Reincarnation Of The Strongest Sword God – ตอนที่ 2678

ตอนที่ 2678 อัพเกรดเมืองปีกสีเงิน

ใบหน้าของเหลียงจิงนั้นแปรเปลี่ยนเป็นมืดมน เมื่อได้ยินความต้องการของฟางฉีหาน

นอกเหนือจากวิธีการฝึกที่จะทำให้เข้าถึงขอบเขตจิตวิญญาณได้แล้ว เพียงแค่มอบเมืองป่าหินให้กับคนอื่น มันก็เพียงพอแล้วที่จะทำลายสภาสิบแปดปีกในปัจจุบัน

รายได้กว่าครึ่งหนึ่งของสภาสิบแปดปีกมาจากเมืองป่าหิน นอกจากนี้มันก็ยังเป็นเพราะเมืองป่าหินด้วยที่ทำให้ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากต้องการจะเข้าร่วมกับสภาสิบแปดปีกในตอนนี้ และมันไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลย หากจะบอกว่าเมืองป่าหินนั้นเป็นรากฐานที่สำคัญของสภาสิบแปดปีก ซึ่งหากสภาสิบแปดปีกต้องสูญเสียเมืองนี้ไป เธอก็นึกไม่ออกเลยว่ากิลจะอ่อนแอลงมากแค่ไหน

อย่างไรก็ตามหากพวกเขาปฎิเสธที่จะมอบเมืองป่าหินให้ สถานการณ์ของสภาสิบแปดปีกก็จะไม่ได้อยู่ในสภาวะที่สู้ดีเช่นกัน แม้ว่าจะไม่มีใครสามารถทำอะไรกับสภาสิบแปดปีกได้ใน God domain แต่มันจะนับเป็นเค้กชิ้นหนึ่งสำหรับมหาอำนาจต่างๆที่จะทำลายปฎิบัติการของสภาสิบแปดปีกในเมืองเฟิงหลินจากเงามืด

“หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม ฉันรู้ว่านี่ไม่ใช่ทางเลือกที่ง่ายที่จะยอมรับ แต่ถ้าสภาสิบแปดปีกขาดสารอาหารเหลวระดับ S และโพชั่นแห่งชีวิตในปริมาณที่เพียงพอ กิลก็จะพัฒนาต่อไปได้ยากไม่ใช่หรอ ?” ฟางฉีหานกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ฉันเชื่อว่าคุณในฐานะสุดยอดปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้รู้เรื่องนี้ดี”

God domain นั้นแตกต่างจากเกมเสมือนจริงอื่นๆ เกมนี้นั้นช่วยให้ผู้เล่นสามารถพัฒนาจิตใจของพวกเขาไปสู่มาตราฐานที่ไม่ธรรมดาได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้เล่นมีขั้นของพวกเขาเพิ่มขึ้น และได้รับการพัฒนาของสมองเพิ่มขึ้น ซึ่งการค้นพบนี้ได้กระตุ้นความตื่นเต้นของๆหลายคนอย่างมาก อย่างไรก็ตามเพื่อแลกกับการพัฒนาและเพิ่มศักยภาพของสมอง ผู้เล่นจำเป็นจะต้องมีพลังงานที่จำเป็นต่อร่างกายเพียงพอเพื่อใช้ในการรักษาจิตใจและร่างกายของพวกเขาตามความต้องการที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเมื่อเวลาผ่านไป นอกเหนือจากสภาสิบแปดปีกแล้ว มหาอำนาจต่างๆเองก็ปวดหัวกับเรื่องนี้เช่นกัน

ในขณะเดียวกันด้วยสถานการณ์นี้เองมันก็ทำให้สารอาหารเหลวระดับ S และโพชั่นแห่งชีวิตกลายเป็นของหายากมากในตลาด มันอาจจะดีกว่านี้ถ้าปริมาณที่เขาและสภาสิบแปดปีกต้องการไม่ได้สูงเป็นพิเศษ ซึ่งมันก็ไม่ใช่อะไรที่จะสามารถแก้ไขได้ด้วยเครดิตเลย มันจำเป็นต้องมีคอนเนคชั่นที่มากเพียงพอจึงจะได้รับทั้งสองสิ่งนี้มาในปริมาณที่มากเพียงพอ

“คุณพูดถูก สารอาหารเหลวระดับ S และโพชั่นแห่งชีวิตเป็นสิ่งที่สภาสิบแปดปีกต้อองการอย่างมากในตอนนี้ และในความเป็นจริงปัญหาในเรื่องนี้มันมีมากกว่าภัยคุกคามจากบุคคลภายนอกมาก” ซือเฟิงกล่าวพลางพยักหน้าเห็นด้วย

หลังจากที่ซือเฟิงกลายเป็นสุดยอดปรมาจารย์ที่แท้จริง แม้แต่สารอาหารเหลวระดับ S มันก็ไม่เพียงพอที่จะรักษาทั้งร่างกายและจิตใจของเขาให้กลับไปอยู่ในสภาพสูงสุดได้หลังจากผ่านศึกหนักมา และมันมีเพียงแต่โพชั่นแห่งชีวิตเท่านั้นที่จะตอบสนองความต้องการของเขาได้

มันจะไม่มีปัญหาใดๆเลย หากมีเขาเพียงคนเดียวที่ต้องการสารอาหารเหลวระดับ S และโพชั่นแห่งชีวิต แต่อย่างไรก็ตามความจริงแล้ว มันมีสมาชิกอีกหลายคนของสภาสิบแปดปีกที่ต้องการเช่นกัน และหากซือเฟิงต้องการจะให้พวกเขาพัฒนาไปได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งสองสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย

หากสภาสิบแปดปีกไม่สามารถจะจัดหาสารอาหารเหลวระดับ S และโพชั่นแห่งชีวิตได้ในปริมาณที่มากเพียงพอ แม้ว่ากิลจะไม่ถูกรังควานจากมหาอำนาจอื่นๆ หรือพวกที่อ่อนแอกว่า แต่มันก็จะเป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นก่อนที่พวกเขาจะแซงหน้าสภาสิบแปดปีกได้

“หัวหน้ากิล ?” เหลียงจิงสะดุ้ง เมื่อได้ยินคำพูดของซือเฟิง

ปัจจุบันเมืองป่าหินนั้นเป็นหนึ่งในเมืองกิลเพียงไม่กี่แห่งที่ถูกก่อตั้งขึ้นในแผนที่เป็นกลางเลเวลหนึ่งร้อยหรือมากกว่า และถ้าสภาสิบแปดปีกยอมส่งมอบเมืองป่าหินจริงๆ สภาสิบแปดปีกก็จะนับว่าสูญเสียครั้งใหญ่มากๆใน God domain โดยเฉพาะเรื่องความเร็วในการเก็บเลเวลของสมาชิกพวกเขาที่มันจะลดลงแน่นอน

ในสถานการณ์นี้แม๊ต และไวท์เฟเธอร์อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา

“อย่างน้อยเด็กคนนี้ก็คำนึงถึงสถานการณ์ ถ้าเขาขายเมืองป่าหิน และวิธีการฝึกที่จะทำให้เข้าถึงขอบเขตจิตวิญญาณได้ในตอนนี้ มันก็จะทำให้เขาสร้างได้ ได้อย่างมหาศาลทีเดียว เพราถ้าเขารอจนกว่ามหาอำนาจต่างๆรู้ถถึงตัวตนของเขา มันก็จะไม่มีใครต้องการพวกมันแน่นอน แม้ว่าเขาจะตัดสินใจขายก็ตาม ….” แม๊ตกระซิบ
สุดยอดปรมาจารย์ที่แท้จริงแบบซือเฟิงนั้นจะถูกพิจารณาว่าเป็นตัวตนที่ทรงพลังเลยในเมืองเฟิงหลิน

อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญระดับนี้นั้นมีความสามารถในการจะยับยั้งมหาอำนาจทั่วไปเท่านั้น ไม่ใช่กับบริษัทยักษ์ใหญ่ หรือมหาอำนาจที่แท้จริง นี่ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่า หากไม่มีสารอาหารเหลวระดับ S และโพชั่นแห่งชีวิตในปริมาณที่มากเพียงพอ สภาสิบแปดปีกก็จะมีปัญหาในการจะพัฒนาตัวเองต่อไป เพราะท้ายที่สุดมันต้องใช้พลังงานจำนวนมากเพื่อรักษาการทำงานของสมองที่พัฒนาขึ้นของผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดหรือสูงกว่านั้น ซึ่งสารอาหารเหลวระดับ A นั้นไม่สามารถจะให้มันได้เลย

ดังนั้นมหาอำนาจต่างๆจึงล้วนทำการรวบรวมสารอาหารเลวระดับ S และ โพชั่นแห่งชีวิตกันอย่างบ้าคลั่ง และทำให้ความหายากของมันเพิ่มขึ้น

“ถ้าคุณตัดสินใจแล้ว เราสามารถจะเซ็นสัญญากันได้ทันที หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม” ฟางฉีหานกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ไม่ สัญญานั่นไม่จำเป็น” ซือเฟิงกล่าวพลางส่ายหัว “เพราะฉันจะไม่ขาย เมืองป่าหิน และวิธีการฝึกที่จะทำให้เข้าถึงขอบเขตจิตวิญญาณได้ อย่างแน่นอน …”

ความเงียบนั้นเข้าปกคลุมไปทั่วห้องชั่วขณะ ในขณะที่ซือเฟิงพูด ทั้งแม๊ตและไวท์เฟเธอร์ต่างก็จ้องมองไปยังซือเฟิงด้วยความตกตะลึง และสงสัยว่าเขาเป็นบ้าไปแล้ว นี่เขาไม่เข้าใจความเลวร้ายของสถานการณ์ของสภาสิบแปดปีกจริงๆงั้นหรอ ?

“หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม คุณต้องคิดทบทวนเรื่องนี้ให้ดีนะ หากคุณพลาดโอกาสนี้ไป เราจะไม่เสนอราคาเดิมให้คุณอีกในครั้งต่อไป …” ฟางฉีหานกล่าวด้วยความประหลาดใจเล็กน้อยกับคำตอบของซือเฟิง “และเมื่อตอนนั้นมาถึง ปัญหาที่สภาสิบแปดปีกจะต้องเผชิญมันก็จะยิ่งใหญ่กว่าที่คุณจะสามารถจินตนาการได้ !!!”

ปัจจุบันไมโทโลจี้อาจกล่าวได้ว่าเป็นเส้นชีวิตเดียวที่สภาสิบแปดปีกเหลืออยู่ และนี่ก็เป็นเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังความมั่นใจของฟางฉีหานว่าซือเฟิงจะไม่ปฎิเสธข้อเสนอของเธอแน่นอน เว้นแต่ว่าเขาจะต้องการให้สภาสิบแปดปีกล่มสลายจริงๆ เพราะท้ายที่สุดหากไม่มีสารอาหารเหลวระดับ S และโพชั่นแห่งชีวิตที่มากเพียงพอ อนาคตของสภาสิบแปดปีกก็จะมืดมน

“ขอบคุณสำหรับความห่วงใยนะ แต่ถ้ามหาอำนาจต่างๆต้องการจะดำเนินการอย่างลับๆจริงๆ ฉันก็ไม่รังเกียจที่จะสอนให้พวกเขารู้ว่าการเดินทางแบบตั๋วเที่ยวเดียวคืออะไร ….” ซือเฟิงตอบอย่างใจเย็น

สภาสิบแปดปีกในปัจจุบันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป นี่เป็นเรื่องจริงอย่างยิ่งโดยเฉพาะหลังจากที่เขากลายเป็นสุดยอดปรมาจารย์ที่แท้จริง และนี่ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เขาไม่กังวลเลยที่ตัวตนของเขาจะถูกเปิดเผย เพราะท้ายที่สุดแล้วการดำเนินการอย่างลับๆกับสุดยอดปรมาจารย์ที่แท้จริงนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย

“ยอดเยี่ยม !!! เนื่องจากคุณได้พูดแบบนี้ งั้นฉันก็ขอตัว หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม !!!” ฟางฉีหานกล่าว หลังจากเห็นซือเฟิงยังคงไม่สะทกสะท้านกับคำเตือนของเธอ เธอก็ไม่ได้พยายามจะชักชวนหรือเกลี้ยกล่อมเขาอีกต่อไป และเธอก็ลุกขึ้นยืน พร้อมกับออกไปจากห้องรับรองทันที

….

หลังจากออกจากสำนักงานใหญ่หลักของสภาสิบแปดปีกแล้ว แม๊ตก็มองไปที่ฟางฉีหานพลางถามว่า “รองหัวหน้ากิล พวกเราจะจากไปทั้งๆแบบนี้จริงๆงั้นหรอ ?”

หัวหน้าของพวกเขาบอกให้พวกเขาพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ได้มาซึ่งวิธีการฝึกที่จะทำให้เข้าถึงขอบเขตจิตวิญญาณได้ และหากพวกเขาจากไปตอนนี้ มันก็จะยากมากสำหรับพวกเขาในอนาคตที่จะได้รับมันมาด้วยวิธีนี้ ….

“ผ่อนคลายน่า สภาสิบแปดปีกจะอยู่แบบนี้ต่อไปได้อีกไม่นานนักหรอก เขาอาจจะคิดว่าเขามีอำนาจในการปกป้องตัวเองหลังจากกลายเป็นสุดยอดปรมาจารย์ที่แท้จริง แต่เหล่ามหาอำนาจที่แท้จริงทั้งหมดนั้นก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่เขาคิด เขาไม่ได้รู้เลยว่าพวกนั้นบ้าแค่ไหนในตอนนี้ ….” ฟางฉีหานตอบด้วยรอยยิ้ม “อีกไม่นานเขาจะต้องมาหาเราด้วยตัวเองแน่นอน เราไม่จำเป็นต้องรีบ”

“ฉันเดาว่า มันก็มีสิทจะเป็นไปตามที่รองหัวหน้ากิลพูดมาสูง ….” หลังจากครุ่นคิดแล้ว แม๊ตก็พยักหน้าเห็นด้วยและเลิกสนใจเรื่องนี้

เพื่อรักษาสิทธิประโยชน์ที่มีอยู่ รวมทั้งหามันเพิ่มเติมใน God domain บริษัทยักษ์ใหญ่ต่างๆที่สนับสนุนมหาอำนาจต่างๆก็ล้วนพากันเทหมดหน้าตักแล้วในตอนนี้ และเพื่อให้เรื่องแย่ลง สถานะปัจจุบันของ God domain ได้ผลักดันให้มหาอำนาจต่างๆบางกลุ่มเริ่มถูกทำลายล้างไปบ้างแล้ว เป็นผลให้ตอนนี้มหาอำนาจต่างๆหลายกลุ่มใน God domain ล้วนระแวดระวัง และเก็บเกี่ยวทุกอย่างไว้เพื่อป้องกันตัวเองกันอย่างบ้าคลั่ง

เราสามารถจะจินตนาการได้อย่างง่ายดายว่ามหาอำนาจเหล่านี้จะทำอะไรบ้าง เมื่อรู้เรื่องราวของสภาสิบแปดปีกทั้งหมดในตอนนี้

….

หลังจากกลุ่มของฟางฉีหานจากไปแล้ว มันก็มีเพียงซือเฟิงและเหลียงจิงเท่านั้นที่ยังคงอยู่ในห้องรับรองชั้นบนสุด

“หัวหน้ากิล เราจะทำยังไงกันดี ? เมื่อฟางฉีหานกลับไป เธอจะเปิดเผยตัวตนของหัวหน้าให้มหาอำนาจอื่นๆรับรู้แน่นอน ….” เหลียงจิงกล่าวขณะที่เธอมองไปยังซือเฟิงอย่างกังวล

ในขณะนี้ แม้ว่าสภาสิบแปดปีกจะสามารถรักษาเมืองป่าหินเอาไว้ได้ แต่พวกเขาก็จะต้องประสบกับปัญหาใหญ่แน่นอน

“มันไม่เป็นอะไรหรอก แม้ว่าตัวตนของฉันจะถูกเปิดเผยก็ตาม … พวกเขาสามารถไปเผยแพร่ได้เลยถ้าต้องการ สิ่งที่เราต้องทำยังคงเหมือนเดิม ….” ซือเฟิงตอบอย่างใจเย็น

“เราต้องทำอะไร ?” เหลียงจิงถามอย่างสงสัย ขณะที่เธอมองไปยังท่าทีสงบของซือเฟิงด้วยความประหลาดใจ

“หาเงินไง !!!” ซือเฟิงตอบพลางหัวเราะเบาๆ

ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนากิลใน God domain หรือซื้อสารอาหารเหลวระดับ S และโพชั่นแห่งชีวิต การกระทำเหล่านี้จำเป็นต้องใช้เงินเพื่อให้บรรลุผลสำเร็จ และหากไม่มีเงินก็จะไม่สามารถทำอะไรได้เลย

ปัจจุบันมันไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลยที่สภาสิบแปดปีกจะสามารถหาสารอาหารเหลวระดับ S และโพชั่นแห่งชีวิต มาให้ได้มากเพียงพอ เพราะท้ายที่สุดแล้วเขามีบัตรเชิญเข้าร่วมงานประมูลของบริษัทกรีดก๊อดที่จะทำให้เขาสามารถหาของพวกนี้มาได้ในปริมาณที่มากเพียงพอ

อย่างไรก็ตามตอนนี้มหาอำนาจต่างๆล้วนทำการรวบรวมสารอาหารเหลวระดับ S และโพชั่นแห่งชีวิตกันอย่างบ้าคลั่ง ดังนั้นหากซือเฟิงไม่ได้เตรียมเครดิตไว้มากพอก่อนที่งานประมูลจะมาถึง เขาก็จะไม่มีโอกาสประมูลเลย

ดังนั้นสิ่งที่เขาต้องทำตอนนี้ก็คือหาเงินให้ได้มากที่สุด

“หาเงิน ?” เมื่อได้ยินคำตอบของซือเฟิง เธอก็ส่ายหัวและพูดอย่างหดหู่ว่า “ตอนนี้ฉันกลัวว่ามันจะยากมาก เนื่องจากการปราบปรามของมหาอำนาจต่างๆอย่างต่อเนื่อง มันจึงทำให้เราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องแสวงหาทรัพยากรด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตามทรัพยากรที่เราหามาได้นั้นมันก็แทบจะไม่เพียงพอสำหรับการใช้งานของเราเอง เราไม่มีส่วนเกินมากพอที่จะขาย ยิ่งไปกว่านั้นประชากรผู้เล่นของเมืองป่าหินก็ลดลงมากเนื่องจากการถูกคุกคาม นอกจากนี้มอนสเตอร์ Faux Saint ก็ยังพิชิตอาณาจักรสตาร์มูนไปเกือบครึ่งหนึ่งแล้ว เป็นผลให้รายได้ของกิลเราลดลงทุกวัน”

“ผ่อนคลายน่า นั่นมันก็เป็นแค่อดีต …” ซือเฟิงกล่าวพลางหัวเราะเบาๆ

หลังจากพูดจบ ซือเฟิงก็ได้ให้เหลียงจิงสั่งให้คนมาเติมสารอาหารเหลวในห้องเกมเคบินของเขาจนเต็ม จากนั้นเขาก็ทำการฝึกแบบง่ายๆ และกินอาหารที่เหมาะสม ก่อนจะกลับเข้าสู่ God domain โดยไม่ลังเล

เมื่อซือเฟิงกลับมาที่เมืองปีกสีเงินแล้ว เขาก็เรียกอินเตอร์เฟซของเมืองออกมา และเลือกจะอัพเกรดเมืองทันที

ไม่นานหลังจากนั้นการแจ้งเตือนของระบบก็ดังขึ้นในหูของผู้เล่นทุกคนในเมืองปีกสีเงิน ก่อนที่พวกเขาทุกคนจะถูกเทเลพอร์ตออกจากเมือง

Reincarnation Of The Strongest Sword God

Reincarnation Of The Strongest Sword God

เริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง เขาได้เข้ามาสู่ “เกมแห่งมีชีวิต” นี้อีกครั้งเพื่อที่จะควบคุมโชคชะตาของตัวเอง ครั้งนี้ , เขาจะไม่ถูกควบคุมจากคนอื่น ก่อนหน้านี้ราชาแห่งดาบเลเวล 200 , เขาได้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในชีวิต วิธีการที่จะได้รับเงิน! กลยุทธ์แห่งชัยชนะในดันเจี้ยน! เควสในตำนาน! สถานที่ดรอปอุปกรณ์! ทักษะที่ยังไม่ถูกค้นพบ! แม้แต่ความลับที่พวกผู้ทดสอบเบต้าไม่รู้ , เขารู้มันทั้งหมด สงครามอันยิ่งใหญ่ , ความก้าวหน้าในชีวิต , เข้าสู่ความเป็นพระเจ้า , บรรลุถึงจุดสูงสุดแห่งดาบ ตำนานของชายผู้ที่จะกลายเป็นเทพแห่งดาบได้เริ่มขึ้นแล้ว Starting over once more, he has entered this “living game” again in order to control his own fate. This time, he will not be controlled by others. Previously the Level 200 Sword King, he will rise to a higher peak in this life. Methods to earn money! Dungeon conquering strategies! Legendary Quests! Equipment drop locations! Undiscovered battle techniques! Even the secrets Beta Testers were unknowledgeable of, he knows of them all. Massive wars, life advancement, entering Godhood, sword reaching to the peak; a legend of a man becoming a Sword God has begun.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset