Ranker’s Return – ตอนที่ 17

[คุณได้ฆ่าออร์คจากชนเผ่าหมาป่าแห่งท้องทุ่ง]
 
[ได้รับค่าประสบการณ์]
 
“ที่เขตใจกลางของชนเผ่านี้ พวกมันเกิดกันไวมากจริง ๆ”
 
“เป็นครั้งแรกเลยนะเนี่ยที่เลเวลของฉันขึ้นไวขนาดนี้”
 
ทันใดนั้นเองชายสามคนก็ได้ปรากฏตัวขึ้นด้านหน้าของฮยอนูและเมสัน หนึ่งในนั้นเป็นบุคคลที่ฮยอนนูรู้จักดี ‘ปาร์กจุนอูงั้นเหรอ?’
 
“นายให้คนอื่นช่วยพาอัพเวลงั้นเหรอ?” ฮยอนนูเห็นสัญลักษณ์หัวกะโหลกสีดำบนหน้าอกของคนอื่น ๆ ทำให้เขารู้ว่าตัวเองนั้นเข้าใจถูกแล้ว ฮยอนนูเริ่มบันทึกวีดีโอเผื่อเอาไว้ก่อนหากมีอะไรเกิดขึ้น…
 
เมสันรู้สึกกระวนกระวายเมื่อเห็นกลุ่มของปาร์กจุนอูเดินเข้ามาหา เขาถามฮยอนนูด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความวิตกกังวลว่า “พวกนั้นไม่ได้จะมาหาเรื่องพวกเราใช้มั้ย?”
 
เมสันไม่ได้มีประสบการณ์การต่อสู้อย่างโชกโชนเหมือนกับฮยอนนูทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวอยู่ไม่น้อย ไม่สิ ต้องบอกว่าเขายังเด็กอยู่มากกว่า เขาดูเหมือนเด็กน้อยคนหนึ่งที่เป็นน้องเล็กของบ้าน และในทำนองเดียวกันฮยอนนูก็เปรียบเสมือนพี่ชายคนโตที่ต้องช่วยดูแลเอาใจใส่เขา
 
“ไม่เป็นไรหรอก พวกนั้นไม่มีทางทำอะไรในขณะที่ยังสวมใส่สัญลักษณ์กิลด์อยู่แน่ อีกเดี๋ยวพวกเราคงได้รู้เองแหละ”
 
จากนั้นเสียงตะโกนก็ดังมาจากกลุ่มคนที่กำลังเดินเข้ามาหาพวกเขา “แกนะแก!”
 
มันเป็นเสียงตะโกนของปาร์กจุนอู สีหน้าของฮยอนนูเปลี่ยนไปอย่างจงใจเมื่อเขามองใบหน้าของเจ้าของเสียงตะโกนนั้น ราวกับว่าฮยอนนูเพิ่งจะเคยเห็นปาร์กจุนอูเป็นครั้งแรก “นายเป็นใคร? นี่ฉันรู้จักนายด้วยงั้นเหรอ?”
 
“หนอยแน่! นี่แกจำฉันไม่ได้งั้นเหรอ? แกทำให้ฉันต้องลบตัวละครทิ้งไปจากการเดิมพันยังไงล่ะ”
 
“เดิมพันลบตัวละคร? อ้อ! เจ้าแมลงวันตัวนั้นนี่เอง ฮยอนนูแสร้งทำเป็นตบมือเสียงดังครั้งหนึ่งราวกับว่าเขาเพิ่งนึกขึ้นได้
 
“ว่าแต่นายมีปัญหาอะไรงั้นเหรอ?” ในช่วงถัดมาโทนเสียงของฮยอนนูก็เปลี่ยนไป ในตอนแรกเขาแสดงท่าทีทำเป็นว่าจำปาร์กจุนอูไม่ได้ ทว่าในตอนนี้ฮยอนนูกลับกำลังเย้ยหยัน ปาร์กจุนอูอยู่
 
“บัดซบ! แกนะแก! นี่แกไม่รู้เหรอว่าวันนี้ฉันไม่ได้มาคนเดียว? ฉันมีสมาชิกกิลด์สองคนมากับฉันด้วย! วันนี้ฉันถือไพ่เหนือกว่าแก!” ปาร์กจุนอูสติแตกไปประมาณหนึ่งแล้ว ดังนั้นคำยั่วยุของฮยอนนูจึงได้ผลเป็นอย่างดี
 
ในจังหวะนั้นเอง เก็นก็เดินมาด้านหน้า เขาห้ามปาร์กจุนอูไว้ในระหว่างที่กำลังจะชักดาบออกมา “จุนอูพอได้แล้ว ทำตัวให้มันเป็นมืออาชีพหน่อย นายต้องรู้จักอดทนบ้างนะ”
 
“อดทนงั้นเหรอ? แล้วตอนนี้ฉันไม่ได้กำลังอดทนอยู่เหรอไง?”
 
ดวงตาทั้งสองของฮยอนนูเปล่งประกายน่าขนลุก แววตาของเขาดูราวกับสัตว์ร้ายที่หมายจะฉีกร่างผู้คนออกเป็นเสี่ยง ๆ
 
‘ช่างเป็นสายตาที่น่ากลัวจริง ๆ’ เมื่อปาร์กจุนอูสบตากับฮยอนนูแล้วเขาก็ได้สติกลับคืนมา
 
สายตาคู่นั้นเป็นสายตาของนักล่า นักล่าที่มองว่าเขาเป็นแค่เหยื่อคนหนึ่ง ถึงอย่างนั้น ปาร์กจุนอูก็ยังไม่ยอมแพ้ เนื่องจากกลุ่มของเขามีถึงสามคนในขณะที่อีกฝั่งมีเพียงสอง เขาต้องได้เปรียบเป็นธรรมดาอยู่แล้วหากเลือกที่จะท้าดวลแบบกลุ่ม
 
‘ความได้เปรียบของเลเวลมีมากเพราะทางฉันมีทั้งเก็นและซาน’ ปาร์กจุนอูไคร่ครวญความคิดของตัวเองและตัดสินใจไม่ยอมแพ้ในครั้งนี้ “จะลองดูอีกซักครั้งไหมล่ะ?”
 
ฮยอนนูรู้สึกประหลาดใจกับคำพูดของปาร์กจุนอูอยู่ไม่น้อย แน่นอนว่ามันอาจจะเป็นเพราะเขาพูดจายั่วยุอีกฝ่าย แต่เขาก็อดคิดไม่ได้ว่าทำไมคน ๆ นี้ถึงได้โง่ขนาดนี้กัน
 
“ฉันพร้อมทุกเมื่อ และฉันจะเอาชนะแกด้วยมือข้างเดียวนี่แหละ”
 
“ฮยอง! คิดจะทำอะไรกันแน่ครับเนี่ย? ดูสองคนนั้นก่อนสิ พวกเขามีเลเวลเกิน 60 กันทั้งสองคนเลยนะ” เมสันอดรู้สึกเป็นกังวลแทนฮยอนนูไม่ได้ เขาเริ่มสนิทกับฮยอนนูเมื่อได้ล่าด้วยกันมาหลายชั่วโมงแล้ว
 
“ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันจะจัดการพวกมันทุกคนเอง นอกจากนี้แล้ว ฉันจะเป็นคนที่รับหน้าที่ดวลเอง นายไม่ต้องดวลด้วยหรอก นี่เป็นความบาดหมางของฉัน” ฮยอนนูพูดพร้อมกับกำหนดขอบเขตการกระทำให้แก่เมสัน นี่เป็นความบาดหมางส่วนตัวของเขา เขาจะยอมให้เมสันมีอันตรายเพราะเรื่องนี้ไม่ได้
 
ในขณะเดียวกันเก็นและซานเองต่างก็นึกตำหนิการกระทำของปาร์กจุนอู
 
“จุนอู นายคิดจะทำบ้าอะไรของนายกันแน่เนี่ย?”
 
“ตอนนี้ฉันกำลังวุ่น ๆ กับการล่าอยู่ ถ้าอยากจะสู้ก็สู้คนเดียวไปแล้วกัน ฉันไม่สนใจหรอกนะ”
 
“งั้นเหรอ? งั้นฉันจะรายงานกับเบื้องบนว่าพวกนายยอมก้มหัวให้คนที่ดูหมิ่นกิลด์ของเรา” ปาร์กจุนอูพูดพร้อมกับยิ้มให้ทั้งสองคน เขาทำเหมือนกับว่าไม่เหลือวันพรุ่งนี้อยู่อีกแล้ว “เอาล่ะ! ช่วยทำตามคำขอของฉันหน่อยก็แล้วกันนะ แล้วฉันจะขอโทษพวกนายทีหลัง”
 
ตอนนี้ดวงตาของปาร์กจุนอูกำลังมืดบอด สามัญสำนึกของเขาถูกความเคียดแค้นครอบงำอยู่ ‘ครั้งนี้ฉันจะต้องกำจัดหมอนี่ให้ได้’
 
เขาอยากให้ฮยอนนูรู้สึกถึงความรู้สึกอัดอั้นตันใจเมื่อต้องลบตัวละครทิ้ง
 
“มาสู้กัน! ใช้กฎเหมือนเมื่อครั้งก่อนด้วยเป็นไง? เมื่อกี้แกคงไม่ได้แค่พูดเอาสนุกปากหรอกนะ จริงมั้ย?” ปาร์กจุนอูพูด
 
สีหน้าของฮยอนนูตอนนี้ไม่มีอะไรผิดปกติเลย ปาร์กจุนอูเห็นดังนั้นก็เชื่อว่าฮยอนนูน่าจะกลัวเก็นกับซานอยู่บ้าง
 
[ผู้เล่น ‘ปาร์กจุนอู’ ส่งคำขอท้าดวลมายังท่าน]
 
[คุณต้องการตอบรับคำท้าหรือไม่?]
 
ฮยอนนูรับคำท้าโดยไม่ลังเล
 
“หึ! คะนองปากงั้นเหรอ? เป็นเพราะแกมันน่าสมเพชเกินไปต่างหาก ไม่ใช่ว่าจากนี้ไปอีกสามวันแกก็ต้องมาปั้นตัวละครใหม่อีกรอบหรอกเหรอ?”
 
[ใช่]
 
“ฉันจะยอมรับการท้าทายสิ้นคิดนี้เอง”
 
[ผู้เล่น ‘ปาร์กจุนอู’ ได้สร้างกฎ]
 
“สิ้นคิดงั้นเหรอ? อย่ามาพูดจาเหมือนกับหมาบ้าหน่อยเลย อยากรู้นักว่าแกจะทำท่าอวดดีแบบนี้ไปได้อีกนานแค่ไหน”
 
ปาร์กจุนอูขยับมือของเขาเพื่อสร้างกฎ
 
[กฎการดวลที่ตั้งไว้คือ ‘ผู้ชนะได้ทุกอย่าง’ ‘ผู้แพ้ลบตัวละคร’ และ ‘โหมดกัปตัน’]
 
กฎสองข้อแรกเหมือนกับที่ผ่านมา ส่วนกฎใหม่ที่เพิ่มเข้ามาคือ ‘โหมดกัปตัน’ กฎของ ‘โหมดกัปตัน’ นั้นง่ายมาก ในแต่ละทีมจะต้องเลือกตัวแทนหนึ่งคนออกมาต่อสู้ ผู้ชนะจะยังคงอยู่และสู้กับตัวแทนคนต่อไปของอีกฝ่าย การต่อสู้จะเป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าทีมใดทีมหนึ่งจะไม่มีตัวแทนเหลืออยู่อีก
 
[คุณต้องการตอบรับหรือไม่?]
 
หน้าต่างแจ้งเตือนปรากฏขึ้นตรงหน้าของฮยอนนู เขายื่นมือออกไปกดตกลงอย่างไม่ลังเล
 
[ใช่]
 
อย่างไรก็ตามนี่เป็นสถานการณ์ที่เขาจงใจสร้างขึ้น เขาอาจจะไม่รู้จักปาร์กจุนอูดีพอ แต่เขากลับรู้จักคนประเภทปาร์กจุนอูเป็นอย่างดี
 
‘ฉันต้องเหยียบพวกมันสักสองถึงสามครั้งก่อนถึงจะทำให้พวกมันหยุดตะเกียกตะกายปีนกลับขึ้นมา’
 
[โปรดเลือกว่าใครจะเป็นผู้เข้าร่วมการดวลในครั้งนี้]
 
“ฉันจะลงไปสู้เองคนเดียว”
 
“ซาน เก็น และ ปาร์กจุนอู”
 
[จำนวนผู้เข้าร่วมการดวลได้รับการกำหนดเรียบร้อยแล้ว]
 
[‘คังฮยอนนู’ ดวลกับ ‘ปาร์กจุนอู’ ‘ซาน’ และ ‘เก็น’]
 
“ครั้งนี้ฉันจะทำให้แกหุบปากซะ”
 
“นั่นมันคำพูดของฉันไม่ใช่เหรอ? ถึงฉันจะดูเท่ขนาดไหนก็เถอะ แต่จะมาเลียบแบบกันแบบนี้ไม่ได้นะ” คำพูดของฮยอนนูเสียดแทงหัวใจของปาร์กจุนอูเข้าอย่างจัง
 
[แต่ละทีมกรุณาเลือกลำดับผู้เล่นในการดวล]
 
“ลำดับจะเป็น เก็น ซาน แล้วก็ฉัน” ปาร์กจุนอูพูดชื่อของทั้งสองคนออกไป
 
สีหน้าของเก็นและซานจริงจังขึ้นทันทีหลังจากที่ปาร์กจุนอูพูดออกไป
 
“ฮยอง! มันจะไม่เป็นอะไรจริง ๆ เหรอ?” เมสันถาม
 
“ไม่ต้องห่วงหรอก แค่นี้ไหวอยู่แล้ว” ฮยอนนูแสดงท่าทีมั่นใจให้เมสันที่กำลังเป็นห่วงเขาดู เมสันเองก็รู้สึกผิดไม่น้อยที่ไม่ได้เข้าร่วมการดวลครั้งนี้
 
[ลำดับการต่อสู้ของแต่ละทีมได้รับการกำหนดเรียบร้อยแล้ว]
 
[การเผชิญหน้าครั้งที่ 1]
 
[ผู้เล่น ‘คังฮยอนนู’ ดวลกับผู้เล่น ‘เก็น’]
 
เก็นและฮยอนนูต่างก็ก้าวเท้ามาข้างหน้าตามลำดับ จากนั้นขอบเขตของสนามประลองรูปทรงโดมก็ถูกสร้างขึ้นรอบ ๆ ตัวพวกเขา
 
เมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้นและดำเนินไปเรื่อย ๆ เมสันที่ยืนมองอยู่ด้านข้างถึงกับอ้าปากค้าง
 
รูปแบบการต่อสู้ของฮยอนนูช่างมหัศจรรย์จริง ๆ  เมสันรู้ดีว่าฮยอนนูนั้นเก่งกาจ แต่เขาเองก็ไม่คิดว่าจะเก่งถึงระดับนี้ ‘ว้าว…ฮยองสุดยอดไปเลย’
 
การดวลกับเก็นจบลงภายในเวลาไม่นานนัก เก็นพ่ายแพ้โดยที่ไม่สามารถแตะต้องคู่ต่อสู้ได้เลยด้วยซ้ำ การเคลื่อนไหวของฮยอนนูนั้นมีรูปแบบที่ประหลาดและไม่อาจเข้าใจได้ ทุก ๆ ครั้งที่ฮยอนนูเคลื่อนไหว จำนวนบาดแผลบนร่างกายของเก็นก็จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ สุดท้าย เขาก็สูญเสียพลังชีวิตจนพ่ายแพ้ไปในที่สุด
 
การประลองระหว่างฮยอนนูกับซานผู้เป็นศัตรูคนที่สองกำลังจะเริ่มขึ้น ถึงอย่างนั้นดูเหมือนว่าการต่อสู้ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ก็จะดำเนินไปในรูปแบบเดียวกันกับการต่อสู้ครั้งก่อนหน้า โดยมีฮยอนนูที่เป็นฝ่าย ‘ไล่ต้อน’ อีกฝั่งอยู่ผู้เดียว
 
‘ถ้าเป็นแบบนี้ละก็ ฮยองจะต้องชนะแน่นอน’ เมสันในตอนนี้สามารถลบความรู้สึกผิดที่ตัวเองไม่กล้าพอได้บ้างแล้ว
 
***
 
ซานอยู่ในสภาพที่เต็มไปด้วยความงงงวย เขาไม่ได้คิดอะไรมากจนกระทั้งเก็นถูกจัดการทั้ง ๆ ที่มันควรจะเป็นไปตามปกติแท้ ๆ  อุปกรณ์ที่ฮยอนนูสวมใส่ดูยังไงก็ไม่มีทางที่จะมีเลเวลสูงไปกว่าของพวกตนได้ หากซานประเมินแบบคร่าว ๆ แล้ว ฮยอนนูน่าจะมีเลเวลราว ๆ 40 เท่านั้น  ดังนั้นซานจึงตอบรับการกระทำห่าม ๆ ของปาร์กจุนอูโดยไม่คิดอะไรมาก เนื่องจากเขาคิดว่ายังไงพวกเขาก็ต้องชนะแน่ ๆ  อย่างน้อยเขาก็คิดเช่นนั้นก่อนที่เก็นจะถูกฟันครั้งแรก
 
‘บ้าไปแล้ว…ทำไมจู่ ๆ คนแบบนี้ถึงโผล่มาได้? ฉันว่าเขาน่าจะแข็งแกร่งกว่าผู้ดูแลกิลด์ระดับบนซะอีกมั้ง?’ ซานไม่ทันจะได้ไตร่ตรองประเด็นนี้อย่างจริงจังมากนัก ข้อความประกาศถึงการเผชิญหน้าครั้งต่อไปก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าของเขาแล้ว
 
[การเผชิญหน้าครั้งที่ 2]
 
[ผู้เล่น ‘คังฮยอนนู’ ดวลกับผู้เล่น ‘ซาน’]
 
[การประลองจะเริ่มขึ้นในอีก 5… 4… 3… 2… 1]
 
[การประลองเริ่มขึ้นแล้ว]
 
ฮยอนนูเต็มไปด้วยความรู้สึกเบื่อหน่าย การประลองนี้ไม่ต่างอะไรจากการที่ผู้ใหญ่แกล้งเด็กน้อยเลย มันเป็นการประลองที่ห่างชั้นกันเกินไป ฮยอนนูใช้เพียงแค่ทักษะมาตรฐานสำหรับอาชีพนักรบที่มีระดับต่ำสุดในเกมอารีน่าสู้เท่านั้น เพียงแค่ทักษะระดับนี้ก็เพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้อะไรมากไปกว่านี้เลย
 
‘ฉันต้องรีบจัดการให้เร็วขึ้นหน่อยแล้ว ยังมีเรื่องสำคัญที่ฉันต้องไปทำอยู่’
 
จริง ๆ แล้วเหตุผลที่เขาทำแบบนี้นั้นเรียบง่ายมาก เป็นเพราะทุก ๆ ครั้งที่เขาเห็นปาร์กจุนอู ใบหน้าของใครคนหนึ่งก็จะโผล่ขึ้นมาในหัวของเขา ฮยอนนูจดจำเขาคนนั้นได้เป็นอย่างดี ทั้งใบหน้า สีหน้า หรือแม้แต่การกระทำต่างก็คล้ายคลึงกันไปหมด ดังนั้นฮยอนนูจึงรู้สึกร้อนรุ่มไปด้วยความโกรธมากกว่าปกติ
 
ฮยอนนูเดินไปด้านหน้าโดยพาดดาบยาวปลายมนอันแหลมคมของเขาไว้บนไหล่ ซานเริ่มรู้สึกประหม่า เขาคิดว่าท่าทางแบบนี้อาจเป็นตัวบ่งชี้ว่าฮยอนนูกำลังจะโจมตีอย่างจริงจัง
 
ฮยอนนูเอ่ยปากพูด “นายนี่มันน่าสังเวชจริง ๆ”
 
“หมายความว่ายังไงกัน?”
 
“หมายความว่ายังไงกันงั้นเหรอ? ก็ตอนนี้ตัวละครของนายกำบังจะถูกลบทิ้งเดี๋ยวนี้แล้วยังไงล่ะ”
 
“อะไรนะ!?”
 
จากนั้นฮยอนนูก็เปลี่ยนวิธีการจับดาบของเขา ท่าทางของเขามองดูแล้วชวนให้รู้สึกขนลุก มันเหมือนกับว่ามีเงาร่างของหมียักษ์ปรากฏอยู่ด้านหลังของฮยอนนูอย่างไรอย่างนั้น ซานตั้งรับการโจมตีของฮยอนนูด้วยความยากลำบาก ทั้งความเร็วและพละกำลังของฮยอนนูกำลังเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
 
‘อะไรกัน? หมอนี่ซ่อนพลังเอาไว้งั้นเหรอ?’
 
ความคิดของซานจบลงเพียงเท่านี้ ในที่สุดเขาก็ถูกฆ่าตายโดยฮยอนนู
 
[คุณได้รับชัยชนะในการดวลครั้งที่สอง]
 
[การประลองจะเริ่มขึ้นในเร็ว ๆ นี้]
 
ฮยอนนูตรวจเช็คข้อความที่อยู่ตรงหน้าเขา จากนั้นก็ตะโกนไปยังปาร์กจุนอูผู้ที่ยังคงยืนอยู่อีกฝั่งหนึ่ง “แกอยากรู้ไหมว่าถ้าร้องขอชีวิตตอนนี้แล้วจะเป็นยังไง? บางทีแกอาจจะมีชีวิตรอดต่อไปก็ได้นะ”
 
ฮยอนนูพูดจาถากถางปาร์กจุนอูจนถึงวินาทีสุดท้าย
 

Ranker’s Return

Ranker’s Return

“คุณต้องการสร้างตัวละครใหม่หรือไม่?” เขาคือผู้เล่นที่แข็งแกร่งที่สุด! เขาคือผู้ครองอันดับ 1 ในทุกสถิติ! เขาคือ เมลีก็อด (Meleegod) ผู้เล่นในตำนานแห่งเกมวิชวลเรียลลิตี้ชื่อดังของยุค “อารีน่า” (Arena) กว่า 2 ปีที่ชื่อของเขาถูกลบเลือน ตำนานของเขาเริ่มจางหาย ทว่าตอนนี้เขากลับมาอีกครั้ง เพื่อช่วยกอบกู้ครอบครัวที่ล้มละลายของเขา เพื่อก้าวไปสู่ความเป็นหนึ่งอีกครั้ง ตำนานบทใหม่ของเขาได้เริ่มขึ้นแล้ว!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset