Reincarnation Of The Strongest Sword God – ตอนที่ 2504

พลังของเทคนิคมานา

เมื่อซือเฟิงเหวี่ยงคิลลิงเรย์ มานารอบๆซือเฟิงก็รวมตัวกันเพื่อสร้างเงาของดาบขนาดใหญ่รอบๆดาบศักสิทธิ์ของเขา

หลังจากนั้นเงาของดาบขนาดใหญ่ซึ่งมีความยาวมากกว่ายี่สิบเมตรก็ฉีกพื้นที่ออกจากกัน ซึ่งผู้ที่มองเงาของดาบขนาดใหญ่นี้จากระยะไกลนั้นก็สังเกตเห็นรอยดำมืดขนาดใหญ่ตามแนวที่เงาของดาบขนาดใหญ่ตัดผ่าน

“สกิล ?”

เมื่อแซนสตอร์มและคนอื่นๆเห็นเงาของดาบขนาดใหญ่กำลังเข้ามา พวกเขาก็มั่นใจได้เลยว่าพลังของเงาดาบขนาดใหญ่ที่โจมตีเข้ามานี้นั้นอยู่ในมาตราฐานของขั้นสี่ และพวกเขาก็คิดที่จะหลบการโจมตีนี้โดยสัญชาตญาณทันที เพราะท้ายที่สุดแล้ว แม้ว่าพวกเขาจะมีค่าสถานะเทียบได้กับแกรนลอร์ดสายพันธุ์โบราณในเลเวลเดียวกัน แต่พวกยังคงห่างไกลจากมาตราฐานระดับเทพนิยาย ขั้นสี่

อย่างไรก็ตามการโจมตีของซือเฟิงที่ปรากฎขึ้นนั้นมันกระทันหัน และรวดเร็วเกินไป ยิ่งไปกว่านั้นการโจมตีนี้ยังเป็นแบบ AOE ที่มีขนาดใหญ่มากๆ การจะหลีกเลี่ยงมันเป็นไปไม่ได้เลย ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องรับมันตรงๆ

“ป้องกันมันด้วยกัน !!!” แซนสตอร์มตะโกน

หลังจากนั้นภายใต้การนำของแซนสตอร์ม ผู้เชี่ยวชาญทั้งแปดคนของไมโทโลจี้ก็ได้ใช้สกิลพร้อมกัน Triple Shadow!

Spatial Severance!

Thunder’s Wrath!

ผู้เล่นระยะประชิดทั้งแปดคนนั้นใช้สกิลการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของตัวเองอย่างไม่ลังเล ซึ่งทุกคนนั้นล้วนใช้มันได้ในอัตราความสำเร็จเก้าสิบเปอเซ็นต์หรือสูงกว่าทั้งหมด

ในช่วงเวลาหนึ่งจะสามารถเห็นการโจมตีมากกว่าสิบครั้งครั้งปะทะเข้ากับเงาของดาบขนาดใหญ่ได้

ตู้ม …

ทันทีที่การโจมตีของทั้งสองฝ่ายปะทะกัน พายุที่รุนแรงก็พัดใส่ผู้เล่นขั้นสองในรัศมีห้าสิบหลาจนสะดุดถอยหลัง และปล่องภูเขาไฟขนาดเล็กก็ก่อตัวขึ้นบนพื้นดินใต้จุดปะทะ

ในขณะที่ฝุ่นเริ่มจางลงนั้น รอยที่มีความยาวกว่ายี่สิบเมตร และลึกสองเมตรก็ปปรากฎขึ้นที่ตรงกลางของจุดปะทะ

สำหรับแซนสตอร์มและคนอื่นๆ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ถูกกดลงไปกับพื้น แต่พวกเขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องถอยไปห้าถึงหกก้าวก่อนที่พวกเขาจะสามารถทรงตัวได้ และในแต่ละเก้าที่ถูกบังคับให้ถอยกลับนั้นพื้นใต้เท้าของพวกเขาก็แตกเป็นเสี่ยงๆด้วย แรงจากผลกระทบครั้งนี้มันก็ทำให้มือของพวกเขาสั่นอย่างรุนแรง และมันก็ทำให้ทุกคนสูญเสีย HP ไปมากกว่าหนึ่งแสน

ในช่วงเวลาหนึ่งความตกตะลึงและสับสนนั้นเข้าปกคลุมไปทั่วบาร์

ก่อนหน้านี้ทุกคนก็คิดว่ามันไม่น่าเชื่อมากแล้วที่ซือเฟิงสามารถจะทำให้แซนสตอร์มปปลิวกระเด็นไปได้ด้วยการโจมตีปกติ แต่ตอนนี้เขากับเอาชระแซนสตอร์ม และผู้เชี่ยวชาญที่มีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับแซนสตอร์มเจ็ดคนได้ในการเคลื่อนไหวเดียว พลังการต่อสู้ของซือเฟิงนั้นมันเป็นสิ่งที่ท้าทายสวรรค์ชัดๆ

“สกิลที่ใช้ด้วยร่างมานาที่ปลดล๊อคศักยภาพได้หนึ่งร้อยเปอเซ็นต์แล้ว มันทรงพลังมากขนาดนี้เลยงั้นหรอ ?” ดวงตาของโครว์เต็มไปด้วยความตกตะลึง เมื่อเห็นว่าซือเฟิงยังคงยืนอยู่ในตำแหน่งเดิมของเขา แม้ว่าจะต้องปะทะกับผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลังของไมโทโลจี้แปดคน

แม้ว่าทุกคนจะมีความเข้าใจทั่วไปเกี่ยวกับร่างมานา หลังจากมาถึงขั้นสามแล้ว และรู้ว่าร่างมานานั้นจะช่วยเพิ่มพลังการต่อสู้ให้กับผู้เล่นได้อย่างมาก แต่เขาก็ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่ามันจะน่าทึ่งมากขนาดนี้

ในขณะนี้นอกเหนือจากโครว์แล้ว ผู้เล่นขั้นสามคนอื่นๆก็ตื่นเต้นเช่นกัน เมื่อได้เห็นฉากนี้ ตอนนี้ความปราถนาและความตื่นต้นที่ต้องการจะปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาของพวกเขานั้นพุ่งสูงขึ้นมาก

เพราะท้ายที่สุดซือเฟิงเพิ่งพิสูจน์ให้พวกเขาได้เห็นแล้วว่ามันเป็นไปได้ที่ผู้เล่นขั้นสามจะสามารถแสดงพลังที่มาตราฐานของขั้นสี่ได้ ซึ่งนั่นมันก็หมายความว่าพวกเขาสามารถจะปะทะกับมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายในเลเวลเดียวกันได้เลย พวกเขาอาจจะยังไม่สามารถฆ่ามอนสเตอร์ระดับเทพนิยายได้ แม้ว่าจะมีพลังแบบนี้ แต่มันก็จะเป็นดั่งรากฐานทำให้พวกเขาโจมตีมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายได้ง่ายขึ้นในอนาคตแน่นอน

มอนสเตอร์ระดับเทพนิยาย !!!

ในระยะนี้ของเกมมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายเลเวลมากกว่าหนึ่งร้อยนั้น จัดเป็นบอสทั่วไปที่แม้แต่กลชั้นสูงก็ยังไม่สามารถโจมตีได้เลย อย่างไรก็ตามผู้เล่นก็มีสิทจะร่ำรวยได้ในชั่วข้ามคืนหากฆ่าบอสเหล่านี้ได้ และมีไอเทมดีๆดรอปออกมา

ในขณะเดียวกันฟิธาเลียซึ่งยืนอยู่ด้านหลังของซือเฟิงก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงกับฉากนี้

เธอไม่เคยคิดเลยว่าพลังของซือเฟิงจะมาถึงระดับที่น่ากลัวมากขนาดนี้ เขาสามารถเอาชนะผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลังของไมโทโลจี้แปดคนได้ด้วยตัวคนเดียว ด้วยความแข็งแกร่งแบบนี้ของซือเฟิงคนเดียว มันก็ควรจะเพียงพอที่จะปกป้องป้อมปราการแสงดาวได้ทั้งหมดแล้ว มันจะไม่มีใครสามารถสร้างความวุ่นวายในป้อมปราการแสงดาวได้เลย ตราบใดที่เขายังคงอยู่

อย่างไรก็ตามในระหว่างที่ฟิธาเลียและผู้เล่นคนอื่นๆกำลังคิดว่าไมโทโลจี้จะตัดสินใจล่าถอย หลังจากการปะทะกันครั้งนี้ ซิลเวอร์โกสต์ซึ่งเฝ้าดูการแลกเปลี่ยนอย่างเงียบๆจากมุมหนึ่งของบาร์ก็เริ่มปรบมือ

“น่าอัศจรรย์ น่าอัศจรรย์มากจริงๆ !!! ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมรองหัวหน้ากิลชาโด้วถึงยกย่องคุณมากนัก” ซิลเวอร์โกสต์กล่าว ท่าทีที่ดูสนุกสนานของเขานั้นมันทำให้ดูเหมือนว่าการพ่ายแพ้ในการปะทะกันของทีมแซนสตอร์มเมื่อครู่นั้นไม่ได้เกี่ยวกับเขาเลย เขาหัวเราะเบาๆ และพูดต่อว่า “น่าเสียดายที่แซนสตอร์มและคนอื่นๆได้เปิดใช้งานวงเวทย์การต่อสู้ขั้นสูงอยู่ ดังนั้นผลของการต่อสู้จึงได้รับการตัดสินแล้ว แม้ว่าคุณจะสามารถแสดงพลังในมาตราฐานของขั้นสี่ได้ แต่คุณก็หยุดพวกเราไม่ได้แน่นอน !!!”

ทันทีที่ซิลเวอร์โกสต์พูดจบ ฮีลเลอร์ในแนวหลังก็ทำการฟื้นฟู HP และอาการบาดเจ็บทั้งหมดที่แซนสตอร์มกับคนอื่นๆได้รับให้หายดีในทันที และมือที่สั่นเทาของพวกเขาก็ได้กลับคืนเข้าสู่สภาพปกติ

เมื่อได้เห็นฉากนี้ฟิธาเลียที่ก่อนหน้านี้ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกก็แสดงสีหน้าเคร่งขรึมอีกครั้ง

เนื่องจากการแสดงความแข็งแกร่งที่น่ากลัวของซือเฟิง เธอจึงลืมไปชั่วครู่ว่านี่ไม่ใช่การแข่งขันที่ยุติธรรมระหว่างผู้เชี่ยวชาญ แต่มันเป็นการต่อสู้แบบคนตีกันแทน ซึ่งมันก็เกิดขึ้นระหว่างซือเฟิงและผู้เชี่ยวชาญของไมโทโลจี้ ชัยชนะนั้นจะสามารถตัดสินได้ก็ต่อเมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถูกทำลาย ในขณะเดียวกัน ในการต่อสู้แบบนี้นั้นมันก็เป็นเรื่องปกติที่ผู้เล่นระยะประชิดจะต้องพึ่งพาฮีลเลอร์

“มาดูกันสิว่าครั้งนี้คุณจะทำยังไง ไอ้เวร !!!” แซนสตอร์มที่ฟื้นตัวเต็มที่แล้วกล่าวอย่างเย้ยหยันพลางมองไปยังซือเฟิง

ความแข็งแกร่งของนักดาบนั้นมันไปไกลเกินความคาดหมายของเขา อย่างไรก็ตามแม้ว่าทั้งแปดจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของซือเฟิง แต่นี่เป็นการต่อสู้จนกว่าจะตายกันไปข้าง และไม่มีการจำกัดใดๆ ยังไงซือเฟิงก็จะยังคงต้องตายอยู่ดี ผลลัพธ์มันชัดเจนอยู่แล้ว

ในขณะเดียวกันผู้เล่นขั้นสามในปัจจุบันนั้นก็ยังคงมีสกิลและเวทย์ขั้นสามอย่างจำกัดมากๆ ยิ่งไปกว่านั้นไม่เหมือนกับซือเฟิง ฝั่งของแซนสตอร์มยังมีฮีลเลอร์คอยดูแล มันเป็นเช่นเดียวกับที่ซิลเวอร์โกสต์ได้กล่าวไว้จริงๆว่าการต่อสู้ระหว่างทั้งสองฝ่ายนั้นได้รับการตัดสินตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว

“เป็นอย่างนั้นหรอ ?” ซือเฟิงยิ้ม

ทันทีที่ซือเฟิงพูดจบเขาก็ทำการถือคิลลิงเรย์ด้วยมือทั้งสองข้างของเขา และยกดาบศักสิทธิ์ขึ้นเหนือหัวอีกครั้ง ขณะเดียวกันมานาภายในบาร์นั้นก็พุ่งเข้าไปหาดาบศักสิทธิ์ทันที

“เป็นไปไม่ได้ !!!” แซนสตอร์มนั้นตกตะลึงอย่างมาก เมื่อได้เห็นฉากที่คุ้นเคยตรงหน้า
คูลดาวน์ของสกิลและเวทย์นั้น ยิ่งมันมีความแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งมีคูลดาวน์ที่นานขึ้นเท่านั้น ซึ่งการเคลื่อนไหวที่ซือเฟิงใช้ไปเมื่อครู่ควรจะมีคูลดาวน์ไม่ต่ำกว่าหนึ่งนาทีด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้หลังจากเขาใช้มันไปได้แค่หกวินาที เขากำลังจะใช้มันอีกครั้งแล้ว

นี่มันไม่ควรจะเป็นไปได้เลย !!!

อย่างไรก็ตามก่อนที่แซนสตอร์มและคนอื่นๆจะหายจากอาการตกตะลึง เงาของดาบขนาดใหญ่ที่น่ากลัวก็พุ่งเข้ามาหาพวกเขาอีกครั้ง

อย่างไรก็ตามแซนสตอร์มและคนอื่นๆนั้นก็จัดว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลัง ดังนั้นพวกเขาจึงตอบสนองต่อการโจมตีที่เข้ามาด้วยสกิลขั้นสามของพวกเขาทันที

ตู้ม !!

เมื่อการโจมตีของทั้งสองฝ่ายปะทะกัน มันก็บังเกิดพายุที่ทรงพลังอีกครั้ง อย่างไรก็ตามสกิลขั้นสามที่แซนสตอร์มและคนอื่นๆใช้ในครั้งนี้นั้นอ่อนแอกว่าครั้งที่แล้วมาก ดังนั้นพวกเขาจึงตกอยู่ในสภาพที่น่าสังเวชกัน และได้รับความเสียหายมากกว่าหนึ่งแสนสามหมื่น ถึงกระนั้นสำหรับแซนสตอร์มและคนอื่นๆที่มี HP มากกว่าสองล้าน ความเสียหายนี้มันก็ยังนับว่าไม่สำคัญมากนัก

อย่างไรก็ตามในระหว่างที่แซนสตอร์มและคนอื่นๆกำลังจะเยาะเย้ยซือเฟิงอีกครั้ง ซือเฟิงก็เริ่มชูดาบใช้ท่าเดิมอีกครั้ง อย่างไรก็ตามการรวบรวมมานาของเขาในครั้งนี้นั้นมันเร็วกว่าเดิมมากๆ

ก่อนที่แซนสตอร์มและคนอื่นๆจะทันได้พูดอะไรต่อ ซือเฟิงก็เริ่มโจมตีอีกครั้ง

ตู้ม !!

คราวนี้แซนสตอร์มและคนอื่นๆนั้นตอบสนองช้าเกินไปต่อการโจมตีของซือเฟิง ดังนั้นพวกเขาจึงล้มเหลวในการใช้สกิลขั้นสามป้องกันตัวเอง พวกเขาจึงได้รับความเสียหายไปมากกว่าสามแสน

“ไอ้เวรเอ้ย !!! ฉันได้พูดไปแล้วว่าผลของการต่อสู้นี้มัน ..!!”

แม้ว่าแซนสตอร์มซึ่งใกล้จะคุกเข่าลงกับพื้นพยายามที่จะตอบโต้ด้วยการเยาะเย้ยซือเฟิง แต่ก่อนที่เขาจะพูดจบซือเฟิงก็เหวี่ยงคิลลิงเรย์อีกครั้ง

หนึ่งครั้ง … สองครั้ง … สามครั้ง …

ในช่วงเวลาหนึ่งผลของการระเบิดนั้นทำให้บาร์แสงดาวสั่นสะเทือนไปทั้งแถบ และนอกเหนือจากเสียงนี้แล้วผู้คนโดยรอบก็ไม่มีใครได้ยินเสียงอื่นเลย

ในที่สุดหลังจากซือเฟิงทำการโจมตีแบบนี้ไปสิบเอ็ดครั้งติดต่อกัน โลกโดยรอบเขาก็เงียบสนิท แซนสตอร์มและผู้เชี่ยวชาญอีกเจ็ดคนของไมโทโลจี้ได้ตายลงจนเหลลือแต่ซาก ตอนนี้พวกเขานั้นไม่มีทั้ง HP ออร่า หรือมานาใดๆเหลืออีกแล้ว

Reincarnation Of The Strongest Sword God

Reincarnation Of The Strongest Sword God

เริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง เขาได้เข้ามาสู่ “เกมแห่งมีชีวิต” นี้อีกครั้งเพื่อที่จะควบคุมโชคชะตาของตัวเอง ครั้งนี้ , เขาจะไม่ถูกควบคุมจากคนอื่น ก่อนหน้านี้ราชาแห่งดาบเลเวล 200 , เขาได้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในชีวิต วิธีการที่จะได้รับเงิน! กลยุทธ์แห่งชัยชนะในดันเจี้ยน! เควสในตำนาน! สถานที่ดรอปอุปกรณ์! ทักษะที่ยังไม่ถูกค้นพบ! แม้แต่ความลับที่พวกผู้ทดสอบเบต้าไม่รู้ , เขารู้มันทั้งหมด สงครามอันยิ่งใหญ่ , ความก้าวหน้าในชีวิต , เข้าสู่ความเป็นพระเจ้า , บรรลุถึงจุดสูงสุดแห่งดาบ ตำนานของชายผู้ที่จะกลายเป็นเทพแห่งดาบได้เริ่มขึ้นแล้ว Starting over once more, he has entered this “living game” again in order to control his own fate. This time, he will not be controlled by others. Previously the Level 200 Sword King, he will rise to a higher peak in this life. Methods to earn money! Dungeon conquering strategies! Legendary Quests! Equipment drop locations! Undiscovered battle techniques! Even the secrets Beta Testers were unknowledgeable of, he knows of them all. Massive wars, life advancement, entering Godhood, sword reaching to the peak; a legend of a man becoming a Sword God has begun.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset