Reincarnation Of The Strongest Sword God – ตอนที่ 2612

ตอนที่ 2612 คุณสมบัติในการจะเจรจาต่อรอง

การปฎิเสธอย่างรุนแรงของทอร์เร้นนั้นทำให้ทุกคนรู้สึกตัวสั่น และแม้แต่พวกหน้าใหม่ที่ฝึกในห้องโถงเองก็ยังรับรู้ได้ถึงแรงกดดันอันรุนแรงจากคำพูดของทอร์เร้น ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตการปรับแต่งบางคนนั้นแทบจะขยับตัวไม่ได้ด้วยซ้ำ เมื่อเผชิญหน้ากับแรงกดดันแบบนี้ ….

ความกลัวโดยสัญชาตญาณเกิดขึ้นภายในจิตใจของแอสซาซินขั้นสามที่มารายงานถึงการมาถึงของสภาสิบแปดปีก ถ้าเขาไม่แน่ใจว่าเขาไม่ใช่เป้าหมายของทอร์เร้น เขาคงจะเลือกที่จะหันหลังกลับและหนีไปแล้ว

นี่ผู้ฝึกสอนทอร์เร้นตั้งความหวังไว้สูงมากเลยงั้นหรอกับกลุ่มของโซริทารี่ฟรอสต์ ? คริมสันสตาร์รู้สึกประหลาดใจ เมื่อเห็นใบหน้าที่ดูเย็นชาของทอร์เร้นตอนนี้

ทอร์เร้นนั้นหยุดสอนและหยุดรับศิษย์ไปเมื่อราวสิบปีก่อน เธอและผู้บัญชาการคนปัจจุบันของกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดของไวโอเล็ตซอร์ดนั้นเคยเป็นส่วนหนึ่งของศิษย์กลุ่มสุดท้ายของเขา โดยผู้บัญชาการนั้นเป็นลูกศิษย์คนโปรดของทอร์เร้นเลย ทอร์เร้นกระทั่งพยายามออกหน้าอย่างเต็มที่เพื่อขอให้เฟรมแบร์เร่อช่วยฝึกให้ผู้บัญชาการ

ดังนั้นพวกระดับสูงของไวโอเล็ตซอร์ดจึงตกตะลึงกันมากๆ เมื่อทอร์เร้นได้ตกลงที่จะฝึกให้กับกลุ่มของโซริทารี่ฟรอสต์

ตอนแรกคริมสันสตาร์คาดเดาว่าทอร์เร้นได้ตกลงในเรื่องนี้เพื่อแสดงความเคารพต่อบริษัทซีอุส แต่เมื่อเห็นปฎิกิริยาของเขาตอนนี้แล้ว คริมสันสตาร์ก็คิดว่าทอร์เร้นน่าจะอยากช่วยให้กลุ่มโซริทารี่ฟรอสต์แข็งแกร่งขึ้นจริงๆ เพราะถ้าเขาไม่ได้ลงทุนและหวังเอาไว้มาก เขาก็คงไม่โกรธกับความพ่ายแพ้มากขนาดนี้

“ฉันกลัวว่าการไล่พวกเขากลับไปจะเป็นอะไรที่ไม่ฉลาดนะผู้ฝึกสอนทอร์เร้น สภาสิบแปดปีกอาจไม่ได้มีอำนาจมากในทวีปด้านตะวันตก แต่พวกเขาก็สามารถจะแข่งขันกับมหาอำนาจมากมายในทวีปด้านตะวันออกได้ แถมกิลยังควบคุมประตูเทเลพอร์ตที่เชื่อมต่อกับโลกแห่งความมืดเอาไว้ด้วย เนื่องจากหัวหน้ากิลสภาสิบแปดปีกมาเยี่ยมเยียนเราเป็นการส่วนตัวแบบนี้ คนอื่นๆจะวิจารณ์กิลเราได้ ถ้าเราไล่เขา …” ไวน์ไฟเตอร์พยายามเกลี้ยกล่อมทอร์เร้น

ไวโอเล็ตซอร์ดนั้นเป็นซุเปอร์กิลที่มีประวัติยาวนาน และมีประสบการณ์โชกโชน ในขณะที่สภาสิบแปดปีกนั้นไม่ได้มีฐานปฎิบัติการหลักอยู่ในทวีปด้านตะวันตก แต่อย่างไรก็ตามเครื่องข่ายข้อมูลของไวโอเล็ตซอร์ดก็ได้ทำการตรวจสอบกิลเล็กๆกิลนี้มาแล้ว และแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ค้นคว้าข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสภาสิบแปดปีก แต่พวกเขาก็ไม่สามารถจะหลีกหนีชื่อ “สภาสิบแปดปีก” ได้ เพราะกิลๆนี้มีชื่อเสียงอย่างมากในทวีปด้านตะวันออก และท้ายที่สุดมันก็มีมหาอำนาจมากมายที่พูดถึงกิลๆนี้

“หัวหน้ากิลสภาสิบแปดปีกมาคนเดียวหรอ ?” คริมสันสตาร์กล่าวถามแอสซาซินขั้นสาม

“ไม่ เขามาพร้อมกับกลุ่มคนจำนวนมากกว่าหนึ่งโหล ซึ่งนี่รวมถึงหลงหวู่ชางจากตระกูลหลงด้วย ….” แอสซาซินตอบ

“ตระกูลหลง ? แน่นอนเลยว่าพวกเขาไม่ยอมเสียเวลาเลยแม้แต่น้อย ..” ไวน์ไฟเตอร์อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว

หลังจากที่ได้รู้ว่าลูกสาวคนรองของตระกูลหลงชนะในการแข่งขันระหว่างตระกูลของหอการค้าอาซูประจำปีนี้ ไวน์ไฟเตอร์ก็รู้ดีว่าในตอนนี้การจะทำให้ตระกูลหลงเชื่อฟังนั้นก็เป็นไปได้ยากมากแล้ว เพราะตอนนี้สมาชิกรุ่นเยาว์ที่แข็งแกร่งที่สุดของหอการค้าอาซูได้มาจากตระกูลหลง และท้ายที่สุดแล้วไม่ว่าทุกคนจะพูดยังไง บริษัทซีอุสก็เป็นเพียงหนึ่งในผู้ถือหุ้นของหอการค้าเท่านั้น และพวกเขาก็ไม่ใช่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุด และเมื่อผู้ถือหุ้นที่เหลือได้เห็นศักยภาพของตระกูลหลงแล้ว พวกเขาก็จะให้การสนับสนุนตระกูลหลงแน่นอน ซึ่งนี่มันจะทำให้การคุกคามกับเข้าครอบงำตระกูลหลงในหอการค้าอาซูนั้นเป็นเรื่องยากอย่างไม่น่าเชื่อ

ด้วยเหตุนี้ตอนนี้ตระกูลหลงจึงมีคุณสมบัติมากพอจะเจรจากับไวโอเล็ตซอร์ด และมันก็เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นก่อนที่ตระกูลจะส่งตัวแทนมา

อย่างไรก็ตามไวน์ไฟเตอร์ก็ไม่คาดคิดเลยว่าตระกูลหลงจะดำเนินการทันทีที่การแข่งขันระหว่างตระกูลของหอการค้าอาซูจบลง

“ดูเหมือนว่าตระกูลหลงจะเจอกับความมั่นใจแล้วสินะ ไม่งั้นพวกเขาคงไม่ปรากฎตัวออกมาเร็วขนาดนี้ …” คริมสันสตาร์กล่าว

“มันอาจเป็นเพราะสภาสิบแปดปีก กิลนั้นเป็นพันธมิตรกับจักรวรรดิโลกใต้พิภพ นอกจากนี้สภาสิบแปดปีกก็ยังรับผิดชอบในเรื่องการที่ทำให้ไซเร้นวอร์นเดอร์ชนะการแข่งขัน เห็นได้ชัดว่าสภาสิบแปดปีกมีความสามารถสูงมากในการเลี้ยงดูผู้เล่นที่มีความสามารถ และตอนนี้มันก็น่าจะทำให้ตระกูลหลงคิดว่าตัวเองจะทำทุกอย่างในด้านนี้ได้โดยปราศจากความช่วยเหลือจากไวโอเล็ตซอร์ดและบริษัทซีอุส” ไวน์ไฟเตอร์คาดเดา

สิ่งที่สำคัญที่สุดด้านการพัฒนาของกิลก็คือผู้เชี่ยวชาญที่มีความสามารถและทรัพยากรที่มากเพียงพอ แม้ว่าหอการค้าอาซูจะไม่ได้ขาดแคลนผู้เชี่ยวชาญ แต่พวกเขาก็ไม่ได้มีทรัพยากรมากเท่ากับซุเปอร์กิลที่มีประวัติยาวนานอย่างไวโอเล็ตซอร์ด และหากหอการค้าอาซูต้องการจะพัฒนาต่อไป พวกเขาก็จะต้องเป็นพันธมิตรกับซุเปอร์กิล โดยนี่คือสิ่งที่ตระกูลผู้ถือของหอการค้าอาซู และเหล่าผู้อาวุโสสูงสุดล้วนผลักดันอย่างหนัก

อย่างไรก็ตามหากหอการค้าอาซูไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องการดูแลสมาชิกที่มีความสามารถอีกต่อไป ทั้งตระกูลหลง และสมาชิกหอการค้าที่เหลือก็จะไม่จำเป็นต้องเป็นพันธมิตรกับไวโอเล็ตซอร์ดเลย เพราะท้ายที่สุดไวโอเล็ตซอร์ดก็เรียกราคาที่สูงมากสำหรับการเป็นพันธมิตรอยู่แล้ว และความร่วมมือกับพันธมิตรนี้ก็จะเปลี่ยนหอการค้าอาซูให้เป็นเหมือนกับกึ่งกิลที่อยู่ใต้อาณัติของไวโอเล็ตซอร์ดเลย ซึ่งมันไม่มีผู้ถือหุ้นของหอการค้าอาซูรายใดต้องการสิ่งนี้ แต่พวกเขาก็เห็นด้วยเนื่องจากบริษัทซีอุสได้ทำการกดดันพวกเขาอย่างหนักจนพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น

“นี่มันน่าสนใจจริงๆ พาพวกเขาไปที่ห้องรับรองและให้พวกเขารอสักครู่ ….” ทอร์เร้นตัดสินใจ “ฉันอยากจะรู้นักว่าสภาสิบแปดปีกมีความสามารถอะไรถึงทำให้หลงหวู่
ชางมั่นใจได้มากขนาดนี้ !!!”

“เข้าใจแล้ว !!”

แอสซาซินขั้นสามถอนหายใจด้วยความโล่งอก เมื่อเห็นว่าทอร์เร้นสงบลง จากนั้นเขาก็วิ่งกลับไปที่ทางเข้าของสถานที่พักกิล

ในขณะเดียวกันฝูงชนก็ได้ก่อตัวขึ้นที่ด้านนอกสถานที่พักกิลของไวโอเล็ตซอร์ด โดยพวกเขามีการพูดคุยกันอย่างเผ็ดร้อนเกี่ยวกับสมาชิกสภาสิบแปดปีก

เนื่องจากกลุ่มผู้เล่นนี้สะดุดตามากเกินไป
อะเม้าท์ขนาดมหึมาสองตัวนั้นยืนอยู่ด้านหลังของสมาชิกสภาสิบแปดปีก โดยตัวหนึ่งเป็นอินทรีที่มีกระแสไฟฟ้าล้อมรอบร่างกาย ขณะที่อีกตัวหนึ่งเป็นมังกรโครงกระดูกที่แผ่ออร่าอันเย็นยะเยือกออกมา โดยอะเม้าท์ทั้งสองนั้นมีออร่าเทียบเท่ากับแกรนลอร์ดในเลเวลเดียวกัน และเมื่อพวกมันมายืนเคียงข้างกัน พวกมันก็เป็นตัวตนที่ไม่อาจจะเพิกเฉยได้เลย

“อึก !!! คนเหล่านี้เป็นใครกัน ?!! พวกเขามีกระทั่งอะเม้าท์บินได้สองตัวที่สามารถเทียบกับอินทรีไฟเนเธอร์ของไวโอเล็ตซอร์ดได้เลย !!!”

“กิลนี้น่าทึ่งจริงๆ ไวโอเล็ตซอร์ดมีอะเม้าท์บินได้ที่พิเศษแบบนี้แค่สองตัวเท่านั้น แต่กิลๆนี้กับมีสองตัวด้วยเช่นกัน !!!”

ในระยะนี้ของเกม อะเม้าท์บินได้ยังจัดว่าเป็นสิ่งไม่สามารถเอื้อมถึงได้เลยสำหรับผู้เล่นส่วนใหญ่ใน God domain และแม้แต่กิลขนาดใหญ่ต่างๆก็มีอะเม้าท์บินได้แค่ไม่กี่ตัวเท่านั้น แถมโดยส่วนใหญ่ยังเป็นแค่ระดับทั่วไปด้วย แต่ถึงกระนั้นนี่มันนก็เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาแสดงความแข็งแกร่งได้

ในขณะเดียวกันเหล่าซุเปอร์กิลนั้นก็จะเต็มไปด้วยความบ้าคลั่งมากๆ เมื่อได้รับอะเม้าท์บินได้ที่แข็งแกร่งเท่ากับแกรนลอร์ดในเลเวลเดียวกันมา เพราะท้ายที่สุดแล้ว แม้แต่ผู้เล่นขั้นสามทั่วไปก็ยังต้องหนีจากแกรนลอร์ดที่เลเวลนี้ และมันก็มีเพียงแต่ทีมผู้เชี่ยวชาญขั้นสามเท่านั้นที่จะฆ่าแกรนลอร์ดที่เลเวลนี้ได้

อย่างไรก็ตามหากมีอะเม้าท์บินได้ที่ระดับนี้ ไม่เพียงแต่กิลจะสามารถล่าพวกแกรนลอร์ดได้อย่างง่ายดาย แต่พวกเขาก็ยังจะสามารถขยายขอบเขตการปฎิบัติการของตัวเองออกไปได้มากขึ้นเพื่อที่จะค้นหาและรับเอาทรัพยากรมามากขึ้นได้

ในขณะที่ผู้คนกำลังเดินผ่านไปผ่านมา และล้วนพูดคุยกันถึงอะเม้าท์บินได้สองตัวของสภาสิบแปดปีกอย่างเงียบๆ หลงหวู่ชางซึ่งรออยู่ที่ทางเข้าสถานที่พักกิลของไวโอเล็ตซอร์ดก็เริ่มเต็มไปด้วยความกระวนกระวายใจ เขาไม่คิดเลยว่าซือเฟิงจะทำตามคำพูดของเขาจริงๆและเดินทางมาเยี่ยมเยียนไวโอเล็ตซอร์ดทันทีที่การแข่งขันระหว่างตระกูลของหอการค้าอาซูสิ้นสุดลง นักดาบไม่ได้ให้เวลาไวโอเล็ตซอร์ดในการสงบสติอารมณ์ด้วยซ้ำหลังจากทำให้ซุเปอร์กิลต้องรับรู้ถึงรสชาติของความพ่ายแพ้

ผลของการแข่งขันนี้นั้นมันสามารถบอกได้เลยว่าเป็นการทำลายแผนการของบริษัทซีอุส และไวโอเล็ตซอร์ด ในการที่จะเข้าควบคุมหอการค้าอาซู ซึ่งนี่มันจะทำให้พวกเขาโกรธมากแน่นอน และพวกเขาก็จะต้องโทษสภาสิบแปดปีกที่มีบทบาทสำคัญในการทำลายแผนการของพวกเขา

แม้ว่าตระกูลหลงและสภาสิบแปดปีกจะมีคุณสมบัติมากพอที่จะเจรจากับบริษัทซีอุส และไวโอเล็ตซอร์ดได้แล้ว แต่พวกเขาก็ไม่ควรผลักดันให้มีการเจรจาเกิดขึ้นเลย ในขณะที่อีกฝ่ายยังคงมีอารมณ์อยู่แบบนี้ เพราะไม่เพียงแต่การเจรจาอาจจะล้มเหลว แต่เผลอๆมันยังอาจทำให้สถานการณ์แย่ลงด้วย

“วอร์นเดอร์ เธอช่วยเกลี้ยกล่อมหัวหน้ากิลของเธอหน่อยได้ไหม ? ฉันรู้ว่าเขาต้องการจะเจรจากับไวโอเล็ตซอร์ด แต่เขาก็ไม่ควรจะรีบทำในสถานการณ์ล่อแหลมแบบนี้ …” หลงหวู่ชางกระซิบกับไซเร้นวอร์นเดอร์ “หากทำการเจรจาตอนนี้ ไม่เพียงแต่การเจรจามีสิทจะล้มเหลวสูงมาก แต่ไวโอเล็ตซอร์ดก็จะเกลียดเราด้วย ซึ่งมันจะทำให้เราเสียผลประโยชน์ในหอการค้าอาซูได้”

เหล่าผู้อาวุโส และผู้อาวุโสสูงสุดของหอการค้าอาซูนั้นไม่ได้สนใจเป็นพิเศษว่าหอการค้าอาซูจะต้องร่วมมือหรือเป็นพันธมิตรกับไวโอเล็ตซอร์ดไหม แต่การกลายเป็นศัตรูมันก็คนละเรื่องกัน หากเป็นเช่นนั้นทุกอย่างมันจะจบลงแน่นอนสำหรับตระกูลหลง เพราะพื้นที่ทรัพยากรหลักของหอการค้าอาซูนั้นมีอยู่มากเกินไปในดินแดนของไวโอเล็ตซอร์ด และนี่ยังไม่นับรวมพื้นที่อื่นๆอีก หากซุเปอร์กิลตัดสินใจที่จะไม่สนใจหอการค้าอาซู และทำสงครามเพื่อแย่งชิงพื้นที่เหล่านี้ หอการค้าก็จะเดือดร้อนมากแน่นอน

“ฉันจะพยายามให้ดีที่สุด” ไซเร้นวอร์นเดอร์กล่าว เธอเห็นด้วยกับความคิดของหลงหวู่ชาง

สภาสิบแปดปีกแทบจะไม่มีอำนาจใดๆอยู่ในทวีปด้านตะวันตก ในขณะที่ไวโอเล็ตซอร์ดนั้นสามารถที่จะโจมตีหอการค้าอาซูได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้สภาสิบแปดปีกก็ไม่สามารถจะหลีกเลี่ยงไวโอเล็ตซอร์ดได้ หากต้องการจะขยายอิทธิพลเข้ามายังทวีปด้านตะวันตก ดังนั้นเธอจึงไม่ต้องการจะเห็นกิลเผชิญหน้ากับความโกรธเกรี้ยวของไวโอเล็ตซอร์ดเพราะเรื่องของเธอ

อย่างไรก็ตามในขณะที่ไซเร้นวอร์นเดอร์กำลังจะเดินเข้าไปใกล้ซือเฟิง แอสซาซินขั้นสามก็โผล่ออกมาจากสถานที่พักกิลของไวโอเล็ตซอร์ด และเดินเข้าไปหาซือเฟิง “ขอโทษที่ให้รอนานหัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม โปรดตามฉันมา”

“ได้เลย …” ซือเฟิงตอบพร้อมกับทิ้งอินทรีสายฟ้าไว้ด้านหลังของเขา จากนั้นเขาก็เดินตามแอสซาซินเข้าไปในสถานที่พักกิลทำให้ไซเร้นวอร์นเดอร์ไม่มีโอกาสจะเข้าไปแทรกแซงเลย

เมื่อเข้าสู่สถานที่พักกิลของซุเปอร์กิล ทั้งหลงหวู่ชาง และไซเร้นวอร์นเดอร์ต่างก็เต็มไปด้วยความตกตะลึง

ไม่เพียงแต่สมาชิกของไวโอเล็ตซอร์ดในสถานที่พักกิลของพวกเขาจะมีเลเวลสูงมาก แต่มันกับมีอีกจำนวนหนึ่งที่เป็นผู้เชี่ยวชาญขั้นสามด้วย แถมหลังจากกวาดตามองคร่าวๆ พวกเขาก็พบผู้เชี่ยวชาญขอบเขตการปรับแต่งมากกว่าหนึ่งร้อยคนเลยทีเดียว

เมื่อพวกเขามาถึงปราสาทที่ทำหน้าที่เป็นแกนกลางของสถานที่พักกิล พวกเขาก็ยิ่งตกตะลึง เมื่อได้เห็นมานาที่หนาแน่นมากซะจนมันกลั่นตัวเป็นหมอกสีขาว และปราสาททั้งหลังก็ให้ความรู้สึกโบราณมากๆ

สมาชิกของซุเปอร์กิลทุกคนที่เข้าและออกจากปราสาทได้แผ่ออร่าอันทรงพลังอย่างน่าอัศจรรย์ออกมา และมันก็มีคนจำนวนหนึ่งด้วยที่แข็งแกร่งกว่าอัจฉริยะรุ่นเยาว์ของหอการค้าอาซู

“ที่นี่คือไวโอเล็ตซอร์ดงั้นหรอ ?…”

ไซเร้นวอร์นเดอร์นั้นประหลาดใจมาก เมื่อเธอได้เห็นรุ่นเยาว์ที่อายุน้อยกว่าเธอมากที่เป็นผู้เชี่ยวชาญขั้นสามเดินเข้าไปในปราสาท และแม้แต่กลุ่มผู้เล่นแบบสุ่มก็ยังมีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตการปรับแต่งกับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตรวดเร็วดั่งสายน้ำมากมาย นอกจากนี้นี่เป็นเพียงหนึ่งในสถานที่พักกิลหลายแห่งของไวโอเล็ตซอร์ด และไวโอเล็ตซอร์ดยังมีสนามฝึกอีกมากมายหลายแห่งด้วย หากกิลระดมพลรุ่นเยาว์ทั้งหมดมารวมกัน มันก็คงจะเกิดภาพที่น่ากลัวมากแน่นอน

“โปรด เข้ามา !!” แอสซาซินขั้นสามกล่าว ขณะที่ผายมือแสดงท่าทางให้พวกเขาเดินไปยังกิลฮอล และเมื่อเขาสังเกตเห็นความประหลาดใจของหลงหวู่ชางกับไซเร้นวอร์นเดอร์ เขาก็รู้สึกยินดีและภาคภูมิใจมากๆ
โดยรวมแล้วไวโอเล็ตซอร์ดอาจจะไม่ได้ทรงพลังมากเท่ากับห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุด แต่ในเรื่องการดูแลผู้เชี่ยวชาญที่มีความสามารถนั้น กิลก็ไม่ได้เป็นรองซุเปอร์กิลใดๆ แถมจริงๆแล้วต้องบอกว่ากิลยังจัดอยู่ในระดับต้นๆด้วย

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง แอสซาซินขั้นสามก็นำซือเฟิงและพรรคพวกของเขาเข้าไปในห้องรับรองชั้นบนสุดของกิลฮอล

โดยมันมีผู้เล่นสามคนคือ ทอร์เร้น ไวน์ไฟเตอร์ และคริมสันสตาร์นั่งรออยู่ในห้องก่อนแล้ว อย่างไรก็ตามมันก็ไม่มีใครใส่ใจจะปกปิดออร่าของพวกเขา เห็นได้ชัดว่าพวกเขาจงใจจะขู่ตัวแทนของสภาสิบแปดปีก

แน่นอนเลย … หลงหวู่ชางนั้นอดไม่ได้ที่จะส่ายหัวเมื่อเห็นทั้งสามคน เขารู้ดีว่าการเจรจาจะไม่จบลงด้วยดีแน่นอน เพราะท้ายที่สุดแล้วมันสามารถบอกได้จากออร่าของทั้งสามอย่างชัดเจน และแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดก็ยังจะต้องตัวสั่น เมื่อเผชิญหน้ากับออร่าของทั้งสามรวมกัน ไม่ต้องพูดถึงผู้เล่นที่อ่อนแอกว่านั้นเลย

ในความเห็นของหลงหวู่ชาง นอกเหนือจากซือเฟิง ไวโอเล็ทคลาวด์ และไซเร้นวอร์นเดอร์แล้ว ทีมที่เหลือของพวกเขาไม่น่าจะทนต่อออร่านี้ได้

ในขณะเดียวกัน เมื่อเห็นดังนี้นั้นแอสซาซินขั้นสามก็อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยสภาสิบแปดปีก เขาเองก็อยากให้สภาสิบแปดปีกรู้ว่าไวโอเล็ตซอร์ดนั้นไม่ใช่ซุเปอร์กิลทั่วไปที่สภาสิบแปดปีกจะสามารถมายั่วยุแบบนี้ได้ถึงที่ หลังจากการแข่งขันพึ่งจะจบลง

“ห้องนี้มันอบอ้าวจริงๆ อควา แล้วก็ทุกคนทำไมไม่ถอดเสื้อคลุมของตัวเองล่ะ ? มันจะเย็นกว่านะด้วยวิธีนี้ …” ซือเฟิงแนะนำอย่างสบายๆ ขณะที่จ้องมองไปยังทอร์เร้น และอีกสองคน

Reincarnation Of The Strongest Sword God

Reincarnation Of The Strongest Sword God

เริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง เขาได้เข้ามาสู่ “เกมแห่งมีชีวิต” นี้อีกครั้งเพื่อที่จะควบคุมโชคชะตาของตัวเอง ครั้งนี้ , เขาจะไม่ถูกควบคุมจากคนอื่น ก่อนหน้านี้ราชาแห่งดาบเลเวล 200 , เขาได้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในชีวิต วิธีการที่จะได้รับเงิน! กลยุทธ์แห่งชัยชนะในดันเจี้ยน! เควสในตำนาน! สถานที่ดรอปอุปกรณ์! ทักษะที่ยังไม่ถูกค้นพบ! แม้แต่ความลับที่พวกผู้ทดสอบเบต้าไม่รู้ , เขารู้มันทั้งหมด สงครามอันยิ่งใหญ่ , ความก้าวหน้าในชีวิต , เข้าสู่ความเป็นพระเจ้า , บรรลุถึงจุดสูงสุดแห่งดาบ ตำนานของชายผู้ที่จะกลายเป็นเทพแห่งดาบได้เริ่มขึ้นแล้ว Starting over once more, he has entered this “living game” again in order to control his own fate. This time, he will not be controlled by others. Previously the Level 200 Sword King, he will rise to a higher peak in this life. Methods to earn money! Dungeon conquering strategies! Legendary Quests! Equipment drop locations! Undiscovered battle techniques! Even the secrets Beta Testers were unknowledgeable of, he knows of them all. Massive wars, life advancement, entering Godhood, sword reaching to the peak; a legend of a man becoming a Sword God has begun.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset