Reincarnation Of The Strongest Sword God – ตอนที่ 2438

กองอัศวินที่น่ากลัว

556 ?! ทำไมมันเยอะขนาดนั้นกัน ?!

ซือเฟิงจ้องมองไปที่รายชื่อในมือของเขาด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

จากการประเมินของเขาแม้ว่าอัศวินที่เขาคัดเลือกมาจะมีศักยภาพสูงมาก แต่มันก็ไม่ควรจะมีจำนวนมากขนาดนี้ที่ทำเควสเลื่อนขั้น ขั้นสามเสร็จได้อย่างรวดเร็ว เพราะท้ายที่สุดขั้นสามนั้นถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ แม้กระทั่งกับ NPC

โดยปกติอัศวินขั้นสอง ระดับทองแดงนั้นจะมีโอกาสน้อยกว่าห้าเปอเซ็นต์ในการทำเควสเลื่อนขั้น ขั้นสามให้ได้สำเร็จ ในขณะที่โอกาสของอัศวินขั้นสองระดับเหล็กลึกลับก็จะยังคงน้อยกว่าสิบเปอเซ็นต์ ต้องเป็นอัศวินขั้นสองระดับลึกลับขั้นเงินเท่านั้นจึงจะมีโอกาสแปดสิบเปอเซ็นต์ในการทำเควสเลื่อนขั้น ขั้นสามให้สำเร็จ นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมอัศวินระดับลึกลับขั้นเงิน หรือสูงกว่านั้นขึ้นไปจึงจัดเป็นสมบัติล้ำค่าในชีวิตที่ผ่านมาของเขา ดังนั้นจากอัศวินที่เขาเลือกมานั้น มันก็จะนับว่าโชคดีมากแล้วหากมีสักสองร้อยคนที่เลื่อนขั้นเป็นขั้นสามได้

อย่างไรก็ตามตอนนี้จำนวนจริงมันกับมากกว่าที่เขาคาดการณ์ไว้ถึงสองเท่า

นี่คือ NPC ขั้นสาม 556 คน ที่พวกเขากำลังพูดถึง โดยปกติมันจะมีเพียงแต่ลอร์ดระดับสองดาวเท่านั้นที่จะมี NPC ขั้นสามจำนวนมากขนาดนี้ได้

ในการที่จะกลายเป็นลอร์ดระดับสองดาวนั้น ผู้เล่นจำเป็นจะต้องเก็บค่าชื่อเสียงลอร์ดให้ได้ครบสองร้อยแต้ม ซึ่งนับเป็นสองเท่าจากจำนวนเดิมที่ต้องการเพื่อกลายเป็นลอร์ดระดับหนึ่งดาว ในขณะเดียวกัน หลังจากกลายเป็นลอร์ดระดับสองดาวแล้ว ผู้เล่นก็จะสามารถรับสมัครอัศวินเข้ากองอัศวินของตัวเองได้อีกสองพันคน และทำให้มีรวมทั้งหมดเป็นเจ็ดพันคน และเมื่อเทียบกันแล้ว ลอร์ดระดับสองดาวก็จะดึงดูด NPC ให้เข้าหาได้มากกว่าลอร์ดระดับหนึ่งดาว

อย่างไรก็ตามแม้ในสถานการณ์นี้นั้น ลอร์ดระดับสองดาวในชีวิตที่ผ่านมาของซือเฟิงก็จะมีอัศวินขั้นสามอยู่ในกองอัศวินแค่ราวหกร้อยคนเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นการจะไปถึงตัวเลขนี้ให้ได้ยังต้องใช้เวลาและทรัพยากรจำนวนมหาศาล การพัฒนากองอัศวินไม่สามารถทำได้ภายในเวลาเพียงไม่กี่วันหรือไม่กี่สัปดาห์

เพราะท้ายที่สุดใน God domain นั้น มันก็จะมีผู้เล่นทั่วไปที่ไม่สามารถเข้าถึงขั้นสามได้เป็นจำนวนมาก และผู้ที่มาถึงขั้นสามได้ด้วยสถานะของผู้เล่นทั่วไปนั้นก็จะถือว่าอ่อนแอมากๆในสายตาผู้เล่นขั้นสามคนอื่น ซึ่งแม้แต่อัศวินขั้นสาม ระดับทองแดงก็จะสามารถปราบปรามพวกเขาได้อย่างง่ายดาย

โดยปกติแค่ทีมอัศวินขั้นสาม ระดับทองแดงจำนวนสองร้อยคนนั้นก็เพียงพอที่จะใช้รักษาความปลอดภัยในเมืองกิลที่มีประชากรผู้เล่นประมาณสามล้านคนแล้ว ในความเป็นจริง เมืองกิลดังกล่าวอาจปลอดภัยกว่าเมือง NPC บางส่วนด้วย

ในเมืองเล็กๆของ NPC ผู้เล่นที่เป็นระดับผู้เชี่ยวชาญขั้นสามนั้นสามารถจะฆ่าผู้เล่นภายในเมือง และหนีไปได้อย่างสบายๆเลย เพราะท้ายที่สุดเมืองเล็กๆของ NPC นั้นมักจะถูกปกป้องโดยกองอัศวินขั้นสองเท่านั้นอย่างมากที่สุด อย่างไรก็ตามมันจะเป็นคนละเรื่องกันเลยเมื่อเมืองได้รับการปกป้องจากกองอัศวินที่มีอัศวินขั้นสามจำนวนมาก เพราะแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขั้นสามก็ไม่สามารถจะเอาชนะอัศวินขั้นสามระดับทองแดงได้

ดังนั้นในช่วงชีวิตก่อนหน้านี้ของซือเฟิง มันจึงมีผู้เชี่ยวชาญเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่กล้าก่อปัญหาในเมืองที่ได้รับการปกป้องโดยอัศวินขั้นสาม เว้นแต่ว่าพวกเขาจะเตรียมพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับการทำลายล้างซึ่งกันและกัน หรือแย่กว่านั้นคือล้มเหลวในการฆ่าเป้าหมายแถมยังตายด้วย

นี่นับเป็นอัตลักษณ์ที่น่าทึ่งของลอร์ดระดับหนึ่งดาว หากกิลต้องพึ่งพาแค่สมาชิกกิลในการรักษาเมือง พวกเขาจะไม่สามารถบรรลุผลนี้ได้แน่นอน

ในขณะเดียวกันตอนนี้ ซือเฟิงกับมีอัศวินขั้นสามถึง 556 คน อยู่ภายใต้คำสั่งของเขา ไม่ต้องพูดถึงการปกป้องเมืองกิลที่มีประชากรผู้เล่นสามล้านคนเลย เขาจะไม่มีปัญหาอะไรด้วยซ้ำหากต้องปกป้องเมืองแบบนี้สองเมือง ในความเป็นจริงด้วยจำนวนอัศวินขั้นสามมากขนาดนี้ เขาสามารถจะรับประกันความปลอดภัยของเมืองขนาดใหญ่ขั้นสูงได้เลยด้วยซ้ำ

นี่ศักยภาพในการเติบโตของกองอัศวินของฉันสูงมาก เพราะฉันเป็นลอร์ดระดับหนึ่งดาวคนแรกที่จัดตั้งกองอัศวินขึ้นมารึปล่าว ? หลังจากครุ่นคิดถึงเรื่องนี้แล้ว ซือเฟิงก็คิดออกแค่คำอธิบายเดียว

ในตอนนั้นเขาได้ใช้เงินไปเป็นจำนวนมากเพื่อรับสมัครกองอัศวินตามเมืองใหญ่ต่างๆของ NPC ซึ่งทั้งปริมาณ และคุณภาพของอัศวินที่สนใจจะสมัครเข้ากองอัศวินของเขานั้น มันก็เกินความคาดหมายของเขาไปมาก

เขานั้นสงสัยอยู่เช่นกันว่าอัศวินที่เขาคัดเลือกมานั้นมีศักยภาพในการเติบโตสูงมาก ตัวอย่างเช่นศักยภาพในการเติบโตของอัศวินระดับทองแดงนั้นจะอยู่ระหว่างสามสิบเอ็ดถึงห้าสิบแต้ม อย่างไรก็ตามอัศวินระดับทองแดงที่มีศักยภาพในการเติบโตห้าสิบแต้มนั้นจะมีโอกาสไปถึงขั้นสามได้มากกว่าอัศวินระดับทองแดงที่มีศักยภาพในการเติบโตสามสิบเอ็ดแต้มอย่างมาก

ซึ่งการคาดเดาของเขามันก็น่าจะถูกต้อง เพราะท้ายที่สุด มันไม่มีเหตุผลใดเลยที่อัศวินของเขาจำนวนมากจะเลื่อนขั้นเป็นขั้นสามได้เร็วขนาดนี้

“ท่านลอร์ด ท่านต้องการจะดำเนินการตอนนี้เลยไหม ?” ผู้อาวุโสลอร์เรนถามอีกครั้ง เมื่อเธอเห็นการแสดงออกที่เต็มไปด้วยความตกตะลึงของซือเฟิง

“โอ้ !! แน่นอน !!!” ซือเฟิงตอบอย่างรวดเร็ว

นี่คือพวกขั้นสาม 556 คน ที่พวกเขากำลังพูดถึง ยิ่งกว่านั้นพวกที่ว่านี้ยังเป็น NPC ขั้นสามทั้งหมดด้วย

ปัจจุบันมหาอำนาจต่างๆจะถือว่าโชคดีมากแล้ว หากมีผู้เชี่ยวชาญขั้นสามสักห้าสิบคนอยู่ภายใต้คำสั่ง และห้าร้อยนั้นก็จะนับเป็นจำนวนมหาศาลจนน่ากลัวเลยทีเดียว นี่ไม่ต้องพูดถึง NPC ขั้นสามที่แข็งแกร่งกว่าผู้เล่นขั้นสามมาก

หากเขาเปิดเผยอัศวินขั้นสาม 556 คนนี้ต่อสาธารณชน เขาจะทำให้คนหลายกลุ่มช๊อคตายด้วยความกลัวได้เลยทีเดียว

น่าเสียดายที่แตกต่างจากองครักษ์ส่วนตัว อัศวินนั้นสามารถทำงานได้เฉพาะภายในดินแดนของลอร์ดเท่านั้น ไม่งั้นด้วย NPC ขั้นสาม มากกว่าห้าร้อยคนภายใต้คำสั่งของเขา เขาจะสามารถเหยียบย่ำมหาอำนาจใดๆของ God domain ก็ได้เลย

“ดีมาก !! ขั้นตอนการลงทะเบียนขั้นสามจะอยู่ที่สิบเหรียญทองต่อคน และยอดเงินรวมทั้งหมดก็อยู่ห้าพันห้าร้อยหกสิบเหรียญทอง” ลอร์เรนกล่าว

“ตามนั้น” ซือเฟิงกล่าวพลางพยักหน้า ก่อนที่เขาจะกล่าวเสริมต่อว่า “ฉันอยากจะเปลี่ยนเซ็ทอุปกรณ์ของคนเหล่านั้นด้วย สำหรับผู้ที่ยังไม่มีอุปกรณ์ระดับไฟน์โกลโปรดอัพเกรดให้มันเป็นระดับไฟน์โกลทั้งหมด”

ค่าลงทะเบียนขั้นสามนี้นับว่าน้อยมากๆ เมื่อเทียบกับการที่เขาจะสามารถอัพเกรดอัศวินของเขาให้เป็นขั้นสามได้ ไม่ต้องพูดถึงสิบเหรียญทองต่อคนเลย ต่อให้หนึ่งร้อยเหรียญทองต่อคน เขาก็เต็มใจจะจ่าย และต่อให้ต้องอัพเกรดทั้งห้าพันคนเขาก็เต็มใจจะทำ

อย่างไรก็ตามนั่นก็เป็นไปได้แค่เพียงความฝันเท่านั้น เพราะท้ายที่สุดการหาอัศวินระดับลึกลับขั้นเงินหรือสูงกว่านั้นมันทำได้ยากมากๆ และการรับสมัครมาได้สักคนก็จัดว่าเป็นเรื่องโชคดีมากแล้ว ยกตัวอย่างในสถานการณ์ปัจจุบัน แม้ว่าตอนนี้ซือเฟิงจะยังคงประกาศรับสมัครตามเมืองใหญ่ๆอยู่ และค่อยๆแทนที่คนที่ดีกว่าแทนคนที่อ่อนแอกว่า อย่างไรก็ตามหลังจากผ่านไปหลายวันเขาก็สามารถรับสมัครอัศวินระดับเหล็กลึกลับมาเพิ่มได้แค่บางส่วนเท่านั้น และเขาก็ยังไม่สามารถรับสมัครอัศวินระดับลึกลับขั้นเงินมาได้แม้แต่คนเดียว ดังนั้นนี่ก็น่าจะพอทำให้จินตนาการกันได้ว่า อัศวินระดับลึกลับขั้นเงินมันหายากแค่ไหน

ในขณะเดียวกัน หลังจากมาถึงขั้นสามแล้ว แม้ว่าค่าสถานะของอัศวินจะแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับศักยภาพในการเติบโตของพวกเขา แต่พลังต่อสู้โดยรวมของพวกเขาก็ยังคงขึ้นอยู่กับอาวุธและอุปกรณ์อยู่พอดี

มันมีความแตกต่างอย่างมากในพลังการต่อสู้ระหว่างอัศวินที่ใช้ไอเทมระดับทองแดง กับระดับอีปิค

ยิ่งไปกว่านั้น NPC ยังไม่เหมือนกับเหล่าผู้เล่น เพราะพวกเขาสามารถจัดหาอุปกรณ์ให้ตัวเองได้ง่ายกว่ามาก แน่นอนว่ามันก็มีการจำกัดอุปกรณ์ที่ลอร์ดสามารถซื้อให้อัศวินของพวกเขาเช่นกัน โดยสามารถซื้อได้สูงสุดที่ระดับอีปิค ขณะที่การจะให้อัศวินได้ใช้เศษชิ้นส่วนไอเทมระดับตำนาน หรือไอเทมระดับตำนานนั้น มันจำเป็นต้องใช้วิธีพิเศษ

ในตอนนี้ความปราถนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของซือเฟิง คือ การให้กองอัศวินทั้งหมดห้าพันคนของเขาได้สวมใส่อาวุธและอุปกรณ์ระดับอีปิคครบเซ็ททุกคน เพระท้ายที่สุดแล้วหนึ่งเซ็ทระดับอีปิคนั้นจะมีราคาสี่พันเหรียญทองเลย และหากซือเฟิงต้องการให้อัศวินทั้งห้าพันคนของเขามีมันทั้งหมด เขาก็จะต้องใช้เงินยี่สิบล้านเหรียญทอง

ยี่สิบล้าน !!!

นี่นับเป็นจำนวนเงินที่มหาศาลมากๆ แม้กระทั่งกับมหาอำนาจนับประสาอะไรกับสภาสิบแปดปีก

ตอนนี้สิ่งที่ดีที่สุดที่เขาสามารถทำได้คือมอบเซ็ทอุปกรณ์ระดับอีปิคให้กับอัศวินระดับลึกลับขั้นเงิน และไฟน์โกล ขณะที่อัศวินที่เหลือก็ให้ใช้เซ็ทอุปกรณ์ระดับไฟน์โกล ส่วนพวกอัศวินขั้นสองก็ใช้เซ็ทอุปกรณ์ระดับลึกลับขั้นเงิน

สภาสิบแปดปีกยังไม่สามารถจะแบกรับค่าใช้จ่ายที่เกินความจำเป็นตอนนี้ได้ และเอาจริงๆหากซือเฟิงไม่ได้มีเงินสำรองอยู่ในมือ เขาก็คงจะไม่กล้าอัพเกรดอุปกรณ์ให้ NPC มากกว่าห้าร้อยคนเช่นกัน

“จากทั้งหมด 556 คน มีทั้งหมด 478 คน ที่ต้องเปลี่ยนเซ็ทอุปกรณ์เป็นระดับไฟน์โกลให้พวกเขา โดยแต่ละเซ็ทมีราคาที่หนึ่งร้อยเหรียญทอง ดังนั้นยอดที่ท่านต้องจ่ายทั้งหมดจึงอยู่ที่ 53,360 เหรียญทอง” ลอร์เรนกล่าวด้วยรอยยิ้ม หลังจากที่สรุปยอดทั้งหมดออกมา

เมื่อได้ยินราคานั้น ซือเฟิงก็กระตุกเล็กน้อย ก่อนที่จะส่งเงินทั้งหมดตามยอดให้กับ
ลอร์เรนด้วยหัวใจที่รู้สึกเจ็บปวด

ดูเหมือนว่าตอนนี้ฉันจะต้องหาเงินให้ได้มากกว่านี้อีก ไม่งั้นฉันจะไม่สามารถดูแลอัศวินขั้นสามทั้งหมดนี้ได้เลย ซือเฟิงยิ้มอย่างขมขื่น เมื่อเงินในกระเป๋าของเขามีเหลือแค่ราวสี่ร้อยเหรียญทองเท่านั้น หลังจากจ่ายไป ….

เขานั้นต้องใช้ความพยายามอย่างมากกว่าจะทำธุรกรรมจนได้รับเงินมาจากฟีนิกซ์เรนห้าหมื่นเหรียญทอง และเขาก็คิดว่าเขาร่ำรวยขึ้นมาเล็กน้อยแล้ว อย่างไรก็ตามตอนนี้ถ้าเขาไม่ได้มีเงินติดตัวนอกจากห้าหมื่นเหรียญทองนี้ด้วย เขาจะหมดสิทได้อัพเกรดอุปกรณ์ให้ NPC ของเขาเลย

แม้ว่าเงินราวสี่ร้อยเหรียญทองนี้จะนับว่ามากสำหรับผู้เล่นทั่วไป แต่มันไม่ใช่เลยสำหรับซือเฟิงที่เป็นหัวหน้ากิลสภาสิบแปดปีก ….

ยิ่งไปกว่านั้นหลังจากอัศวินของเขาจำนวนมากมาถึงขั้นสามแล้ว ดังนั้นเงินค่าจ้างและค่าดูแลของพวกเขาจึงจะเพิ่มขึ้นมากเช่นกัน

ซึ่งเมื่อคำณวนทั้งหมดแล้ว การดูแลอัศวินขั้นสามตั้งแต่ระดับทองแดง ไปจนถึงไฟน์โกลทั้งหมด 556 คนนั้น ซือเฟิงจะต้องใช้เงินมากกว่าสองแสนเหรียญทองต่อสัปดาห์เลย

หลังจากซือเฟิงจัดการจ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว อควาโรสก็ได้ติดต่อเขาเข้ามา

“หัวหน้ากิล หยวนเทียนซินและผู้ติดตามของเขาได้มาถึงเมืองป่าหินแล้ว ซึ่งสีหน้าของหยวนเทียนซินก็ไม่ดีนัก เขาบอกว่าเขามีธุระที่ต้องการจะคุยกับคุณ” อควาโรสกล่าว

“พวกเขามาถึงอย่างรวดเร็วเลยทีเดียว …. ให้พวกเขาไปรอที่คฤหาสถ์ของลอร์ดผู้ปกครองเมือง ฉันจะรีบตามไปทันที !!” ซือเฟิงกล่าวพลางหัวเราะเบาๆ จากนั้นเขาก็หยิบม้วนคัมภีร์เทเลพอร์ตของกิลออกมา และใช้มันเทเลพอร์ตไปยังเมืองป่าหินทันที

Reincarnation Of The Strongest Sword God

Reincarnation Of The Strongest Sword God

เริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง เขาได้เข้ามาสู่ “เกมแห่งมีชีวิต” นี้อีกครั้งเพื่อที่จะควบคุมโชคชะตาของตัวเอง ครั้งนี้ , เขาจะไม่ถูกควบคุมจากคนอื่น ก่อนหน้านี้ราชาแห่งดาบเลเวล 200 , เขาได้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในชีวิต วิธีการที่จะได้รับเงิน! กลยุทธ์แห่งชัยชนะในดันเจี้ยน! เควสในตำนาน! สถานที่ดรอปอุปกรณ์! ทักษะที่ยังไม่ถูกค้นพบ! แม้แต่ความลับที่พวกผู้ทดสอบเบต้าไม่รู้ , เขารู้มันทั้งหมด สงครามอันยิ่งใหญ่ , ความก้าวหน้าในชีวิต , เข้าสู่ความเป็นพระเจ้า , บรรลุถึงจุดสูงสุดแห่งดาบ ตำนานของชายผู้ที่จะกลายเป็นเทพแห่งดาบได้เริ่มขึ้นแล้ว Starting over once more, he has entered this “living game” again in order to control his own fate. This time, he will not be controlled by others. Previously the Level 200 Sword King, he will rise to a higher peak in this life. Methods to earn money! Dungeon conquering strategies! Legendary Quests! Equipment drop locations! Undiscovered battle techniques! Even the secrets Beta Testers were unknowledgeable of, he knows of them all. Massive wars, life advancement, entering Godhood, sword reaching to the peak; a legend of a man becoming a Sword God has begun.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset