Ranker’s Return – ตอนที่ 5

สายตาของผู้เล่นทุกคนที่ยืนอยู่บริเวณพื้นที่ประมูลไอเทมต่างก็กำลังจับจ้องไปยังทิศทางเดียวกัน ที่ปลายทางของสายตาทุกคู่นั้นชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังกระทำการบางอย่างที่ทำให้คนรอบ ๆ ข้างของเขานั้นต่างก็ตกตะลึง เหตุการณ์นี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงบริเวณพื้นที่ประมูลรวมของเกมอารีน่า และเป็นเหตุการณ์ที่ผู้คนมากมายนับไม่ถ้วนต่างก็ได้ประจักษ์แก่สายตาของตนในตอนนี้
 
“โห! คนคนนั้นดูท่าจะบ้าไปแล้ว”
 
“ชู่วววว!! เบา ๆ หน่อย เดี๋ยวเขาก็ได้ยินหรอก”
 
“อะไรกัน! คน ๆ นั้นยังไม่เลิกโวยวายอยู่แถวที่ประมูลอีกเหรอ?”
 
ถึงแม้รูปลักษณ์ภายนอกของเขาจะดูดี แต่ก็ต้องยอมรับว่าการกระทำของเขานั้นออกจะผิดปกติจากคนทั่วไปสักหน่อย
 
“โถ่เว้ย! พวกมันเป็นคนประเภทไหนกันแน่!?” ฮยอนนูกำลังหัวเสียอย่างมาก เขาเสียเวลากับพื้นที่ประมูลแห่งนี้ไปเป็นชั่วโมง แต่สิ่งที่เขาได้รับกลับเป็นแค่การมองดูวัตถุดิบทั้งหลายถูกฉกไปโดยคนกลุ่มหนึ่ง
 
จริง ๆ แล้ววัตถุดิบแต่ละอย่างนั้นแทบไม่ได้มีค่ามากมายอะไรเลย พวกมันเป็นไอเทมวัตถุดิบที่ถูกจัดให้อยู่ในหมวดเบ็ดเตล็ดระดับปกติเท่านั้น ยกตัวอย่างไอเทมวัตถุดิบประเภทนี้ก็อย่างเช่น หญ้า ใบไม้ ไม่ก็พวกยางไม้ต่าง ๆ ทว่าไอเทมวัตถุดิบที่ฮยอนนูมองหานั้นเป็นส่วนประกอบสำหรับสร้างไอเทมที่เรียกว่า ‘น้ำยาแห่งการเติบโตโดยฉับพลัน’ ซึ่งถือว่าเป็นไอเทมที่สำคัญมากสำหรับเขาในตอนนี้
 
ปัญหาก็คือตอนนี้มีคนที่กำลังกวาดซื้อไอเทมวัตถุดิบสำหรับสร้างไอเทมชนิดนี้ไปจนหมด ความเร็วในการซื้อของคนเหล่านี้ไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นความเร็วของมนุษย์ ยิ่งไปกว่านั้นนี่ยังไม่ใช่การกระทำของคนแค่คนหรือสองคน เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าอย่างน้อย ๆ น่าจะมีสักสิบคนที่กำลังร่วมมือกันกวาดซื้อมัน
 
“น่าเจ็บใจนัก! แต่ไม่ว่ายังไงฉันก็จะต้องซื้อมันมาให้ได้!” ฮยอนนูกัดฟันข่มอารมณ์หงุดหงิดของเขาเอาไว้
 
***
 
สามสิบนาทีผ่านไป…
 
“นายได้ซื้อมันไปบ้างหรือเปล่า?”
 
“เปล่าเลย ฉันซื้อพวกมันไม่ได้ซักชิ้น เจ้าบ้าที่ไหนไม่รู้กวาดไอเทมไปหมดเลย นี่มันอะไรกันเนี่ย?”
 
“โอโห! ดูความเร็วนั่นสิ พอเห็นไอเทมแค่หางตามันก็หายวับไปแล้ว”
 
“เด็กพวกนี้ท่าจะบ้าไปแล้ว ความเร็วแบบนี้มันยิ่งกว่าความเร็วในการทำลายล้างของระเบิดนิวเคลียร์สะอีก พวกเขากว้านซื้อเร็วขนาดนี้ได้ยังไงกัน?”
 
เสียงบ่นมากมายดังระงมไปทั่วบริเวณ คนพวกนั้นก็เหมือนกับฮยอนนูที่ตั้งใจมาที่นี้เพื่อหาซื้อวัตถุดิบที่ตัวเองต้องการเช่นเดียวกัน
 
“เจ้าพวกบ้านี้มันช่าง…” ฮยอนนูกัดฟันแน่นขึ้นเรื่อย ๆ แผนการของเขาไม่เป็นไปตามที่คิดไว้ พอวัตถุดิบโผล่มาได้แค่แวบเดียว มันก็หายไปในทันที เขาเคลื่อนมือไปมาราวกับคนบ้าด้วยเป้าหมายเดียวคือการซื้อวัตถุดิบทั้งหมด ทว่าผลลัพธ์ที่ได้คือเขากลับได้ไอเทมมาเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น
 
[รากไม้ต้นโอ๊ก] x 2344
 
[ยางไม้ต้นโอ๊ก] x 488
 
[ขนของกระต่ายแดง] x 1832
 
[น้ำค้างยามเช้า] x 3212
 
จำนวนเงินกว่า 50 โกลด์ถูกใช้ไปกับการซื้อวัตถุดิบพวกนี้ทั้งหมด ปัญหาก็คือเขายังมีวัตถุดิบอีกมากกว่าที่ต้องการซื้อทว่าไม่สามารถ ฮยอนนูพยายามตั้งสติ เขาเกาหัวครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง “ฉันควรทำยังไงดี หรือต้องไปล่าหาวัตถุดิบพวกนี้เองงั้นเหรอ?”
 
***
 
ผ่านไปไม่นานหลังจากที่ฮยอนนูได้พยายามประมูลวัตถุดิบอย่างบ้าคลั่ง และพบปัญหาว่าสิ่งที่เขาต้องการนั้นยังไม่เพียงพอ ฮยอนนูจึงได้ตัดสินใจลงมือล่าหาวัตถุดิบเหล่านั้นด้วยตัวเอง
 
ตอนนี้เขากำลังค่อย ๆ คลานอยู่บนกิ่งไม้เล็ก ๆ กิ่งหนึ่งบนต้นไม้ที่สูงกว่าสี่ฟุต จุดประสงค์ของเขาก็เพื่อจะเก็บใบไม้ของต้นไม้ต้นนี้นั่นเอง
 
“อีกนิดเดียว อีกแค่นิดเดียว…”
 
ในที่สุดเขาก็เก็บใบไม้ได้ใบหนึ่ง ทว่าขณะนั้นเองกิ่งไม้เล็ก ๆ กิ่งนี้ก็ไม่อาจแบกรับน้ำหนักตัวของเขาได้อีกต่อไป
 
“เอ๋? ว้ากกกก!”
 
ตุบ!
 
กิ่งไม้กิ่งนั้นหักลงทำให้ฮยอนนูตกลงมาจากต้นไม้ที่มีความสูงถึงสี่เมตร
 
“โอ้ย!… เอวของฉัน”
 
อย่างไรก็ตามแม้ว่าเขาจะตกลงมาจากต้นไม้ ทว่าในมือของฮยอนนูก็ได้กำใบไม้ที่ได้มาจากกิ่งของต้นเอมิลาติดมาด้วย ใบของต้นเอมิลานั้นไม่เหมือนกับใบไม้จากต้นไม้ธรรมดาทั่วไป เพราะว่ามันมีพลังเวทแฝงอยู่และยังเป็นวัตถุดิบชั้นเยี่ยมในการนำไปใช้เล่นแร่แปรธาตุอีกด้วย
 
[ยอดอ่อนของต้นอามิล่า] x 10
 
‘ถ้าฉันเก็บมันได้อีกสักนิดล่ะก็…’
 
ใบหน้าของฮยอนนูเต็มไปด้วยความปลื้มอกปลื้มใจเมื่อเขามองวัตถุดิบทั้งหลายที่อยู่ในช่องเก็บของของเขา ฝีเท้าของฮยอนนูนั้นก้าวออกไปด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขในขณะที่เขากำลังมุ่งหน้าไปหาวัตถุดิบอย่างสุดท้าย
 
***
 
“นี่ ดูหมอนั่นสิ ท่าจะเสียสติไปแล้ว”
 
“ฉันว่ามันคงไม่ได้แหกตาดูโลกของอารีน่าเลยล่ะมั้ง”
 
“นายคิดว่าเจ้านั่นแค่คงจะล้อเล่นขำ ๆ อยู่หรือเปล่า?”
 
คำพูดเหล่านั้นเป็นคำพูดของผู้คนที่เห็นฮยอนนูซึ่งกำลังเดินออกจากหมู่บ้านอาสลานผ่านประตูอาสลานตะวันออก เป็นที่ทราบกันดีในหมู่ผู้เล่นของเกมอารน่านี้ว่าด้านนอกของประตูอาสลานตะวันออกนั้นเป็นพื้นที่ที่ถูกเลือกโดยคอมมูนิตี้ของคนเล่นเกมอารีน่าจำนวนมากให้เป็นพื้นที่ที่ไม่ควรค่าแก่การล่าลำดับที่ 10 ทั้งนี้ก็เพราะพื้นที่นอกประตูอาสลานตะวันออกนั้นมีระดับความยากสำหรับผู้เล่นใหม่เป็นอย่างมาก ทว่าฮยอนนูกลับเลือกที่จะไปยังพื้นที่บริเวณนั้น
 
‘พวกนั้นอยากจะพูดอะไรก็พูดไปเถอะ แต่ฉันจะสร้างอะไรบางอย่างที่ทั้งโคตรแพงและโคตรเจ๋งให้ดู 555’
 
ฮยอนนูเลือกที่จะเมินเฉยต่อคำพูดเยาะเย้ยและคำนินทาที่เกี่ยวกับเขาทั้งหมด จริง ๆ แล้วพวกเขานั่นแหละที่เป็นฝ่ายไม่รู้อะไรเลย ไม่รู้เลยว่าที่นั่นมีอะไรอยู่และทำไมเขาถึงเลือกที่จะไปยังบริเวณนั้น ฉะนั้นแล้วทำไมเขาจะต้องไปรู้สึกโกรธกับคนที่ไม่รู้อะไรเลยแบบนั้นด้วย? สู้เลือกที่จะไม่สนใจไปเลยยังจะดีเสียกว่า
 
***
 
ในที่สุดฮยอนนูก็มาถึงพื้นที่ดันเจี้ยน เขารู้สึกว่าความยากลำบากที่เขาต้องเผชิญใกล้จะจบลงแล้ว อย่างไรก็ตามความเป็นจริงของสถานการณ์ในตอนนี้ก็ใช่ว่าจะง่ายดายถึงเพียงนั้น เนื่องจากตรงหน้าของเขาได้มีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งเข้ามาขวางฮยอนนูไม่ให้เข้าไปในดันเจี้ยน กลุ่มคนพวกนี้บอกว่าตัวเองนั้นเป็นสมาชิกของสมาพันธ์หัวกะโหลกดำ และเป็นผู้ควบคุมการเข้าออกของดันเจี้ยนนี้
 
ฮยอนนูพยายามกล้ำกลืนความไม่สบอารมณ์ที่กำลังก่อตัวขึ้นลงไป ทั้ง ๆ ที่เขาคิดว่านี่คือจุดจบของความลำบากแล้วแท้ ๆ แต่สุดท้ายมันก็ไม่ได้เป็นไปอย่างเรียบง่ายตามแบบฉบับที่เขาวาดฝันไว้ เขาพูดพึมพำแบบห้วน ๆ ด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัว
 
‘เหลืออีกแค่อย่างเดียวแล้วแท้ ๆ มันจะอะไรกันนักกันหนาวะเนี่ย?’
 
ฮยอนนูพยายามข่มความโกรธของตนเอาไว้ในขณะที่พูดกับสมาชิกของสมาพันธ์หัวกะโหลกดำที่เฝ้าอยู่หน้าประตูดันเจี้ยน “เฮ้! พวกนายน่ะ หลบไปซะ! ฉันต้องการจะเข้าไปภายในดันเจี้ยน”
 
“นี่แก!…หึ! ดูเหมือนจะเป็นผู้เล่นใหม่สินะ ฉันจะไม่เอาเรื่องกับสิ่งที่แกพูดออกมาเมื่อตะกี้ ทำตัวว่าง่ายแล้วรีบไสหัวไปให้พ้น ๆ ซะ!” สมาชิกของสมาพันธ์กะโหลกดำเหล่านั้นโบกมือไล่ฮยอนนูราวกับกำลังปัดแมลงวันที่น่ารำคาญให้พ้นตัว
 
ฮยอนนูไม่สนใจคำพูดพวกนั้นและสั่งให้พวกเขาเปิดประตูเข้าดันเจี้ยนให้เขาโดยทันที “หลีกไปซะ ฉันกำลังรีบอยู่!”
 
“จะต้องให้พูดอีกรอบรึไงวะ!? ดันเจี้ยนนี้เป็นของสมาพันธ์กะโหลกดำ! ไม่ใช่ที่ที่มือใหม่อ่อนหัดอย่างแกจะมาวิ่งเล่นได้!”
 
คำพูดของชายผู้นี้ทำให้ความโกรธของฮยอนนูนั้นเพิ่มพูนสะสมมากขึ้นเรื่อย ๆ จนตัวเขาเองไม่อาจอดกลั้นได้อีกต่อไป ‘เจ้าบ้านี่!’ ทำไมเจ้าหมอนี่ถึงได้ทำตัวน่ารำคาญแบบนี้ในตอนที่เขากำลังเร่งรีบอยู่ด้วยนะ ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้ว สิ่งที่จะช่วยบรรเทาโทสะในใจของเขานั้นมีเพียงวิธีเดียวเท่านั้น มันเป็นวิธีง่าย ๆ วิธีหนึ่งที่ทำให้เกมอารีน่านั้นได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะนี้ มันก็คือการดวลกันยังไงล่ะ ‘หึ! ดวลกันก็ดีเหมือนกัน วันนี้ไม่ฉันก็แกที่จะต้องตาย’
 
“มือใหม่อ่อนหัดงั้นเหรอ? ถ้างั้นผู้เล่นมากประสบการณ์อย่างแกกล้ามาดวลตัวต่อตัวกันฉันไหมละ? เดิมพันด้วยการลบตัวละครทิ้งเป็นไง? แกคงไม่ปอดแหกขึ้นมากะทันหันหรอกนะ คุณสมาชิกสมาพันธ์หัวกะโหลกอันเกรียงไกร”
 
ชายผู้เป็นสมาชิกสมาพันธ์หัวกะโหลกดำคนนี้มีชื่อว่าปาร์กจุนอู เขารู้สึกเอะใจและเป็นกังวลขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อได้ยินเงื่อนไขการท้าดวลของฮยอนนู บางทีคนที่อยู่ตรงหน้าเขาอาจจะเป็นพวกนักล่าที่ชอบปลอมเป็นมือใหม่เพื่อหลอกให้ผู้เล่นมาดวลด้วยและลบตัวละครทิ้งเมื่อแพ้ ทว่าสุดท้ายแล้วเขาก็ส่ายหัวปฏิเสธความคิดนั้นของตน เพราะดูอย่างไรสารรูปของคนตรงหน้าก็ไม่มีทางเป็นนักล่าได้
 
“เอาอย่างนั้นก็ได้ สำหรับฉันแล้ว จัดการกับมือใหม่กระจอก ๆ อย่างแกมันง่ายยิ่งกว่าเคี้ยวหมากฝรั่งสะอีก”
 
“ถ้างั้นก็ช่วยรับคำท้าด้วย ฉันกำลังรีบอยู่”
 
[ผู้เล่น ‘13296’ ส่งคำขอท้าดวลมายังท่าน]
 
หน้าจอของปาร์กจุนอูปรากฎชื่อตัวละครเป็นตัวเลขแบบสุ่มแทนที่จะเป็นชื่อ ‘คังฮยอนนู’ ในเกมอารีน่านั้น ชื่อของผู้เล่นจะไม่ปรากฎออกมาตรง ๆ ถ้าบุคคลนั้นไม่ได้อยู่ในรายชื่อเพื่อนของผู้เล่นหรืออยู่ในสมาพันธ์เดียวกัน เรื่องนี้ถือได้ว่าเป็นเรื่องปกติของเกม สำหรับเกมนี้นั้นรูปลักษณ์ภายนอกของตัวละครสามารถเปลี่ยนแปลงได้ทว่าชื่อตัวละครนั้นจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ฉะนั้นแล้วความลับสุดยอดของเหล่าผู้เล่นในเกมนี้ก็คือชื่อของตัวละครนั่นเอง
 
[คุณต้องการตอบรับคำท้าหรือไม่?]
 
“ฉันรับคำท้า มือใหม่กระจอก ๆ อย่างแกคงชอบปรับแต่งตัวละครมากเลยสินะ ถ้างั้นวันนี้ฉันจะให้แกไปสร้างตัวละครใหม่แล้วปรับแต่งให้สมใจอีกซักรอบก็แล้วกัน”
 
ไม่นานนักโดมโปร่งแสงสีฟ้าอ่อนที่มีรัศมีประมาณสิบเมตรก็ปรากฎขึ้นล้อมรอบกายของทั้งฮยอนนูและปาร์กจุนอู
 
“หึ! นี่เป็นสิ่งสุดท้ายที่แกอยากจะพูดสินะ?”
 
[ผู้เล่น ‘13296’ ได้สร้างกฎการดวล]
 
[กฎการดวล: ‘ผู้ชนะได้ทุกอย่าง’ และ ‘ผู้แพ้ลบตัวละคร’]
 
ผู้ชนะได้ทุกอย่างเป็นกฎที่ส่งผลให้ไอเทมทั้งหมดของผู้แพ้กลายเป็นของผู้ชนะเมื่อสิ้นสุดการดวล ส่วนผู้แพ้ลบตัวละครนั้นก็มีความหมายตรงตัวของมัน นั่นคือผู้แพ้จะต้องโดนลบตัวละครทิ้งทันทีหลังจากที่แพ้การดวล พูดง่าย ๆ ก็คือในการดวลครั้งนี้ฮยอนนูยอมเสี่ยงที่จะเสียทั้งตัวละครและไอเทมทั้งหมด!
 
ในเกมอารีน่านั้น กฎ ‘ลบตัวละคร’ ถือเป็นเรื่องพิเศษ มันเป็นกฎที่เรียกได้ว่ามีอยู่และไม่มีอยู่ในเวลาเดียวกัน มันมีอยู่ในแง่ของเนื้อหาเกม แต่ว่ามันแทบจะไม่ได้ถูกนำออกมาใช้เลยจนดูเหมือนว่าไม่มีกฎนี้อยู่ ทำไมน่ะหรือ? ก็เพราะว่าคงไม่มีใครบ้ายอมเสี่ยงเดิมพันตัวละครทั้งตัวของตัวเองที่ต้องเสียทั้งเงินทั้งเวลาปั้นมันขึ้นมาหรอก
 
ไม่รอช้าฮยอนนูได้ส่งกฎการดวลไปยังปาร์กจุนอูโดยทันที และนั่นก็ทำให้อันดับฉายาของเขาเลื่อนขึ้นไปอยู่ในระดับผู้กล้าที่แท้จริงอย่างรวดเร็ว
 
[คุณต้องการตอบรับกฎเหล่านี้หรือไม่?] หน้าต่างแจ้งเตือนปรากฎขึ้นตรงหน้า ปาร์กจุนอูอีกครั้ง
 
[ใช่]
 
ปาร์กจุนอูไม่ได้แสดงความลังเลในการกดตอบรับเลยแม้แต่น้อย ถึงเลเวลของเขาจะไม่ได้สูงมากมายนัก ทว่ามันจะเป็นได้ยังไงกันที่เขาจะพ่ายแพ้ให้กับผู้เล่นเลเวล 1
 
“เอาล่ะ แกเปลี่ยนใจไม่ได้อีกแล้ว คงจะรู้สินะ?”
 
“ฉันอยากรู้จริง ๆ ว่าแกจะปากเก่งแบบนี้ไปได้อีกนานแค่ไหน ฉันว่าคงไม่เกิน 30 วิหรอก ภายใน 30 วินาทีนี้ฉันจะหุบปากเน่า ๆ ของแกเอง”
 
การประกาศสงครามของฮยอนนูในครั้งนี้มากพอที่จะทำให้ปาร์กจุนอูสงบปากสงบคำลงได้ในที่สุด
 
[การดวลจะเริ่มขึ้นในอีกไม่ช้า]
 
[5…4…3…2…1]
 
[เริ่มต้นการดวล]

Ranker’s Return

Ranker’s Return

“คุณต้องการสร้างตัวละครใหม่หรือไม่?” เขาคือผู้เล่นที่แข็งแกร่งที่สุด! เขาคือผู้ครองอันดับ 1 ในทุกสถิติ! เขาคือ เมลีก็อด (Meleegod) ผู้เล่นในตำนานแห่งเกมวิชวลเรียลลิตี้ชื่อดังของยุค “อารีน่า” (Arena) กว่า 2 ปีที่ชื่อของเขาถูกลบเลือน ตำนานของเขาเริ่มจางหาย ทว่าตอนนี้เขากลับมาอีกครั้ง เพื่อช่วยกอบกู้ครอบครัวที่ล้มละลายของเขา เพื่อก้าวไปสู่ความเป็นหนึ่งอีกครั้ง ตำนานบทใหม่ของเขาได้เริ่มขึ้นแล้ว!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset