OPEN A CLINIC TO CULTIVATE MYSELF – ตอนที่ 7: A Wicked woman ผู้หญิงที่ดูโหดร้าย

Chapter 7: A Wicked woman ผู้หญิงที่ดูโหดร้าย

 

ในขณะที่ประตูถูกเปิดออกนั่นเอง พบผู้หญิงในชุดคลุมอยู่บ้านออกมาเปิดประตู

 

“นาย?” ผู้หญิงผมสั้นที่หนิงเถาเคยพูดด้วยเมื่อครั้งก่อนนั่นเอง

 

บังเอิญอะไรขนาดนี้! หนิงเถาไม่คิดเลยว่าเจียงเฮาคือผู้หญิงที่เคยเกือบเป็นลมและเขาก็ได้ช่วยเธอไว้ มิน่าละ ตอนที่เขาดูรูปโปรไฟล์เธอถึงดูเหมือนเกิดเดจาวู ถ้าหากว่ารูปในโปรไฟล์เธอตัดผมเหมือนเธอตอนนี้ละก็…..แค่ชำเลืองมอง หนิงเถาก็จำเธอได้แล้ว

 

“นี่พวกนายสองคนรู้จักกันหรอ?” เกอหมิงรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก

 

“เราเคยเจอกันบนถนนครั้งนึงหน่ะ” หนิงเถายิ้มและทักทายเธอ “ส-หวัดดีครับ คุณเจียง”

 

เจียงเฮาคว้าคอเสื้อของหนิงเถาทันทีทันใด “นายเป็นใครว่ะ? รู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่ที่นี่?!!!!”

 

ชัดเจนเลยว่าตอนที่หนิงเถาเจอเธอบนถนน แค่เขาสัมผัสเธอเล็กน้อยเธอก็ตอบสนองเหมือนตำรวจ

 

“พวกเรากำลังจะพูดเรื่องนั้นแหละ….ตอนนี้ผมรู้สึกถึงชีพจรคุณ และกำลังประเมินคุณอยู่” หนิงเถาพูดและคว้าข้อมือของเจียงเฮาทันที

 

เจียงเฮาพยายามขัดขืนแต่ก็ไม่สามารถที่จะสลัดหลุดออกได้

 

ความจริงแล้ว การจับชีพจรของเจียงเฮาเป็นแค่ฉากบังหน้า

 

หนิงเถากำลังระลึกถึงสิ่งที่เขาเคยอ่านเจอในหนังสือไร้ชื่อเล่มนั้น หลังจากนั้นหนิงเถาสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดที่แผ่ซ่านออกมา เขาเห็นเจียงเฮาแพร่ออร่าในสีต่างๆ และเขายังได้กลิ่นบางอย่างจากตัวของเจียงเฮาเข้าสู่โสตประสาทของเขาอย่างชัดเจน

 

จู่ๆหนิงเถาก็พูดออกมาว่า “คุณเจียงครับ การวินิจฉัยของผมคือ ไม่เพียงแต่ว่าคุณมีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำเท่านั้น (hypoglycemia) แต่คุณยังทนทุกข์กับแผลที่คุณถูกยิงบริเวณหลังของคุณเมื่อไม่นานมานี้อีกด้วย…ถ้าหากว่ากระสุนปืนเคลื่อนที่ไปด้านข้างอีกแค่ 2 เซนติเมตร มันอาจจะทำให้คุณตายได้เลย”

 

เจียงเฮารู้สึกช็อคกับคำวินิจฉัยของหนิงเถา เธอถูกยิงจริงๆในขณะปฏิบัติหน้าที่ แต่หนิงเถารู้ได้อย่างไร ขนาดแม่ของเธอเองยังไม่รู้เรื่องนี้ด้วยซ้ำ

 

สิ่งต่อมาที่หนิงเถาพูดยิ่งทำให้เธอช็อคยิ่งกว่า

 

“อาหารเย็นของคุณคืนนี้เป็น สเต็กเนื้อวัวราดพริกไทยดำ บร็อคโคลี่และไอศครีมวนิลลา” หนิงเถายังคงพูดต่อไป “แต่โชคไม่ดีนัก คุณมีโรคกระเพาะอาการอักเสบ ทำให้อาหารที่กินเข้าไปย่อยได้ไม่ดีนัก….ช่วงนี้มีอาการปวดท้องมากๆบ้างมั้ยครับ?”

 

“นี่นายรู้ได้ยังไง………?” เจียงเฮาตกใจเกินกว่าจะพูดจบประโยค

 

หนิงเถาคลายมือออกจากข้อมือของเจียงเฮา “คุณเจียงครับ..ผมไม่ทำอะไรอ้อมค้อม….ขอผมพูดตรงๆเลยนะครับ ผมเป็นแพทย์พิเศษมากๆ ผมมาที่นี่เพราะผมหวังว่าคุณจะพาผมไปหาพ่อของคุณและให้โอกาสผมได้รักษาเขา…เป็นข้อแลกเปลี่ยน ผมจะทำให้เขาคุกเข่าขอโทษแม่ของคุณและชดเชยค่าเสียหายทั้งหมดกับคนที่เขาเคยทำร้าย ”

 

เจียงเฮาไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่เธอมองจ้องตรงไปที่หนิงเถาประหนึ่งพยายามจะมองทะลุเข้าไปให้ตัวของหนิงเถา จริงๆแล้ว หนิงเถาไม่จำเป็นต้องอธิบายก็ได้ว่าเขาเป็นหมอที่พิเศษ เพราะว่าเขาไม่เคยทำตัวเหมือนคนปกติอยู่แล้วในสายตาของเจียงเฮา

 

“คุณเจียงครับ” หนิงเถาพูดเพิ่มอีกว่า “ถ้าผมรักษาพ่อคุณผิดพลาด ผมจะวางมือจากการเป็นหมอซะ…แต่ถ้าหากคุณเจียงให้โอกาสผมสักครั้ง คุณก็รู้ว่าภรรยาของพ่อคุณจะได้รับมรดกทั้งหมดจากการตายของพ่อของคุณ”

 

“แล้วคุณต้องการอะไรจากฉัน?” เจียงเฮาถาม

 

หนิงเถาหายใจและค่อยๆถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะตอบไปว่า “หลังจากจบปัญหานี้แล้ว…โปรดเลื่อนตำแหน่งและให้เงินเดือนเพื่อนของผมเพิ่มขึ้นด้วยครับ”

 

ปัง!

 

เจียงเฮาปิดประตูอย่างกระแทกกระถัน

 

เหอหมิงถอนหายใจเฮือกใหญ่ “ฉันรู้อยู่แล้วละว่าเรื่องนี้ต้องเกิดขึ้น…เธอไม่รู้จักพวกเราด้วยซ้ำ..ส่วนเราจะไปรู้จักเธอได้ยังไง??…….”

 

ทันใดนั้นเองเสียงของเจียงเฮาดังลอดออกมาจากด้านหลังของประตู “รอแปปนึง…ฉันกำลังเปลี่นชุด”

 

“นี่ช็อบเปอร์ ฉันจะไม่เติมน้ำมันให้รถนายละนะ…นายก็รอได้เลื่อนตำแหน่งละกันเนอะ”

 

เกอหมิงหมดคำพูดเมื่อได้ยินหนิงเถาพูดเช่นนั้นง

 

ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา พวกเขามาถึงที่หมาวิทยาลัยแพทย์แห่งเมืองชานซิตี้

 

หนิงเถารออยู่ด้านนอกที่แผนกส่วนบุคคลกับชายหนุ่มคนนึง

 

ชายหนุ่มคนนี้คือซูยูหลิน ซึ่งเป็นน้องชายของซูยูเหมยและยังเป็นผู้บริหารฝ่ายการตลาดของบริษัทเจียงหยีหลง

 

ฟลังจากที่เจียงเฮาเข้าไปที่แผนกได้ไม่นานนัก เธอก็ทะเลาะกับซูยูเหมย

 

“เธอเป็นลูกสาวของเขา…ฉันรู้เรื่องนั้นดี” เสียงของซูยูเหมยร้องไห้ “แต่ตลอดหลายปีมานี้…เธอได้มาเยี่ยมเขาบ้างมั้ย?….ได้ดูแลเขาบ้างมั้ยตอนที่เขาป่วย?….ก็ไม่ เธอไม่เคยเลย เป็นฉันต่างหากที่ค่อยดูแลเขาตอนเขาป่วย….มันเป็นฉันต่างหาก!!!!!”

 

“ฉันกับพ่อจะเป็นแบบนี้มั้ยถ้าเธอไม่เข้ามาทำลายครอบครัวของเรา??” เจียงเฮาตอบโต้ซูยูเหมยไป “เธอกล้าพูดได้ยังไงว่าฉันไม่มาเยี่ยมพ่อ…นี่เป็นเรื่องระหว่างฉันกับเขา ไม่ใช่เธอ!!! เธอไม่มีสิทธิ์มาเทศนาให้ฉันฟังหรอก!!!”

 

“เจียงเฮา นี่เธอกลับมาเพื่อทะเลาะกับฉันหรือไง?” ซูยูเหมยคร่ำครวญ “หยีหลง คุณจะต้องไม่ตายนะ….ลูกสาวคนดีของคุณกำลังกลั่นแกล้งฉันอยู่….ฉันจะอยู่ยังไงถ้าขาดคุณไป….ฮืออออ”

 

“พอได้แล้ว!! พ่อฉันยังไม่ตายหรอก อย่าร้องไห้เหมือนว่านี่เป็นงานศพของเขา!!”

 

“หยีหลง คุณได้ยินมั้ย? ลูกสาวคนดีของคุณ พูดว่า คุณยังไม่ตาย ทำไมฉันร้องไห้เหมือนเป็นงานศพของคุณ!” ซูยูเหมยตัดพ้อ

 

หนิงเถาถอนหายใจและคิดในใจว่า “เจียงหยีหลง นี่เป็นสิ่งที่คุณสมควรได้รับ ลูกสาวคุณปฏิเสธคุณ ส่วนภรรยาคนปัจจุบันก็อยากให้คุณตายและอยากได้มรดกของคุณ…มันจะมีประโยชน์อะไรที่คุณทำเรื่องแย่ๆมากมายเพื่อให้ได้เงินมาเยอะขนาดนี้?”

 

“ฉันไม่ได้อยากมาทะเลาะกับเธอหรอก หมอหนิง เชิญเข้ามาค่ะ” เสียงของเจียงเฮาดังมาจากห้องคนไข้

 

หนิงเถาเดินมาหน้าประตู

 

ทันใดนั้น ซูยูหลินก็เข้ามาขว้างหน้าเขาและถามเขาด้วยสายตามุ่งร้าย “คุณต้องการอะไร?”

 

“ผมเป็นเพื่อนของคุณเจียงครับ ผมเป็นแพทย์ และเจียงเฮาขอให้ผมมาตรวจเช็คพ่อของเธอหน่อย” หนิงเถาตอบ

 

“แพทย์?” ซูยูหลินพูด หน้าของเขาดูโกรธเคือง “นี่เป็นโรงพยาบาลที่เต็มไปด้วยแพทย์ พี่เขยฉันไม่ต้องการคุณหรอก ออกไปจากตรงนี้ซะ!”

 

“ถึงแม้ว่าคุณเจียงจะต้องการการรักษาของผมหรือไม่ มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับผมหรือพี่สาวของคุณ แต่ว่าคุณซูครับ…คุณเป็นใคร? คุณมีสิทธิ์อะไรถึงเข้ามาหยุดผม?” หนิงเถาพูดแบบไม่สุภาพนัก

 

ซูยูหลินไม่คิดว่าจะมีใครกล้าพูดกับเขาแบบนี้

 

ขณะที่ซูยูหลินมองเขาอย่างว่างเปล่า หนิงเถาผลักแขนเขาออกไปและเดินเข้าไปในห้องของคนไข้

 

ในห้องมีเพียงเจียงเฮาและซูยูเหมย ไม่มีพยาบาลพิเศษ จากสถานการณ์การป่วยของเจียงหยีหลงเขาควรจะไปอยู่ห้อง ไอ.ซี.ยู ด้วยซ้ำไป แต่ซูยูเหมยกลับให้เขาพักอยู่ที่ห้องพิเศษ ซึ่งก็ไม่ได้ต่างอะไรกับห้องปกติทั่วไปมากนัก แรงขับอันชั่วร้ายของซูยูเหมยชัดเจนมาก

 

นี่เป็นครั้งแรงที่หนิงเถาพบซูยูเหมย เธอดูสาวมากๆในช่วงคนอายุสามสิบต้นๆ ด้วยหน้าตาที่น่ารักและรูปร่างที่ดูดี เจียงหยีหลงจะหลงเธอก็คงไม่แปลก

 

เจียงหยีหลงนอนอยู่บนเตียงของโรงพยาบาล เขาดูเป็นแข็งแรงและมีหน้าตาที่ดูดุดัน เขาดูไม่เหมือนพ่อของเจียงเฮาด้วยซ้ำ ตาของปิดแบะหนิงเถาไม่รู้ว่าเขาอยู่ในขั้นโคม่าหรือแค่หลับไปเท่านั้น

 

ตอนนั้นเอง ซูยูหลิงเดินเข้ามาคว้าแขนของหนิงเถาและพยายามจะลากเขาออกไปจากห้อง แต่หนิงเถาก็ต้องประหลาดใจว่าเขาสลัดหลุดจากมือของซูยูหลินอย่างง่ายดายและเกือบทำให้เขาล้มลงพื้น

 

ซูยูเหมยอุทานออกมาอย่างโกรธเคือง “นายเป็นใคร??? ออกไปเดี๋ยวนี้นะ!!!”

 

หนิงเถากำลังยืนอยู่ข้างๆเจียงเฮา

 

“เขาเป็นหมอ ฉันพาเขามาที่นี่เอง” เจียงเฮาพูด “ฉันต้องการให้หมอหนิงวินิจฉัยพ่อของฉันหน่อยเพื่อที่จะยืนยันอาการของเขา”

 

“ไม่ได้!!!” ซูยูเหมยปฏิเสธโดยไม่ลังเล “ที่นี่เป็นโรงพยาบาลและมีหมอหลายคนอยู่ที่นี่อยู่แล้ว…เธอสามารถขอให้หมอคนไหนก็ได้ในนี้มายืนยันอาการของพ่อเธอ แต่ฉันไม่อนุญาตให้หมอที่ไหนไม่รู้มาตรวจสามีของฉันหรอก!!”

 

“เขาเป็นพ่อของฉัน!!! ฉันมีสิทธิ์ที่จะขอให้หมอยืนยันอาการของพ่อฉัน…เธอพาพ่อฉันมาอยู่ห้องพิเศษแบบนี้แทนที่จะให้เขาอยู่ ไอ.ซี.ยู และแถมยังไม่ให้หมอที่ฉันพามาตรวจเขาอีก…เธอต้องการอะไรกันแน่? เธออยากให้เขาตายและฮุบสมบัติของเขาใช่มั้ย?????”

 

“เธอ……” ริมฝีปากของซูยูเหมยสั่นด้วยความโกรธ

 

“เธออะไร???? ” เจียงเฮาอุทานออกมา “ฉันเป็นลูกสาวของเขา ฉันเป็นสายเลือดของเขา ฉันมีสิทธิ์!!!”

 

“เจียงเฮา เธอพูดแบบนั้นกับพี่สาวของฉันได้ยังไง?” ซูยูหลินพูดอย่างหน้าตาย “เขาเป็นแม่ของเธอนะ!”

 

“อะไรของคุณ? ไสหัวออกไปจากที่นี่ซะ!” เจียงเฮากรีดร้องขณะชี้นิ้วของเธอไปที่ประตู

 

ซูยูหลินโกรธจนเลือดขึ้นหน้า “เจียงเฮามันจะมากเกินไปละนะ….ฉันเป็นลุงของเธอนะ!”

 

ทันใดนั้นหนิงเถาเข้าไปจับไล่ของของซูยูหลินและผลักเขาออกไปจากห้องของคนไข้

 

ซูยูหลินเดินเซออกมาด้านนอกห้อง และชนเข้ากับใครบ้างคนที่อยู่ด้านนอกจนทั้งสองคนสูญเสียสมดุลจนล้มลงพื้นทั้งคู่

 

โชคไม่ดีนัก เพราะคนที่ล้มลงอีกคนคือถังหลิงนั่นเอง

 

“หนิงเถา นาย………- ไอ้-คนสารเลว” ถังหลิงสติแตก หนิงเถาไม่ได้คาดมาก่อนเลยว่าซูยูหลินจะทำให้ถังหลิงล้ม

 

การเจอถังหลิงที่นี่ทำให้หนิงเถาปวดหัวอยู่ไม่น้อย “คนไข้ต้องการสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบ ที่พวกคุณก็ทะเลาะกันซึ่งัมนส่งผลกับเขาอาจทำให้เขามีอาการแย่ลงได้…คุณเจียงและคุณซูครับ..ผมต้องการพื้นที่ให้ตัวเองได้ทำงาน รบกวนออกไปด้านนอกก่อนนะครับ”

 

เจียงเฮาคว้ามือของซูยูเหมยออกมานอกห้อง “เราสองคนจะทำให้หมอหนิงทำงานลำบาก…ออกมาคุยกันข้างนอกเถอะ”

 

“ปล่อยฉัน !” ซูยูเหมยขัดขืนแต่ก็ไม่สามารถสลัดหลุดการจับของเจียงเฮาได้ เธอจึงจำเป็นต้องตามเจียงเฮาไปที่ประตูแต่โดยดี

 

ถังหลิงก็เข้าใจบางอย่างขึ้นมา เธอลุกขึ้นจากพื้นอย่างรวดเร็วและตะโกนออกมาอย่างดังว่า “ตาม รปภ.มาที่นี่ด่วน เร็วๆๆๆ มีคนแอบอ้างเป็นหมอมาหลอกคนไข้โรงพยาบาลของเรา!”

 

หลังการตะโกนของเธอ พยาบาลที่อยู่ใกล้จึงยกสายโทรศัพท์ขึ้น

 

หนิงเถารู้สึกผิดหวัง นั่นเป็นสิ่งที่เขากังวลไว้ ถังหลิงไม่ได้อยู่ในแผน เธอแค่เดินมาชนซูยูหลินซึ่งเป็นคนที่หนิงเถาผลักออกมาจากห้องพอดี

 

ถังหลิงทำท่าทางเยาะเย้ย “หนิงเถา นายกลายว่าเป็นหมอเมื่อไหร่หรอ?…นายไม่ผ่านการประเมินการฝึกงานด้วยซ้ำ…ไม่มีใบประกิบโรคศิลป์ หรือแม้แต่ปริญญาแพทยศาสตร์….นายกล้าแกล้งเป็นหมอได้ยังไง?? นายจะถูกไล่ออกจากโรงเรียน! ไม่สิ…..คนอย่างนายควรจะไปอยู่ในคุก!!”

 

ซูยูเหมยทำท่าทีหยิ่งยโสและตะโกนออกมา “คุณพระ!!…..นายกลายมาเป็นหมอปลอมซะงั้น…เจียงเฮา อะไรดลใจเธอให้พาหมอปลอมๆคนนี้มารักษาพ่อเธอ ฮะ?”

 

โปรดติดตามตอนที่ 8

OPEN A CLINIC TO CULTIVATE MYSELF

OPEN A CLINIC TO CULTIVATE MYSELF

บทนำ นักศึกษาแพทย์ที่ยากจนคนหนึ่งได้เข้าไปช่วยชีวิตสุนัขสีดำที่ได้รับบาดเจ็บจากบนถนนโดยไม่ตั้งใจ แต่เขาไม่คิดว่านั้นจะเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวมหัศจรรย์พันธ์ลึก และทำให้เขาได้รู้จักกับคลินิกลึกลับอย่างคลินิกนภา ตัวคลินิกเองยังมีกฎที่เป็นข้อบังคับที่ว่าถ้าหากเขาไม่สามารถจ่ายค่าเช่าได้ตรงเวลา จำนวนชีวิตน้อยๆของเขาจะต้องถูกหักออกไปทดแทนในส่วนที่ขาดไป เพื่อความอยู่รอดหนิงเถาผู้ที่พึ่งจะก้าวเข้ามาเป็นผู้ฝึกตนมือใหม่และโลกใบใหม่นี้ จะต้องพยายามหาความดีและความชั่วเพื่อนำมาเป็นค่าเช่า นี่เป็นเรื่องราวของชายหนุ่มธรรมดาผู้หนึ่งที่ได้รับหน้าที่เป็นทั้งนักบุญและปีศาจ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset