Reincarnation Of The Strongest Sword God – ตอนที่ 2440

หยวนเทียนซินตกตะลึง

การได้รับความสนใจจาก NPC ขั้นสามหลายร้อยคนนั้นมันก็ทำให้เกิดแรงกดดันมหาศาลต่อหยวนเทียนซิน และเพอเพิ้ลเจด ชั่วขณะหนึ่งนั้น พวกเขารู้สึกอยากจะหันหลังกลับและหนีไปเลย

แม้ว่าทั้งคู่จะมาถึงขั้นสามแล้ว แต่พวกเขาก็ยังคงอยู่ห่างไกลจากการที่จะสามารถเทียบกับ NPC ขั้นสามได้ในแง่ของความแข็งแกร่ง ซึ่งความแตกต่างนี้ไม่ได้อยู่แค่ในเรื่องค่าสถานะพื้นฐานเท่านั้น และผู้เล่นขั้นสามที่พึ่งได้การเลื่อนขั้นแบบพวกเขานั้นไม่มีทางจะเทียบกับ NPC ขั้นสามได้เลย

ยิ่งไปกว่านั้น NPC ขั้นสามยังเป็นตัวตนที่ทำหน้าที่เป็นผู้ปกครองเมืองเล็กๆของ NPC ได้เลย และ ณ จุดนี้ มันก็ไม่มีผู้เล่นคนใดใน God domain ที่ไม่เกรงกลัวต่ออำนาจของ NPC ผู้ปกครองเมือง และสิ่งนี้ก็ยังคงเป็นแบบนี้อยู่ในปัจจุบัน แม้ว่าผู้เล่นจะเริ่มทยอยกันมาถึงขั้นสามแล้ว

ในขณะเดียวกันตอนนี้มันก็ไม่ต่างจากการมี NPC ผู้ปกครองเมืองหลายร้อยคนกำลังจ้องมองมายังหยวนเทียนซินและเพอเพิ้ลเจด ดังนั้นนี่ก็น่าจะทำให้หลายคนพอจินตนาการได้ว่าพวกเขาอยู่ภายใต้แรงกดดันที่มากขนาดไหน

นี่ NPC จากกองกำลังแห่งความมืดเข้าครอบครองเมืองป่าหินแล้วงั้นหรอ ? ความคิดนี้ปรากฎขึ้นมาในใจของหยวนเทียนซิน เมื่อเขาจ้องมองไปยัง NPC ขั้นสามจำนวนมากตรงหน้าเขา

นับตั้งแต่ God domain เปิดตัวมาจนถึงตอนนี้ การที่กองกำลังแห่งความมืดของ NPC เข้ามายึดแผนที่เป็นกลางนั้นมันก็เป็นอีเว้นที่เกิดขึ้นมามากมาย ซึ่งอีเว้นเหล่านี้ก็เป็นเหมือนดั่งโบนัสสำหรับผู้เล่น โดยหากพวกเขาสามารถแก้ไขเหตุการณ์ได้ พวกเขาก็จะได้รับรางวัลมากมาย แต่หากไม่ กองกำลังแห่งความมืดของ NPC ก็จะเข้าครอบครองแผนที่เป็นกลางและเมืองป่าหินอย่างสมบูรณ์

ในขณะนี้เมืองป่าหินก็น่าจะเจอกับอีเว้นอะไรแบบนี้ ไม่งั้นมันคงจะไม่มีคำอธิบายว่าทำไมถึงมี NPC ขั้นสามปรากฎตัวขึ้นที่เมืองมากขนาดนี้ แถมเมืองยังถูกเปิดให้สาธารณชนเข้าชมด้วย
“ลุงหยวน พวกเราจะทำยังไงกันดี ? ตอนนี้ NPC เหล่านี้ได้ล๊อคเป้ามาที่เราแล้ว” เพอเพิ้ลเจดถามอย่างกังวล

ในขณะนี้เธอไม่ได้มีความตั้งใจแม้แต่น้อยที่จะเอาชนะอีเว้นนี้ เพราะท้ายที่สุด นี่มันแทบเรียกได้ว่าเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติแล้ว ไม่ใช่อีเว้น

การหนีจาก NPC ขั้นสาม เลเวลหนึ่งร้อยแค่คนเดียวมันก็เป็นเรื่องยากสำหรับเธอมากแล้ว อย่างไรก็ตามตอนนี้มันมี NPC ขั้นสาม เลเวลมากกว่าหนึ่งร้อยสิบห้าหลายร้อยคนยืนอยู่ที่ลานด้านใน เธอจะรอดไปจากสถานการณ์นี้ได้ยังไงกัน ?

“เราไม่มีทางเลือกอื่น ฉันจะพยายามตรึง NPC เหล่านี้ไว้สักครู่ แล้วใช้โอกาสนั้นเปิดใช้งานม้วนคัมภีร์เคลื่อนย้ายทันทีขั้นสาม และรีบหนีออกไปจากที่นี่ให้ไวที่สุด NPC ขั้นสามเหล่านี้นั้นมีความเร็วในการตอบสนอง และมาตราฐานการต่อสู้ที่เหนือกว่าลอร์ดบอสผู้ยิ่งใหญ่กับแกรนลอร์ดที่เราเคยเผชิญหน้ามามาก พวกเขาจะไม่เปิดโอกาสให้เราใช้ประโยชน์จากช่วงเวลาที่มีมากนัก” หยวนเทียนซินกล่าว ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่ทั้งคู่จะหนีไป ดังนั้นมันจึงต้องมีคนหนึ่งที่สละชีวิตเพื่อสร้างโอกาสให้อีกคน

ใน God domain NPC นั้นฉลาดกว่ามอนสเตอร์ทั่วไปมาก แถมพวกเขายังมีประสบการณ์และความรู้สึกที่เฉียบคมมากกว่าผู้เล่นเมื่อต้องต่อสู้ ยิ่งไปกว่านั้นยิ่งขั้นของพวกเขาสูงเท่าไหร่ NPC ก็จะยิ่งฉลาดมากขึ้นเท่านั้น และหลังจากมาถึงขั้นสาม NPC โดยทั่วไปจะไม่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้ใช้เครื่องพิเศษแน่นอน

ในสถานการณ์ที่ NPC มีความได้เปรียบในด้านพลังการต่อสู้ แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดขั้นสามแบบพวกเขาก็ยังมีช่วงเวลาที่ยากลำบากมากๆในการจะดึงเครื่องมือเวทย์มนต์ออกมาจากกระเป๋า นี่ไม่ต้องพูดถึงการเปิดใช้งานเลย และนี่เป็นเพราะช่วงเวลาสั้นๆในการที่พวกเขาทำแบบนี้ มันก็จะมากเพียงพอที่จะทำให้ NPC ขั้นสามสามารถฆ่าพวกเขาได้ทันทีเลย

ในขณะเดียวกัน ในฐานะแท๊งเกอร์ขั้นสาม หากหยวนเทียนซินเปิดใช้งานสกิลช่วยชีวิตทั้งหมดของเขา เขาก็น่าจะพอตรึง NPC พวกนี้ได้เป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ อย่างไรก็ตามมันเป็นเรื่องที่แตกต่างออกไปสำหรับเพอเพิ้ลเจดที่เป็นราชันดาบขั้นสาม หากเธอพยายามจะตรึง NPC เหล่านี้ด้วยตัวเอง เธอจะตายทันทีแน่นอน เพราะท้ายที่สุดคู่ต่อสู้ของพวกเขาคือ NPC ขั้นสามหลายร้อยคน

“ฉันเข้าใจแล้ว ..” เพอเพิ้ลเจดพยักหน้า แม้ว่าเธอจะรู้สึกไม่เต็มใจ แต่เธอก็เข้าใจว่านี่คือทางเลือกที่ดีที่สุดของพวกเขา ไม่อย่างนั้นทั้งคู่จะต้องตายที่นี่ การเสียเลเวลอาจไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับผู้เล่นขั้นสามแบบพวกเขา แต่สิ่งที่พวกเขาจะเสียไปด้วยพร้อมกับความตายคืออุปกรณ์ชั้นยอด

เมื่อเพอเพิ้ลเจดพยักหน้า หยวนเทียนซินก็ยกโล่ของเขาขึ้นทันที และเตรียมจะเปิดใช้งานสกิลช่วยชีวิตทั้งหมดของเขา

อย่างไรก็ตามในขณะที่หยวนเทียนซินกำลังจะพุ่งเข้าไปที่ลานด้านใน และดึงดูดความสนใจของ NPC มันก็มีเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นมาจากลานภายใน

“ผู้อาวุโสหยวน ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ ? นี่อควาไม่ได้พาคุณไปที่ห้องรับรอบงั้นหรอ ?”

เสียงนี้ทำให้ทั้งหยวนเทียนซินและเพอเพิ้ลเจดต่างตกตะลึงมากๆ เพราะมันฟังดูคุ้นเคยอย่างไม่น่าเชื่อ อย่างไรก็ตามพวกเขาก็รู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะได้ยินเสียงนี้ในสถานที่แห่งนี้ และทั้งคู่ก็เริ่มมองหาต้นตอของเสียงทันที

ในช่วงเวลาต่อมา แถวของ NPC ขั้นสามก็แยกออกจากกัน โดยเปิดทางให้ชายในชุดคลุมที่ยืนอยู่ตรงกลางลานด้านใน ในขณะเดียวกันการกระทำของ NPC ทุกคนนั้นก็แสดงให้เห็นถึงความเคารพอย่างมากราวกับข้าราชการที่พึ่งได้พบกับผู้ปกครองของพวกเขา

เมื่อหยวนเทียนซินและเพอเพิ้ลเจดเห็นชายในเสื้อคลุม พวกเขาก็เต็มไปด้วยความตกตะลึงอีกครั้ง

“คุณ … คุณคือหัวหน้ากิลแบล๊คเฟรมจริงๆหรอ ?” เพอเพิ้ลเจดถามย้ำด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ ขณะที่เธอมองไปยังซือเฟิง

NPC ขั้นสามนั้นเป็นตัวตนที่ผู้เล่นในปัจจุบันนี้ยังคงมองด้วยความหวาดกลัว และหลังจากได้มาถึงขั้นสามแล้ว เธอก็ยิ่งตระหนักว่า NPC ขั้นสามนั้นทรงพลังมากขนาดไหน

อย่างไรก็ตามตอนนี้ NPC ขั้นสามหลายร้อยคนนี้กับกำลังยืนอยู่ในลานด้านใน และปฎิบัติราวกับซือเฟิงเป็นเจ้านายของพวกเขา

ในสถานการณ์นี้ซือเฟิงจะถือว่าเป็นผู้เล่นได้อย่างไร ? โดยพื้นฐานแล้ว เขาดูเป็นกษัตริย์ของประเทศหนึ่งมากกว่า

“แน่นอนสิ ฉันคือแบล๊คเฟรม” ซือเฟิงกล่าวพลางหัวเราะเบาๆ “ถ้าไม่ใช่คุณคิดว่าฉันเป็นใครกัน ?”

สำหรับซือเฟิง ท่าทีของหยวนเทียนซินและเพอเพิ้ลเจดนั้นไม่ได้น่าประหลาดใจมากนักสำหรับเขา เพราะท้ายที่สุดแล้วตอนนี้มันกำลังมี NPC ขั้นสามมากกว่าห้าร้อยคนยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขา

แม้แต่อาณาจักรหนึ่งก็ยังไม่รวม NPC ขั้นสามเข้ามาอยู่ในเมืองเดียวกันมากขนาดนี้ อย่างไรก็ตามตอนนี้ซือเฟิงกับรวมทุกคนมาอยู่ที่เดียวกัน ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลยหากจะบอกกองกำลังนี้ของเขานับเป็นกองกำลังที่ไม่สามารถจะหยุดได้เลย

ในขณะนี้ไม่ต้องพูดถึงผู้เชี่ยวชาญขั้นสามแบบหยวนเทียนซินกับเพอเพิ้ลเจดเลย แม้แต่ผู้เล่นที่เป็นผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่ก็ยังจะต้องหนี หากเจอกับกองกำลังแบบนี้ เพราะท้ายที่สุด NPC ขั้นสามนั้นแตกต่างจากมอนสเตอร์ และเมื่อทำงานร่วมกัน พวกเขาก็สามารถจะเพิ่มพลังต่อสู้ได้อย่างทวีคูณ และหากพวกเขาใช้สกิลหรือเวทย์หลอมรวมขนาดใหญ่ พลังที่พวกเขาจะสามารถแสดงออกมาได้นั้นจะเปลี่ยนแปลงภูมิประเทศของพื้นที่โดยรอบไปได้เลย

นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมกองอัศวินทั้งเจ็ดระดับตำนานของจักรวรรดินักบุญทั้งสิบจึงสามารถจะทำให้ประเทศใกล้เคียงไม่กล้ารุกรานพวกเขา

ในขณะเดียวกัน เมื่อได้ยินการพูดล้อเล่นของซือเฟิง ทั้งหยวนเทียนซินและเพอเพิ้ลเจดนั้นก็ผ่อนคลายลงอย่างเห็นได้ชัด

“หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม NPC เหล่านี้ ที่อยู่ด้านหลังคุณเป็นใครกัน ?” หยวนเทียนซินถาม

แม้ว่าตอนนี้เขาจะเข้าใจแล้วว่า NPC ขั้นสามเหล่านี้ไม่ได้เป็นศัตรู แต่เขาก็ยังไม่สามารถเพิกเฉยต่อความจริงที่ว่า NPC ขั้นสามจำนวนมากถูกรวบรวมมาไว้ที่เดียวกันได้

“พวกเขา ?” เมื่อมองไปยังสายตาที่หวาดกลัวและสงสัยของหยวนเทียนซินที่มองไปด้านหลังของเขาที่เหล่า NPC ยืนอยู่ ซือเฟิงก็ผายมือเป็นเชิงแนะนำพลางพูดต่อว่า “พวกเขาเป็นผู้ที่อยู่ในกองอัศวินส่วนตัวของฉัน พวกเขาก็เหมือนกับ อัศวิน NPC ขั้นสองที่ลาดตระเวนอยู่ด้านนอกนั่นแหละ เพียงแต่พวกที่อยู่ด้านหลังฉันคือพวกที่พึ่งจะได้รับการเลื่อนขั้นเป็นขั้นสาม”

“พวกเขาเป็นกองอัศวินของคุณ ?!”

แม้ว่าซือเฟิงจะพูดอย่างไม่เป็นทางการ แต่หยวนเทียนซินกับเพอเพิ้ลเจดก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงกับคำพูดของเขา

พวกเขาอาจไม่มีความรู้ที่ชัดเจนว่ากองอัศวินคืออะไร แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อตัดสินจากน้ำเสียงของซือเฟิงแล้ว พวกเขาสามารถบอกได้เลยว่า NPC เหล่านี้นั้นอยู่ภายใต้คำสั่งของซือเฟิง

นี่คือ NPC ขั้นสามหลายร้อยคนที่พวกเขากำลังพูดถึง !!!!

ตอนนี้แม้แต่มหาอำนาจต่างๆนั้นก็ไม่ได้มีองครักษ์ส่วนตัวที่ได้รับการเลื่อนขั้น เป็นขั้นสามมากนัก และโดยปกติจะมีแค่เฉพาะองครักษ์ส่วนตัวระดับลึกลับขั้นเงิน หรือสูงกว่าขึ้นไปเท่านั้นที่มีโอกาสหนึ่งร้อยเปอเซ็นต์ที่จะทำเควสเลื่อนขั้น ขั้นสามได้สำเร็จ สำหรับองครักษ์ส่วนตัวที่มีระดับต่ำกว่านี้นั้น โอกาสของพวกเขาก็ต่ำมาก อย่างไรก็ตามองครักษ์ส่วนตัวระดับลึกลับขั้นเงินหรือสูงกว่าขึ้นไปก็หายากอย่างไม่น่าเชื่อ และมหาอำนาจส่วนใหญ่ก็มีเพียงแค่หยิบมือเดียวเท่านั้น

ในขณะเดียวกันจากสิ่งที่หยวนเทียนซินสามารถบอกได้ตอนนี้ก็คือ มันมี NPC ขั้นสามอย่างน้อยห้าร้อยคนยืนอยู่ที่ลานด้านใน ซึ่งด้วยกองกำลังนี้ สภาสิบแปดปีกจะสามารถทำลายกองทัพใดก็ได้ที่พวกเขาต้องการ

“โอ้ใช่แล้ว ว่าแต่ผู้อาวุโสหยวน ทำไมคุณถึงรีบมาหาฉัน ? คุณมีธุระด่วนอะไรที่จะพูดคุยงั้นหรอ ?” ซือเฟิงถาม เมื่อเห็นหยวนเทียนซินยังคงงุนงงและตกตะลึง เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก

“แต่เดิม ฉันมี …” เมื่อมองไปที่กองกำลังอัศวินขั้นสามที่ยืนอยู่ที่ลานด้านใน หยวนเทียนซินก็ยิ้มอย่างขมขื่น และพูดต่อว่า “แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าฉันจะไม่มีแล้ว !!”

นี่มันโครตจะน่ากลัวเลย !!!

ตอนนี้การป้องกันของเมืองป่าหินนั้นน่ากลัวยิ่งกว่าในเมืองหลวงของอาณาจักรซะอีก แม้ว่ามหาอำนาจทั้งหมดทั่วทวีปด้านตะวันออกจะทำงานร่วมกันและจัดตั้งกองทัพผู้เชี่ยวชาญขั้นสามขึ้นมาหลายพันคน แต่พวกเขาก็ยังคงอยู่ห่างไกลจากความสามารถในการยึดเมืองหลวงของอาณาจักรได้ ซึ่งนี่ก็ไม่จำเป็นต้องพูดถึงเลยสำหรับเมืองป่าหินที่มีขนาดเล็กกว่า พวกเขาจะไม่สามารถยึดมันได้แน่นอน

ในขณะเดียวกันหากมหาอำนาจต่างๆไม่สามารถทำอะไรกับเมืองป่าหินได้ พวกเขาก็จะไม่สามารถทำอะไรกับรากฐานของสภาสิบแปดปีกได้ ไม่ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม …. หากมหาอำนาจต่างๆยังคงยืนกรานจะโจมตีเมืองป่าหิน สิ่งเดียวที่จะรอพวกเขาอยู่คือความทุกข์ทรมาณของพวกเขาเองเท่านั้น !!!

ตอนนี้หยวนเทียนซินนั้นหวังให้มหาอำนาจต่างๆรีบเข้ามาโจมตีเมืองป่าหินด้วยซ้ำ

หลังจากนั้นซือเฟิงก็ได้จัดการทำธุรกรรมขายม้วนคัมภีร์วงเวทย์บาเรียเสาสิบสองธาตุให้กับหยวนเทียนซิน ซึ่งซือเฟิงก็ต้องยอมรับเลยว่าศาลาลับนั้นร่ำรวยมากจริงๆ เนื่องจากหยวนเทียนซินได้สั่งไปสองร้อยชุดเพื่อเอาไปทดสอบผลของบาเรีย และธุรกรรมนี้มันก็ทำให้ซือเฟิงกลับมาเป็นคนร่ำรวยอีกครั้งในทันที

ในช่วงเวลาที่ซือเฟิงและหยวนเทียนซินกำลังทำธุรกิจกัน มหาอำนาจต่างๆก็ได้รับข่าวเรื่องเมืองป่าหินเปิดให้สาธารณชนเข้าชมอย่างรวดเร็ว และในช่วงเวลาหนึ่งมหาอำนาจต่างๆก็ล้วนตกตะลึงกับสถานการณ์นี้ พวกเขาไม่คิดเลยว่าสภาสิบแปดปีกจะบ้าคลั่งและโลดโผนขนาดนี้

ในขณะเดียวกันภายในสถานที่พักกิลของดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยน ที่เมืองมังกรดำ

“ปรมาจารย์ดราก้อนพาวิลเลี่ยน คุณคิดว่าแบล๊คเฟรมกำลังพยายามจะทำอะไรกัน ?” มาร์เชี่ยลดราก้อนถาม และใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความสับสน ขณะที่เขาอ่านรายงานในมือ “เขากำลังพยายามจะหาเงินให้ได้อย่างรวดเร็ว เพราะรู้ว่าตัวเองกำลังจะเสียเมืองป่าหินรึปล่าว ?”

ในความคิดของมาร์เชี่ยลดราก้อน นี่คือคำอธิบายเดียวที่เขาสามารถจะนึกออกได้ เพราะท้ายที่สุดแล้วทันทีที่มหาอำนาจต่างๆเจรจาความร่วมมือกันเรียบร้อย กองทัพผู้เล่นขั้นสามหลายพันคนจะเคลื่อนที่เข้าโจมตีเมืองป่าหินแน่นอน

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อมหาอำนาจต่างๆมาไกลกันขนาดนี้แล้ว มันจะไม่จบแค่เรื่องวงเวทย์บาเรียเสาสิบสองธาตุแน่นอน มันจะลามไปถึงการทำลายและยึดทรัพย์สินทั้งหมดของสภาสิบแปดปีกด้วย และในเวลานั้น มันจะไร้ประโยชน์อย่างมาก แม้ว่าศาลาลับจะพยายามปกป้องสภาสิบแปดปีกก็ตาม

“ฉันไม่รู้ แต่ยังไงทุกอย่างก็จบลงแล้วแน่นอน ฉันได้รับข่าวว่ามีมหาอำนาจจำนวนหนึ่งเริ่มการเจรจากันอย่างลับๆแล้ว และมันไม่มีอะไรที่สภาสิบแปดปีกจะสามารถทำได้เพื่อกอบกู้สถานการณ์แน่นอน” จักรพรรดิเก้ามังกรกล่าวพลางส่ายหัว แม้ว่าเขาจะประหลาดใจกับการเคลื่อนไหวของซือเฟิง แต่เขาก็คิดว่ามันไม่สำคัญแล้ว “ว่าแต่ฝั่งสตับบอร์นฮาร์ทเป็นยังไงบ้าง ?”

“พวกเขากำลังเดินทางไปที่เมืองป่าหินแล้ว และพวกเขามีผู้เชี่ยวชาญขั้นสามเกือบหนึ่งร้อยคนอยู่เคียงข้าง ซึ่งมันก็คงอีกไม่นานก่อนที่พวกเขาจะแอบเข้าเมืองได้ และเมื่อกองทัพของมหาอำนาจต่างๆมาถึง พวกเขาก็จะประสานการโจมตีของพวกเขากับกองทัพของมหาอำนาจต่างๆ ซึ่งมันก็น่าจะทำให้ยึดเมืองป่าหินได้ง่ายขึ้น” มาร์เชี่ยลดราก้อนรายงาน

“ดี ฝั่งของนายก็ควรเตรียมตัวให้พร้อมเช่นกัน เราจะต้องไปพบกับลู่ชิงหลัวในอีกครู่หนึ่งเพื่อคุยกันถึงเรื่องการแจกจ่ายสิ่งที่ได้จากเมืองป่าหิน …” จักรพรรดิเก้ามังกรกล่าว

“เข้าใจแล้ว !!!” มาร์เชี่ยลดราก้อนตอบกลับด้วยรอยยิ้มซึ่งหาได้ยากมากๆที่จะปรากฎบนใบหน้าของเขา

ในขณะที่จักรพรรดิเก้ามังกรกำลังเดินทางไปหาลู่ชิงหลัว กลุ่มของสตับบอร์นฮาร์ทก็ได้มาถึงตรงหน้าทางเข้าของเมืองป่าหิน และกำลังต่อแถวรอเข้าเมือง

Reincarnation Of The Strongest Sword God

Reincarnation Of The Strongest Sword God

เริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง เขาได้เข้ามาสู่ “เกมแห่งมีชีวิต” นี้อีกครั้งเพื่อที่จะควบคุมโชคชะตาของตัวเอง ครั้งนี้ , เขาจะไม่ถูกควบคุมจากคนอื่น ก่อนหน้านี้ราชาแห่งดาบเลเวล 200 , เขาได้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในชีวิต วิธีการที่จะได้รับเงิน! กลยุทธ์แห่งชัยชนะในดันเจี้ยน! เควสในตำนาน! สถานที่ดรอปอุปกรณ์! ทักษะที่ยังไม่ถูกค้นพบ! แม้แต่ความลับที่พวกผู้ทดสอบเบต้าไม่รู้ , เขารู้มันทั้งหมด สงครามอันยิ่งใหญ่ , ความก้าวหน้าในชีวิต , เข้าสู่ความเป็นพระเจ้า , บรรลุถึงจุดสูงสุดแห่งดาบ ตำนานของชายผู้ที่จะกลายเป็นเทพแห่งดาบได้เริ่มขึ้นแล้ว Starting over once more, he has entered this “living game” again in order to control his own fate. This time, he will not be controlled by others. Previously the Level 200 Sword King, he will rise to a higher peak in this life. Methods to earn money! Dungeon conquering strategies! Legendary Quests! Equipment drop locations! Undiscovered battle techniques! Even the secrets Beta Testers were unknowledgeable of, he knows of them all. Massive wars, life advancement, entering Godhood, sword reaching to the peak; a legend of a man becoming a Sword God has begun.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset