Reincarnation Of The Strongest Sword God – ตอนที่ 2657

ตอนที่ 2657 ปะทะกับ Faux Saint Devourer

“มันถูกป้องกันได้ ?”

“เป็นไปได้ยังไง ? นั่นคือเทคนิคการต่อสู้ขั้นสูงที่มอนสเตอร์ระดับเทพนิยายใช้เลยนะ !!!”

สมาชิกของจักรพรรดิคริมสันที่นั่งอยู่บนชั้นสามของบาร์บลูโรส อดไม่ได้ที่จะขี้ตาด้วยความตกใจ เมื่อเห็นกำแพงสีดำสนิทปรากฎขึ้นให้เห็นในกระจกเวทย์มนต์ ครู่หนึ่งพวกเขาทั้งหมดคิดว่าตัวเองเห็นภาพหลอน

ในแง่ของค่าสถานะพื้นฐาน Faux Saint Devourer นั้นมีสูงกว่าค่าเฉลี่ยมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายทั่วไปในเลเวลเดียวกันมาก และเมื่อรวมเข้ากับเทคนิคการต่อสู้ที่เป็นเครื่องหมายการค้าของฮันเดรดอาร์มอย่างฟอลเลนลีฟ พลังการโจมตีของ Faux Saint Devourer น่าจะมากพอที่จะทำให้ มอนสเตอร์ระดับเทพนิยายปลิวกระเด็นไปได้เลยด้วยซ้ำ

อย่างไรก็ตามเมื่อกำแพงสีดำสนิทนี้ปรากฎขึ้น การโจมตีที่ว่านี้มันก็ไร้ผลไปทันที

ผู้เล่นที่ยืนอยู่ในสนามรบต่างตกตะลึงกับฉากนี้

“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน ?”

“กำแพงสีดำสนิทนี่คือเวทย์ป้องกันใช่ไหม ? มันจะไม่น่าทึ่งเกินไปหน่อยงั้นหรอ ? …”

ทุกคนนั้นตกตะลึงและสับสนมากๆ เมื่อเห็นกำแพงสีดำสนิทปรากฎขึ้นในสนามรบอย่างกระทันหัน

ไม่เพียงแต่กำแพงสีดำสนิทนี้จะช่วยป้องกันการโจมตีของ Faux Saint Devourer ได้ แต่มันยังแบ่งสนามรบทั้งหมดออกเป็นครึ่งหนึ่ง และทำให้กองทัพมอนสเตอร์ส่วนใหญ่ต้องหยุดการโจมตี ตอนนี้มอนสเตอร์ Faux Saint ทำได้เพียงแค่ยืนนิ่งและมองไปยังกำแพงสีดำสนิทเบื้องหน้าพวกเขา

“นี่มันคือรอยแยก … เชิงพื้นที่ !!!” อิลูซะรี่เวิร์ดอุทานออกมา เมื่อเอเห็นกำแพงสีดำสนิทจางหายไปจากการดำรงอยู่

“รอยแยกเชิงพื้นที่ ? เป็นไปได้ยังไงกัน ? แม้แต่การโจมตีที่ทรงพลังที่สุดที่ฉันเคยเห็นก็ยังทำให้เกิดรอยแยกเชิงพื้นที่ยืดออกไปแค่หลายสิบหลาเท่านั้น แต่กำแพงนี้มันมีความยาวกว่าหนึ่งร้อยหลา และสูงกว่าห้าสิบเมตร ใครจะมีความแข็งแกร่งแบบนี้กัน ?” ชายที่มีท่าทางดุร้ายกล่าวปฎิเสธเรื่องนี้โดยสัญชาตญาณ เขารู้สึกว่าการคาดเดาของอิลูซะรี่เวิร์ดนั้นไร้สาระ

ทุกคนในชั้นสามของบาร์นี้นั้นคุ้นเคยกับรอยแยกเชิงพื้นที่ดี เพราะท้ายที่สุดพวกเขามักจะต้องเจอกับรอยแยกเชิงพื้นที่เมื่อปะทะกับมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายขั้นสี่

รอยแยกเชิงพื้นที่นั้นเป็นผลพลอยได้จากการโจมตีที่มีพลังมากเกินไปเกินกว่าพื้นที่โดยรอบจะทานทนได้ ดังนั้นมันจึงทำให้เกิดรอยแยกเชิงพื้นที่ขึ้นนั่นเอง และรอยแยกเชิงพื้นที่นั้นก็จะไม่มีความเสถียรเลย ….

อย่างไรก็ตามกำแพงสีดำสนิทที่ปรากฎขึ้นนี้มันมีความเสถียรมากๆ จนมันดูเหมือนกับกำแพงเหล็กที่ตกลงมาจากท้องฟ้าเพื่อช่วยป้องกันการโจมตีของ Faux Saint Devourer

“ฉันเดาว่าคุณพูดถูกนะ แม้แต่คนๆนั้นก็ไม่น่าจะสามารถทำแบบนี้ได้ …” อิลูซะรี่เวิร์ดพูดพลางหัวเราะให้กับตัวเอง และหลังจากครุ่นคิดเพิ่มอีกชั่วครู่ เธอก็เห็นด้วยกับชายที่มีท่าทางดุร้าย

“ว่าแต่ใครเป็นผู้ที่ช่วยเพอเพิ้ลอายกัน ?” ชายที่มีท่าทางดุร้ายกล่าวพลางมองไปยังฉากในกระจกเวทย์มนต์อย่างจริงจัง “การที่สามารถทำได้ขนาดนี้ และป้องกันการโจมตีของ Faux Saint Devourer ได้ด้วยนั้นมันช่างน่าทึ่งจริงๆ ฉันคิดว่ามันคงมีเพียงไม่กี่คนหรอกในเมืองปีกสีเงินหรอกที่ทำได้ นี่สัตว์ประหลาดเก่าแก่ที่เป็นหนึ่งในพันธมิตรของสภาสิบแปดปีกเริ่มเคลื่อนไหวรึยังไงกัน ?”

ชายที่มีท่าทางดุร้ายพยายามมองหาต้นกำเนิดของกำแพงสีดำสนิทนี้ และเขาก็ได้พบกับชายที่สวมเสื้อคลุมสีดำ และถือดาสีดำสนิทอยู่ และแม้ว่าเขาจะมองไม่เห็นข้อมูลใดๆของชายคนนี้ แต่สัญชาตญาณของเขาก็บอกเขาอย่างชัดเจนเลยว่าชายคนนี้นั้นมีความแข็งแกร่งอย่างน่าอัศจรรย์และอยู่ในขอบเขตโดเมน

ก่อนที่กำแพงสีดำสนิทจะหายไปอย่างสมบูรณ์ ชายที่สวมเสื้อคลุมสีดำก็ได้หายไปจากตำแหน่งเดิมของเขา และมาปรากฎตัวขึ้นตรงหน้าของ Faux Saint Devourer และหยุดการโจมตีจากหอกของ Faux Saint Devourer ได้อีกครั้ง ซึ่งนี่มันทำให้เพอเพิ้ลอายนั้นมีเวลามากพอจะเว้นระยะห่างออกจาก Faux Saint Devourer

“อึก !!! ผู้ชายคนนี้เป็นใครกัน ?!! เขากระทั่งสามารถป้องกันการโจมตีของ Faux Saint Devourer เอาไว้ได้ด้วย !!!” เครซบลูอุทานออกมาด้วยดวงตาที่แทบจะถลนออกจากเบ้า เมื่อเห็นซือเฟิงช่วยชีวิตเพอเพิ้ลอายได้สำเร็จ

ในขณะนี้นอกเหนือจากเครซบลูแล้ว แม้แต่โซลิดวินด์ก็ไม่สามารถจะซ่อนความตกตะลึงภายในจิตใจของเธอได้เช่นกัน ก่อนหน้านี้การที่เธอได้เห็นซือเฟิงสามารถตรึง Faux Saint Destroyers สองตัวไว้ได้ด้วยตัวเองมันก็ทำให้เธอตกตะลึงมากแล้ว แต่ตอนนี้ชายคนนี้กับสามารถตรึง Faux Saint Devourer ไว้ได้อีก ความสามารถของเพอเพิ้ลอายนั้นเทียบกับชายคนนี้ไม่ได้เลย

“มหัศจรรย์มาก !!! เขาสามารถจะตามความเร็วของ Faux Saint Devourer ได้ทันจริงๆ !!! ด้วยเรื่องนี้เขาไม่น่าจะมีปัญหาในการจัดการกับ Faux Saint Devourer !!!” อิลูซะรี่เวิร์ดกล่าวด้วยดวงตาที่เปล่งประกายไปด้วยความตื่นเต้น เมื่อเธอเห็นชายที่สวมเสื้อคลุมสีดำสามารถป้องกันการโจมตีของ Faux Saint Devourer ได้ “ถ้าเมืองปีกสีเงินได้รับการคุ้มครองจากผู้เชี่ยวชาญระดับนี้ เราก็น่าจะสามารถรักษาเมืองปีกสีเงินไว้ได้ระยะหนึ่ง และหยุดแผนของมือแห่งนักบุญ เพื่อขอความช่วยเหลือจากประเทศข้างเคียงได้ ด้วยวิธีนี้ความเร็วในการพัฒนาของมือแห่งนักบุญก็จะช้าลง และสภาสิบแปดปีกก็จะมีพื้นที่ให้หายใจ และหากสภาสิบแปดปีกสามารถยึดครองอาณาจักรสตาร์มูนต่อไปได้ เราก็จะมีช่วงเวลาที่ง่ายขึ้นในการต่อต้านสตาร์ลิ้งในจักรวรรดิรัตติกาล”

“สิ่งนี้มันก็แค่ช่วยชะลอทุกอย่างออกไปเท่านั้นแหละ สุดท้าย Faux Saint Devourer ก็จะแข็งแกร่งขึ้นไปกว่านี้เรื่อยๆอยู่ดีเมื่อเวลาผ่านไป และความเร็วในการเติบโตของมันนั้นก็ไม่ใช่เรื่องตลกเลย นี่ยังไม่ต้องพูดถึงเลยเรื่องที่ว่ามือแห่งนักบุญได้แจ้งให้มหาอำนาจต่างๆทราบแล้วว่า ใครก็ตามที่ช่วยเหลือสภาสิบแปดปีกจะถือว่าเป็นศัตรูของมือแห่งนักบุญ” ชายที่มีท่าทางดุร้ายกล่าวพลางส่ายหัว “มือแห่งนักบุญนั้นได้ทำการวิจัยจนได้รับข้อมูลมาอย่างมหาศาลเกี่ยวกับพวกมอนสเตอร์ Faux Saint และในอนาคต เราก็จะต้องการความช่วยเหลือจากมือแห่งนักบุญแน่นอนเพื่อกำจัดภัยคุกคามของมอนสเตอร์ Faux Saint ซึ่งนี่ก็เป็นสาเหตุหลักที่หัวหน้ากิลออกคำสั่งให้เราถอนตัวโดยสมบูรณ์ทันที การปรากฎตัวของผู้เชี่ยวชาญคนนี้มันไม่ได้ช่วยเปลี่ยนแปลงอะไรเลย ในความเป็นจริงมือแห่งนักบุญอาจจะค้นหามหาอำนาจที่อยู่เบื้องหลังผู้เชี่ยวชาญคนนี้ และส่งคำเตือนให้เขาหยุดไปเลยก็ได้”

….

นอกเหนือจากสมาชิกของจักรพรรดิคริมสันแล้ว สมาชิกของมหาอำนาจอื่นๆเองก็ล้วนมองไปยังสถานการณ์นี้อย่างไม่แยแส และคิดแบบเดียวกัน

“สภาสิบแปดปีกนั้นโชคดีจริงๆ กิลยังคงได้รับความช่วยเหลือจากสัตว์ประหลาดเก่าแก่ แม้ว่าสถานการณ์จะเป็นแบบนี้”

“ฉันพนันได้เลยว่าสัตว์ประหลาดเก่าแก่คนนี้ยังไม่ได้อัพเดทข่าวสาร ไม่งั้นเขาคงไม่เข้าไปช่วยสภาสิบแปดปีกแบบนี้ …”

แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่าสัตว์ประหลาดเก่าแก่จากมหาอำนาจกลุ่มไหนที่เข้ามาช่วยสภาสิบแปดปีกในตอนนี้ แต่พวกเขาก็รู้ดีว่านี่จะเป็นครั้งเดียวที่สัตว์ประหลาดเก่าแก่คนนี้ได้กระทำการแบบนี้ หลังจากนี้มือแห่งนักบุญจะส่งคำเตือนไปยังมหาอำนาจที่สนับสนุนสัตว์ประหลาดเก่าแก่คนนี้แน่นอน และเมื่อสิ่งนั้นเกิดขึ้น มหาอำนาจกลุ่มนี้ก็จะหยุดให้ความช่วยเหลือสภาสิบแปดปีกอย่างแน่นอนเลยทีเดียว

ไม่เพียงแต่ในยุคปัจจุบันของ God domain มันจะเต็มไปด้วยความโกลาหล แต่มันยังเป็นยุคของมอนสเตอร์อย่าง Faux Saint ด้วย

มอนสเตอร์ Faux Saint นั้นสร้างความปวดหัวให้กับหลายคนมากๆ แม้กระทั่งกับซุเปอร์กิล และการหยุดการแพร่กระจายของมอนสเตอร์ Faux Saint เหล่านี้มันก็เป็นไปไม่ได้เลย

ในอนาคตกิลใดก็ตามที่ต้องการจะพัฒนาไปอย่างปลอดภัยใน God domain ไม่ว่าจะเป็นกิลขนาดเล็กไปจนถึงซุเปอร์กิล จะต้องเป็นพันธมิตรและมีการแลกเปลี่ยนกับมือแห่งนักบุญ เพราะท้ายที่สุดแล้วจนถึงตอนนี้มันก็ยังไม่มีมหาอำนาจกลุ่มใดสามารถพัฒนาเครื่องมือที่สามารถป้องกันมอนสเตอร์ Faux Saint ไม่ให้โจมตีผู้เล่นได้ ขณะที่มือแห่งนักบุญนั้นมีเครื่องมือแบบนี้แล้ว ….

ตอนนี้มือแห่งนักบุญได้มุ่งมั่นที่จะทำลายสภาสิบแปดปีกให้ได้แล้ว ดังนั้นแม้แต่ศาลาลับก็จะไม่สามารถหยุดยั้งเรื่องนี้ได้ เหตุการณ์มันจะเป็นเช่นเดียวกับที่ศาลาลับไม่สามารถหยุดยั้งไม่ให้มือแห่งนักบุญเข้ายึดเมืองกิลของพันธมิตรดวงดาวได้

ในขณะเดียวกัน เมื่อเวลาผ่านไปกำลังเสริมนั้นก็หลั่งไหลออกมาจากเมืองปีกสีเงินอย่างต่อเนื่อง และในที่สุดกองทัพลาดตระเวนก็กลับมาอยู่ในสถานะเหนือกว่ากองทัพมอนสเตอร์ Faux Saint ในความเป็นจริงตอนนี้ Faux Saint Saboteurs หลายพันตัวได้ตายลงแล้ว ซึ่งนี่มันทำให้ Faux Saint Devourer เริ่มกังวลเช่นกัน

ในช่วงเวลาต่อมา Faux Saint Devourer ก็เปล่งเสียงคำรามที่ดังกึกก้องไปทั่วสนามรบออกมา

หลังจากนั้นกองทัพมอนสเตอร์ Faux Saint ก็เริ่มกระจายตัวและหนีกันทันที สำหรับ Faux Saint Devourer นั้นมันก็หันไปรอบๆก่อนจะวิ่งหนีเช่นกัน

“แน่นอนเลยว่ามันกำลังจะหนี …”

“เมืองปีกสีเงินอาจรอดไปได้ในครั้งนี้ แต่มาดูกันว่าเมืองจะรอดไปได้ยังไงจากการโจมตีในครั้งหน้า …”

มหาอำนาจต่างๆที่ซ่อนตัวอยู่ในเมืองปีกสีเงินนั้นต่างไม่แปลกใจเลยที่ได้เห็นกองทัพมอนสเตอร์ Faux Saint ถอยกลับ เพราะท้ายที่สุดแล้วด้วยสถานการณ์ในตอนนี้ หากพวกมันไม่ถอย มันจะเป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นก่อนที่พวกมันจะถูกฆ่าทั้งหมด และแม้แต่ Faux Saint Devourer ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้มอนสเตอร์ Faux Saint น่ากลัวอย่างแท้จริงคือความสามารถในการเติบโตที่แข็งแกร่งขึ้นในแต่ละการต่อสู้ที่พวกมันเคยผ่านมา แม้ว่าเมืองปีกสีเงินจะป้องกันการโจมตีในวันนี้ไว้ได้ แต่มันก็ไม่ใช่ว่าครั้งหน้าเมืองจะทำแบบนี้อีกได้

“หนี ?” ซือเฟิงยิ้มเยาะ เมื่อเขาเห็น Faux Saint Devourer หนีไป “นี่คิดว่าจะสามารถหนีไปได้งั้นหรอ ?”

หลังจากนั้นซือเฟิงก็หยิบแหวนแห่งกอสเปลออกมาจากกระเป๋าของเขา และเปิดใช้งานโลกจิ๋วทันที

Reincarnation Of The Strongest Sword God

Reincarnation Of The Strongest Sword God

เริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง เขาได้เข้ามาสู่ “เกมแห่งมีชีวิต” นี้อีกครั้งเพื่อที่จะควบคุมโชคชะตาของตัวเอง ครั้งนี้ , เขาจะไม่ถูกควบคุมจากคนอื่น ก่อนหน้านี้ราชาแห่งดาบเลเวล 200 , เขาได้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในชีวิต วิธีการที่จะได้รับเงิน! กลยุทธ์แห่งชัยชนะในดันเจี้ยน! เควสในตำนาน! สถานที่ดรอปอุปกรณ์! ทักษะที่ยังไม่ถูกค้นพบ! แม้แต่ความลับที่พวกผู้ทดสอบเบต้าไม่รู้ , เขารู้มันทั้งหมด สงครามอันยิ่งใหญ่ , ความก้าวหน้าในชีวิต , เข้าสู่ความเป็นพระเจ้า , บรรลุถึงจุดสูงสุดแห่งดาบ ตำนานของชายผู้ที่จะกลายเป็นเทพแห่งดาบได้เริ่มขึ้นแล้ว Starting over once more, he has entered this “living game” again in order to control his own fate. This time, he will not be controlled by others. Previously the Level 200 Sword King, he will rise to a higher peak in this life. Methods to earn money! Dungeon conquering strategies! Legendary Quests! Equipment drop locations! Undiscovered battle techniques! Even the secrets Beta Testers were unknowledgeable of, he knows of them all. Massive wars, life advancement, entering Godhood, sword reaching to the peak; a legend of a man becoming a Sword God has begun.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset