Reincarnation Of The Strongest Sword God – ตอนที่ 2437

ตกตะลึงทั่วทุกด้าน

จักรมังกรดำ เมืองมังกรดำ สถานที่พักกิลของดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยน

ปัจจุบันมีผู้เล่นมากกว่าห้าสิบคนอู่ในห้องรับรองชั้นบนสุดที่กว้างขวาง และหากสังเกตดีๆก็จะพบผู้เล่นเหล่านี้ทุกคนนั้นล้วนมาถึงขั้นสามแล้ว และแม้แต่หัวหน้ากิลของมหาอำนาจก็ยังจะต้องหวาดกลัว เมื่อได้เห็นฉากนี้

เพราะท้ายที่สุดในระยะนี้ของเกมนั้น มันมีมหาอำนาจแค่ไม่กลุ่มเท่านั้นที่จะมีผู้เล่นขั้นสามมากกว่าห้าสิบคนอยู่ภายใต้พวกเขา

“ปรมาจารย์ดราก้อนพาวิลเลี่ยน ทำไมวันนี้คุณถึงเรียกพวกเรามารวมตัวกันที่นี่ ?” ชิลวอริเออร์ ชาย ขั้นสาม เลเวลหนึ่งร้อยสี่ที่มีรูปร่างเตี้ยกล่าวถามด้วยสีหน้าไม่พอใจต่อจักรพรรดิเก้ามังกรอยู่เล็กน้อย

ในขณะเดียวกันก็ไม่มีใครในห้องรับรองนี้พบว่าการแสดงออกของชิลวอริเออร์มันน่าแปลกใจ ในทางตรงกันข้ามทุกคนกับคิดว่ามันสมเหตุสมผลด้วยซ้ำซ้ำ เพราะชายรูปร่างเตี้ยวัยกลางคนผู้นี้นั้นก็คือสตับบอร์นฮาร์ท ซึ่งสตับบอร์นฮาร์ทนั้นไม่เพียงแต่จะเป็นหัวหน้ากิลของกิลที่มีชื่อว่ามัจจุราช ซึ่งเป็นกิลสายความมืดอันดับหนึ่งแห่งจักรวรรดิมังกรดำ แต่เขายังมีฉายาว่า “ค้อนเหล็กกล้า” อีกด้วย

แม้ว่ามัจจุราชจะไม่ใช่มหาอำนาจ แต่มันก็ไม่ใช่ตัวตนที่กิชั้นสูงทั่วไปจะสามารถแตะต้องได้เลย นอกจากนี้กลุ่มผู้เล่นสายความมืดส่วนใหญ่นั้นก็ยังประกอบไปด้วยคนบ้าที่ชอบเข่นฆ่าเป็นชีวิตจิตใจ ดังนั้นกิลสายความมืดจึงจะมีเส้นทางการพัฒนาที่แตกต่างจากกิลทั่วไปอย่างสิ้นเชิง ดังนั้นมัจจุราชจึงไม่ได้กลัวมหาอำนาจใดๆที่ปฎิบัติการอยู่ในจักรวรรดิมังกรดำเลย ดังนั้นโดยธรรมชาติแล้ว สตับบอร์นฮาร์ทจึงไม่ต้องกังวลใดๆเมื่อแสดงพฤติกรรมไม่สุภาพต่อจักรพรรดิเก้ามังกร

เมื่อได้ยินคำถามของสตับบอร์นฮาร์ท ตอนนี้ทุกคนก็หันไปมองจักรพรรดิเก้ามังกรอย่างอยากรู้อยากเห็น เพราะท้ายที่สุดนี่เป็นคำถามที่พวกเขาทุกคนอยากถามเช่นกัน

ทุกคนในห้องนั้นล้วนเป็นผู้ทรงอิทธิพลอย่างมากในจักรวรรดิมังกรดำ พวกที่มารวมตัวกันนี้มีทั้งหัวหน้ากิลของกิลขนาดใหญ่ ผู้บัญชาการของทีมนักผจญภัยชั้นยอด แถมยังมีตัวแทนจากซุเปอร์กิลบางกิลอีก นี่มันเป็นดั่งการรวมตัวกันของผู้อยู่ในจุดสูงสุดของจักรวรรดิมังกรดำเลย

“มีข่าวดี …” จักรพรรดิเก้ามังกรกล่าวตอบด้วยรอยยิ้มสงบ “ทุกคนไม่อยากไปพัฒนาในป่าใบไม้ผลิกันหรอ ? โอกาสของคุณมาถึงแล้ว !!!”

ป่าใบไม้ผลินั้นเป็นแผนที่เป็นกลางเลเวลหนึ่งร้อยที่อยู่ใกล้กับจักรวรรดิมังกรดำมากเช่นกัน อย่างไรก็ตามเนื่องจากสภาสิบแปดปีกมีเมืองป่าหินอยู่ในแผนที่นี้ ดังนั้นมหาอำนาจต่างๆในจักรวรรดิมังกรดำจึงไม่สามารถจะทำอะไรได้เลย และทำได้แค่ดูสภาสิบแปดปีกกับเหล่าพันธมิตรของกิลผูกขาดแผนที่ไว้ทั้งหมด เพราะท้ายที่สุดแล้วแม้แต่ซุเปอร์กิลยังไม่กล้าลงมือกันเลย แล้วพวกเขาจะไปทำอะไรกับเมืองป่าหินได้กันล่ะ ?

“คุณพยายามจะพูดอะไร ?” สตับบอร์นฮาร์ทถามย้อนจักรพรรดิเก้ามังกร

ป่าใบไม้ผลินั้นเป็นแผนที่เป็นกลางเลเวลหนึ่งร้อย และแม้แต่กิลมัจจุราชซึ่งเป็นกิลสายความมืดก็ยังไม่สามารถหลีกเลี่ยงการจะต้องเข้าไปล่าที่นั่นได้ และหากกิลมัจจุราชได้เข้าไปล่าในป่าใบไม้ผลิแบบเต็มตัวนั้น การพัฒนาของกิลก็จะเป็นไปอย่างก้าวกระโดดแน่นอน

“ฉันเชื่อว่าพวกคุณทุกคนล้วนรู้ไม่มากก็น้อย ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นที่สถานที่พักกิลของดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยนที่เมืองทไวไลท์” จักรพรรดิเก้ามังกรกล่าว “พูดให้ถูกคือสภาสิบแปดปีกกำลังหยิบยื่นม้วนคัมภีร์วงเวทย์บาเรียโบราณขั้นสูงออกมาให้สาธารณชนได้เห็น”

“อืมม เราก็รู้เรื่องนี้มาเช่นกัน แต่แล้วยังไงล่ะ ? สภาสิบแปดปีกอยากจะขายบางส่วนให้กับพวกเรางั้นหรอ ?” สตับบอร์นฮาร์ทกล่าวถามพลางหัวเราะเบาๆ “ยังไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั่นมันเป็นเพียงละครฉากหนึ่ง หรือเรื่องจริง …”

ในระยะนี้ของเกมมหาอำนาจต่างๆจะถือว่าวงเวทย์บาเรียเสาสิบสองธาตุนั้นเป็นสมบัติแน่นอน และก็จะไม่มีใครไม่ถูกล่อลวงโดยมัน

อย่างไรก็ตามสภาสิบแปดปีกจะขายสมบัติล้ำค่าแบบนี้ให้กับคนภายนอกได้อย่างไร ?
ยิ่งไปกว่านั้นนั่นคือม้วนคัมภีร์วงเวทย์บาเรียโบราณขั้นสูงเลยที่พวกเขากำลังพูดถึง ซึ่งมันเป็นเทคโนโลยีที่ตกทอดมาตั้งแต่สมัยโบราณ ดังนั้นสภาสิบแปดปีกจึงไม่ควรจะสามารถจัดหาพวกมันได้จำนวนมาก

“ตอนนี้ฉันสามารถบอกคุณได้เลยว่าสภาสิบแปดปีกนั้นสามารถจัดหาม้วนคัมภีร์วงเวทย์บาเรียโบราณขั้นสูงได้จำนวนมาก” จักรพรรดิเก้ามังกรกล่าวด้วยความตื่นเต้น “ยิ่งไปกว่านั้นฉันยังมีหลักฐานที่ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้”

“เป็นไปได้อย่างไร ?!”

“เทคโนโลยีที่บอกถึงวิธีการผลิตม้วนคัมภีร์วงเวทย์บาเรียโบราณขั้นสูงแบบนี้น่าจะสูญหายไปนานแล้วนี่ !!!”

ทุกคนนั้นแสดงปฎิกิริยาที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ เมื่อพวกเขาได้ยินคำตอบที่มั่นใจของจักรพรรดิเก้ามังกร พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องจริง สำหรับโอกาสที่จักรพรรดิเก้ามังกรจะโกหกพวกเขานั้น มันก็แทบจะเท่ากับศูนย์เลย เพราะท้ายที่สุดแล้วจักรพรรดิเก้ามังจะไม่ได้รับประโยชน์ใดๆเลยจากการทำแบบนี้

“แล้วเรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับเรา ? แม้ว่าเราจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เราก็ไม่มีสิทจะได้รับม้วนคัมภีร์วงเวทย์บาเรียโบราณขั้นสูงนั่นมาอยู่ดี …” สตับบอร์นฮาร์ทกล่าว

ในขณะนี้ แม้ว่าความจริงที่ว่าสภาสิบแปดปีกสามารถจัดหาม้วนคัมภีร์วงเวทย์บาเรียโบราณขั้นสูงได้จำนวนมากนั้นจะจัดว่าน่ากลัว แต่นั่นมันก็เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับมหาอำนาจต่างๆเท่านั้น กิลสายความมืดอย่างพวกเขาไม่น่ามีสิทเข้าไปยุ่งกับเรื่องนี้ได้

“นั่นคือเหตุผลที่ฉันรวบรวมพวกคุณทั้งหมดมาที่นี่ …” จักรพรรดิเก้ามังกรกล่าว ขณะที่เขากวาดสายตาไปทั่วห้องก่อนจะยิ้ม และพูดต่อว่า “คุณอาจจะทำเรื่องนี้กันไม่ได้ด้วยความแข็งแกร่งของตัวคุณเอง แต่อย่างไรก็ตามเมื่อพวกคุณรวมกันแล้ว แม้แต่ซุเปอร์กิลในปัจจุบันก็ยังไม่สามารถจะเพิกเฉยต่อพวกคุณได้ ในขณะเดียวกันเนื่องมาจากม้วนคัมภีร์วงเวทย์บาเรียโบราณขั้นสูง ครั้งนี้มหาอำนาจต่างๆจะไม่ปล่อยให้สภาสิบแปดปีกหลุดจากเบ็ดไปได้แน่นอน และมันก็ไม่สำคัญว่าสภาสิบแปดปีกจะเสริมความแข็งแกร่งให้เมืองป่าหินไปแล้วมากขนาดไหน ต่อหน้ากองทัพผู้เล่นขั้นสาม มันจะมีก็แต่เพียงความพินาศเท่านั้นที่รอสภาสิบแปดปีกอยู่ !!!”

“ในเวลานั้น ต่อให้เราสร้างพันธมิตรขึ้นมาได้ เราอาจไม่มีสิทจะได้รับม้วนคัมภีร์วงเวทย์บาเรียโบราณขั้นสูงแล้ว แต่อย่างไรก็ตามเราก็น่าจะได้รับส่วนแบ่งจากผลประโยชน์ของเมืองป่าหินบ้าง ….”

“พวกคุณไม่สนใจเมืองป่าหินงั้นหรอ ?”

คำพูดของจักรพรรดิเก้ามังกรที่กล่าวออกมานั้น มันเต็มไปด้วยสิ่งล่อใจที่ไม่มีที่สิ้นสุด และมันก็ทำให้ดวงตาของบางคนในที่นี้เริ่มเต็มไปด้วยความโลภขึ้นมาทันที

ในปัจจุบันจะมีใครไม่สนใจเมืองป่าหินกัน ?

แม้กระทั่งตอนนี้เมืองป่าหินก็ยังเป็นเมืองเดียวในทวีปด้านตะวันออกที่สามารถตั้งหลักบนแผนที่เป็นกลางเลเวลหนึ่งร้อยได้อย่างมั่นคง ซึ่งเมืองนี้นั้นไม่เพียงแต่จะช่วยฟื้นฟูค่าสตามิน่ากับค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของผู้เล่นได้อย่างรวดเร็ว แต่มันยังช่วยประหยัดเวลาในการเดินทางอีกด้วย ผู้เชี่ยวชาญขั้นสามหลายคนนั้นเต็มใจจะจ่ายเงินเป็นจำนวนมหาศาลเพื่อเช่าบ้านที่นั่น แต่ถึงอย่างนั้นการจะได้เช่าบ้านในเมืองก็ยังเป็นเรื่องยากมากๆ

หากพวกเขาสามารถกลายเป็นผู้ปกครองเมืองป่าหินได้นั้น ผลกำไรที่พวกเขาจะได้รับมันจะต้องมากมายมหาศาลเกินจินตนาการแน่นอน

เมื่อคิดได้ดังนี้ ทุกคนในปัจจุบันนั้นก็ได้รีบทำการลงนามในข้อตกลงเป็นพันธมิตรกับจักรพรรดิเก้ามังกรทันที ในขณะเดียวกันจุดประสงค์นี้ก็คือเพื่อให้สมาชิกมีอำนาจมากขึ้นในการเจรจากับมหาอำนาจต่างๆ

ในเวลาเดียวกันภายในห้อง VIP ที่ร้านอาหารชั้นสูงแห่งหนึ่งของเมืองไวท์ริเวอร์ ….

“รองหัวหน้ากิล เราได้ตรวจสอบยืนยันคำพูดของแบล๊คเฟรมมาแล้ว มันเป็นความจริง เพราะเพื่อจะทำการซื้อม้วนคัมภีร์วงเวทย์บาเรียโบราณขั้นสูงจำนวนมาก ฟีนิกซ์เรนนั้นถึงกับใช้วัสดุในคลัง พร้อมกับคริสตัลเวทย์มนต์ที่ดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยนเก็บสะสมไว้ไปแทบทั้งหมดเลย” ชายร่างสูงที่มีความสูง 2.4 เมตร กล่าวรายงานผู้หญิงที่งดงามที่มีผมสั้นตรงหน้าเขา

ผู้หญิงผมสั้นคนนี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากโคลท์ชาโด้ส หนึ่งในรองหัวหน้ากิลของไมโทโลจี้ !!!

หลังจากออกจากเมืองทไวไลท์มา เธอก็ได้เดินทางไปยังเมืองไวท์ริเวอร์ทันที ในขณะเดียวกันเธอยังมอบหมายให้สายลับของเธอคอยตรวจสอบทุกการเคลื่อนไหวของดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยน

“ฉันไม่เคยคิดเลยว่าสภาสิบแปดปีกจะมีรากฐานแบบนี้จริงๆ ดูเหมือนว่าก่อนหน้านี้ฉันจะประเมินกิลๆนี้ต่ำเกินไปมาก” เมื่อโคลท์ชาโด้วได้ยินรายงานจากลูกน้องของเธอ เธอก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มขึ้นมาราวกับเด็กที่พึ่งได้พบของเล่นที่น่าสนใจใหม่

“นอกจากนี้เรายังได้รับข่าวมาว่าสภาสิบแปดปีกได้เชิญ ศาลาลับ สิบสามบัลลังก์ ไจแอ้นฮาร์ท และอันยีงดิ้งโซลมาประชุมกันด้วย ซึ่งดูจากรูปลักษณ์แล้ว สภาสิบแปดปีกนั้นคงพยายามจะผูกกิลเหล่านี้เข้าด้วยกันโดยใช้ม้วนคัมภีร์วงเวทย์บาเรียโบราณขั้นสูง และใช้พวกนี้สร้างแนวรบ …”

“มันไม่ใช่ไอเดียที่แย่เลย หากสภาสิบแปดปีกได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากกิลเหล่านี้ พวกเขาจะกลายเป็นก้างชิ้นใหญ่แน่นอน” โคลท์ชาโด้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “แต่น่าเสียดายที่มันไม่มีประโยชน์ใดๆแล้ว แม้ว่ากิลเหล่านี้จะร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นม้วนคัมภีร์วงเวทย์บาเรียโบราณขั้นสูง หรือความลับของสภาสิบแปดปีก เราจะต้องได้มันมาทั้งหมด !!!”

ในความเห็นของเธอ การกระทำของซือเฟิงที่ใช้ม้วนคัมภีร์วงเวทย์บาเรียโบราณขั้นสูงเพื่อปราบปรามไมโทโลจี้นั้นมันไร้เดียงสาเกินไป เขานั้นไม่ได้รู้เลยว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง หลังจากที่เขาทำการแจกจ่ายม้วนคัมภีร์วงเวทย์บาเรียโบราณขั้นสูงจำนวนมากออกไป

ไม่ต้องพูดถึงศาลาลับแค่กิลเดียวเลย ต่อให้ซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดในเกมทำงานร่วมกัน แต่พวกเขาก็จะยังคงไม่สามารถหยุดกองทัพผู้เชี่ยวชาญขั้นสามหลายพันคนได้แน่นอน
ในเวลาเดียวกันที่บริเวณป่าโบราณแห่งหนึ่ง ทีมหนึ่งร้อยคนที่ประกอบไปด้วยผู้เชี่ยวชาญขั้นสามมากกว่าสี่สิบคนก็กำลังนั่งพักผ่อนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ในขณะเดียวกันที่อยู่รอบๆทีมนี้ก็คือซากศพของมอนสเตอร์เลเวลมากกว่าหนึ่งร้อยห้าจำนวนมาก และหลายตัวในหมู่มอนสเตอร์เหล่านี้นั้นมันก็มีแม้กระทั่งลอร์ดบอสผู้ยิ่งใหญ่ รวมไปถึงแกรนลอร์ดสายพันธุ์โบราณจำนวนหนึ่งรวมอยู่ด้วย

ในขณะเดียวกัน ผู้นำของทีมนี้ก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากหยวนเทียนซินแห่งศาลาลับ

“แบล๊คเฟรมต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ !!! เขากล้าทำแบบนี้ได้ยังไง !!!” ใบหน้าของหยวนเทียนซินแปรเปลี่ยนเป็นซีดเผือด หลังจากที่เขาได้อ่านรายงานที่ลูกน้องของเขาส่งมา “นี่เขากำลังตั้งตนเป็นศัตรูกับมหาอำนาจทุกกลุ่มในทวีปด้านตะวันออกเลยนะ !!!”

ในตอนแรกนั้นหยวนเทียนซินคิดว่าซือเฟิงเชิญศาลาลับไปเข้าร่วมการประชุมเพราะมีข่าวดี อย่างไรก็ตาม เขาไม่คิดเลยว่าซือเฟิงคิดจะเปิดโชว์การแสดงที่เสี่ยงมากขนาดนี้

“ลุงหยวน พวกเราจะยังไปเข้าร่วมการประชุมอยู่ไหม ?” เพอเพิ้ลเจดกล่าวถามด้วยสีหน้ากังวล หลังจากที่เธอได้อ่านรายงานนี้

คราวนี้สภาสิบแปดปีกทำเกินไปอย่างแท้จริง !!!

ก่อนหน้านี้การเคลื่อนย้ายเมืองป่าหินจากก้นบึ้ง Abyss มานั้นก็ทำให้มหาอำนาจต่างๆอิจฉาอย่างมากแล้ว แต่อย่างไรก็ตามด้วยการป้องกันที่แข็งแกร่งของเมืองป่าหิน พวกเขาจึงยังไม่กล้าลงมือ เพราะมันจะได้ไม่คุ้มเสีย

อย่างไรก็ตามการเคลื่อนไหวครั้งนี้ของสภาสิบแปดปีกนั้นได้กระเทือนไปถึงรากฐานของมหาอำนาจต่างๆเลย และเพื่อป้องกันไม่ให้มีมหาอำนาจใหม่เกิดขึ้นมาทัดเทียมกับตัวเอง มหาอำนาจเดิมนั้นจะพยายามทุกอย่างเพื่อทำลายสภาสิบแปดปีกแน่นอน และคราวนี้แม้แต่ศาลาลับก็จะไม่สามารถช่วยอะไรสภาสิบแปดปีกได้

“แน่นอน แถมเราจะต้องรีบไปทันทีด้วย !!! หากเรารอจนมหาอำนาจต่างๆรวบรวมพันธมิตรกันเรียบร้อย มันจะสายเกินไป !!!” หยวนเทียนซินกล่าว และเขาก็รีบจัดทีมเดินทางกลับไปยังเมืองไวท์ริเวอร์ทันที โดยเขาวางแผนจะให้ซือเฟิงยอมมอบวิธีการจัดหาม้วนคัมภีร์วงเวทย์บาเรียโบราณขั้นสูงจำนวนมากมา และหลังจากนั้นศาลาลับจะเป็นผู้รับผิดชอบในการเจรจากับมหาอำนาจต่างๆเอง ไม่งั้นมันจะมีเพียงแค่ความตายเท่านั้นที่รอสภาสิบแปดปีกอยู่

ขณะเดียวกันอีกด้านหนึ่ง เมื่อซือเฟิงได้รับการชำระเงินจากฟีนิกซ์เรนครบแล้ว เขาก็ได้รีบเดินทางกลับไปที่เมืองไวท์ริเวอร์ทันทีเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังไม่ได้ตรงไปเริ่มการผลิตม้วนคัมภีร์วงเวทย์บาเรียเสาสิบสองธาตุทันที แต่เขาได้เลือกจะตรงไปยังสมาคมนักผจญภัยเพื่อจัดการเรื่องเควสเลื่อนขั้น ขั้นสามให้กับกองอัศวินของเขาซะก่อน

แต่เดิมเขาควรทำขั้นตอนนี้มานานแล้ว

เพราะท้ายที่สุดสมาชิกของกองอัศวินนั้นถือเป็นทหารส่วนตัวของผู้เล่น พวกเขาไม่เหมือนกับองครักษ์ส่วนตัว แม้ว่าอัศวินเหล่านี้จะเริ่มทำเควสเลื่อนขั้น ขั้นสามโดยอัตโนมัติ เมื่อพวกเขามาถึงเลเวลหนึ่งร้อย แต่หลังจากทำเควสสำเร็จ พวกเขาก็ยังต้องการให้ลอร์ดของพวกเขามาจ่ายค่าธรรมเนียมให้สมาคมนักผจญภัยอยู่ดี เพื่อที่พวกเขาจะได้เลื่อนขั้นอย่างเป็นทางการ

ก่อนหน้านี้ เนื่องจากปัญหาแล้วปัญหาเล่าประดังเข้ามาเรื่อยๆ ซือเฟิงจึงยังไม่มีเวลามาจัดการกับเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามตอนนี้เมื่อเขาทำทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เขาจึงต้องการจะจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยเช่นกัน ไม่งั้นเขาคงจะไม่สามารถเปิดเมืองป่าหินสู่สาธารณชน และทำให้มันกลายเป็นเหมืองทองที่แท้จริงได้ เพราะท้ายที่สุด เมืองกิลจะทำเงินได้อย่างมหาศาลก็จำเป็นจะต้องมีผู้เล่นจำนวนมาก

หลังจากเคลื่อนย้ายเมืองป่าหินเข้ามายังป่าใบไม้ผลิเพื่อให้มั่นใจว่าสภาสิบแปดปีกจะมีข้อได้เปรียบ ซือเฟิงก็ได้ตัดสินใจที่จะให้สิทธิ์เข้าถึงเมืองเฉพาะสมาชิก และพันธมิตรของสภาสิบแปดปีกเท่านั้น และมีบุคคลภายนอกจำนวนแค่เล็กน้อยเท่านั้นที่จะสามารถเข้าสู่เมืองได้ อย่างไรก็ตามตอนนี้จำนวนผู้เล่นขั้นสามในเกมก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และข้อได้เปรียบของเมืองป่าหินนั้นมันก็ลดลงอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้มันยังต้องใช้เงินจำนวนมหาศาลเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดูแลเมืองป่าหินในแต่ละวัน นอกจากเรื่องนี้แล้วยังมีสงครามทุกด้านกับสตาร์ลิ้งอีก ดังนั้นสภาสิบแปดปีกจึงแทบชักหน้าไม่ถึงหลังเลย
ด้วยเหตุนี้สภาสิบแปดปีกจึงจำเป็นจะต้องเปิดเมืองป่าหินให้กับสาธารณชน

ก่อนหน้านี้ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของสภาสิบแปดปีก ซือเฟิงจึงยังไม่กล้าจะเปิดเมืองให้สาธารณชน อย่างไรก็ตามตอนนี้โชคดีที่เขาเป็นลอร์ดที่แท้จริงแล้ว และเขาก็มีกองอัศวินห้าพันคนอยู่ภายใต้คำสั่ง ซึ่งนี่ก็เป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงกล้าจะเปิดเผยเสาหลักสิบสองธาตุด้วย

แม้ว่าเขาจะรู้ว่ามีอัศวินของเขาเพียงแค่ราวสองร้อยเท่านั้นจากห้าพันคนที่จะสามารถเข้าถึงขั้นสามได้อย่างรวดเร็ว แต่ NPC ก็แข็งแกร่งกว่าผู้เล่นมาก และเมื่อพิจารณาถึงความแข็งแกร่งของ NPC ขั้นสามเหล่านี้บวกกับความแข็งแกร่งของอัศวินขั้นสองอีกทั้งหมด มหาอำนาจต่างๆจะมีช่วงเวลาที่ยากลำบากมากแน่นอนในการจะคุกคามเมืองป่าหิน

ในขณะเดียวกัน หากมหาอำนาจต่างๆไม่สามารถจะคุกคามเมืองป่าหินได้ พวกเขาก็จะไม่สามารถจะจัดการกับสภาสิบแปดปีกได้แน่นอน

“ท่านลอร์ดผู้ได้รับมรดกระดับทองแดง มีอะไรให้ฉันรับใช้ ?” ผู้อาวุโสลอร์เรน
กล่าวถาม หลังจากที่เธอเดินเข้ามาในห้อง VIP ที่ซือเฟิงนั่งอยู่

“ฉันต้องการดูรายชื่ออัศวินที่ทำเควสเลื่อนขั้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว” ซือเฟิงกล่าว

“เข้าใจล่ะ ..” ลอร์เรนพยักหน้าและรีบออกไปหาข้อมูลที่ซือเฟิงร้องขอทันที ไม่นานหลังจากนั้น เธอก็กลับมาพร้อมกับเอกสารจำนวนมาก “ขณะที่อัศวินของท่าน 556 คน ได้ทำเควสเลื่อนขั้นสำเร็จแล้ว คุณต้องการดำเนินการตามขั้นตอนและลงทะเบียนเลื่อนขั้นอย่างเป็นทางการทั้งหมดเลยไหม ?”

Reincarnation Of The Strongest Sword God

Reincarnation Of The Strongest Sword God

เริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง เขาได้เข้ามาสู่ “เกมแห่งมีชีวิต” นี้อีกครั้งเพื่อที่จะควบคุมโชคชะตาของตัวเอง ครั้งนี้ , เขาจะไม่ถูกควบคุมจากคนอื่น ก่อนหน้านี้ราชาแห่งดาบเลเวล 200 , เขาได้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในชีวิต วิธีการที่จะได้รับเงิน! กลยุทธ์แห่งชัยชนะในดันเจี้ยน! เควสในตำนาน! สถานที่ดรอปอุปกรณ์! ทักษะที่ยังไม่ถูกค้นพบ! แม้แต่ความลับที่พวกผู้ทดสอบเบต้าไม่รู้ , เขารู้มันทั้งหมด สงครามอันยิ่งใหญ่ , ความก้าวหน้าในชีวิต , เข้าสู่ความเป็นพระเจ้า , บรรลุถึงจุดสูงสุดแห่งดาบ ตำนานของชายผู้ที่จะกลายเป็นเทพแห่งดาบได้เริ่มขึ้นแล้ว Starting over once more, he has entered this “living game” again in order to control his own fate. This time, he will not be controlled by others. Previously the Level 200 Sword King, he will rise to a higher peak in this life. Methods to earn money! Dungeon conquering strategies! Legendary Quests! Equipment drop locations! Undiscovered battle techniques! Even the secrets Beta Testers were unknowledgeable of, he knows of them all. Massive wars, life advancement, entering Godhood, sword reaching to the peak; a legend of a man becoming a Sword God has begun.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset