re zombie world โลกซอมบี้อีกครั้ง – ตอนที่ 20 ค่ายลี้ภัยตะวันออก 101

ตอนที่ 20 ค่ายลี้ภัยตะวันออก 101

เช้าของแสงแดดวันใหม่ส่องลงสู่ถนน ต้นไม้ขนาดหลายร้อยเมตรจำนวนมากพากันออกมารับแสงแดด ผีเสื้อกางปีกขนาด 10 เมตรของมันเพื่อบินไปที่ดอกไม้

ทันทีที่มันสัมผัสกับดอกไม้ก็โดนเกสรของดอกไม้รัดพันยังกับหนวดของปลาหมึก

นกเพลิงบินออกล่ากวางขนาดยักษ์ หมูป่ากินซากซอมบี้ในขณะที่แร้งหัวแดงกำลังยื้อแย่งซากศพ

ในท้องทะเลเหล่าปลานักล่าเริ่มรวมตัวออกล่า สัตว์น้ำขนาดเท่าภูเขาเคลื่อนตัวไปมา จนเกิดเป็นคลื่นยักษ์พัดเข้าชายฝั่ง สัตว์ยิ่งกินพวกมันก็ยิ่งตัวใหญ่ บางพวกเมื่อในน้ำอันตรายพวกมันจึงพากันขึ้นมาล่าบนบก

ชายฝั่งกลายเป็นที่อันตรายของเผ่าพันธุ์มนุษย์ไปแล้ว ในขณะที่ป่าทึบชื้นก็ไม่ต่างกัน

ตอนนี้โลกใบนี้ได้เปลี่ยนไปอย่างสมบูรณ์แล้ว

“ประกาศจากทางรัฐบาลไทกีล่า เรามีค่ายลี้ภัยที่ปลอดภัย มีอาหารและน้ำให้ ทางรัฐบาลไทกีล่ายังไม่ทอดทิ้งคุณ เราได้จัดสร้างค่ายลี้ภัย ชั่วคราวไว้ 200 แห่งทั่วประเทศ ประชาชนทุกคนสามารถเดินทางไปที่ค่ายลี้ภัย ที่ใกล้ท่านได้ ที่สำคัญโปรดหลีกเลี่ยงการถูกกัดจากผู้ติดเชื้อ ขอให้ทุกคนโชคดี”

ดามินยื่นมือออกไปเปลี่ยนช่องสัญญาณ ข้อความนี้ถูกประกาศออกมาซ้ำ ๆ ในทุกช่วงสัญญาณ

ตอนนี้โทรศัพท์ของทุกคนแบตเตอรี่หมดไปแล้ว แต่วิทยุจากรถบรรทุกรุ่นเก่ายังใช้ได้อยู่

ตอนนี้เมสันเปลี่ยนมาขับรถและให้หมอแฮรี่ไปพัก และแล้วแสงแดดของวันใหม่ก็มาถึง

ไนเรลลืมตาขึ้นมา เขารู้สึกสดชื่นเป็นอย่างมากเมื่อมองไปรอบ ๆ ทุกคนก็ดูเหมือนจะยังหลับกันอยู่ รวมถึงแมวน้อยมะลิและนิเรียด้วยที่หลับอยู่บนตักเขาคนละข้าง

ไนเรลค่อยขยับขาที่เป็นตะคิวของเขาอย่างช้า ๆ และเขาก็แจกแจงให้แมวน้อยมะลิและนิเรียนอนอยู่ด้วยกัน

และในตอนนั้นเองเขาก็พึ่งสังเกตดูตัวเอง เขาเลือนระดับแล้ว เป็นระดับสีเทา คริสตัลที่อยู่บนหน้าผากของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีเทา

พลังที่เอ่อล้นอยู่ในร่างกายมันทำให้เขารู้สึกดีเป็นอย่างมาก เขารู้สึกว่าสามารถใช้ความสามารถต่าง ๆ ได้มากขึ้น

ด้วยตอนนี้ [พละกำลัง 50 เท่า (มดกินเหล็ก) B] เขาสามารถใช้ พละกำลังได้ถึง 10 เท่าและใช้แบบไม่มีผลกระทบได้ตลอดเวลาถึง 5 เท่า

“ถึงไหนแล้ว?” ไนเรลชะโงกหัวไปถามเมสันที่ขับรถอยู่

“น่าจะอีก 2-3 ชั่วโมงก็ถึงค่ายลี้ภัยตะวันออก 101 แต่ว่าต้นไม้ขนาดใหญ่พวกนี้มันทำให้เส้นทางเสียหาย และดูยากมาก ฉันขับไปก็กลัวจะหลงไปอยู่เหมือนกัน”

“เดี๋ยวด้านหน้ามีกลุ่มคน” ทันใดนั้นเมสันก็ชะลอรถลง เมื่อเห็นว่าด้านหน้ามีคนยืนโบกมืออยู่

พวกเขามีกันประมาณ 10 กว่า ดูเหมือนจะเป็นพวกมีเงินถ้าจากรถและการแต่งตัวของพวกเขา

“หยุดก่อน ๆ! พวกเราขอติดรถไปด้วย” หญิงสาวในกลุ่มของพวกนั้นพยายามเรียกให้รถของกลุ่มไนเรลจอดรับพวกเขา

หมอแฮรี่ที่ตื่นขึ้นมาก็พยายามบอกให้ไนเรลจอดรับพวกเขาไปด้วย

ไนเรลเห็นแบบนั้นก็ให้เมสันหยุดรถและรับพวกเขาไปด้วย ทันทีที่รถเบรกกะทันหันทุกคนในกลุ่มของไนเรลก็ตื่นกันหมด เพราะคิดว่า ‘ถึงแล้วเหรอ’ แต่กลับเห็นว่าไนเรลให้จอดรับคนอื่น ๆ

ในกลุ่มนั้นมีบอดี้การ์ด เด็ก 2 คน ผู้ชายและภรรยาวัยกลางคน พร้อมกับสาวรับใช้คนที่เรียกพวกเขาให้จอดรถ รวมเป็น 7 คน

พวกนั้นดูจะขนของไปเยอะ แต่พื้นที่มันไม่พอไนเรลจึงให้พวกเขาทิ้งเสื้อผ้าบางส่วนไป แต่ภรรยาของชายคนนั้นดูจะไม่พอใจเป็นอย่างมาก

“คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้เสื้อผ้าพวกนี้มันเป็นของแบรนด์เนมทั้งนั้นจะทิ้งไปง่ายแบบนี้ได้อย่างไร คนอย่างคุณมีปัญญาซื้อหรือ ดูจากการแต่งตัวแล้วคุณคงเป็นพวกบ้านนอกสินะ” เธอก็ต่อว่าไนเรลอย่างเสีย ๆ หาย ๆ ทันที

ชายวัยกลางคนเดินเข้ามาหาไนเรลพร้อมกับเสนอเงินให้ว่า “ผมจะขอเอาของไปด้วยทั้งหมดแรกกับเงินนี่เป็นไง”

“ไม่!” ไนเรลปฏิเสธไม่รับทันที เพราะถ้าทำแบบนั้นไม่ต้องให้พวกเขาลงไปจากรถเหรอ

ผลสุดท้ายพวกเขาก็ได้แต่ยอมทิ้งบางส่วนไปอย่างไม่เต็มใจและขึ้นรถไปกับไนเรล

ในระหว่างทางเด็กน้อยสองคนที่เห็นแมวและก็เจ้าคาปิบารา พยายามจะจับมันแต่ดูเหมือนแมวน้อยมะลิจะไม่ยอมให้ใครแตะต้องตัวได้เธอจึงข่วนไปที่เด็กทั้งสองคนทันที

“แง่ ๆ ฮือ ๆ แม่มันทำหนูแม่ต้องจัดการมันนะ” เด็กทั้งสองคนพยายามฟ้องพ่อและแม่ของตัวเองแต่ดูเหมือนพ่อของเด็กจะไม่สนใจ

ภรรยาเห็นดังนั้นก็สั่งให้บอดี้การ์ดไปเอาแมวตัวนั้นมา แต่ก่อนที่พวกเขาจะเข้าไปเอาแมวก็ถูกไนเรลหยุดไว้ก่อน

“ถ้าพวกนายอยากตายก็เชิญ” เขาเริ่มรู้สึกไม่ชอบคนพวกนี้แล้ว ที่คิดว่าโลกนี้ยังคงเป็นเหมือนเดิม

ทุกคนมองไปที่พวกเขาอย่างไม่เป็นมิตร ส่วนหมอแฮรี่ก็เริ่มกระอักกระอวนเพราะเขาเป็นคนที่ขอให้ไนเรลรับพวกนี้มา

และบรรยากาศก็เป็นแบบนี้ไปจนกระทั่งพวกเขาได้มาถึงเขตค่ายลี้ภัยตะวันออก 101

สองข้างทางซากรถที่ปักไม้แหลมกันพวกซอมบี้ไว้ ตามทางเขาเห็นคนเดินมากมายกำลังต่อแถวเพื่อรับการตรวจจากทหาร

กำแพงที่นี่ถูกสร้างจากเหล็กสูง 5 เมตร กินพื้นที่กว่า 40 กิโลเมตร ตัวค่ายด่านในมีตึกสูงอยู่จำนวนมาก

ที่นี่เคยเป็นเมืองขนาดเล็กมีประชากรไม่เยอะดังนั้นตอนเกิดเรื่องพวกทหารจึงมายึดที่นี่ไว้

บนกำแพงมีทหารจำนวนมากถือปืนเต็มรูปแบบ ประจำอยู่ตามจุดต่าง ๆ เครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์บินเข้าออกอยู่ตลอดเวลา ด้านข้างมีประตูใหญ่เปิดอยู่ทั้งรถฮัมวี เครื่องยิงจรวดรถถัง เดินเข้าออกอยู่ตลอดเวลา

รถบรรทุกขนร่างของสัตว์กลายพันธุ์ ขั้น 1 เข้าไปด้านใน

“หยุด! ที่ค่ายไม่อนุญาตให้นำรถเข้ามา หยุดที่นี่ไม่อนุญาตให้นำรถเข้ามา ลงจากรถเเล้วเอาของที่จำเป็นติดตัวมาด้วยเท่านั้น” ทหารที่ดูเหมือนจะพึ่งเข้ามาประจำการตะโกนออกมาเสียงดัง

“ลงจากรถและไปต่อแแถวกันเถอะ” ไนเรลพากลุ่มของเขาลงจากรถและไปต่อแถวโดยไม่สนใจพวกที่ติดรถมาด้วยเลยแม้แต่น้อย แต่ก่อนนั้นเขาซ่อนอาวุธปืนทุกอย่างไว้ในรถเพราะเขารู้ว่าพวกทหารจะต้องยึดมันอย่างแน่นอน ส่วนพวกดาบและมีดนั้นทหารเหล่านี้ไม่ได้สนใจ

“พวกนายไปต่อแถวด้านนั้น แล้วค่อยไปเจอกันด้านใน” เขาหันไปกล่าวกับทุกคนก่อนที่จะพานิเรียแยกไปอีกแถว ส่วนแมวน้อยและคาปิบาราก็ตามพวกเขาไปเช่นกัน

แถวที่ไนเรลแยกไปนี้มันเป็นแถวสำหรับมนุษย์ชั้นสูง ในแถวมีคนยืนต่อไม่ถึงสิบ

ทหารที่เห็นไนเรลและนิเรียเดินมาที่แถวนี้ก็รีบหยุดพวกเขา “แถวนี้สำหรับคนที่มีเป็นมนุษย์ชั้นสูงเท่านั้น รบกวนพวกคุณทั้งสองแสดงหลักฐานด้วย”

ไนเรลและนิเรียถอดหมกออกเผยให้เห็นคริสตัลวิวัฒนาการบนหน้าผาก ทหารที่เห็นแบบนั้นก็ให้ทั้งสองคนผ่านไปได้อย่างง่ายดาย

กลุ่มที่พวกเขาจอดรับมาด้วยเห็นว่าไนเรลสามารถเข้ามาในแถวที่สั้นนี้ได้พวกเขาจึงรีบลากกระเป๋าตามเข้ามาทันที

ทหารถามพวกเขาเหมือนกับที่ถามไนเรล “แถวนี้สำหรับคนที่เป็นมนุษย์ชั้นสูงเท่านั้น รบกวนพวกคุณทั้งสองแสดงหลักฐานด้วย”

ทั้ง7 คนงง อยู่สักพัก และแล้วภรรยาสาวคิดอะไรได้เธอจึงหยิบเครื่องเพรชออกมาโช “นี่ไง พวกเราเข้าไปได้แล้วหรือยัง”

ทหารคนนั้นถึงกับอารมณ์เสียที่คิดว่าคนโง่พวกนี้กำลังแกล้งเขาเล่นอยู่

หลังจากที่ไนเรลเดินเข้ามาเขาก็ได้ยินเสียงคนที่ถูกลากออกไป

เขาและนิเรียเดินไปด้านใน ไนเรลรู้อยู่แล้วว่าเเถวนี้คือแถวสำหรับพวกมนุษย์ชั้นสูง ที่นี่มีเจ้าหน้าที่คอยตรวจสอบพวกเขา

“สวัสดีค่ะ ฉันรับหน้าที่ตรวจสอบพวกคุณ โปรดระบุชื่อและความสามารถด้วยค่ะ” ไนเรลได้เข้ามาตรวจอีกห้องส่วนนิเรียก็แยกไปตรวจอีกห้อง

“ไนเรล อาโรเดีย มาจากเมืองซานติเกีย”

“พลังช่วยเร่งการเจริญเติบโตของพืช”

“กรุณาสวมมันด้วย พวกเราจะตรวจสอบระดับพลังงานภายในเซลล์” เจ้าหน้าที่สาวก็ส่งของที่เหมือนกับนาฬิกาให้เขา

ไนเรลรับไปใส่อย่างไม่ลังเล นี่เครื่องที่ใช้วัดระดับพลังในเซลล์ มนุษย์ชั้นสูงทุกคนจะได้รับมันมาคนละ 1 เครื่อง พวกทางรัฐบาลอ้างว่ามันเป็นเครื่องที่ใช้แค่วัดพลังงานต้นแบบเพื่อการวิจัย แต่อันที่จริงมันคือการเฝ้าระวังและติดตามตัวมนุษย์ชั้นสูงทุกคน

ตัวเครื่องระบุตัวเลขออกมาทันที

[พลังงานต่อเซลล์อยู่ที่ 105 หน่วย]

[จัดเป็นระดับสีเทา]

“ระดับสีเทา” เจ้าหน้าที่สาวดูจะแปลกใจมาก คนที่เลื่อนเป็นสีเทาได้นั้นส่วนใหญ่ถูกดึงไปอยู่ในกองทัพมียศเป็นร้อยตรีทั้งนั้น แต่น่าเสียดายที่ความสามารถของไนเรลไม่ใช่ความสามารถที่ใช้ในการต่อสู้

“ผมแค่โชคดี” ไนเรลกล่าวออกไป

“ถ้าคุณต้องการเข้าร่วมกับกองทัพก็สามารถติดต่อพวกเรามาได้เลยนะคะ” เจ้าหน้าที่สาวหยิบบัตรประจำตัวที่ออกใหม่ให้กับเขา มันคือบัตรที่ใช้แทนบัตรประชาชน

แต่ของไนเรลจะต่างจากทั่วไป เพราะมันเป็นสีทองนั้นหมายถึงมนุษย์ชั้นสูง

หลังจากที่ออกมาแล้วเขาก็ไปยืนรอทุกคน พร้อมกับนิเรีย และแมวน้อยกับคาปิบาราที่ไม่มีใครสนใจพวกมันเลยแม้แต่น้อย

ที่นี่จะใช้ตั๋วอาหารในการแลกเปลี่ยนทุกสิ่งเงินสกุลเก่าไม่มีค่าอีกแล้ว ยกเว้นก็แต่ทองคำที่ยังมีค่า

เขาเดินเข้าไปแลกทองคำและตั๋วอาหารบางส่วน จากนั้นก็เดินเข้าไปที่ด้านใน

ค่ายลี้ภัยตะวันออก 101 ถึงยังไงก็ยังเป็นแค่ค่ายลี้ภัยที่ค่อยรับผู้คน และส่งไปที่เมืองใหม่ ซึ่งคนที่มีความสามารถจะถูกส่งไปที่นั่น

“พวกเราคงต้องแยกกันตรงนี้ เพราะผมต้องไปเป็นหมอประจำที่เมืองใหม่พวกเขาขาดแคลนหมอมาก” หมอแฮรี่กล่าวออกมา

ไนเรลพยักหน้าและไม่ได้กล่าวอะไร เขาหันไปหาเมสัน “แล้วคุณละ”

“ข้าเป็นแค่นักโทษหลบหนี ขืนไปบอกพวกนั้นก็มีหวังโดนจับเข้าคุกสิ” เมสันพูดออกมาและพยายามหาอะไรมาบังหน้า แต่เขาก็พูดออกมา “แต่เดี่ยวข้าจะไปหางาน”

หลังจากนั้น พวกเขาก็แยกย้ายกันไป ไนเรลเองก็เห็นด้วยเพราะเขาไม่ได้มีหน้าที่มาดูแลทุกคนที่นี่สักหน่อย

ตอนนี้เหลือแค่ ไนเรล นิเรีย เจคอบ ดามิน และสัตว์อีกสองตัว

“ไปหาที่พักกันเถอะ”

ที่พักแห่งนี้ถูกจับจองไปหมดแล้วบางส่วนก็ถูกเช่าไป เพราะถึงอย่างไรที่นี่จะถูกยึดเป็นค่ายลี้ภัยตะวันออก 101 แต่มันก็ยังถูกปกครองโดยรัฐบาล

ในแต่ละค่ายจะมีคนของทั้งทางกองทัพและรัฐบาลเข้าควบคุมดูแล กองทัพจะดูแลในการจัดการกับซอมบี้และสัตว์กลายพันธุ์ ส่วนรัฐบาลก็จะจัดระเบียบ ทรัพยากรส่งให้กับกองทัพ

รัฐบาลพยายามที่จะไม่ให้ระบบเศรษฐกิจล่ม พวกเขาจึงจัดการแบ่งพื้นที่โดยจัดให้คนไปทำงานและแลกกับตัวอาหาร เพื่อใช้จ่ายในการแลกเปลี่ยนกับอาหารในค่ายลี้ภัยตะวันออก 101 ที่พักก็ต้องเช่าเอาเช่นกัน

คนธรรมดานั้นไม่มีทางเลือก พวกเขาต้องทำงานวันละ 10 -12 ชั่วโมงเพื่อแลกกับตัวอาหาร 500-600 ตั๋วอาหาร

และงานที่ทำก็เป็นแบบไม่ประจำใครมาก่อนก็ได้ทำก่อน ส่วนบางคนที่ดีหน่อยมีเส้นสายก็ได้งานสบายไป

ข้าวสาร 1 กิโลกรัมนั้นราคาถึง 1000 ตั๋วอาหาร ส่วนเนื้อสัตว์นั้นราคา 3000 ตั๋วอาหารต่อ 1 กิโลกรัม

แต่จะโทษทางรัฐบาลก็ไม่ได้เพราะตอนนี้อาหารเริ่มขาดแคลนและไม่เพียงพอต่อจำนวนคนเป็นอย่างมาก

ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ ธัญพืชและพืชเกือบทุกชนิดกลายพันธุ์ไปหมดแล้ว พวกมันบางส่วนกินแล้วเป็นพิษ บางชนิดก็ถึงตาย

ตอนนี้ที่ค่ายลี้ภัยตะวันออก 101มีแค่อาหารที่สำรองไว้ในคลังเท่านั้น

ไนเรลถือตั๋วอาหารที่มีอยู่ 40,000 ตั๋วอาหารไปที่เจ้าหน้าที่จัดการที่อยู่ และเขาก็เช่าห้องขนาดใหญ่ มันมีห้องนอน 2 ห้อง 1 ห้องน้ำและ 1 ห้องครัว

ราคามันตกวันละ 1000 ตั๋วอาหารเลยทีเดียว แต่เขาก็ยังจ่ายมันไป 1 เดือน

ตอนนี้โลกภายนอกไม่ปลอดภัยอีกแล้วตั้งแต่ ซอมบี้ ขั้น 2 ปรากฏออกมา พวกมันจะไล่ฆ่ากลุ่มเล็กไปเรื่อย ๆ จนมาถึค่ายลี้ภัยตะวันออก 101 แต่กว่าจะถึงตอนนั้นไนเรลก็คงมีพลังที่จะเอาตัวรอดแล้ว

อีกอย่างเขาต้องการที่ปลอดภัยในการพักผ่อน ซึ่งไม่ใช่แค่กับเขาแต่หมายถึงทุกคน

พวกเขาก็ใช้อีก 10,000 ตั๋วอาหาร ในการซื้อข้าวสาร เนื้อสัตว์และผักกลับไปที่ห้องเช่าที่อยู่บนตึก

ในระหว่างทางเขาเห็นพวกขอทานและผู้หญิงที่พยายามขายตัวเป็นจำนวนมาก ซึ่งคนเหล่านี้คือพวกที่ไม่มีสมบัติติดตัวมาด้วยตอนที่เข้ามาในค่ายแห่งนี้

ทางค่ายจะให้ข้าวต้มพวกเขาแค่วันละ 1 ถ้วยเท่านั้นเพื่อให้มีแรงทำงาน แต่ด้วยงานตำแหน่งงานที่มีจำกัดพวกเขาจึงไม่ได้งานทำและต้องมานั่งขอทานอยู่อย่างนี้

re zombie world โลกซอมบี้อีกครั้ง

re zombie world โลกซอมบี้อีกครั้ง

Score 7.9
Status: Ongoing Released: N/A
อ่านนิยายเรื่อง re zombie world โลกซอมบี้อีกครั้งณ ช่วงชีวิตหนึ่งผมเสียทุกอย่างไป แต่ก็ได้รับโอกาสในอีกโลกหนึ่ง ไนเรลชายหนุ่มที่สูญเสียทุกอย่างให้กับวันสิ้นโลกและซอมบี้ แต่แล้วโชคชะตาก็พาเขาไปพบกับกล่องแพนโดร่าที่ซึ่งมีเมล็ดพันธุ์วิวัฒนาการ ตัวต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด และนั้นจึงทำให้เขาได้รับโอกาสในการเปลี่ยนแปลงโลกซอมบี้ใบนี้อีกครั้ง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset