Regressor Instruction Manual – ตอนที่ 86 ชายชราผู้บ้าคลั่ง (2)

ตอนที่ 86 ชายชราผู้บ้าคลั่ง (2)
 
“นั่นฟังดูดีนะ”
 
“ผมไม่รู้ว่าคุณมีจิตใจเข้มแข็งถึงขนาดที่คิดถึงการพัฒนากิลด์ให้ดีขึ้น ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
 
ลีซอลโฮกล่าวขึ้น แต่ไม่มีใครหัวเราะกับเขา
 
“….”
 
“นั่นเป็นเรื่องปกติ” ผมพึมพำ
 
‘อย่างที่ผมพูดไป เขาบ้าไปแล้ว…’
 
ผมไม่รู้ว่าตาแก่อย่างลีซอลโฮมีส่วนร่วมกับบลูกิลด์ในอดีตอย่างไร แต่การได้เห็นลีซังฮีแสดงความเคารพต่อชายชราอย่างเขา ทําให้ผมคิดว่าพวกเขามีความเกี่ยวข้องอย่างลึกซึ่งกับหัวหน้ากิลด์ที่หายไป แต่ผมก็คิดว่าการรับรู้มันไม่ใช่เรื่องสําคัญ
 
มันรู้สึกไม่มั่นคง เมื่อรู้ว่าความตั้งใจของกลุ่มผมและแผนการของเขาตรงกัน
 
“เราได้อาชีพที่สามแล้ว ดังนั้นเราอาจจะพอช่วยได้บ้าง” ผมกล่าว
 
“อืม พวกคุณทุกคนสุดยอดจริง ๆ ช่างคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป…” ซอลโฮแสดงความคิดเห็น
 
“ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณการสนับสนุนของกิลด์เราไม่ใช่เหรอ? ฮ่าฮ่าฮ่า…” เขากล่าวเสริม
 
ฮวังจองยอนจ้องมองลีซอลโฮด้วยความสงสัย มันเป็นเรื่องทั่วไปสําหรับเธอที่จะทําเช่นนั้น ชายคนนี้ไม่เคยรู้จักในแง่ของการเป็นคนมองโลกในแง่ดี ดังนั้นการแดงออกที่พึ่งพอใจอย่างกะทันหันของเขา จึงน่าสงสัยจากคนอื่น ๆ ที่รู้ว่าเขาเป็นคนอย่างไร
 
“แม้จะมีคนอื่น ๆ ที่เต็มใจจะเข้าร่วม แต่ก็ยังมีคนที่ยืนยันจะอยู่เพื่อปกป้องกิลด์ คุณไม่เคยคิดที่จะมีส่วนร่วมเองก่อนที่จะผลักดันให้คนอื่นทําบ้างเหรอ?”
 
ผมรู้ว่าคําพูดนี้ถูกสร้างขึ้นให้ทุกคนกลัวจะเข้าร่วม ไม่ใช่แค่การแสดงออกของลีซอลโฮเท่านั้นที่ทําให้ทุกคนรู้สึกลําบากใจ แต่เมื่อได้ยินเช่นนั้น สมาชิกคนอื่น ๆ ที่อยู่ที่นี่ก็แสดงออกเช่นเดียวกัน
 
“อืม…”
 
“แต่มันยากสําหรับเราที่จะยืนอยู่แนวหน้า…”
 
“ผมไม่คิดว่าเราจะสามารถใช้พลังที่จําเป็น…”
 
“ทุกคนที่นี่มีบทบาทที่แตกต่างเพื่อให้กิลด์ดําเนินต่อไปไม่ใช่เหรอ? เราไม่ใช่นักสู้ตั้งแต่แรก แม้ลีซอลโฮจะเกษียณอายุแล้ว แต่มันยังยากสําหรับเราที่จะยืนอยู่ในแนว หน้า”
 
“ฉันไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องนั้นเลยค่ะ สําหรับตัวฉันเอง มันดูเหมือนว่าพวกนายกําลังหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบ”
 
” เธอพูดอะไรออกมา?”
 
“ฉันไม่คิดว่าตัวเองคิดผิด พูดตามตรงก็ได้นะคะว่าพวกนายไม่อยากไป”
 
“ที่มันไม่รุนแรงเกินไปหน่อยเหรอ!”
 
“ฉันคิดว่าคุณรู้นะคะ ว่าใครในหมู่พวกเราที่แสดงความเห็นแก่ตัวในตอนนี้”
 
อารมณ์ที่ปะทะกัน เป็นเรื่องธรรมดาสําหรับฮวังจองยอนที่จะตั้งสมมติฐานนี้ ใคร ๆ ก็เคยทําเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามเราคงไม่สามารถทําอะไรกับมันได้
 
พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของกองกําลังที่ไม่ใช่นักสู้อย่างไม่ต้องสงสัย มันคงไม่สมเหตุสมผลที่จะพาพวกเขามากับเรา พวกเขาอาจจะกลายเป็นอุปสรรค
 
“พวกคุณไร้ยางอายจริง ๆ…”
 
มันอาจจะเป็นความเข้าใจผิด แต่ผมเกือบจะได้เห็นลีซอลโฮและคนอื่น ๆ ต้องการให้เราเสียชีวิตจากการเดินทางครั้งต่อไป มันจะเป็นโอกาสที่ดีในการควบคุมสิ่งต่าง ๆ
 
หากนักสู้ทุกคนไม่สามารถรอดชีวิตกลับมาในดันเจี้ยนระดับฮีโรอิคได้ พวกเขาจะละเมิดระบบใหม่ตามอิทธิพลที่บลูกิลด์ได้รับการปลูกฝัง โดยมีลีซอลโฮอยู่ตรงกลาง
 
โลกกําลังเปลี่ยนไป ไม่มีทางที่ตาแก่อย่างเขาจะพาบลูกิลด์กลับไปสู่ความรุ่งโรจน์ในอดีต แต่มันจะเป็นเวลาเหมาะสมอย่างยิ่งสําหรับพวกเขาที่จะขายกิลด์
 
‘แน่นอน ทุกอย่างจะจบลงที่เงิน’
 
แม้จะไม่มีนักสู้เหลืออยู่ในกิลด์ แต่ความมั่งคั่ง โครงสร้างพื้นฐานและกิลด์เฮาส์ยังมีค่า
 
ผมเคยคิดว่าคิมฮยอนซองกําลังพิจารณาเรื่องนี้อยู่แล้ว ทําไมพวกเขาถึงไม่คิดแบบเดียวกันล่ะ? สิ่งที่ผมไม่เข้าใจคือทําไมลีซอลโฮถึงดูเหมือนเป็นผู้บงการของพวกเขา
 
‘เขามีคนหนุนหลัง?’
 
ผมเกือบจะแน่ใจแล้ว คนแก่ที่ไม่รับความเสี่ยง การพนันมีโอกาสกระทํามากขึ้นสําหรับผู้ที่อายุน้อยกว่า ที่ต้องการมีชีวิตมันคง
 
ผมแทบจะเดิมพันได้ว่าเหตุผลเดียวที่ชายชราเหล่านี้สามารถดํารงตําแหน่งในกิลด์
 
แต่มันก็ไม่สําคัญ พวกเขาต้องรับผิดชอบต่อความเสื่อมโทรมของกิลด์
 
เมื่อบรรยากาศดูกดดันขึ้น ลีซอลโฮก็เปิดปากพูดขึ้นอีกครั้ง
 
“ได้โปรดหยุดมันด้วยครับ คนอื่น ๆ จะรู้สึกหงุดหงิดกับสิ่งที่คุณกําลังทําเช่นกันวันนี้จองยอนดูตื่นเต้นผิดปกติ”
 
“หัวหน้า แต่ว่า…”
 
“คุณไม่สามารถพาเจ้าหน้าที่ธุรการไปที่ดันเจี้ยนได้ เช่นเดียวกับลีชอลโฮ เมื่อพิจารณาว่าคุณเกษียณอายุไปแล้ว และไม่ได้มีสภาพดีนัก การไปกับคุณไม่ใช่ทางเลือกที่สมเหตุผล แน่นอนค่ะว่าฉันรู้ว่าจองยอนรู้สึกอย่างไร ฉันก็รู้สึกแบบเดียวกันค่ะ จริง ๆ แล้วฉันไม่พอใจกับสิ่งที่คุณทั้งคู่กําลังทําอยู่ในตอนนี้”
 
“อา…”
 
“อืม”
 
“ผมช่วยไม่ได้…”
 
“เมื่อก่อนมันไม่เป็นแบบนี้ค่ะ…ฉันรู้สึกอายที่ต้องแสดงความไม่เป็นมืออาชีพแบบนี้ต่อหน้าที่ยองและฮยอนซอง บลูกิลด์ที่ฉันจินตนาการไว้ไม่ใช่แบบนี้ แน่นอนการกระทําของ คุณมีเหตุผลแน่นอนว่าคุณไม่สามารถออกไปที่ดันเจี้ยนพร้อมกับคนที่ไม่ใช่นักสู้ ฉันยังรู้ว่าสภาพร่างกายของคุณไม่เหมือนเมื่อก่อน อย่างไรก็ตาม…ฉันรู้สึกผิดหวังจริง ๆ ที่เห็นว่าพวกคุณทุกคนเลือกที่จะแสดงความผิดหวังของตัวเองอย่างไร ไม่สิ อันที่จริงฉันผิดหวังที่สุดกับการที่ตัวเองไร้ความสามารถ
 
ผมรู้ว่าความเสียใจเกิดขึ้นบนใบหน้าทั้งสองฝ่าย เมื่อพวกเขาได้ยินเช่นนี้ ความผิดนี้จะไม่หายไป เว้นแต่พวกเขาอาสาจะเข้าร่วม นอกจากนี้ผมยังรู้สึกได้ถึงความผิดหวังของลีซังฮี เธอคงรู้สึกเหมือนว่าเธอละทิ้งฮยอนซองและผมจากการได้ รับประสบการณ์ในกิลด์ที่เหมาะสม
 
ลีซังฮีเริ่มมองมาในทิศทางของเราอย่างช้า ๆ ผมรู้ว่าเธออยากจะพูดอะไร ก่อนที่เธอจะเปิดปากขึ้นด้วยซ้ํา
 
“ฮยอนซองและกียอง”
 
” ครับ?”
 
” ครับ?”
 
“ฉันขอโทษจริง ๆ ค่ะที่ต้องย้อนคําพูดก่อนหน้า พวกคุณช่วยออกเดินทางครั้งนี้ไปพร้อมกับพวกเราได้ไหมคะ?”
 
เสียงของลีซังฮีสั่น เมื่อเธอก้มหน้าและมีน้ําตาที่เริ่มเอ่อล้นจากดวงตาของเธอ
 
‘สถานการณ์นี้ทําให้เธอเปลี่ยนใจ’
 
หากสิ่งนี้เกิดขึ้นเมื่อหนึ่งเดือนก่อน เธอคงจะไม่ยอมให้เราเข้าร่วม
 
‘นั่นเป็นเหตุผล’
 
อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าเรายังมีโอกาสรอด แม้จะมีค่าสถานะแค่ 60 และอาชีพที่สามก็ตาม ผมรู้ว่าลีซังฮีได้คํานึงถึงเรื่องนี้ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทําให้เธอเปลี่ยนใจ
 
ผมเข้าใจความเร่งด่วน นี่เป็นสถานการณ์เลวร้ายที่สุดที่ บลูกิลด์เคยประสบมา และเราต้องการกําลังคนทั้งหมดที่สามารถหาได้ แม้เราจะขาดแคลนก็ตาม เราไม่รู้ด้วยซ้ําว่ามีใครจากกลุ่มที่หายไปยังมีชีวิตรอดหรือไม่ เมื่อเราไปถึงที่นั่น
 
ผมเข้าใจว่าทําไม เธอถึงเต็มใจเปิดรับทุกโอกาสที่มี
 
คําตอบของคิมฮยอนซองต่อคําขอจากใจจริงของลีซังฮี นั้นชัดเจน
 
“แน่นอนครับ”
 
ผมยิ้มให้กับคําตอบของเขา
 
“ขอบคุณค่ะ” ซังฮีกล่าว
 
“เราแค่ทําในสิ่งที่ควรทํา” ฮยอนซองกล่าวเสริม
 
ลีซังฮีพยักหน้าและพูดอีกครั้ง
 
“จากนั้นฉันจะเตรียมพร้อมสําหรับการส่งทีมกู้ภัย เราจะออกเดินทางทันที”
 
“ได้ครับ ตามที่คุณบอก”
 
“ดังนั้นมันก็คือ หน่วยที่สองและเจ็ดจะไปกับฉัน ช่วยเตรียมตัวให้เร็วที่สุดด้วยค่ะ เราจะออกเดินทางในอีกครึ่งชั่วโมง
 
“ได้ครับ คุณผู้หญิง”
 
“สําหรับผู้ที่จะยังอยู่ในกิลด์ ช่วยไปพบกับกิลด์อื่น ๆ รวมถึงเรดเมอร์เซนนารีด้วย โปรดส่งข้อมูลสํารองไปยังคณะ สํารวจทันที่ที่มีการติดต่อกลับ”
 
“แน่นอน”
 
“ดวงตาของฉัน…”
 
ลีซังฮีร้องและเปลี่ยนความสนใจไปหาลีชอลโฮ
 
“ครับ ลีซังฮี?” ซอลโฮถาม
 
“ฉันหวังว่าคุณจะไม่ทําให้ฉันผิดหวัง และฉันเลือกที่จะเชื่อในตัวคุณ” ซังฮีกล่าว
 
ชายชราคนนี้ตอบสนองอย่างรวดเร็ว ด้วยน้ําเสียงที่เหมือนจะจริงใจ
 
“ผมจะตอบแทนความเชื่อของคุณ ลีซังฮี ทันที่ที่เราติดต่อกับกิลด์อื่น ๆ ได้ เราจะส่งกําลังเสริมไปคุณอย่างแน่นอน”
 
“ขอบคุณค่ะ”
 
เมื่อถึงตอนนั้นลีซังฮีก็วิ่ง โดยไม่ต้องการที่จะรออีกต่อไป ฮวังจองยอนทําตามอย่างเหมาะสม และแม้แต่สมาชิกฝ่ายบริหารก็เคลื่อนไหวด้วยความรู้สึกเร่งรีบ ดังนั้นคิมฮยอนซอง และผมจึงทําเช่นกัน
 
หลังจากลงมาที่ชั้นหนึ่ง ผมก็เห็นสมาชิกที่เหลือของเรารวมตัวกันเรียบร้อยแล้ว เมื่อเห็นว่าซันฮียองเป็นผู้รับผิดชอบ ดูเหมือนว่าการเตรียมตัวสําหรับการเดินทางไม่จําเป็นต้องได้รับการดูแลอีกต่อไป
 
นี่เป็นช่วงเวลาที่สมบูรณ์แบบสําหรับทักษะของผม เนื่องจากผมได้ทํามากกว่าแค่เตรียมตัวสําหรับการสํารวจ
 
‘น่าเสียดาย…’
 
ลีซังฮีเป็นคนดี อย่างไรก็ตามเธอไม่ใช่ผู้นําในอุดมคติ พูดง่าย ๆ ก็คือผมพบว่าวิธีคิดของเธอนั้นบกพร่อง
 
แน่นอนว่าความเชื่อเป็นเครื่องมือที่ดีในการติดต่อกับผู้คนมากมาย
 
ลีซังฮีอาจมีความรู้สึกเดียวกันกับลีซอลโฮและลูกน้องทิ้ง เง่าของเขาอย่างไรก็ตามมันไม่ได้หมายความว่าซอลโฮจะจ่ายส่วยให้กับศรัทธาที่เธอมอบให้
 
ผมไม่รู้ถึงที่มาของความเชื่ออันลึกซึ้งของลีซังฮี แต่ผมเดาได้ว่าทําไม – เธอมีความเชื่อกับคนที่เธออยู่ด้วยมาเป็นเวลานาน และเธอเชื่อว่าแม้ว่ากิลด์จะตกอยู่ในอันตราย แต่พวกเขาก็จะอยู่ด้วยกันไปจนจบ
 
ไม่สําคัญว่าผมจะคิดถูกหรือผิด ความเชื่อแบบนั้นมักจะถูกหักหลังด้วยการทรยศ ในความคิดของผม ตาแก่เหล่านี้ ไม่ได้แตกต่างจากคนยากจนที่ทําร้ายซันฮียอง ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวของพวกเขาคือความจริงที่ว่าพวกเขาโชคดีพอที่จะทําคะแนนได้ และพวกเขายังรู้วิธีที่จะผลักดันให้คนอื่นก้าวไปข้างหน้าแทนตัวเอง
 
ผมไม่สามารถตําหนิพวกเขาที่เลือกวิธีดังกล่าว อย่างไรก็ตามมันก็หมายความว่าพวกเขามีความสามารถอย่างอื่น นอกจากกลอุบายนี้
 
‘ความเชื่อเหล่านั้น…’
 
มันเป็นอารมณ์ที่ติดค้าง ตราบใดที่ทั้งสองฝ่ายรู้ว่าพวกเขายังสามารถหาประโยชน์จากกันและกันได้ในสายตาของตาแก่เหล่านี้ พวกเขาอาจมองไม่เห็นประโยชน์ใด ๆ ที่จะมาจากการช่วยเหลือลีซังฮี
 
“เราจะออกเดินทางภายในสามสิบนาที…”
 
” เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ?”
 
“ไม่มีอะไรหรอกฮายัน”
 
“อยากให้ฉันทําอะไรอีกไหมคะพี่?”
 
“อืม ฮายัน เธอช่วยหยิบอะไรสักอย่างให้ฉันหน่อยได้ไหม”
 
“คะ?”
 
“ฉันต้องไปทําธุระตอนนี้…ฉันมีเวลาไม่มากน่ะ”
 
“แน่นอนคะ ”
 
คิมเยริซึ่งมองมาทางผมด้วยสีหน้าสงสัย ก็เริ่มเดินเข้ามาหาผมทันที หลังจากที่จองฮายันวิ่งออกไป
 
‘ฮะ เธอสังเกตเห็นสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว’
 
“เธอช่วยไปทําธุระให้ฉันหน่อยได้ไหม?”
 
เธอพยักหน้าตอบรับ
 
“มันจะช่วยฮยอนซองได้มาก”
 
“ตกลง”
 
“เธอช่วยส่งจดหมายไปหาคนชื่อลีจีฮเยจากกิลด์แบล็คสวอนได้ไหม?”
 
“ลี จี-เฮ?”
 
“ครับ ลีจีฮเย ถ้าเป็นไปได้ คงจะดีกว่าถ้าไม่มีใครสังเกตเห็นสิ่งที่เธอทําพยายามอย่าแอบอ่านมันล่ะ”
 
“แต่ว่า…”
 
“แค่เธอบอกว่าฉันส่งเธอมา พวกเขาจะตอบรับอย่างแน่นอน แต่เธอต้องไปให้เร็วที่สุด”
 
“ตกลง…”
 
เธอหายไปในพริบตาเดียว ความคิดของผมตกอยู่ในความสับสนตอนนี้ ผมไม่รู้ด้วยซ้ําว่าตัวเองทําในสิ่งที่ถูกหรือผิดอย่างไรก็ตามผมรู้ว่าตัวเองคิดถูกในระดับหนึ่ง
 
ทําไมล่ะ? อาจมีบางคนถาม
 
เพราะผมรู้ว่าไม่มีอะไรดีจากการใส่ความเชื่อมั่นกับกลุ่มคนที่รู้ว่าเป็นศัตรูของผม
 
“เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดสําหรับการแสดง…”
 
ผมรู้ว่าจําเป็นต้องเริ่มลบผู้บริหารที่เน่าเฟะออกจากกิลด์แล้ว
 

Regressor Instruction Manual

Regressor Instruction Manual

วันหนึ่งผมถูกเรียกตัวมายังโลกใบนี้ สัตว์ร้ายหลั่งไหลออกมาและวิกฤตที่น่าเหลือเชื่อก็มาถึง พรสวรรค์ของผมไม่อาจแย่ไปได้กว่านี้แล้ว [ระดับความสามารถของผู้เล่นอยู่ในระดับต่ำสุด] [ตัวเลขทั้งหมดเกือบสิ้นหวัง] ไม่ว่าผมจะเลือกเป็นนักรบหรือพ่อมดที่มีความสามารถก็ตาม ไม่ว่าคุณจะย้อนเวลากลับไป คุณต้องใช้ประโยชน์จากทุกสิ่งเพื่อที่จะอยู่รอด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset