Reincarnation Of The Strongest Sword God – ตอนที่ 2467

ห้องมรดก

หุบเขาดาว ป้อมปราการแสงดาว :

รอยฉีกขาดเชิงพื้นที่ปรากฎขึ้นตรงหน้าทางเข้าของคฤหาสถ์ของลอร์ดผู้ปกครองป้อมปราการแสงดาว ขณะที่ซือเฟิงก็ก้าวออกมาจากประตูมรดก

ตอนนี้มันมีผู้เล่นจำนวนหนึ่งกำลังนั่งพักผ่อนอยู่หน้าทางเข้า ซึ่งทุกคนก็ดูเหนื่อยล้ามากๆราวกับว่าพวกเขาเพิ่งต่อสู้ในการต่อสู้ที่กินเวลาหลายวันหลายคืนมา ดวงตาของพวกเขาก็แดงก่ำ และมันก็เห็นได้ชัดเลยว่าร่างกายของพวกเขานั้นอ่อนแอมากและดูบาดเจ็บไปทั้งตัว

“หัวหน้ากิล ?” ร่องรอยแห่งความประหลาดใจปรากฎขึ้นบนใบหน้าของโคล่า เมื่อเขาเห็นซือเฟิงเดินออกมาจากประตูมรดก

นอกเหนือจากโคล่า ชาโด้วซอร์ด เทอเทิ้ลโดฟ Alluring Summer และอี้ลั่วเฟย ซึ่งนั่งอยู่ข้างๆกับเขาก็ประหลาดใจอย่างมากกับฉากนี้เช่นกัน พวกเขานั้นรู้ดีว่าการทดสอบภายในประตูมรดกนั้นยากขนาดไหน และจากพวกเขาทั้งหมดสิบคน คนที่มีโอกาสสูงสุดในการจะเคลียร์ระดับแรกของการทดสอบได้ก็คือซือเฟิง อย่างไม่ต้องสงสัย

อย่างไรก็ตามตอนนี้ซือเฟิงกับเป็นคนที่หกที่ออกมาจากประตูมรดก ดังนั้นเรื่องนี้มันจะไม่ทำให้พวกเขาประหลาดใจได้อย่างไร ?

เพราะท้ายที่สุดแล้วในแง่ของมาตราฐานการต่อสู้และค่าสถานะพื้นฐาน ซือเฟิงนั้นคือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่ของพวกเขา และแม้แต่มาตราฐานร่างมานาของเขาก็เป็นสิ่งที่ไม่มีใครเทียบได้เลย

ในทางทฤษฎี แม้ว่าซือเฟิงจะล้มเหลวในการเคลียร์ระดับแรกของภูเขาศักสิทธิ์ แต่เขาก็น่าจะเป็นคนสุดท้ายที่ออกมาจากประตูมรดก

ซือเฟิงนั้นไม่ได้สนใจสายตาแปลกๆที่โคล่าและคนอื่นๆมองมายังเขาเท่าไหร่นัก และซือเฟิงก็เอ่ยปากถามว่า “มีแค่ห้าคนเท่านั้นที่ออกมา ?”

“อืมม พี่สาวไฟเออร์แดนซ์และคนอื่นๆยังคงอยู่ข้างใน” โคล่าพยักหน้าแบบเกร็งๆ และทำหน้าไม่ถูก

“พวกเขาจะได้รับการปรับปรุงครั้งใหญ่ในช่วงเวลานี้งั้นหรอ ?” ซือเฟิงรู้สึกประหลาดใจกับสถานการณ์นี้ ความจริงที่ว่าไฟเออร์แดนซ์และคนอื่นๆยังคงอยู่ในประตูมรดกจนถึงตอนนี้ มันก็หมายความว่าพวกเขาใกล้จะเคลียร์ระดับแรกของภูเขาศักสิทธิ์ได้แล้ว

ระดับแรกของภูเขาศักสิทธิ์ในประตูระดับทอง !!!

ซือเฟิงนั้นได้เจอกับความยากลำบากของการทดสอบของประตูระดับทองแดงมาเป็นการส่วนตัวแล้ว และจากประสบการณ์ของเขา ทุกคนนอกเหนือจากหยานเทียนซิง ไม่น่าจะมีโอกาสมากนักในการเคลียร์ระดับแรกของภูเขาศักสิทธิ์ได้ เพราะท้ายที่สุดแล้วการทดสอบของประตูระดับทองนั้นให้ความสำคัญกับมาตราฐานการต่อสู้ของผู้เล่นมากกว่าค่าสถานะพื้นฐาน ไม่ว่าค่าสถานะของพวกเขาจะทรงพลังมากเท่าไหร่ แต่การโจมตีของพวกเขานั้นก็จะไม่ได้รุนแรงไปกว่า NPC ขั้นสามที่ปลดล๊อคศักยภาพของร่างมานาได้อย่างสมบูรณ์แล้วเลย

ในขณะเดียวกัน ผู้เล่นที่เดินทางมายังทวีปด้านตะวันตกพร้อมกับซือเฟิงในครั้งนี้ อควาโรส ไฟเออร์แดนซ์ ไวโอเล็ทคลาวด์ เป็นสามในสี่คนที่ได้เข้าสู่หอคอยสี่เทพเจ้าไป และยังคงอยู่ภายในประตูมรดกอยู่ แม้ว่าเขาจะออกมาแล้วก็ตาม ขณะที่เสวี่ยเหวินโหรวนั้นก็ยังคงอยู่ในจักรวรรดิมังกรดำเพื่อจัดการเรื่องของกิลที่นั่น

ซือเฟิงนั้นไม่เคยคิดเลยว่าอควาโรส ไฟเออร์แดนซ์ และไวโอเล็ทคลาวด์จะยังอยู่ได้นานขนาดนี้ในประตูมรดก แม้ว่าเขาจะรู้อยู่แล้วว่าทั้งสามนั้นได้มาถึงขอบเขตอนันต์แล้ว และไวโอเล็ทคลาวด์ก็ได้เรียนรู้เทคนิคการต่อสู้ระดับทองแดงมาแล้ว แต่พวกเขาก็ไม่ควรจะสามารถรอดชีวิตได้จนถึงตอนนี้

อย่างไรก็ตามซือเฟิงก็ส่ายหัวของเขา และไล่ความคิดและความกังวลทั้งหมดของเขาออกไปอย่างรวดเร็ว เพราะท้ายที่สุดการที่อควาโรสและคนอื่นๆแข็งแกร่งขึ้น มันก็ยิ่งเป็นผลดีสำหรับสภาสิบแปดปีก หลังจากนั้นเขาก็มองไปยังโคล่าและคนอื่นๆพลางถามว่า “ใช่แล้ว แล้วทั้งห้าคนได้อะไรมาบ้างจากข้างใน ? สามารถปลดล๊อคศักยภาพของร่างมานาไปได้มากแค่ไหนกันแล้ว ?”

สมบัติที่แท้จริงที่ซ่อนอยู่ป้อมปราการโบราณก็คือ มรดกร่างมานา ดังนั้นมันจึงไม่สำคัญว่าผู้เล่นจะสามารถเคลียร์การทดสอบของมรดกของป้อมปราการได้ไหม ส่วนสำคัญจริงๆคือผู้เล่นได้เรียนรู้จากการทดสอบมรดกมากแค่ไหนต่างหาก หากผู้เล่นแค่มุ่งเน้นไปที่การเคลียร์การทดสอบและไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย มันจะนับเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่

“ฉันปลดล๊อคไปได้แล้วถึงเจ็ดสิบห้าเปอเซ็นต์” โคล่าตอบอย่างภาคภูมิใจเล็กน้อย

แม้ว่าเขาจะเป็นคนแรกที่ออกมาจากประตูมรดก แต่เขาก็สามารถจะปลดล๊อคศักยภาพของร่างมานาได้มากกว่าอีกสี่คนที่เหลือที่ตามมาทีหลัง ในความเป็นจริงหากเขาผลักดันคู่ต่อสู้ของเขาได้อีกกลุ่มหนึ่ง เขาอาจจะปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาไปได้ถึงแปดสิบเปอเซ็นต์แล้ว เป็นที่ทราบกันดีว่าทุกๆสิบเปอเซ็นต์ที่สามารถปลดล๊อคศักยภาพของร่างมานาได้ก็จะช่วยเพิ่มพลังของสกิลและเวทย์ขึ้นอย่างมาก

เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจของโคล่า ชาโด้วซอร์ดและคนอื่นๆก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองเขาด้วยความไม่พอใจ โคล่าได้ปลดล๊อคศักยภาพของร่างมานาได้มากกว่าพวกเขาเพียงห้าเปอเซ็นต์ ไม่ใช่สิบเปอเซ็นต์ มันจึงไม่ใช่อะไรที่ควรจะให้อวดเลย

ไม่นานหลังจากที่ชาโด้วซอร์ดและคนอื่นๆรายงานความคืบหน้าของพวกเขาเสร็จสิ้น ทั้งสี่คนที่เหลือก็ค่อยๆทยอยกันออกมาจากประตูมรดก ….

ซึ่งในเวลาที่ทั้งสี่คนกลับออกมาครบนั้น มันก็มีเครื่องหมายระดับทองแดงปรากฎขึ้นเพิ่มเติมบนโทเค่นลอร์ดแห่งป้อมปราการของซือเฟิง

“อัศวินในระดับที่สองนั้นมีพลังมากเกินไป !!! ทุกการโจมตีของพวกเขาสามารถจะเทียบกับการโจมตีของมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายได้เลย !!! ใครจะไปสามารถป้องันการโจมตีเหล่านั้นได้กัน ?” การแสดงออกของหยานเทียนซิงเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เมื่อเขาออกมาจากประตูมรดก

“นายเคลียร์ระดับแรกได้งั้นหรอ ?” ซือเฟิงถาม ในขณะที่เขามองไปยังสภาพของหยานเทียนซิงที่ดูค่อนข้างน่าสังเวช

“อืมมม แต่ระดับที่สองนั้นมันยากเกินไป โดยพื้นฐานแล้วเหล่าอัศวินในระดับสองนั้นอยู่ในมาตราฐานของขั้นสี่เลย และพวกนี้ก็จัดการได้ยากกว่ามอนสเตอร์ระดับเทพนิยายซะอีก” หยานเทียนซิงตอบพลางพยักหน้าด้วยความผิดหวังกับผลลัพธ์นี้

“ไม่เลวเลย อัศวินในระดับที่สองนั้นล้วนมีร่างมานาที่ระดับทองทั้งหมด ซึ่งร่างมานาของพวกนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่านายเลย ยิ่งไปกว่านั้นร่างมานาของพวกเขายังถูกปลดล๊อคอย่างสมบูรณ์แล้ว ขณะที่นายไม่ …. ซึ่งหากอัศวินหลายคนรวมกลุ่มเข้าโจมตีนาย มันก็เป็นเรื่องปกติที่นายจะแพ้” ซือเฟิงกล่าวอย่างไม่แปลกใจกับผลลัพธ์นี้ จากนั้นเขาก็กวาดสายตามองไปยังกลุ่มสี่คนของหยานเทียนซิง และถามว่า “แล้วปลดล๊อคร่างมานาไปได้มากแค่ไหนกันแล้ว ?”

อัศวิน NPC ที่มีร่างมานาระดับทองนั้นมีข้อได้เปรียบเหนือกว่าผู้เล่นในปัจจุบันอย่างมาก และแม้แต่ซือเฟิงหากต้องเผชิญหน้ากับอะไรแบบนี้ เขาก็ยังจะต้องเปิดใช้งานสกิล Heavenly Dragon’s Power เพื่อรับมือ

“ตอนนี้ฉันได้ปลดล๊อคไปเก้าสิบเปอเซ็นต์แล้ว” หยานเทียนซิงรายงานด้วยความผิดหวังเล็กน้อย “มันจะดีมากถ้าฉันได้ต่อสู้ต่อไปอีกสักหน่อย”

โคล่าและคนอื่นๆนั้นจ้องมองมายังหยานเทียนซิงอย่างอิจฉา เมื่อได้ยินดังนี้

พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าอัศวิน NPC ที่ระดับที่สองจะมีร่างมานาระดับทอง การได้ต่อสู้กับอัศวินแบบนี้นั้นมันจะต้องช่วยเหลือพวกเขาได้อย่างมากแน่นอน

“สำหรับฉัน ฉันปลดล๊อคได้มากกว่าเทียนซิงเล็กน้อย ฉันสามารถปลดล๊อคได้เก้าสิบห้าเปอเซ็นต์ ถ้าฉันสามารถอยู่ที่นั่นต่อได้อีกสักยี่สิบนาที ฉันอาจจะปลดล๊อคร่างมานาของฉันได้อย่างสมบูรณ์” อควาโรสกล่าวรายงานเป็นคนต่อมาด้วยความไม่พอใจเท่าไหร่นัก

อัศวิน NPC ที่มีร่างมานาระดับทองที่ระดับที่สองนั้นน่ากลัวเกินไป ทุกการโจมตีของพวกเขานั้นมีมาตราฐานเท่ากับขั้นสี่เลย ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาก็ยังมีมาตราฐานการต่อสู้ที่สูงมากๆซึ่งโดยพื้นฐานแล้วเทียบได้กับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตการปรับแต่งเลย และที่แย่ที่สุดคือความสามารถในการใช้มานาของเธอก็ถูกจำกัดด้วย อันเนื่องมาจากสภาพแวดล้อมอันเลวร้าย

ขณะที่ไฟเออร์แดนซ์ และไวโอเล็ทคลาวด์ก็มีท่าทีที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจและหงุดหงิดเช่นเดียวกับอควาโรส แม้ว่าพวกเขาจะปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาของพวกเขาไปได้เก้าสิบห้าเปอเซ็นต์แล้ว พวกเขาก็ยังไม่สามารถจะต่อกรกับอัศวินที่ระดับที่สองได้

“ใช่แล้ว หัวหน้ากิลเผ่าศักสิทธิ์ติดต่อมาหาฉันก่อนหน้านี้ พวกเขาบอกว่าพวกเขามีบางอย่างที่ต้องคุยกับเรา อย่างไรก็ตามเนื่องจากเรายังอยู่ในประตูมรดกกัน ฉันจึงบอกว่าเรามีเรื่องเร่งด่วนที่ต้องจัดการและให้พวกเขารออยู่ที่สถานที่พักกิลชั่วคราวของพวกเขาก่อน” อควาโรสกล่าว

“นั่น ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนนะ ..” ซือเฟิงกล่าวพลางหัวเราะเบาๆ “แต่ก็ดีแล้วที่บอกไปแบบนั้น เพราะเดี๋ยวเราค่อยไปหลังจากปลดล๊อคศักยภาพของร่างมานาได้อย่างสมบูรณ์”

“หื้ม ?” อควาโรสสับสนกับคำพูดของซือเฟิง

พวกเขาพึ่งออกมาจากประตูมรดก หากปราศจากความช่วยเหลือจากประตูมรดก มันจะเป็นเรื่องยากอย่างไม่น่าเชื่อสำหรับพวกเขาที่จะเดินหน้าต่อ และการจะปลดล๊อคศักยภาพของร่างมานาของพวกให้ได้สมบูรณ์ก็น่าจะต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อยสองสัปดาห์

“ทุกอย่างก็ตรงตามที่ฉันพูดนั่นแหละ แม้ว่าประตูมรดกของป้อมปราการโบราณจะเป็นสถานที่ที่รวดเร็วที่สุดสำหรับผู้เล่นในการปลดล๊อคร่างมานาของตน แต่อย่างไรก็ตาม ในคฤหาสถ์ของลอร์ดผู้ปกครองมันก็ยังมีสิ่งที่เรียกว่าห้องมรดกอยู่ แม้ว่าเอฟเฟคของมันจะไม่ยอดเยี่ยมเท่ากับประตูมรดก แต่มันก็จะช่วยให้ผู้เล่นได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่ร่างมานาของตัวเองถูกปลดล๊อคอย่างสมบูรณ์แบบเป็นเวลาสามนาที ซึ่งฉันเชื่อว่าประสบการณ์นี้น่าจะช่วยทุกคนได้” ซือเฟิงกล่าวพลางพยักหน้า

ห้องมรดกนั้นนับเป็นหัวใจหลักของคฤหาสถ์ของลอร์ดผู้ปกครองป้อมปราการโบราณ หลังจากผู้เล่นได้รับสิทในการเข้าควบคุมคฤหาสถ์ของลอร์ดผู้ปกครองแล้วเท่านั้น พวกเขาจึงจะได้รับอนุญาติให้เข้าใช้ห้องนี้ได้ ยิ่งไปกว่านั้นห้องนี้สามารถใช้ได้เพียงแค่สิบสองครั้งต่อเดือน และผู้เล่นแต่ละคนนั้นก็สามารถจะใชห้องนี้ได้แค่เดือนละครั้งเท่านั้น

ในชีวิตก่อนหน้านี้ของซือเฟิง มหาอำนาจต่างๆที่ควบคุมป้อมปราการโบราณนั้นอนุญาติให้เฉพาะผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดหรือสูงกว่าขึ้นไปที่ใกล้จะปลดล๊อคร่างมานาของตัวเองได้อย่างสมบูรณ์เท่านั้นเข้าใช้ห้องนี้ เพราะกลุ่มคนนี้เป็นกลุ่มคนที่จะได้รับประโยชน์มากที่สุดจากห้องนี้

ตอนนี้อควาโรสและคนอื่นๆสามารถปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาของตัวเองได้กันที่อย่างน้อยเจ็ดสิบเปอเซ็นต์แล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงมีโอกาสสูงมากที่จะสามารถปลดล๊อคได้อย่างสมบูรณ์หากได้เข้าใช้ห้องมรดก ดังนั้นโดยธรรมชาติแล้วซือเฟิงจึงต้องการจะให้พวกเขาไปลองใช้ห้องนี้ ….

หลังจากพูดจบ ซือเฟิงก็ปลดผนึกคฤหาสถ์ของลอร์ดผู้ปกครองออก และพาทุกคนเข้าไปด้านใน

Reincarnation Of The Strongest Sword God

Reincarnation Of The Strongest Sword God

เริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง เขาได้เข้ามาสู่ “เกมแห่งมีชีวิต” นี้อีกครั้งเพื่อที่จะควบคุมโชคชะตาของตัวเอง ครั้งนี้ , เขาจะไม่ถูกควบคุมจากคนอื่น ก่อนหน้านี้ราชาแห่งดาบเลเวล 200 , เขาได้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในชีวิต วิธีการที่จะได้รับเงิน! กลยุทธ์แห่งชัยชนะในดันเจี้ยน! เควสในตำนาน! สถานที่ดรอปอุปกรณ์! ทักษะที่ยังไม่ถูกค้นพบ! แม้แต่ความลับที่พวกผู้ทดสอบเบต้าไม่รู้ , เขารู้มันทั้งหมด สงครามอันยิ่งใหญ่ , ความก้าวหน้าในชีวิต , เข้าสู่ความเป็นพระเจ้า , บรรลุถึงจุดสูงสุดแห่งดาบ ตำนานของชายผู้ที่จะกลายเป็นเทพแห่งดาบได้เริ่มขึ้นแล้ว Starting over once more, he has entered this “living game” again in order to control his own fate. This time, he will not be controlled by others. Previously the Level 200 Sword King, he will rise to a higher peak in this life. Methods to earn money! Dungeon conquering strategies! Legendary Quests! Equipment drop locations! Undiscovered battle techniques! Even the secrets Beta Testers were unknowledgeable of, he knows of them all. Massive wars, life advancement, entering Godhood, sword reaching to the peak; a legend of a man becoming a Sword God has begun.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset