ หลายครั้งในชีวิตก่อนของเขา มันจึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะหาหมู่บ้าน

หลังจากมาถึงหมู่บ้านบลูโอเอซิส ซางฮยอคก็มาร์กที่นี่ในมาร์กกิ้งบุ๊คของเขา มันเป็นเรื่องพื้นฐานสำหรับผู้เล่นทุกคนใน EL ที่จะมาร์กพื้นที่หลังจากที่พบพื้นที่ต่างๆ

มาร์กกิ้งบุ๊คที่ซางฮยอคครอบครองอยู่นั้นเป็นมาร์กกิ้งบุ๊คระดับสูงสุดที่ขายในเมืองฟอลคอน แต่มันมาร์กพื้นที่ได้เพียง 15 จุดเท่านั้น

มันมีมาร์กกิ้งบุ๊คพิเศษที่ปรากฏออกมาภายหลังซึ่งจะมันจะสามารถมาร์กจุดได้มากขึ้นหรือมีฟังก์ชั่นพิเศษ แต่มันหายากมาก

มาร์กกิ้งบุ๊คระดับต่ำที่ผู้เล่นส่วนใหญ่ครอบครองอยู่มาร์กพื้นที่ได้เพียง 4 จุดเท่านั้น ดังนั้นมาร์กกิ้งบุ๊คจึงถือว่าเป็นมาร์กกิ้งบุ๊คระดับสูง

ฟริ้งงงงง!

ซางฮยอคใช้หินมานาระดับต่ำสุดเพื่อมาร์กพื้นที่ก่อนที่จะมองไปรอบๆ หมู่บ้านบลูโอเอซิสนั้นเป็นหมู่บ้านขนาดเล็กที่มีขนาดเล็กกว่าเมืองฟอลคอน 20 เท่า

แน่นอนว่ามันไม่ใช่เพราะว่าหมู่บ้านบลูโอเอซิสนั้นเล็กเกินไป แต่เป็นเพราะเมืองฟอลคอนนั้นขนาดใหญ่เกินไป

ซางฮยอคมองไปรอบๆ เพื่อดูว่ามีอะไรเปลี่ยนไปจากในชีวิตก่อนของเขาและเมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนไปจึงมุ่งหน้าไปยังคลังเก็บของ

แม้ว่าจะอยู่คนละทวีป แต่คลังเก็บของสี่มิตินั้นจะเชื่อมต่อกัน ดังนั้นเมื่อเขามาถึงคลังเก็บของ หนังสือสกิลและไอเทมที่เขารวบรวมมาก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าเขา

‘ถ้าอย่างนั้นฉันควรเริ่มเลยมั้ย?’

หนึ่งในเหตุผลหลักที่เขาพยายามมาถึงที่นี่ก่อนใครนั้นคือการหาเงินก้อนใหญ่

‘การสังเคราะห์และการเสริมพลัง…… ถ้าฉันสามารถผูกขาดมันได้ ฉันจะได้รับเงินมหาศาล!’

การผูกขาดและการค้นพบครั้งแรก

นี่คือสิ่งที่ซางฮยอคตั้งเป้าไว้

***

ซางฮยอคปล่อยข่าวลือเมื่อไม่กี่วันก่อนด้วยเส้นทางแห่งเงาของเมืองฟอลคอน ผู้เล่นมักคิดว่าข่าวลือที่ได้รับจาก NPC นั้นคือความจริง ดังนั้นจึงไม่มีใครคิดว่ามันคือข่าวลือ

‘หนังสือสกิลนั้นสามารถสังเคราะห์และเสริมพลังได้’

‘แม้กระทั่งไอเทมก็สามารถเสริมพลังได้’

‘หนังสือสกิลที่เสริมพลังนั้นจะดีกว่าสกิลปกติ’

ถ้าเขาใช้สกิล ‘จัดการข้อมูล’ ซึ่งเป็นหนึ่งในสกิลที่เขาสามารถใช้ได้ผ่านเส้นทางแห่งเงา มันเป็นไปได้ที่จะสร้างข่าวลือผ่าน NPC

ต้องขอบคุณสกิลนี้ หัวข้อที่เกี่ยวกับการสังเคราะห์และเสริมพลังจึงกลายเป็นประเด็นถกเถียงในหมู่ผู้เล่น

ซางฮยอคเอาหนังสือสกิลกับไอเทมออกมา และเดินไปหา NPC นักสังเคราะห์ที่อยู่กลางหมู่บ้าน

โดยปกติแล้วเขาต้องเพิ่มค่าความสัมพันธ์กับ NPC ด้วยการพูดคุยกับเขาจนค่าความสัมพันธ์เป็น ‘คนคุ้นเคย’ เพื่อขอให้ NPC สังเคราะห์หรือเสริมพลังให้ และการทำเช่นนั้นจะต้องใช้เวลาหลายวัน

อย่างไรก็ตามซางฮยอคข้ามขั้นตอนทั้งหมดด้วยสิทธิพิเศษของ ‘ดยุคเงาแห่งเมืองฟอลคอน’ ทำให้เขาสามารถขอให้ NPC สังเคราะห์และเสริมพลังให้ได้ทันที

“โอ้นักเดินทางต่างมิติ คุณต้องการอะไรเหรอ?”

“ฉันต้องการสังเคราะห์หนังสือสกิลพวกนี้”

ซางฮยอคหยิบหนังสือสกิล ‘ว่ายน้ำ’ กับหนังสือสกิล ‘วิ่ง’ ออกมา และยื่นให้นักสังเคราะห์

การสังเคราะห์หนังสือสกิลทั้งสองนี้จะได้รับหนังสือสกิล ‘การว่ายน้ำด้วยความเร็วสูง’ ซึ่งผู้เล่นเกือบทุกคนใช้มันในชีวิตก่อนของเขา สกิลที่เกี่ยวข้องกับการว่ายน้ำเป็นสิ่งจำเป็นใน EL ดังนั้นผู้เล่นทุกคนจึงเรียนรู้สกิลการว่ายน้ำด้วยความเร็วสูง

ซางฮยอคสร้างหนังสือสกิลการว่ายน้ำด้วยความเร็วสูงมาประมาณ 60 เล่ม จากนั้นเขาก็สังเคราะห์พวกมันให้เป็นหนังสือสกิล ‘การว่ายน้ำด้วยความเร็วสูง +2’ มาประมาณ 20 เล่ม และสังเคราะห์หนังสือสกิล ‘การว่ายน้ำด้วยความเร็วสูง +3’ ประมาณ 20 เล่ม

เขาสร้างหนังสือสกิลการว่ายน้ำด้วยความเร็วสูง +3 ขึ้นมา 20 เล่มจากการเสริมพลังหนังสือสกิลการว่ายน้ำด้วยความเร็วสูง 60 เล่ม และเขาการสร้างพวกมันให้เป็น +3 เนื่องจากการเสริมพลัง +4 นั้นมีโอกาสล้มเหลว

ค่าใช้จ่ายของการสังเคราะห์และเสริมพลังนั้นไม่ได้แพงมากนัก ดังนั้นผู้เล่นจึงสามารถทำมันได้ด้วยการใช้วัสดุและค่าความสัมพันธ์ที่เพียงพอ

เหตุผลที่เขาไม่เสริมพลังพวกมันเป็นเพราะเขาจะไม่ใช้พวกมัน แต่เขาจะขายพวกมันได้ทั้งหมด ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องเสียวัสดุเพื่อเสริมพลังพวกมันให้พวกมันมีระดับสูงสุด

หนังสือสกิลสามารถเสริมพลังได้ด้วยหนังสือสกิลประเภทเดียวกัน แต่การเสริมพลังไอเทมปกติจะต้องมีหินเสริมพลัง แต่ปัญหาก็คือหินเสริมพลังนั้นไม่สามารถหาได้ในดินแดนแห่งความมืด

สิ่งนี้สามารถหาได้ในทวีปใหม่เท่านั้น ดังนั้นแม้ว่าจะเป็นซางฮยอคแต่ก็ไม่สามารถเสริมพลังไอเทมได้ในช่วงนี้

อย่างไรก็ตามเขาเตรียมหนังสือสกิลมาจำนวนมากดังนั้นเขาจึงทำมันได้ ซางฮยอคสร้างหนังสือสกิลที่ถูกสังเคราะห์และเสริมพลังประมาณ 100 เล่ม จากนั้นเขาก็ใส่พวกมันไว้ในกระเป๋ามิติของเขาก่อนที่จะใช้สกิล ‘ย้อนกลับเมืองฟอลคอน’

เมืองฟอลคอนยังคงสงบสุขเหมือนอย่างเคย และยังไม่มีใครรู้เรื่องการไปทวีปใหม่ของซางฮยอค

ถ้าเรื่องนี้เป็นที่รู้กันทั่วโลกอินเทอร์เน็ตจะโกลาหล แต่ซางฮยอคไม่คิดจะบอกใครเกี่ยวกับเรื่องนี้

หลังจากที่มาถึงเมืองฟอลคอน ซางฮยอคก็ขายหนังสือสกิลที่ถูกสังเคราะห์และเสริมพลังที่ร้านฝากขายไอเทมเป็นการเรียกน้ำย่อย

แน่นอนว่าเขาขายพวกมันในราคาที่แพงมหาศาล

อัตรากำไรที่เขาจะได้รับอยู่ที่ประมาณ 2,000% ไม่ว่าหนังสือสกิลพื้นฐานจะมีราคาถูกแค่ไหน นี่ก็คือกำไรที่มากมายมหาศาล

อย่างไรก็ตามเขาเป็นคนเดียวที่ขายพวกมัน ดังนั้นเรื่องราคาจึงไม่สำคัญ

‘ฉันวางเหยื่อไว้แล้ว…… พวกเขาจึงจับเหยื่อเร็วแค่ไหนกันนะ?’

ซางฮยอคล็อกเอ้าท์ออกมาด้วยรอยยิ้ม

เขาวางแผนล็อกอินเข้าเกมหลังจากนี้อีกประมาณ 4 ชั่วโมง

หลังจากที่เขาล็อกเอ้าท์ออกมา เขาก็หลับเป็นเวลา 3 ชั่วโมง และจากนั้นเขาก็เปิดแท็ปเล็ตใขณะที่เขากำลังกินซีเรียลที่มีโภชนาการสูงพร้อมกับนม

“อืมมม…… เหมือนอย่างที่ฉันคิดไว้”

ซางฮยอคเห็นคลื่นที่เขาก่อไว้จากการโยนเหยื่อในช่วงที่เขาเข้า InGamez

[มีหนังสือสกิลที่ถูกสังเคราะห์และเสริมพลังขายในร้านฝากขายไอเทมในตอนนี้!!]

[โอ้ ทำไมมันแพงขนาดนี้?]

[ดูราคาสิ……. มันบ้ามากๆ]

[ว้าวววว…… มันคืออะไรเหรอ? ข่าวลือนั่นเป็นจริงเหรอ?]

[อะไรนะ! หนังสือสกิลสามารถสังเคราะห์และเสริมพลังได้จริงเหรอ? สุดยอดมาก!]

[หืม? มีคนซื้อไปหมดแล้ว!]

[อะไรนะ? พวกมันถูกซื้อไปไวมาก!]

[คนที่ซื้อต้องเป็นกิลด์ใหญ่อย่างแน่นอน พวกเขาสามารถซื้อไอเทมระดับแรร์จำนวนมาก คนธรรมดาอย่างฉันทำได้เพียงแค่มองพวกเขาซื้อเท่านั้น]

[ฉันซื้อมาได้หนึ่งเล่ม!]

[เฮ้ พิสูจน์สิ อย่ามาโกหกฉันเลย]

[ใครเป็นคนขายพวกมันกันนะ? คุณหาหนังสือสกิลที่ถูกสังเคราะห์และเสริมพลังมาจากไหน? ทำไมถึงไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับมันเลยล่ะ?]

[นั่นคือหนึ่งในเสน่ห์ของ EL]

……

……

ซางฮยอคพบว่าหนังสือสกิลที่ถูกสังเคราะห์และเสริมพลังนั้นถูกซื้อออกไปใน 10 นาทีหลังจากที่เขาขายพวกมัน

‘ว้าววว พวกเขาตอบสนองได้ไวกว่าที่ฉันคิดซะอีก ฉันควรเพิ่มราคาอีกดีมั้ยนะ?’

หนังสือสกิลทั้งห้านั้นเป็นเพียงเหยื่อล่อเท่านั้น ซางฮยอคยังคงเหลือหนังสือสกิลที่ถูกสังเคราะห์และเสริมพลังมากมาย

หลังจากที่ซางฮยอคกินข้าวและอาบน้ำเสร็จ เขาก็ล็อกอินเข้าเกมอีกครั้ง จากนั้นเขาก็ขายหนังสือสกิลอีก 5 เล่ม และเขาก็ขายพวกมันในราคาที่สูงกว่าก่อนหน้านี้

ซางฮยอคขายพวกมันและรออย่างใจเย็น หลังจากนั้นประมาณ 5 นาที หนังสือสกิลทั้ง 5 นั้นก็ถูกซื้อไปทั้งหมด

‘ว้าววว! นี่มันไวมาก!’

ผู้เล่นตอบสนองได้ไวกว่าที่ซางฮยอคคิดไว้ ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณซางฮยอคที่ปล่อยข่าวลือผ่าน NPC

ในความจริงมีผู้เล่นบางคนที่พยายามใช้วิธีเดียวกับซางฮยอคในชีวิตก่อนของเขา อย่างไรก็ตามในตอนนั้นเวลาที่ผู้เล่นไปถึงทวีปใหม่ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก และมันใช้เวลาค่อนข้างนานวก่าที่พวกเขาจึงค้นพบว่าหนังสือสกิลสามารถสังเคราะห์และเสริมพลังได้

ดังนั้นผู้ที่ซื้อหนังสกิลที่ถูกสังเคราะห์และเสริมพลังในเมืองฟอลคอนนั้นจึงมีเพียงแค่ผู้เล่นใหมและคนโง่เท่านั้น

ในตอนนั้นผู้เล่นส่วนใหญ่รู้ว่ามันเป็นไปได้ที่จะสังเคราะห์และเสริมพลังหนังสือสกิลอย่างไม่ยากเย็นในทวีปใหม่ ดังนั้นจึงไม่มีผู้เล่นซื้อหนังสือสกิลที่ถูกสังเคราะห์ที่มีราคาแพง

อย่างไรก็ตามสถานการณ์ในตอนนั้นแตกต่างจากในตอนนี้อย่างสิ้นเชิง

มีเวลาอย่างน้อย 2 เดือนกว่าที่ผู้เล่นคนอื่นจะมาถึงทวีปใหม่ได้ และต้องขอบคุณข่าวลือจากเส้นทางแห่งเงา หนังสือสกิลที่ถูกสังเคราะห์และเสริมพลังจึงได้รับความนิยมอย่างมาก

นี่เหมือนกับการขายอากาสบริสุทธิ์จากภูเขา

ซางฮยอคตั้งใจว่าจะไม่ปล่อยหนังสือสกิลทั้งหมดในวันแรก เพราะมันยังเหลือเวลาอีกมาก

“มันเป็นยังไงบ้าง? นายวิเคราะห์มันได้มั้ย?”

ช็อนอุง หัวหน้ากิลสกายอะบั๊ฟสกาย มองไปเพื่อนสนิทของเขาแทมิน

“ฉันบอกเลยว่าฉันไม่สามารถวิเคราะห์มันได้ด้วยสกิลวิญญาณ ‘วิเคราะห์’ ของฉันซึ่งมีสองเหตุผล….. มันถูกสร้างขึ้นจากสกิลที่ฉันไม่เคยเห็น หรือไม่ก็เกิดจากไอเทม”

“หนังสือสกิลที่ถูกสังเคราะห์และเสริมพลัง….. มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดจากไอเทมนะ”

“แน่นอน ดังนั้นจึงสรุปได้ว่ามันเกิดจากสกิลที่ฉันไม่รู้จัก”

ไม่เหมือนกับซ็อนที่เป็นนักเล่นเกมมืออาชีพ แทมินนั้นสนุกกับเกมในอีกแบบหนึ่ง ความสามารถพิเศษของเขาคือการวิเคราะห์เกม

โดยปกติแล้วเขามีความสุขกับการวิเคราะห์ใน EL ดังนั้นผลลัพธ์ก็คือเขาได้รับความรู้โบราณที่หายาก ‘ผู้ค้นหา’

“แล้วจะมีคนสร้างสิ่งนี้ด้วยสกิลที่เราไม่รู้จักได้จริงเหรอ?”

“น่าจะได้นะ…….”

“ว้าววว….. มันมีสกิลที่นายไม่รู้จักจริงเหรอ? นายวิเคราะห์เกมมามากกว่า 20 ชั่วโมงต่อวัน…… ฉันจะเชื่อได้ยังไงว่ามีคนที่วิเคราะห์เกมอย่างบ้าคลั่งยิ่งกว่านายได้อีก?”

“โลกกว้าวใหญ่มากและมีคนที่มีความสามารถอยู่มากมาย”

“แล้ว…… ถ้าอย่างนั้นเราควรซื้อมันใช่มั้ย?”

“ฉันไม่คิดว่าเราควรซื้อมัน”

“ฮ่ะ? ทำไมล่ะ? ฉันคิดว่ามันมีประโยชน์มากเลยนะ”

“มันมีประโยชน์จริงๆ นั้นแหละ แต่เมื่อฉันเห็นมัน ฉันมีความคิดเลยว่ามันมีคนผูกขาดมัน”

“จริงเหรอ? ถึงจะเป็นแบบนั้น แต่เราต้องซื้อหนังสือสกิลที่ดีแบบนี้อยู่ดีนั้นแหละ”

“เราจะซื้อมัน แต่ไม่ใช่ตอนนี้ แค่เชื่อฉันและรออีกไม่กี่เดือน…… แล้วราคาของมันจะต่ำลงมาก”

ช็อนอุงพยักหน้าอย่างช้าๆ เมื่อเขาเห็นสีหน้าที่เต็มไปด้วยความมั่นใจของแทมิน

“ฉันเชื่อนายเสมอ ถ้าอย่างนั้นฉันจะให้กิลด์เราติดตามเรื่องนี้ก็พอ”

ช็อนอุง หัวหน้ากิลด์หนึ่งในห้ากิลด์หลักของกิลด์ไลน์ทั้งห้าใน EL ‘สกาย’ ได้ตัดสินใจแล้ว ดังนั้นการตัดสินใจของเขาถูกถ่ายทอดไปทั่วทั้ง ‘สกายไลน์’

อย่างไรก็ตามเพียงเพราะเขาตัดสินใจเช่นนั้นไม่ได้หมายว่าความสมาชิกกิลด์ทั้งหมดจะทำตาม

กิลด์ไลน์อื่นๆ อีกสี่กิลด์นั้นกำลังซื้อหนังสือสกิลที่ถูกสังเคราะห์และเสริมพลัง

แต่ในท้ายที่สุดซางฮยอคก็เป็นผู้ชนะเพียงคนเดียว

One Man Army

One Man Army

OMA, 一人軍團, 일인군단
Score 7.6
Status: Ongoing Type: Author: Released: 2016 Native Language: Korean
อ่านนิยายเรื่อง One Man Armyซางฮยอคชายผู้ที่อายุเกือบจะ 40 ปี ได้รับการติดต่อจากบริษัทสกายเทเลคอมเพื่อช่วยทีมสกายกลายเป็นทีมที่ดีที่สุดภายในระยะเวลา 3 ปี หลังจากที่เขาได้ทำตามสัญญาได้สำเร็จ เขากลับถูกบริษัทที่เขาทุ่มเทให้ถูกอย่างทรยศ อย่างไรก็ตามเขาก็ตื่นขึ้นมาพบกับตัวเองในอายุ 18 ปี – หนึ่งปีก่อนการเปิดตัวเกม Eternal Life

Comment

Options

not work with dark mode
Reset