Reincarnation Of The Strongest Sword God – ตอนที่ 2521

ความวุ่นวายในป่าเบิร์นนิ่ง

ในขณะที่พวกเขาเฝ้าดูหน่วยลาดตระเวนปีศาจกลายเป็นอะไรที่ไม่ได้มากไปกว่า EXP สำหรับทีมของซือเฟิง ผู้เล่นปีศาจหลายคนก็อ้าปากค้างความตกตะลึง

“พวกเขาเป็นใครกัน ?”

ผู้เล่นปีศาจที่เฝ้าดูอยู่ในระยะไกลต่างก็ทั้งตกใจและสงสัย ในขณะที่พวกเขามองไปยังทีมของซือเฟิง

หน่วยลาดตระเวนของปีศาจนั้นเป็นดั่งบาเรียที่มั่นคงซึ่งป้องกันไม่ผู้บุกรุกสามารถเข้าประชิดเมืองปีศาจได้ พวกนี้นั้นคล้ายกับทหารลาดตระเวนของเมือง NPC พวกนี้ไม่เพียงแต่จะมีสกิลหรือเวทย์จำนวนมากที่ทรงพลัง แต่พวกนี้ยังสามารถต่อสู้เป็นทีมได้ดีอีกด้วย พวกนี้ไม่มีอะไรเหมือนกับผู้เล่นปีศาจโดยทั่วไปเลย

อย่างไรก็ตามปีศาจเหล่านี้กับไม่ต่างจากมอนสเตอร์ธรรมดาเลยต่อหน้าทีมของซือเฟิง …..

“เราจะยังรอพวกทีมนักผจญภัยไหม หัวหน้า ?”แรนเจอร์เลเวลหนึ่งร้อยห้า ขั้นสอง ถามพลางหันไปมองแอสซาซินขั้นสามที่เป็นผู้นำทีม

“แม้แต่ทีมนักผจญภัยขนาดใหญ่ของเมืองปีศาจก็จะไม่ได้มีช่วงเวลาที่ง่ายเลยในการจัดการกับทีมที่สามารถฆ่าหน่วยลาดตระเวนปีศาจได้ง่ายๆ ทำให้ตอนนี้นั้นพวกเขากับจำเป็นจะต้องตัดสินใจแล้วว่าจะจับตาดูทีมของซือเฟิงต่อไปไหมจนกว่าทีมนักผจญภัยขนาดใหญ่จะมาถึง

พวกเขานั้นเป็นผู้เล่นปีศาจ และมีประสาทสัมผัสทั้งห้าที่เฉียบคมกว่าผู้เล่นมนุษย์ แต่มันก็ไม่มีอะไรสามารถรับประกันได้ว่าพวกเขาจะไม่ถูกค้นพบ และในกรณีทีทีมของซือเฟิงสังเกตเห็นพวกเขา ผลที่ตามมามันจะเลวร้ายมากแน่นอน และความเสี่ยงนั้นก็แทบจะไม่คุ้มค่ากับรางวัลเลย

“แน่นอนสิ !! หัวใจปีศาจนั้นเสนอรางวัลสุดพิเศษมา แม้ว่าเราจะช่วยฆ่าผู้เล่นได้แค่คนเดียว และได้รับเพียงสิบเปอเซ็นต์ของรางวัล แต่เราก็จะยังคงได้รับคริสตัลปีศาจ ซึ่งเมื่อเรามีคริสตัลปีศาจยี่สิบชิ้น เราก็จะสามารถท้าทายเพื่อรับตำแหน่งขุนนางในเมืองได้ ซึ่งมันจะต้องใช้เวลานานมากเลยนะ หากเราพยายามล่าและเก็บรวบรวมมันด้วยตัวเอง” แอสซาซินขั้นสามกล่าว “อย่างไรก็ตาม เราจะต้องระวังให้มากและรักษาระยะห่างจากผู้เล่นเหล่านั้นไว้ เราไม่จำเป็นจะต้องติดตามพวกเขาไปอย่างใกล้ชิดมากนะ มันจึงจะปลอดภัยสำหรับเรา …”

ขณะเดียวกันคนที่เหลือก็พยักหน้าเห็นด้วย ทุกคนต่างคิดว่าแผนของหัวหน้าทีมของพวกเขานั้นเป็นไปได้

ด้วยประสาทสัมผัสทั้งห้าที่เหนือกว่าของพวกเขา พวกเขาน่าจะสามารถหลีกเลี่ยงการตรวจจับจากทีมของซือเฟิงได้ แม้ว่าทีมของซือเฟิงจะทรงพลังก็ตาม หากพวกเขาเว้นระยะห่างไว้มากเพียงพอ

ทันทีที่แอสซาซินขั้นสามพูดจบ กริชเย็นยะเยือกก็พุ่งเข้ามาทะลุอกเขา และความเสียหายมากกว่าเก้าแสนก็ปปรากฎขึ้นเหนือหัวของเขา

ก่อนที่แอสซาซินขั้นสามจะทันได้พูดจบ ดาบที่มีสีขาวราวกับหิมะก็กรีดผ่านคอเขา และกลืนกิน HP สุดท้ายของเขาไปทั้งหมดแล้ว

“หัวหน้า ?!”

สมาชิกขั้นสองที่เหลืออีกห้าคนของทีมก็ล้มเหลวในการจะตอบสนองใดๆ

มันเกิดอะไรขึ้นกัน ?

สองวินาทีที่แล้ว หัวหน้าทีมของพวกเขายังมีชีวิตอยู่เลย แต่อย่างไรก็ตามในสองวินาทีต่อมา พวกเขากับตายลง

หัวหน้าทีมของพวกเขานั้นเป็นแอสซาซินขั้นสาม และแม้แต่ในเมืองปีศาจเขาก็จัดว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียง แต่ตอนนี้เขากับพึ่งตายลงไปอย่างกระทันหัน ….

“แอสซาซิน ?”

“อึก !! เราถูกค้นพบแล้ว ?!”

“หนี !!”

เมื่อถึงเวลาที่ผู้เล่นปีศาจทั้งห้าเริ่มจะตอบสนองได้ ผู้หญิงที่ดูมีเสน่ห์ก็หายตัวไปราวกับภูติผี

ก่อนที่เธอจะมาปรากฎตัวขึ้นอีกครั้งต่อหน้าผู้เล่นปีศาจทั้งห้า และลำแสงสีขาวราวกับหิมะก็กวาดผ่านพวกเขาทันที และชุดของความเสียหายที่มากกว่าหนึ่งล้านก็ปรากฎขึ้นเหนือหัวของผู้เล่นปีศาจแต่ละคน ก่อนจะกลืนกิน HP ของพวกเขาไปทั้งหมดทันที ….

“ช่างโง่เขลา !!! พวกคุณแผ่มานาออกมามากซะจนราวกับเป็นโคมไฟท่ามกลางความมืด !!! แต่คุณกล้าคิดจะติดตามเรางั้นหรอ ?!!” “ไฟเออร์แดนซ์ส่ายหัวอย่างดูถูกและเหยียดหยามกับท่าทางสับสนของผู้เล่นปีศาจ เธอนั้นคิดว่าพวกเขาประเมินเธอต่ำเกินไปมาก

สิ่งที่ไฟเออร์แดนซ์ไม่รู้นั่นก็คือ ในยุคนี้นั้นผู้เล่นขั้นสามยังคงจัดว่าหายาก และเมื่อผู้เล่นมาถึงขั้นสามกัน พวกเขาต่างก็เร่งรีบเก็บรวบรวมสกิลกับเวทย์ขั้นสามให้มากที่สุด ไม่ได้มีใครว่างมาสนใจปรับปรุงการควบคุมมานาของตนเท่าไหร่นัก

“หัวหน้ากิล ฉันได้จัดการกับผู้เล่นปีศาจที่อยู่ใกล้ๆไปแล้ว …” ไฟเออร์แดนซ์
รายงานซือเฟิง หลังจากเธอตรวจสอบแล้วไม่พบมานาของผู้เล่นศัตรูที่บริเวณใกล้เคียง

“ดี ตรวจตราและเคลียร์พื้นที่ต่อไป หากเธอเจอกับผู้เล่นปีศาจมากเกินไปก็ให้ติดต่อทีมแอสซาซินของกองกำลังนรกเพื่อขอความช่วยเหลือ” ซือเฟิงกล่าวพลางพยักหน้า จากนั้นเขาก็หันกลับมาจ้องมองไอเทมที่หน่วยลาดตระเวนปีศาจดรอปไว้

เขาไม่ได้คาดหวังเลยว่าหน่วยลาดตระเวนปีศาจพวกนี้จะดรอปอะไรดีๆออกมา เพราะท้ายที่สุดแล้วพวกมันอยู่ในระดับเดียวกับทหาร NPC และทหาร NPC ก็แทบไม่
ดรอปอะไรเลย หลังจากผู้เล่นฆ่าพวกเขา

อย่างไรก็ตามตรงกันข้ามกับความคาดหวังของซือเฟิง ปีศาจเหล่านี้ได้ดรอปไอเทมมีค่าไว้มากมาย แม้ว่าอาวุธและอุปกรณ์ที่ดรอป เลเวลหนึ่งร้อยสิบที่ดรอปออกมาจะมีมาตราฐานค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับอาวุธและอุปกรณ์ในระดับเดียวกัน แต่ปีศาจพวกนี้ก็ยังดรอปแม้กระทั่งทองดำเวทย์มนต์

ทองดำเวทย์มนต์นั้นเป็นวัสดุหายากระดับอีปิคที่หายากมากๆ เพราะไม่เพียงแต่ผู้เล่นจะสามารถใช้มันเพื่อเพิ่มอัตราความสำเร็จในการผลิตอาวุธและอุปกรณ์ได้ แต่มันยังมีโอกาสที่จะทำให้ไอเทมเป็นไอเทมที่ได้รับพลังแห่งความมืดด้วย มันเป็นวัสดุที่ปรมาจารย์ช่างตีเหล็กทุกคนนั้นล้วนแสวงหา

เขาได้รับทองดำเวทย์มนต์มาสิบสี่แท่ง หลังจากทำการฆ่าหน่วยลาดตระเวนปีศาจไปได้หนึ่งหน่วย หากปรมาจารย์ช่างตีเหล็กในชาติก่อนของเขารู้เรื่องนี้ พวกเขาน่าจะมาตามล่าหน่วยลาดตระเวนปีศาจในป่าเบิร์นนิ่งจนสูญพันธ์แน่นอน

อย่างไรก็ตามสมาชิกกองกำลังนรกนั้นมีความสุขมากกว่าซือเฟิง ….

ปีศาจที่พวกเขาฆ่าไปนั้นมันให้ EXP แก่พวกเขามากมาย และในระหว่างการต่อสู้ พวกเขานั้นก็ได้รับความเข้าใจอย่างมากเกี่ยวกับการควบคุมมานา

แม้ว่าการควบคุมมานาของปีศาจเหล่านี้จะไม่สามารถเทียบกับ NPC ที่แท้จริงได้ แต่มันก็ยังจัดว่าดีกว่าพวกมอนสเตอร์ทั่วไป

โดยทั่วไปแล้วพวกเขาก็จะมีโอกาสต่อสู้แค่กับมอนสเตอร์ทั่วไปเท่านั้น พวกเขาแทบจะไม่มีโอกาสต่อสู้กับ NPC เลย ดังนั้นทำไมพวกเขาจึงจะไม่ตื่นเต้น เมื่อพวกเขามีโอกาสจะต่อสู้กับปีศาจที่ฉลาดเท่ากับ NPC ที่แท้จริง ?

ในตอนแรกนั้นกองกำลังนรกไม่ได้กระตือรือร้นจะโจมตีเมืองปีศาจเท่าไหร่เลย แต่การค้นพบนี้ได้จุดไฟแห่งความกระตือรือร้นมในใจของพวกเขาแล้ว

ในขณะเดียวกันตอนนี้ เมื่อทำการสำรวจป่าเบิร์นนิ่ง กองกำลังนรกนั้นไม่ได้พยายามจะหลีกเลี่ยงหน่วยลาดตระเวนปีศาจเลย ตรงกันข้ามพวกเขากับเริ่มค้นหาพวกหน่วยลาดตระเวนอย่างกระตือรือร้นมากขึ้นด้วยซ้ำ

ในขณะเดียวกันที่บริเวณหนึ่งของป่าเบิร์นนิ่ง ทีมหนึ่งพันคนได้ทำการโจมตีรังของมอนสเตอร์ที่อยู่ภายใต้การป้องกันของมอนสเตอร์ระดับเทพนิยาย เลเวลหนึ่งร้อยสิบ

และแม้ว่าพวกเขาจะมีทีมผู้เล่นแค่หนึ่งพันคน แต่มากกว่าแปดสิบคนในหมู่พวกเขานั้นก็ได้มาถึงขั้นสามแล้ว ซึ่งแม้แต่กิลชั้นสูงก็ยังไม่สามารถจะจัดทีมแบบนี้ขึ้มาได้เลยในระยะนี้ของเกม ผู้เล่นหลายคนที่เป็นผู้นำทีมนั้นยังสามารถจะปราบปรามมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายได้อย่างง่ายดาย ซึ่งนี่ทำให้คนอื่นๆนั้นสามารถจะจัดการกับลอร์ดบอสผู้ยิ่งใหญ่และแกรนลอร์ดที่เหลือได้สบายมาก

“ยอดเยี่ยม !!! มอนสเตอร์ทุกตัวอยู่ในการควบคุมของเราแล้ว !!! ผู้เล่นขั้นสามเริ่มโจมตีบอสได้ทันที !!!” ชายผู้ที่ดูกล้าหาญที่มีเลเวลหนึ่งร้อยแปด ซึ่งอยู่ในชุดคลุมสีดำ และถือคทาสีทอง ตะโกนขึ้น ขณะที่เขาต่อสู้กับมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายอยู่

ทันใดนั้นผู้เชี่ยวชาญขั้นสามมากกว่าแปดสิบคนก็หันหน้าจากเป้าหมายเดิมของพวกเขา และเปลี่ยนความสนใจมายังบอสผู้ปกป้องรังทันที และภายในเวลาไม่ถึงหกนาที มอนสเตอร์ระดับเทพนิยายที่คนส่วนใหญ่ในปัจจุบันนั้นล้วนหวาดกลัวมากๆก็ตายลง และดรอปปไอเทมจำนวนมากเอาไว้รอบศพ

แม้ว่าทีมผู้เล่นอิสระที่เฝ้าดูจากระยะไกลจะถูกล่อลวงด้วยไอเทมจำนวนมากที่มอนสเตอร์ระดับเทพนิยายดรอปออกมา แต่มันก็ไม่มีใครกล้าจะเข้าไปขโมยเลย ทีมนักผจญภัยที่บุกโจมตีรังมอนสเตอร์แห่งนี้นั้นก็เป็นหนึ่งในทีมนักผจญภัยขนาดใหญ่แห่งเมือปีศาจ และทีมนักผจญภัยแบบนี้นั้นก็ด้อยกว่าแค่สองกิลในเมืองเท่านั้น ใครก็ตามที่กล้าจะขโมยของจากทีมนักผจญภัยแบบนี้ก็ไม่ควรจะฝันว่าตัวเองจะมีชีวิตอยู่ได้นาน

“ผู้บัญชาการ แบล๊คไบรน์แมนด์เพิ่งส่งข้อความมาระบุว่าทีมของเขาได้ค้นพบเป้าหมายของหัวใจปีศาจ” แอสซาซินขั้นสาม เลเวลหนึ่งร้อยเจ็ด มารายงานต่อหน้าหัวหน้าทีมของเขา

“พวกเขามาแล้วงั้นหรอ ?” ชายผู้ที่ดูกล้าหาญยิ้ม “แจ้งให้ทุกคนทราบทันทีว่าเราจะไปยังทิศทางนั้น !!! แบล๊คไบรน์แมนด์จะไม่เหลืออะไรไว้ให้เราแน่นอน หากเราไปช้า ฉะนั้นเราต้องรีบหน่อย !!!”

“แบล๊คเฟรมไบรน์แมนด์ได้เตือนว่าผู้เล่นเหล่านี้นั้นแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อมากๆ และพวกเขาก็สามารถจะจัดการกับหน่วยลาดตระเวนปีศาจได้อย่างง่ายดาย” แอสซาซินขั้นสามล่าว

“พวกเขาทำได้ขนาดนั้นเลยงั้นหรอ ? ฉันไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะทรงพลังมากขนาดนั้น ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมหัวใจปีศาจถึงเสนอรางวัลที่ยอดเยี่ยมแบบนั้น” ชายผู้ที่ดูกล้าหาญกล่าวพลางพยักหน้า “แล้วเป้าหมายอยู่ตรงไหนแล้ว ?”

เขาคุ้นเคยกับความแข็งแกร่งของหน่วยลาดตระเวนปีศาจเป็นอย่างดี มันไม่มีทีมผู้เล่นขั้นสาม หนึ่งร้อยคนทั่วไปที่สามารถจะรับมือกับพวกมันได้

“ฉันไม่รู้ …” แอสซาซินขั้นสามตอบพลางส่ายหัว

“ไม่ใช่ว่าแบล๊คไบรน์แมนด์ตามพวกเขาอยู่งั้นหรอ ?” ชายผู้ที่ดูกล้าหาญถามอย่างสงสัย

เขานั้นค่อนข้างคุ้นเคยกับผู้เล่นที่ชื่อไบรน์แมนด์ดี ชายคนนี้นั้นไม่เพียงแต่จะมีพลังส่วนตัวที่ทรงพลังมากๆ แต่เขายังเป็นหนึ่งในแอสซาซินระดับต้นๆของเมืองปีศาจด้วย ไม่มีทางที่ไบรน์แมนด์จะละทิ้งโอกาสแบบนี้แน่นอน

“เขา …. ตายแล้ว …”

Reincarnation Of The Strongest Sword God

Reincarnation Of The Strongest Sword God

เริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง เขาได้เข้ามาสู่ “เกมแห่งมีชีวิต” นี้อีกครั้งเพื่อที่จะควบคุมโชคชะตาของตัวเอง ครั้งนี้ , เขาจะไม่ถูกควบคุมจากคนอื่น ก่อนหน้านี้ราชาแห่งดาบเลเวล 200 , เขาได้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในชีวิต วิธีการที่จะได้รับเงิน! กลยุทธ์แห่งชัยชนะในดันเจี้ยน! เควสในตำนาน! สถานที่ดรอปอุปกรณ์! ทักษะที่ยังไม่ถูกค้นพบ! แม้แต่ความลับที่พวกผู้ทดสอบเบต้าไม่รู้ , เขารู้มันทั้งหมด สงครามอันยิ่งใหญ่ , ความก้าวหน้าในชีวิต , เข้าสู่ความเป็นพระเจ้า , บรรลุถึงจุดสูงสุดแห่งดาบ ตำนานของชายผู้ที่จะกลายเป็นเทพแห่งดาบได้เริ่มขึ้นแล้ว Starting over once more, he has entered this “living game” again in order to control his own fate. This time, he will not be controlled by others. Previously the Level 200 Sword King, he will rise to a higher peak in this life. Methods to earn money! Dungeon conquering strategies! Legendary Quests! Equipment drop locations! Undiscovered battle techniques! Even the secrets Beta Testers were unknowledgeable of, he knows of them all. Massive wars, life advancement, entering Godhood, sword reaching to the peak; a legend of a man becoming a Sword God has begun.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset