Reincarnation Of The Strongest Sword God – ตอนที่ 2539

เศษชิ้นส่วน Abyssal Blade

ป่าใบไม้ผลิ เมืองป่าหิน :

เมื่อโทรเบิ้ลไทม์ตาย ซือเฟิงก็กลับมาที่เมืองป่าหินพร้อมกับกองกำลังนรก เขาไม่ได้เลือกจะอยู่ในจักรวรรดินักบุญทั้งสิบต่อไป

ช่วงเวลาที่เฮลรัช และคนของเขาเข้ามาในเมืองป่าหิน ฉากตรงหน้าที่พวกเขาได้เห็นนั้นมันก็ทำให้พวกเขาตกตะลึง

เมืองป่าหินนั้นเป็นเมืองกิล และโดยปกติแล้วมันจะมีเพียงแต่ผู้เล่นเท่านั้นที่เข้ามาเยี่ยมชมเมืองกิลในแผนที่เป็นกลางเลเวลหนึ่งร้อย และ NPC มักจะไม่ค่อยมาเยี่ยมชมเมืองกิลแบบนี้ แต่ตอนนี้เมืองป่าหินกับเต็มไปด้วย NPC จำนวนมาก มันมีกระทั่งพ่อค้า NPC ที่ต่อแถวยาวรอเข้าสู่เมืองที่ทางเข้าหลักของเมือง และการเรียกเมืองนี้ว่าเมือง NPC นั้นก็ไม่ใช่เรื่องเกินจริงด้วยซ้ำ

เฮลรัชนั้นยิ่งตกตะลึงขึ้นไปอีก เมื่อเห็นจำนวนและคุณภาพของผู้เล่นที่มาเยือนเมืองของสภาสิบแปดปีก เขาได้เห็นผู้เล่นขั้นสามหลายโหล ขณะที่เหลือบมองไปรอบๆถนนสายหลัก ….

แม้ว่ามหาอำนาจต่างๆจะมีผู้เล่นขั้นสามมากกว่าหนึ่งร้อยคนแล้วในระยะนี้ของเกม และบางกลุ่มนั้นก็ถึงขั้นมีหลายร้อยคน แต่ผู้เล่นขั้นสามก็ยังจัดว่าหายากมากโดยภาพรวม และไม่ว่าจะไปที่ไหนผู้เล่นขั้นสามก็จะดึงดูดความสนใจได้อย่างมาก

อย่างไรก็ตามผู้เล่นขั้นสามในเมืองป่าหินกับเป็นภาพที่ดูปกติเหมือนกับผู้เชี่ยวชาญขั้นสองเลย ….

“นี่คือเมืองกิลของสภาสิบแปดปีกงั้นหรอ ?” ธันเดอร์บีสต์พึมพำและมองไปยังรอบๆตัวเขาด้วยความประหลาดใจ

กองกำลังนรกนั้นมีผู้เชี่ยวชาญขั้นสามทั้งหมดสามร้อยคน ซึ่งมันนับเป็นจำนวนที่ไม่น่าเชื่อ ไม่ว่าพวกเขาจะไปที่ใด แต่ในเมืองป่าหินนี่มันนับว่าไม่มีอะไรเลย จากสิ่งที่เขาเห็น มันมีผู้เชี่ยวชาญขั้นสามจำนวนมากกว่าหนึ่งพันคนแน่นอนที่เดินไปมาอยู่ในเมือง

แม้แต่บลูฟอร์ส และสมาชิกของสภาสิบแปดปีกจากดาร์คเดนก็ยังตกตะลึงกับฉากนี้ เขตของพวกเขานั้นยังมีผู้เชี่ยวชาญขั้นสามไม่ถึงหนึ่งร้อยคนด้วยซ้ำในตอนนี้ และผู้เชี่ยวชาญขั้นสามก็ยังคงเป็นที่ต้องการอย่างมากที่นั่น

แต่ถึงกระนั้นตอนนี้ตามถนนของเมืองป่าหินกับมีผู้เล่นขั้นสามมากกว่าเขตที่อยู่อาศัยของดาร์คเดนซะอีก ….

“บลู ไอ้เวรนี่ !!! นายเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับจากพวกเราได้ดีน่าดูเลยนะ !!! ถ้าเรารู้ว่ากิลเรามีเมืองกิลที่สวยงามเช่นนี้ เราจะเข้าร่วมกับสภาสิบแปดปีกนานแล้ว !!!” เคิร์สแมนเซอร์ขั้นสาม ที่เข้าร่วมกับเขตหนึ่งและสภาสิบแปดปีกกล่าวบ่นรองหัวหน้ากิลของเขา ขณะที่เขาชื่นชมบรรยากาศตรงหน้า

เท่าที่เขาเห็นนั้น เคิร์สแมนเซอร์ก็สามารถจะประเมินได้เลยว่า เมืองป่าหินนั้นมีผู้เล่นขั้นสามมากกว่าดาร์คเดนหลายเท่า ….

ผู้เล่นทั่วไปอาจไม่สนใจว่าเมืองกิลมีผู้เล่นขั้นสามกี่คน แต่อย่างไรก็ตามสำหรับคนอย่างเขาที่มีบทบาทสำคัญในการจัดการเขตหนึ่ง สิ่งนี้มันควรค่าแก่การสนใจมากๆ

คุณค่าของผู้เล่นแต่ละคนนั้นแตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะในเมืองกิล เมืองจะได้รับประโยชน์จากผู้เชี่ยวชาญขั้นสามมากกว่าขั้นสอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นเรื่องของทรัพยากร ผู้เชี่ยวชาญขั้นสามจะสามารถเข้าถึงทรัพยากรที่มีคุณภาพได้มากกว่าผู้เชี่ยวชาญขั้นสอง เพราะพวกเขาจะสามารถสำรวจสถานที่อันตรายได้มากกว่าผู้เชี่ยวชาญขั้นสอง

ในเมืองที่เต็มไปด้วยผู้เชี่ยวชาญขั้นสามนั้น ผู้เล่นจะเพิ่มทรัพยากรให้กับเมืองโดยไม่เจตนา แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เป็นสมาชิกของกิลผู้ปกครองเมืองก็ตาม ซึ่งนี่มันก็จะช่วยดึงดูดผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากเข้ามามากขึ้นด้วย

ประโยชน์อีกประการหนึ่งก็มาในรูปแบบของการเก็บเลเวล

ผู้เล่นชั้นแนวหน้าของ God domain นั้นมีเลเวลหนึ่งร้อยขึ้นไปกันแล้ว และหลังจากมาถึงเลเวลหนึ่งร้อยนั้น ผู้เล่นก็ต้องการ EXP จำนวนมากขึ้นเพื่อจะไปให้ถึงเลเวลต่อๆไป และผู้เล่นก็จำเป็นจะต้องเอาชนะและฆ่ามอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งกว่ามาก ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการความช่วยเหลือจากผู้เล่นขั้นสาม หากต้องการจะเก็บเลเวลให้ได้อย่างรวดเร็ว
นี่เป็นสาเหตุที่ผู้เล่นในดาร์คเดนนั้นต้องการจะมาพัฒนาตัวเองในเขตที่ทรงพลัง

ด้วยจำนวนผู้เชี่ยวชาญขั้นสามที่เดินไปมาตามท้องถนนของเมืองป่าหินนั้น หากพวกเขาประกาศจัดทีมออกล่า พวกเขาก็จะเก็บเลเวลได้อย่างรวดเร็วแบบน่าเหลือเชื่อ ซึ่งมันจะทำให้เขตต่างๆของดาร์คเดนไม่สามารถจะจินตนาการได้ออกเลยว่าผู้เล่นที่มาถึงที่เมืองป่าหินได้จะเก็บเลเวลได้เร็วแค่ไหน

หากผู้เล่นในดาร์คเดนรู้ว่าสภาสิบแปดปีกปกครองเมืองกิลแบบนี้ ทุกคนจะพยายามเข้าร่วมกับกิลทันทีแน่นอน

อยางไรก็ตามบลูฟอร์สนั้นก็ไม่รู้จะตอบสนองอย่างไรเกี่ยวกับคำบ่นของเคิร์สแมนเซอร์ แม้ว่าเขาจะรู้มาตลอดว่าสภาสิบแปดปีกนั้นค่อนข้างพิเศษ แต่เขาก็ไม่นึกเลยว่ากิลจะทรงพลังมากขนาดนี้

อย่างไรก็ตามตอนนี้สิ่งที่บลูฟอร์สและพรรคพวกของเขาไม่รู้ก็คือ มันมีมหาอำนาจจำนวนมากได้ส่งผู้เชี่ยวชาญเข้ามายังเมืองป่าหิน เนื่องจากการแสดงครั้งล่าสุดของซือเฟิงที่เมืองปีศาจ ในความเป็นจริงต้องบอกว่ามหาอำนาจกลุ่มแรกๆที่ส่งผู้เชี่ยวชาญเข้ามาที่นี่จำนวนมากนั้นก็คือมหาอำนาจจากจักรวรรดินักบุญทั้งสิบ แถมพวกเขายังส่งพวกระดับสูงบางส่วนเข้ามาด้วย

ด้วยเหตุนี้จำนวนผู้เล่นของเมืองป่าหินจึงสูงเป็นประวัติการณ์ และมีผู้เชี่ยวชาญขั้นสามในเมืองเป็นจำนวนมากอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

ในขณะเดียวกันตอนนี้ผู้เชี่ยวชาญขั้นสาม สามคน ที่มีเลเวลหนึ่งร้อยแปดก็กำลังเพลิดเพลินไปกับอาหารจานพิเศษในห้อง VIP ของร้านอาหารชั้นสูงแห่งหนึ่งในเมืองป่าหิน ซึ่งร้านอาหารชั้นสูงนี้นั้นอยู่ไม่ไกลจากสถานที่พักกิลสภาสิบแปดปีกมากนัก โดยคนเหล่านี้คอยสังเกตทีมของซือเฟิงอย่างเงียบๆหลังจากที่พวกเขาเข้ามา และสองในสามคนนั้นคือหยวนเทียนซิน กับเพอเพิ้ลเจดจากศาลาลับ ในขณะที่คนที่สามเป็นหญิงสาวในวัยยี่สิบกลางๆ

ถ้าซือเฟิงรู้เกี่ยวกับการรวมตัวครั้งนี้เขาจะต้องประหลาดใจมากแน่นอน

หยวนเทียนซินและเพอเพิ้ลเจดนั้นแสดงให้เห็นถึงความเคารพต่อหญิงสาวคนนี้อย่างมาก และแม้ในขณะที่เธอพูด ดวงตาของเพอเพิ้ลเจดก็ยังเปล่งประกายไปด้วยความตื่นเต้น และเคารพ แม้ว่าเธอจะเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งแห่งศาลาลับ แต่เธอก็ไม่ได้แสดงความเย่อหยิ่งต่อหน้าหญิงสาวคนนี้เลย

“เขาคือแบล๊คเฟรมงั้นหรอ ? เขาช่างดูพิเศษจริงๆ ช่างน่าเสียดาย เขาไม่น่าไปยั่วยุหัวใจปีศาจเลย ด้วยตัวตน ความสามารถ และพลังของเขา บวกกับเมืองป่าหิน มันคงจะใช้เวลาไม่นานนักสำหรับสภาสิบแปดปีกก่อนที่จะกลายเป็นมหาอำนาจที่แท้จริง นี่มันช่างน่าเสียดายจริงๆ …” หญิงสาวผมยาวสีฟ้ากล่าวด้วยรอยยิ้มบางๆขณะที่เธอมองไปยังซือเฟิงที่เดินหายเข้าไปในสถานที่พักกิลของสภาสิบแปดปีก

“คุณแน่ใจหรอว่าคุณจะไม่ลองพิจารณาดูใหม่น่ะ รองหัวหน้ากิลดอร์น ? เมืองป่าหินเป็นเมืองอันดับหนึ่งในป่าใบไม้ผลิ แถมมันยังอยู่ใกล้แผนที่เป็นกลางเลเวลหนึ่งร้อยอีกหลายแห่ง ถ้าคุณยอมก้าวออกมา ฉันแน่ใจว่าหัวใจปีศาจจะไม่กล้าทำอะไรกับเมืองแน่นอน” หยวนเทียนซินขอร้องหญิงสาวด้วยความเคารพ

ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าของเขานั้นคือดอร์น เจด และเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องแสดงความเคารพต่อเธออย่างมาก เพราะท้ายที่สุดแล้ว เธอเป็นผู้ที่มีแนวโน้มสูงมากที่จะขึ้นเป็นหัวหน้ากิลของศาลาลับในอนาคต และในปัจจุบันอำนาจของเธอในศาลาลับก็เป็นรองแค่หัวหน้ากิลเท่านั้น

“ก่อนที่เขาจะไปก่อปัญหาที่เมืองปีศาจ ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมหัวหน้ากิลถึงมีความเห็นในแง่ดีนักเกี่ยวกับสภาสิบแปดปีก แต่ผู้อาวุโสหยวน คุณก็รู้ดีนี่หว่าเวลาได้เปลี่ยนไปแล้ว มหาอำนาจสายความมืดนั้นเข้ามามีอิทธิพลใน God domain มากกว่าที่เคยเป็นมา โดยเฉพาะกับหัวใจปีศาจที่แทบจะยืนอยู่ในจุดสูงสุดของเหล่ามหาอำนาจสายความมืด แต่แบล๊คเฟรมกับเลือกจะฆ่าคนๆหนึ่งที่เฟรมมิ่งไลท์ปกป้องอยู่อย่างไร้ความปราณี ดังนั้นเหล่ามหาอำนาจสายความมืดต่างๆของ God domain โดยเฉพาะกับหัวใจปีศาจ จึงคิดจะใช้สภาสิบแปดปีกเชือดไก่ให้ลิงดูแน่นอน …” ดอร์นเจดกล่วพลางถอนหายใจ “สภาสิบแปดปีกได้ยั่วยุมหาอำนาจมากเกินไป และจากรายงานล่าสุด นอกเหนือจากไมโทโลจี้แล้ว เฟรมมิ่งไลท์ยังได้ไปเจรจาขอความร่วมมือจากจักรพรรดิอสูร ซึ่งปัจจุบันครอบครองจักรวรรดิออร์คอยู่ และตอนนี้แม้แต่หัวหน้ากิลของเราก็จะไม่สามารถป้องกันสภาสิบแปดปีกจากการล่มสลายได้ ไม่ต้องพูดถึงกองกำลังนรกจากจักรวรรดิโลกใต้พิภพเลย คนของคุณควรเตรียมการให้พร้อมเช่นกัน ฉันมั่นใจว่าอีกไม่นานหัวใจปีศาจจะเริ่มเคลื่อนไหวแน่นอน แต่อย่ากังวลมากเกินไป ฉันจะคิดวิธีการรักษาส่วนแบ่งเมืองป่าหินของเราไว้”

เมื่อดอร์นเจดกล่าวจบ เธอก็ตัดบทด้วยการใช้สกิลเปิดสปาร์เชี่ยลเกตขึ้น และเดินเข้าสปาร์เชี่ยลเกตหายออกไปจากร้านอาหาร

ความเงียบนั้นเข้าปกคลุมอีกสองคนที่เหลือเป็นเวลานาน หลังจากที่หญิงสาวทั้งสองจากไป

“ลุงหยวนเราจะทำยังไงกันดี ? หากรองหัวหน้ากิลไม่ช่วย เราจะมีกองกำลังไม่มากพอที่จะใช้ปกป้องเมืองป่าหิน แม้ว่าเราจะรวบรวมผู้เล่นทั้งหมดของเราแล้วก็ตาม …” เพอเพิ้ลเจดกล่าวถาม

มันมีเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ถึงความน่ากลัวของหัวใจปีศาจ และเมื่อกิลสายความมืดกิลนี้เลือกจะเคลื่อนไหว พวกเขาจะสามารถเปลี่ยนป่าใบไม้ผลิให้กลายเป็นรังของผู้เล่นสายความมืดแน่นอน

เฟรมมิ่งไลท์นั้นครอบครองวิธีการเปิดประตูสู่โลกแห่งความมืดอยู่ และเขาก็สามารถจะอนุญาติให้ผู้เล่นจากโลกอื่นไหลทะลักเข้ามาที่ทวีปหลักได้ นี่เป็นเหตุที่แท้จริงที่ทำให้แม้แต่ซุเปอร์กิลก็ยังหวาดกลัวหัวใจปีศาจ

เพียงแต่ว่าเฟรมมิ่งไลท์นั้นต้องการที่จะให้หัวใจปีศาจสร้างฐานที่มั่นของตัวเองขึ้นใน God domain ได้โดยไม่ต้องมีศัตรูมากนัก ดังนั้นเขาจึงยังไม่เลือกใช้ไพ่ใบนี้ก็เท่านั้น

น่าเสียดายที่เหตุการณืที่เกิดขึ้นที่ผ่านมานั้นเฟรมมิ่งไลท์ไม่สามารถจะทำอะไรกับสภาสิบแปดปีกได้ และซือเฟิงก็ได้ก่อความเสียหายอย่างรุนแรงให้กับหัวใจปีศาจ ซึ่งด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของสภาสิบแปดปีก มันจึงทำให้กิลถูกคุกคามได้ค่อนข้างยาก ดังนั้นโอกาสที่เฟรมมิ่งไลท์จะตัดสินใจเปิดใช้งานประตูสู่โลกแห่งความมืดนี้จึงมีค่อนข้างสูงมาก

โดยโลกแห่งความมืดนี้จัดว่าเป็นโลกที่แข็งแกร่งกว่าโลกอื่นๆอย่างมาก และที่สำคัญที่สุดคือมันมีประชากรผู้เล่นที่สามารถเทียบได้กับสองถึงสามจักรวรรดิอย่างง่ายดาย ยิ่งไปกว่านั้นผู้เล่นทุกคนในโลกแห่งความมืดยังเป็นผู้เล่นสายความมืด เมื่อเฟรมมิ่งไลท์ตัดสินใจเปิดใช้งานประตูสู่โลกแห่งความมืดในป่าใบไม้ผลิ เมืองป่าหินก็จะต้องเผชิญหน้ากับการไหลบ่าเข้ามาของผู้เล่นสายความมืด และโอกาสที่เมืองจะรอดชีวิตไปได้นั้น มันก็แทบจะไม่มีเลย ในความเป็นจริงการเปิดประตูนี้จะส่งผลกระทบไปหมดทั้งในอาณาจักรสตาร์มูน และประเทศใกล้เคียงทั้งหมดแน่นอน

“ฉันไม่รู้แล้ว ตอนนี้ก้าวไปทีละก้าวแล้วกัน …” หยวนเทียนซินกล่าวออกมาอย่างหมดหนทาง และเขาก็อดไม่ได้ที่จะมองไปยังทิศทางที่ซือเฟิงจากไปและกลอกตา

แทนที่จะพัฒนาตัวเองอย่างเงียบๆ ซือเฟิงได้ทำตัวเด่นใน God domain เสมอ และสร้างศัตรูขึ้นกลุ่มแล้วกลุ่มเล่า ตอนนี้แม้แต่ศาลาลับก็ไมม่สามารถจะช่วยกิลได้แล้ว และพวกเขาก็จะทำได้แค่ดูสภาสิบแปดปีกถูกทำลายเท่านั้น

ในระหว่างการประชุมในร้านอาหารใกล้เคียงของหยวนเทียนซิน เพอเพิ้ลเจด และดอร์นเจดนั้น ซือเฟิงก็ได้เดินเข้าไปที่ชั้นใต้ดินชั้นที่สองของกิลฮอลของสภาสิบแปดปีก

หลังจากเข้ามาในห้องหลักแล้ว เขาก็เปิดใช้งานวงเวทย์ป้องกันของห้องและทำการปิดผนึกทั้งชั้น จากนั้นเขาก็ดึงดาบสีดำสนิทออกมาจากกระเป๋าของเขาอย่างระมัดระวัง

ดาบเล่มนี้นั้นไม่ใช่อะไรอื่นนอกจาก Cruel Darkness ของกบฎสายฟ้า ตอนแรกซือเฟิงนั้นไม่ได้ให้ความสนใจกับอาวุธเวทย์มนต์ที่กบฎสายฟ้าดรอปมากนักเลย เพราะเขามุ่งเน้นไปแต่การต้องฆ่าชายคนนี้ให้ได้เท่านั้น

อย่างไรก็ตามพอเขาเริ่มทำการเก็บรวบรวมไอเทมที่ดรอปนั้น เขาก็พบว่า Cruel Darkness นี้มีปฎิกิริยากับ Abyssal Blade และเขาก็ได้รู้ข้อมูลบางอย่างซึ่งมันทำให้เขาตื่นเต้นมากๆ

อาวุธทั้งสองนั้นมีชื่อเสียงอย่างมากใน God domain แต่ทั้งสองก็เคยเป็นส่วนหนึ่งของอาวุธชิ้นหนึ่ง กล่าวอีกนัยหนึ่งคือทั้งสองคือเศษอาวุธ

ในฐานะที่เป็นอาวุธเวทย์มนต์ Abyssal Blade แข็งแกร่งอย่างน่ากลัว และมันทรงพลังมากพอที่จะเทียบกับเศษชิ้นส่วนไอเทมระดับตำนานได้เลยในปัจจุบัน ดังนั้นซือเฟิงจึงไม่สามารถจะนึกออกได้เลยว่า หากอาวุธอยู่ในสภาพสมบูรณ์จริงๆมันจะทรงพลังมากขนาดไหน ?

หรือว่ามันจะกลายเป็นเศษชิ้นส่วนไอเทมระดับตำนานที่แท้จริงเลย ?

หรือว่ากลายเป็นไอเทมระดับตำนาน ?

ซึ่งเมื่อรู้ถึงเรื่องนี้นั้น ซือเฟิงก็รีบฆ่าโทรเบิ้ลไทม์และกลับมาที่เมืองป่าหินทันที

นี่น่าจะปลอดภัยเพียงพอแล้ว หวังว่าการหลอมรวมกันจะไม่ก่อให้เกิดความปั่นป่วนมากเกินไป

หลังจากนั้นซือเฟิงก็ได้นำ Abyssal Blade และ Cruel Darkness ออกมาวางคู่กัน ก่อนที่เขาจะได้ยินเสียงการแจ้งเตือนของระบบดังขึ้นมา

ระบบ : Abyssal Blade ได้ค้นพบชิ้นส่วนที่มาจากต้นกำเนิดเดียวกัน คุณต้องการหลอมรวมชิ้นส่วนนี้เข้ากับ Abyssal Blade ไหม ?

“หลอมรวม !!”

Reincarnation Of The Strongest Sword God

Reincarnation Of The Strongest Sword God

เริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง เขาได้เข้ามาสู่ “เกมแห่งมีชีวิต” นี้อีกครั้งเพื่อที่จะควบคุมโชคชะตาของตัวเอง ครั้งนี้ , เขาจะไม่ถูกควบคุมจากคนอื่น ก่อนหน้านี้ราชาแห่งดาบเลเวล 200 , เขาได้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในชีวิต วิธีการที่จะได้รับเงิน! กลยุทธ์แห่งชัยชนะในดันเจี้ยน! เควสในตำนาน! สถานที่ดรอปอุปกรณ์! ทักษะที่ยังไม่ถูกค้นพบ! แม้แต่ความลับที่พวกผู้ทดสอบเบต้าไม่รู้ , เขารู้มันทั้งหมด สงครามอันยิ่งใหญ่ , ความก้าวหน้าในชีวิต , เข้าสู่ความเป็นพระเจ้า , บรรลุถึงจุดสูงสุดแห่งดาบ ตำนานของชายผู้ที่จะกลายเป็นเทพแห่งดาบได้เริ่มขึ้นแล้ว Starting over once more, he has entered this “living game” again in order to control his own fate. This time, he will not be controlled by others. Previously the Level 200 Sword King, he will rise to a higher peak in this life. Methods to earn money! Dungeon conquering strategies! Legendary Quests! Equipment drop locations! Undiscovered battle techniques! Even the secrets Beta Testers were unknowledgeable of, he knows of them all. Massive wars, life advancement, entering Godhood, sword reaching to the peak; a legend of a man becoming a Sword God has begun.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset