Reincarnation Of The Strongest Sword God – ตอนที่ 2684

ตอนที่ 2684 โดเมนมานา

เมืองปีกสีเงิน คฤหาสถ์ลอร์ดผู้ปกครองเมือง :

ภายใต้การนำของยู่หลาน มู่ฉินและสมาชิกของฟรอสต์ฮีฟเว่นคนอื่นๆก็มาถึงที่ทางเข้าของคฤหาสถ์ลอร์ดผู้ปกครองเมือง

ขณะนี้มันมี NPC จำนวนมาก รวมถึงผู้เล่นที่มีตราสัญลักษณ์ของพ่อค้าติดอยู่ที่หน้าอกกำลังเข้าแถวอยู่นอกกำแพงสูงของคฤหาสถ์ และความมีชีวิตชีวาที่นี่ก็สามารถจะเทียบได้กับความบ้าคลั่งที่บริเวณหน้าประตูหลักของเมืองปีกสีเงินในตอนนี้ได้เลย

“เมืองนี้ช่างน่าทึ่งจริงๆ แม้ว่าจะเพิ่งได้รับการอัพเกรดมา แต่มันก็มี NPC ที่เป็นพ่อค้าและผู้เล่นจำนวนมากมาเช่าร้านค้าที่นี่แล้ว ฉันคิดว่าแม้แต่เมืองที่เป็นสำนักงานใหญ่หลักของมหาอำนาจต่างๆก็ยังไม่ได้รับความสนใจมากขนาดนี้เลย ในตอนที่เมืองของพวกเขาถูกอัพเกรดเป็นเมืองขนาดใหญ่ขั้นพื้นฐาน” เคิร์สแมนเซอร์หญิงจากฟรอสต์ฮีฟเว่นอุทานออกมา ขณะที่เธอมองไปที่ NPC และผู้เล่นที่ยืนเข้าแถวอยู่ด้านนอกของคฤหาสถ์

นอกเหนือจากการทำหน้าที่เป็นแกนหลักในการควบคุมเมืองแล้ว คฤหาสถ์ลอร์ดผู้ปกครองเมืองยังทำหน้าที่จัดการที่ดินและร้านค้าของเมืองอีกด้วย ซึ่งใครก็ตามที่ต้องการจะเช่าหรือซื้อที่ดินรวมทั้งร้านค้าในเมืองก็ล้วนจะต้องมายังคฤหาสถ์ลอร์ดผู้ปกครองเมืองเพื่อทำเช่นนั้น

อย่างไรก็ตามโดยทั่วไปแล้ว ทั้งผู้เล่นและพ่อค้า NPC นั้นมักจะไม่ยอมเช่าหรือซื้อที่ดินหรือร้านค้าในเมืองที่พึ่งได้รับการอัพเกรดใหม่เลย เพราะท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาจะต้องพิจารณาก่อนว่าการลงทุนของพวกเขาจะทำกำไรได้จริง

อย่างไรก็ตามแม้ว่าเมืองปีกสีเงินเพิ่งจะได้รับการอัพเกรด และพึ่งจะเปิดให้สาธารณชนเข้าชมเมื่อไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา แต่มันก็มีผู้เล่นและ NPC เกือบพันคนมาต่อแถวรอที่ทางเข้าของคฤหาสถ์ลอร์ดผู้ปกครองเมืองแล้ว การตอบสนองแบบนี้มันไม่น่าเชื่อเลย

“นี่มันเป็นเรื่องปกติ เพราะท้ายที่สุดแล้วในปัจจุบันเมืองปีกสีเงินนั้นเป็นเมืองกิลเพียงแห่งเดียวในจักรวรรดิออร์คที่มีบริษัทขนส่งตั้งอยู่ ซึ่งมันช่วยรับประกันการที่ผู้เล่นจะเข้ามาเยี่ยมเยียนในจำนวนมหาศาล ดังนั้นพ่อค้าที่เป็นทั้งผู้เล่น และ NPC ที่มีไหวพริบเหล่านี้จึงจะไม่ปล่อยให้โอกาสนี้หายไปแน่นอน คำถามในตอนนี้คือสภาสิบแปดปีกเต็มใจจะให้เช่ารวมทั้งซื้อที่ดินและร้านค้ามากน้อยแค่ไหน ….” มู่ฉินกล่าว การแสดงออกของเธอยังคงไม่สะทกสะท้านใดๆ แม้ว่าเธอจะเห็นแถวยาวของผู้เล่นและ NPC เหล่านี้

ในความเป็นจริงหลังจากได้เห็นสิ่งที่เมืองปีกสีเงินนำเสนอให้ มู่ฉินก็ได้ตัดสินใจที่จะมาเช่าที่ดินและร้านค้าบางส่วนเพื่อเตรียมการพัฒนาสมาชิกกิลในเมือง ดังนั้นก็ไม่ต้องพูดถึงบรรดาพ่อค้าที่เป็นผู้เล่น และ NPC ที่มักเดินทางไปมาระหว่างเมืองรวมทั้งประเทศต่างๆบ่อยๆเลย พวกเขาย่อมตระหนักถึงศักยภาพของเมืองปีกสีเงินได้อยู่แล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงได้ตัดสินใจมาดำเนินการอย่างรวดเร็วกว่าเธอซะอีก

เหล่าพ่อค้าที่เป็นผู้เล่นที่เข้าแถวรออยู่ที่ด้านนอกของคฤหาสถ์ลอร์ดผู้ปกครองเมืองนั้นหันหน้าไปมองยังกลุ่มของมู่ฉินโดยอัตโนมัติ และความประหลาดใจก็เกิดขึ้นในดวงตาของพวกเขาทันที เมื่อพวกเขาได้เห็นกลุ่มของมู่ฉิน

“อะไรกัน ?! นี่ฟรอสต์ฮีฟเว่นกำลังวางแผนจะร่วมมือกับสภาสิบแปดปีกจริงๆงั้นหรอ ?”

“ถ้ามันเป็นแบบนั้น สภาสิบแปดปีกก็คงจะผงาดขึ้นมาในทวีปด้านตะวันออกแน่นอน”

“แน่นอน ฟรอสต์ฮีฟเว่นนั้นมีบริษัทนานาชาติสามแห่งให้การสนับสนุน แม้ว่าสภาสิบแปดปีกจะได้รับการสนับสนุนเพียงเล็กน้อยจากฟรอสต์ฮีฟเว่น แต่พวกเขาก็จะไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องเงินทุนและทรัพยากรอีกต่อไป ….”

“ดูเหมือนว่าในอนาคตมหาอำนาจต่างๆจะต้องหวาดกลัวสภาสิบแปดปีกมากขึ้นแล้ว เพราะท้ายที่สุดก่อนหน้านี้สภาสิบแปดปีกก็มีความใกล้เคียงกับมหาอำนาจทั่วไปแล้วในแง่ของผู้เชี่ยวชาญและรากฐานของกิล ซึ่งหากสภาสิบแปดปีกได้รับการสนับสนุนด้านทรัพยากรจากฟรอสต์ฮีฟเว่น โดยพื้นฐานแล้วกิลก็จะแข็งแกร่งขึ้นไปอีกแน่นอน”

….

ถึงเวลานี้ แม้แต่ผู้เล่นทั่วไปก็ยังเริ่มคุ้นเคยกับมหาอำนาจที่มีชื่อว่า ฟรอสต์ฮีฟเว่นแล้ว เพราะท้ายที่สุดกิลไม่เพียงแต่จะครอบครองอาณาจักรอยู่หลายแห่ง แต่กิลยังมีอำนาจอยู่ในมุมหนึ่งของจักรวรรดิอะโพคาลิปด้วย
นอกจากนี้ชื่อของฟรอสต์ฮีฟเว่นก็ยังเป็นที่รู้จักกันในหมู่ผู้เล่น พ่อค้าแบบพวกเขาด้วย เนื่องจากกิลๆนี้นั้นมีบริษัทนานาชาติยักษ์ใหญ่ถึงสามแห่งสนับสนุน และแม้แต่สตาร์ลิ้งซึ่งเป็นกิลที่กำลังมาแรงในทวีปด้านตะวันออก รวมไปถึงซุเปอร์กิลมากมายต่างก็ต้องแสดงความเคารพต่อฟรอสต์ฮีฟเว่น

กลุ่มของมู่ฉินได้เดินเข้าไปภายในคฤหาสถ์ลอร์ดผู้ปกครองเมืองภายใต้การจ้องมองของผู้เล่น พ่อค้าที่อยู่ภายนอก

ภายในคฤหาสถ์ลอร์ดผู้ปกครองเมือง นอกเหนือจากองครักษ์ส่วนตัวที่ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยแล้ว มันยังมีการฝึกของผู้เชี่ยวชาญของสภาสิบแปดปีกอยู่ในพื้นที่อีกจำนวนมากด้วย ซึ่งความมีชีวิตชีวาภายในบริเวณคฤหาสถ์นั้นมันไม่ได้ด้อยไปกว่าสถานการณ์ภายนอกคฤหาสถ์เลยแม้แต่น้อย

แน่นอนว่าจำนวนและคุณภาพผู้เชี่ยวชาญของสภาสิบแปดปีกยังคงด้อยกว่ามหาอำนาจต่างๆอยู่มาก เคิร์สแมนเซอร์หญิงพึมพำพลางส่ายหัวและถอนหายใจออกมา ขณะที่เธอมองไปรอบๆเพื่อเช็คมาตราฐานของสมาชิกกิลสภาสิบแปดปีก และเมื่อเป็นแบบนี้แม้ว่ามู่ฉินจะยินยอมให้สภาสิบแปดปีกเข้าเป็นพันธมิตร แต่กิลอื่นๆก็จะยังคงคัดค้านแน่นอน

สมาชิกขั้นสองของสภาสิบแปดปีกหลายคนได้มาถึงเลเวลหนึ่งร้อยสิบห้าแล้ว ขณะที่บรรดาสมาชิกขั้นสามส่วนใหญ่ก็มีเลเวลที่สูงขึ้นไปอีก และผู้เล่นเหล่านี้นั้นก็มีอุปกรณ์ที่ครบครันมากเช่นกัน โดยอุปกรณ์ที่อ่อนแอที่สุดที่ผู้เชี่ยวชาญขั้นสามของพวกเขาสวมใส่นั้นก็ยังอยู่ในระดับไฟน์โกล เลเวลหนึ่งร้อยสิบ ซึ่งเมื่อพูดถึงมาตราฐานของเลเวลและอุปกรณ์นั้นสมาชิกสภาสิบแปดปีกไม่ได้ด้อยไปกว่ามหาอำนาจที่แท้จริงเลย

อย่างไรก็ตามสมาชิกของสภาสิบแปดปีกมีข้อบกพร่องที่ร้ายแรงอย่างหนึ่งก็คือ มาตราฐานการต่อสู้โดยเฉลี่ยของพวกเขานั้นต่ำมาก ไม่ต้องพูดถึงผู้เชี่ยวชาญขอบเขตรวดเร็วดั่งสายน้ำด้วยซ้ำ สภาสิบแปดปีกแทบจะไม่มีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตการปรับแต่งเลย ซึ่งในเรื่องนี้นั้นสภาสิบแปดปีกไม่สามารถจะเทียบกับมหาอำนาจต่างๆได้เลย

ดังนั้นแม้ว่าสภาสิบแปดปีกจะมีและสามารถสร้างเหล่าองครักษ์ส่วนตัวที่ทรงพลังขึ้นมาได้จำนวนมาก แต่กิลก็จะยังคงไม่ถูกถือว่าเป็นมหาอำนาจที่แท้จริง เพราะท้ายที่สุดองครักษ์ส่วนตัวนั้นจะเป็นภัยคุกคามแค่ในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น และเมื่อเทียบกับผู้เล่นแล้ว NPC ก็มีช่วงเวลาที่ยากลำบากกว่ามากในการพัฒนาตัวเอง ดังนั้นวิธีการที่แท้จริงสำหรับกิลในการจะเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งจริงๆเลยก็คือ การมีผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดจำนวนมากอยู่ภายใต้การบังคับบัญชา

แม้ว่าจะมีข่าวลือว่าสภาสิบแปดปีกมีผู้เชี่ยวชาญที่ค่อนข้างพิเศษอยู่จำนวนหนึ่ง แต่จำนวนของมันก็ยังไม่น่าจะมากพอที่จะทำให้กิลกลายเป็นมหาอำนาจได้ทันที ดังนั้นก็ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่มู่ฉินจะยอมรับสภาสิบแปดปีกเข้าพันธมิตรของพวกเขาเลย

ในช่วงเวลาที่เคิร์สแมนเซอร์หญิงกำลังครุ่นคิดเรื่องดังกล่าวอยู่ ยู่หลานก็ได้พามู่ฉินและกลุ่มของเธอมาถึงที่ห้องรับรองในชั้นหนึ่งของคฤหาสถ์ลอร์ดผู้ปกครองเมือง

“เชิญเข้าไปได้เลย” ยู่หลานพูดขณะที่เธอเปิดประตูให้กับกลุ่มของมู่ฉิน

หลังจากพยักหน้าตอบรับกับคำพูดของยู่หลานแล้ว มู่ฉินก็ได้เดินเข้าไปในห้องรับรองพร้อมกับลูกน้องของเธอ

ซึ่งทันทีที่มู่ฉินและคนอื่นๆเข้ามาในห้องรับรอง ร่างกายของพวกเขาก็รู้สึกหนักขึ้นทันที และพวกเขาก็ยังรู้สึกว่าพวกเขาสูญเสียการควบคุมมานารอบๆตัวพวกเขา ซึ่งมันดูเหมือนว่าพวกเขาได้เข้ามาสู่อีกโลกหนึ่งเลย

โดเมนมานา ?! เคิร์สแมนเซอร์หญิงอ้าปากด้วยความตกใจ ขณะที่เธอมองไปยังซือเฟิงซึ่งนั่งอยู่ในห้องอยู่ก่อนแล้ว นี่ …. เป็นไปได้ยังไง ?!

ในขณะนี้นับประสาอะไรกับเคิร์สแมนเซอร์หญิง แม้แต่สมาชิกคนอื่นๆของ
ฟรอสต์ฮีฟเว่นก็ยังตกตะลึงกับสถานการณ์ปัจจุบัน

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญขั้นสาม พวกเขารู้อย่างชัดเจนว่าโดเมนมานาคืออะไร เพราะท้ายที่สุดนี่เป็นสิ่งที่พวกเขาพบเป็นครั้งคราวเมื่อทำการโจมตีมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายขั้นสี่ นี่ไม่ต้องพูดถึงสกิลและเวทย์ขั้นสามที่อนุญาติให้ผู้เล่นสร้างโดเมนมานาของตัวเองอีก

โดเมนมานานั้นแบ่งออกเป็นสองประเภท คือแบบเปิดใช้งาน และพาสซีฟ โดยโดเมนมานาประเภทที่ต้องเปิดใช้งานนั้นมันถูกสร้างขึ้นโดยสกิลและเวทย์ ในขณะที่โดเมนมานาประเภทพาสซีฟนั้นมันถูกสร้างขึ้นได้โดยไม่ต้องใช้สกิลหรือเวทย์ และจากทั้งสองประเภท ประเภทหลังเป็นความสามารถที่มีแค่เฉพาะ NPC ขั้นสี่หรือสูงกว่าขึ้นไปเท่านั้นที่สามารถจะทำได้

อย่างไรก็ตามโดเมนมานาที่ห่อหุ้มพวกเขาไว้ในปัจจุบันนั้นมันชัดเจนเลยว่ามันไม่ได้ถูกสร้างขึ้นด้วยสกิลหรือเวทย์ แต่มันเป็นผลพลอยได้ที่เกิดจากการหมุนเวียนมานาของซือเฟิงเอง กล่าวอีกนัยหนึ่งนี่มันคือโดเมนประเภทพาสซีฟ

ซึ่งโดเมนมานาประเภทนี้นั้นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ NPC ขั้นสี่นั้นแข็งแกร่งกว่า NPC ขั้นสามอย่างมาก และเมื่อโดเมนมานาประเภทพาสซีฟถูกใช้งาน NPC ขั้นสามก็จะไม่ต่างจากตัวตนที่เป็นเรื่องตลกเลยต่อหน้า NPC ขั้นสี่

อย่างไรก็ตามตอนนี้ความสามารถที่ปกติจะพบได้แค่เฉพาะใน NPC ขั้นสี่ นั้นกับถูกควบคุมและใช้โดยผู้เล่นขั้นสาม นี่มันน่าเหลือเชื่อมากๆ !!!

“คุณคือตัวแทนของฟรอสต์ฮีฟเว่นสินะ …. ฉันคือหัวหน้ากิลสภาสิบแปดปีก แบล๊คเฟรม” ซือเฟิงกล่าวขณะที่กวาดสายตามองไปยังกลุ่มของมู่ฉิน ก่อนที่เขาจะถามอย่างตรงไปตรงมาว่า “ฉันได้ยินมาจากยู่หลานว่าคุณมีเรื่องจะพูดคุยเกี่ยวกับความร่วมมือและการเป็นพันธมิตรระหว่างเรานี่นา บอกรายละเอียดมาได้เลย ?”

Reincarnation Of The Strongest Sword God

Reincarnation Of The Strongest Sword God

เริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง เขาได้เข้ามาสู่ “เกมแห่งมีชีวิต” นี้อีกครั้งเพื่อที่จะควบคุมโชคชะตาของตัวเอง ครั้งนี้ , เขาจะไม่ถูกควบคุมจากคนอื่น ก่อนหน้านี้ราชาแห่งดาบเลเวล 200 , เขาได้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในชีวิต วิธีการที่จะได้รับเงิน! กลยุทธ์แห่งชัยชนะในดันเจี้ยน! เควสในตำนาน! สถานที่ดรอปอุปกรณ์! ทักษะที่ยังไม่ถูกค้นพบ! แม้แต่ความลับที่พวกผู้ทดสอบเบต้าไม่รู้ , เขารู้มันทั้งหมด สงครามอันยิ่งใหญ่ , ความก้าวหน้าในชีวิต , เข้าสู่ความเป็นพระเจ้า , บรรลุถึงจุดสูงสุดแห่งดาบ ตำนานของชายผู้ที่จะกลายเป็นเทพแห่งดาบได้เริ่มขึ้นแล้ว Starting over once more, he has entered this “living game” again in order to control his own fate. This time, he will not be controlled by others. Previously the Level 200 Sword King, he will rise to a higher peak in this life. Methods to earn money! Dungeon conquering strategies! Legendary Quests! Equipment drop locations! Undiscovered battle techniques! Even the secrets Beta Testers were unknowledgeable of, he knows of them all. Massive wars, life advancement, entering Godhood, sword reaching to the peak; a legend of a man becoming a Sword God has begun.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset