Reincarnation Of The Strongest Sword God – ตอนที่ 2659

ตอนที่ 2659 แบล๊คเฟรม

เมื่อทุกคนได้ยินเสียงที่สงบ พวกเขาก็มองไปยังต้นกำเนิดของเสียงด้วยความประหลาดใจ

ซึ่งคนที่พูดคำเหล่านี้ก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากชายในชุดเสื้อคลุมสีดำที่เป็นผู้ปราบปราม Faux Saint Devourer ชายผู้ที่พลิกกระแสของการต่อสู้ครั้งนี้

“นี่เขาจะต่อต้านมือแห่งนักบุญจริงๆงั้นหรอ ?”

สมาชิกของมหาอำนาจต่างๆที่เฝ้าชมกันอยู่จากเมืองปีกสีเงินนั้นต่างก็ประหลาดใจกับการพัฒนานี้ พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่านักดาบจะกล้ายั่วยุสมาชิกของมือแห่งนักบุญ ยิ่งไปกว่านั้นเขายังพูดคำยั่วยุเหล่านี้ต่อหน้าเธ้าซั่นอาย ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้บัญชาการกองกำลังหลักของมือแห่งนักบุญด้วย

นักดาบคนนี้กล้าหาญมากเกินไปจริงๆ !!!

ในขณะนี้แม้แต่อิลูซะรี่เวิร์ด และสมาชิกจักรพรรดิคริมสันคนอื่นๆที่นั่งอยู่ในบาร์บลูโรสก็ยังรู้สึกประหลาดใจกับสถานการณ์นี้ แม้ว่าสมาชิกของมือแห่งนักบุญจะมีจำนวนคนมากกว่าหนึ่งร้อยคนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งไม่มีอะไรเทียบได้กับกองทัพลาดตระเวนของเมืองปีกสีเงินเลย แต่สมาชิกมือแห่งนักบุญเหล่านี้ก็ล้วนมีความแข็งแกร่งที่ไม่ธรรมดา

ในความเป็นจริงเธ้าซั่นอายนั้นได้อาศัยผู้เล่นมากกว่าหนึ่งร้อยคนทีมนี้เพื่อโจมตีและเข้ายึดสถานที่พักกิลของพันธมิตรดวงดาวที่ได้รับการป้องกันอย่างหนาแน่น และพวกเขายังได้ฆ่าผู้เชี่ยวชาญที่ศาลาลับส่งมาช่วยพันธมิตรดวงดาวไปมากกว่าหกร้อยคน

ขณะเดียวกันที่เมืองปีกสีเงินแห่งนี้ ใครก็สามารถจะบอกได้เลยว่า เว้นแต่พวกแกนหลักของสภาสิบแปดปีกจะลงมือ ไม่งั้นจะไม่มีใครหยุดเธ้าซั่นอายและคนของเขาได้แน่นอน

แต่ว่าทำไมฉันรู้สึกคุ้นเคยกับอะไรแบบนี้จัง ? เมื่ออิลูซะรี่เวิร์ดเห็นความขัดแย้งที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงบนกระจกเวทย์มนต์ เธอก็รู้สึกเหมือนอาการเดจาวู ….

….
ที่บริเวณป่าทะเลทราย เพอเพิ้ลอายอดไม่ได้ที่จะจ้องมองมายังซือเฟิงอย่างกังวล เมื่อเห็นเขาทำการท้าทายเธ้าซั่นอาย คนอื่นอาจไม่รู้ว่าเธ้าซั่นอายและทีมของเขาทรงพลังมากขนาดไหน แต่เธอรู้ เพราะท้ายที่สุดเธอเคยเห็นพวกเขาทั้งหมดเคลื่อนไหว และโจมตีร่วมกันมาก่อน

มันอาจจะดีถ้าพวกเขาอยู่ห่างจากตัวเมืองปีกสีเงินไม่เกินสามถึงสี่ร้อยหลา เนื่องจากองครักษ์ส่วนตัวขั้นสี่ของเมืองปีกสีเงินจะสามารถเคลื่อนไหวในระยะนั้นได้ และที่ตรงนั้นแม้แต่เธ้าซั่นอายกับทีมของเขาก็จะไม่กล้ายุ่งกับองครักษ์ส่วนตัวขั้นสี่แน่นอน

อย่างไรก็ตามตอนนี้ไม่เพียงแค่พวกเขาจะอยู่ห่างจากเมืองปีกสีเงินค่อนข้างมาก แต่ปัจจุบันกองทัพลาดตระเวนส่วนใหญ่ก็กระจัดกระจายไปทั่วสนามรบด้วย มันมีผู้เชี่ยวชาญขั้นสามมากกว่าสามสิบคนเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่อยู่ฝ่ายเพอเพิ้ลอาย แม้ว่าพลังในการต่อสู้ของซือเฟิงจะสามารถปราบปราม Faux Saint Devourer ได้ แต่เธอและคนของเธอนั้นไม่สามารถจะเทียบกับเธ้าซั่นอายได้เลย

สมาชิกในทีมของเธ้าซั่นอายนั้นไม่สามารถถูกมองว่าเป็นมนุษย์ได้อีกต่อไป พวกนี้มันดูเหมือนกับกลุ่มสัตว์ประหลาดที่มีรูปร่างคล้ายมนุษย์มากกว่า ไม่งั้นพวกนี้คงจะไม่กล้าโจมตีสถานที่พักกิลของพันธมิตรดวงดาวที่ได้รับการคุ้มกันโดยองครักษ์ส่วนตัวขั้นสามนับร้อยคน พร้อมกับกองทัพผู้เชี่ยวชาญอีกหนึ่งหมื่นด้วยผู้เล่นมากกว่าหนึ่งร้อยคนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และด้วยความแข็งแกร่งที่น่ากลัวนี้เอง มันถึงทำให้เธ้า
ซั่นอายกับทีมของเขากล้าจะปฎิบัติการใกล้กับเมืองปีกสีเงิน

ในขณะที่เพอเพิ้ลอายกำลังรู้สึกวิตกกับเรื่องนี้ เธ้าซั่นอายก็ได้หันไปหาซือเฟิง

“ฉันไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร แต่ฉันขอแนะนำว่าอย่ามองหาปัญหาดีกว่า ความแข็งแกร่งและความสามารถของคุณนั้นจัดว่าน่าทึ่งมากๆ และฉันแน่ใจว่ามันจะมีมหาอำนาจมากมายที่กลัวคุณแน่นอน อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดนั้นมันไร้ประโยชน์เมื่ออยู่ต่อหน้ามือแห่งนักบุญ …” เธ้าซั่นอายกล่าวอย่างเย็นชา “เนื่องจากคุณต้องการจะทำลายสมดุลในปัจจุบันของ God domain ดังนั้นฉันจึงจะต้องสอนบทเรียนให้คุณสักเล็กน้อย”

ทันทีที่เธ้าซั่นอายกล่าวจบ ร่างทั้งห้าก็ปรากฎขึ้นจากด้านหลังของเขา พร้อมกับเปิดใช้งานสกิลหลอมรวมขั้นสาม พายุพิโรธทันที

ทันใดนั้นร่างของทั้งห้าคนก็มีร่างแยกแบ่งออกมาคนละหกร่าง และเข้าล้อมรอบซือเฟิงไว้ทันที จากนั้นร่างทั้งสามสิบร่างก็เข้าโจมตีซือเฟิงแบบประสานงานกันอย่างไร้ที่ติ โดยทุกๆการโจมตีของร่างทั้งหมดนั้นล้วนมีพลังที่มาตราฐานของขั้นสี่ และด้วยการโจมตีทั้งหมดสามสิบครั้งจากทุกทิศทาง นับประสาอะไรกับการหลบ ซือเฟิงจะไม่สามารถป้องกันตัวเองได้อย่างสมบูรณ์ด้วยซ้ำ

ฉากนี้สร้างความตกตะลึงให้กับผู้เชี่ยวชาญของมหาอำนาจต่างๆอย่างมาก

….

“นี่มือแห่งนักบุญมีสกิลหลอมรวมขั้นสามที่ต้องใช้ด้วยกันห้าคนจริงๆงั้นหรอ ?” อิลูซะรี่เวิร์ดขมวดคิ้ว เมื่อเธอมองดูผู้เล่นทั้งห้าโจมตีเข้าใส่ซือเฟิง

สกิลและเวทย์ขั้นสามนั้นเดิมมันก็หายากมากๆแล้ว และแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขั้นสามของมหาอำนาจต่างๆก็ยังแทบจะไม่มีสกิลหรือเวทย์ขั้นสามเลย นับประสาอะไรกับสกิลหลอมรวมขั้นสามที่แม้แต่มหาอำนาจต่างๆก็ยังใฝ่ฝันจะได้รับ

เพราะท้ายที่สุดแม้แต่สกิลหลอมรวมขั้นสามที่อ่อนแอที่สุด มันก็ยังทำให้ผู้เล่นสามารถแสดงพลังในมาตราฐานของขั้นสี่ออกมาได้ และสกิลหลอมรวมขั้นสามที่แข็งแกร่งหน่อยก็จะสามารถใช้ขับไล่มอนสเตอร์ระดับเทพนิยายได้เลย และส่วนใหญ่ในบรรดาผู้ที่มีมัน พวกเขามักจะเก็บมันไว้ใช้เป็นไพ่ลับในการจัดการกับมอนสเตอร์ระดับเทพนิยาย

อน่างไรก็ตามจนถึงตอนนี้ มันยังไม่มีข่าวเลยว่ามีมหาอำนาจกลุ่มใดที่ได้รับสกิลหลอมรวมขั้นสามแบบที่ต้องใช้ห้าคนมา และที่พวกเขาส่วนใหญ่เคยได้ยินที่แข็งแกร่งที่สุด มันก็ใช้ผู้เล่นแค่สามคนเท่านั้น

ต่อหน้าสกิลหลอมรวมขั้นสามแบบที่ต้องใช้ห้าคนนี้ แม้แต่ Faux Saint Devourer ก็ยังจะต้องบาดเจ็บหนักแน่นอน หากโดนโจมตีเข้าไป

“สกิลหลอมรวมขั้นสามที่ต้องใช้กันห้าคน ?! แน่นอนเลยว่ารากฐานของมือแห่งนักบุญนั้นไม่ธรรมดาอย่างแท้จริง !!! ตอนนี้ชายคนนั้นคงจะรู้สึกโง่มากแน่นอน !!!”

เมื่อสมาชิกหลายคนของมหาอำนาจเห็นฉากนี้ พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะมองไปยังซือเฟิงอย่างหัวเราะเยาะเย้ย ในขณะที่บางคนถอนหายใจด้วยความผิดหวัง แม้ว่านักดาบจะมีความแข็งแกร่งอย่างน่าอัศจรรย์แบบที่เธ้าซั่นอายพูด แต่เขาก็ไม่มีอะไรเลยจริงๆ เมื่อมาอยู่ต่อหน้ามือแห่งนักบุญ

….

การโจมตีทั้งหมดสามสิบการโจมตีที่สามารถทำให้เกิดรอยแยกเชิงพื้นที่ได้ ได้พุ่งเข้าใส่ซือเฟิงอย่างรวดเร็ว และมันก็มีพลังที่น่ากลัวมากๆจนทำให้เพอเพิ้ลอายและพวกของเธอที่ยืนอยู่ห่างออกไปสามสิบหลารู้สึกตัวแข็งค้าง

อย่างไรก็ตามในขณะที่การโจมตีที่น่ากลัวนี้กำลังจะกลืนกินซือเฟิง เขาก็ยก Abyssal Blade ของเขาขึ้นเหนือหัวด้วยมือทั้งสองข้าง ก่อนที่จะเหวี่ยงอาวุธเวทย์มนต์โจมตีโต้ตอบทันที

ดาบที่หนึ่ง ไลท์ชาโด้ว !!!

ทันใดนั้นเงาของดาบขนาดยักษ์ก็ปรากฎขึ้นในอากาศ อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับครั้งก่อนที่ซือเฟิงใช้ไลท์ชาโด้วแล้ว ครั้งนี้มันดูแข็งแกร่งกว่ามาก ยิ่งไปกว่านั้นการปรากฎขึ้นของเงาดาบขนาดยักษ์นี้ก็ทำให้พื้นที่โดยรอบหนักอึ้ง และแม้แต่การโจมตีที่เข้าใกล้ซือเฟิงก็ชะลอตัวลงอย่างมาก

ในขณะนี้มันราวกับว่ามีเพียงแต่ไลท์ชาโด้วของซือเฟิงเท่านั้นที่เคลื่อนไหว ในขณะที่อย่างอื่นหยุดยิ่งไปทั้งหมด

ตู้ม !!

การโจมตีทั้งสิ้นสามสิบการโจมตีที่สามารถทำให้ Faux Saint Devourer บาดเจ็บหนักได้นั้นก็ได้แตกสลายกลายเป็นอนุภาคแสงจำนวนนับไม่ถ้วนทันที และพื้นที่โดยรอบนั้นก็ได้พังทลายลงจากแรงที่น่ากลัวของผลกระทบในการปะทะกัน

หลังจากนั้นร่างห้าร่างก็ปลิวกระเด็นออกไปราวกับลูกปืนใหญ่ และไปชนเข้ากับต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ห่างออกไปสามสิบหลา และแม้ว่าต้นไม้นี้จะมีลำต้นขนาดใหญ่ ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางสี่เมตร แต่ร่างทั้งห้านี้ก็พึ่งจะหยุดลง หลังจากปลิวกระเด็นไปกระแทกต้นไม้แบบนี้จนพังทลายไปหลายต้น โดยเมื่อร่างทั้งห้าตั้งตัวและยืนขึ้นได้ มันก็เห็นได้ชัดเลยว่า HP ของพวกเขาลดลงไปจนเหลือสามสิบเปอเซ็นต์แล้ว ….

“นี้ …”

เมื่อเห็นสมาชิกทั้งห้าของมือแห่งนักบุญที่ได้รับบาดเจ็บหนัก ปากของเพอเพิ้ลอายก็อ้ากว้างด้วยความตกใจ

ด้วยการเคลื่อนไหวเพียงแค่ครั้งเดียว ซือเฟิงไม่เพียงแต่จะทำลายสกิลหลอมรวมขั้นสามของชายทั้งห้าได้ แต่เขายังทำให้สมาชิกของมือแห่งนักบุญทั้งห้าคนได้รับบาดเจ็บหนักด้วย ซึ่งซือเฟิงทำทุกอย่างแบบง่ายมากๆ จนมันดูเหมือนว่าคนเหล่านี้ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญที่มีค่าสถานะเทียบเท่ากับแกรนลอร์ดในเลเวลเดียวกันเลย

“คุณเป็นใครกัน ?” เมื่อเธ้าซั่นอายเห็นว่าซือเฟิงรอดชีวิตจากการโจมตีตรงหน้าโดยที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ แถมยังทำให้คนของเขาห้าคนบาดเจ็บหนักด้วย ดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจและสับสน

เธ้าซั่นอายนั้นรู้ดีอยู่แล้วว่าพายุพิโรธทรงพลังมากขนาดไหน และสกิลหลอมรวมขั้นสามที่ต้องใช้คนถึงห้าคนในการใช้มันนี้ก็สามารถจะใช้ป้องกันได้แม้แต่มอนสเตอร์ระดับ ผู้อาวุโสเทพนิยาย อย่างไรก็ตามตอนนี้ ซือเฟิงได้ทำลายสกิลหลอมรวมนี้ของพวกเขา และทำให้ทั้งห้าคนบาดเจ็บหนักได้ด้วยการเคลื่อนไหวเดียว นี่มันไม่น่าเชื่อเลย

ในตอนนี้นับประสาอะไรกับเธ้าซั่นอาย แม้แต่คนอื่นๆที่เฝ้าดูการต่อสู้อยู่ก็ยังอยากจะรู้ถึงตัวตนของซือเฟิง

“ฉันเป็นใคร ?” ซือเฟิงหันไปจ้องมองเธ้าซั่นอายอย่างใจเย็น “คุณกล้าจะมาปฎิบัติการแบบนี้ใกล้กับเมืองปีกสีเงิน แต่ยังถามว่าฉันเป็นใคร ? คุณไม่คิดว่าคำถามคุณมันงี่เง่าไปหน่อยหรอ …”

เมื่อได้ยินคำพูดของซือเฟิง ความเงียบก็เข้าปกคลุมสมาชิกของมหาอำนาจต่างๆ ขณะที่พวกเขาจ้องมองไปยังร่างของชายในเสื้อคลุมสีดำด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

“แบล๊คเฟรม ?”

Reincarnation Of The Strongest Sword God

Reincarnation Of The Strongest Sword God

เริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง เขาได้เข้ามาสู่ “เกมแห่งมีชีวิต” นี้อีกครั้งเพื่อที่จะควบคุมโชคชะตาของตัวเอง ครั้งนี้ , เขาจะไม่ถูกควบคุมจากคนอื่น ก่อนหน้านี้ราชาแห่งดาบเลเวล 200 , เขาได้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในชีวิต วิธีการที่จะได้รับเงิน! กลยุทธ์แห่งชัยชนะในดันเจี้ยน! เควสในตำนาน! สถานที่ดรอปอุปกรณ์! ทักษะที่ยังไม่ถูกค้นพบ! แม้แต่ความลับที่พวกผู้ทดสอบเบต้าไม่รู้ , เขารู้มันทั้งหมด สงครามอันยิ่งใหญ่ , ความก้าวหน้าในชีวิต , เข้าสู่ความเป็นพระเจ้า , บรรลุถึงจุดสูงสุดแห่งดาบ ตำนานของชายผู้ที่จะกลายเป็นเทพแห่งดาบได้เริ่มขึ้นแล้ว Starting over once more, he has entered this “living game” again in order to control his own fate. This time, he will not be controlled by others. Previously the Level 200 Sword King, he will rise to a higher peak in this life. Methods to earn money! Dungeon conquering strategies! Legendary Quests! Equipment drop locations! Undiscovered battle techniques! Even the secrets Beta Testers were unknowledgeable of, he knows of them all. Massive wars, life advancement, entering Godhood, sword reaching to the peak; a legend of a man becoming a Sword God has begun.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset