Reincarnation Of The Strongest Sword God – ตอนที่ 2705

ตอนที่ 2705 เรามีทางของเรา

“พวกเขายังคงทำตัวกล้าหาญเช่นเคย”

โคลท์ชาโด้วซึ่งทำหน้าที่ลงทะเบียนให้กับไมโทโลจี้และผู้ช่วยของพวกเขาในการแข่งขันที่วิหารเทพสงครามครั้งนี้รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่ได้เห็นซือเฟิงและคนอื่นๆปรากฎตัวขึ้นท่ามกลางฝูงชน

“นี่พวกเขาเบื่อกับการมีชีวิตอยู่แล้วรึไง !!!” ชายในชุดเกราะหนักที่มีความสูงเกือบสามเมตรที่ยืนอยู่ข้างๆโคลท์ชาโด้วกล่าวอย่างเหยียดหยาม “ก่อนหน้านี้พวกเขาได้ปฎิเสธน้ำใจของคุณและพลาดโอกาสดีๆไป และตอนนี้พวกเขาก็กล้าเข้ามามีส่วนร่วมในงานนี้จริงๆ และพวกเขาทำแม้กระทั่งเปิดเผยข้อมูลของตัวเอง พวกเขาไม่ควรจะผ่านการคัดเลือกเข้ามาช่วยเหลือมหาอำนาจต่างๆด้วยซ้ำในอัตรานี้”

มหาอำนาจต่างๆได้คัดเลือกผู้ที่จะเข้ามาให้ความช่วยเหลือแก่พวกเขาเป็นอย่างดีสำหรับการแข่งขันครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม ตามกฎแล้ว พวกเขาจะสามารถรับสมัครผู้ช่วยที่เป็นคนนอกมาได้หนึ่งร้อยคนเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นผู้ช่วยแต่ละคนที่พวกเขาคัดเลือกมายังจะต้องเสียค่าลงทะเบียนเป็นคริสตัลเจ็ดลูมินาลี่ถึงสามสิบชิ้นต่อคน ซึ่งนี่มันก็นับว่าเป็นภาระทางการเงินอย่างใหญ่หลวงของสภาสิบแปดปีก

เพื่อให้เรื่องแย่ลงการคัดเลือกความช่วยเหลือเข้ามาจากผู้อื่นนั้นก็เรื่องหนึ่ง แต่ผู้ที่เข้ามาช่วยที่มหาอำนาจต่างๆล้วนคัดเลือกมานั้นจะสามารถผ่านการทดสอบในรอบคัดเลือก และได้รับคะแนนสำหรับที่พวกเขาเข้ามาช่วยหรือไม่มันก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งโดยสิ้นเชิง และหากผู้ที่มหาอำนาจต่างๆคัดเลือกมาช่วยตัวเองไม่ผ่านการทดสอบในรอบคัดเลือก พวกเขาก็จะต้องเสียคริสตัลเจ็ดลูมินาลี่ที่พวกเขาจ่ายไปฟรีๆเลย

ด้วยเหตุผลเหล่านี้มหาอำนาจต่างๆจึงไม่ยอมปล่อยให้โอกาสที่จะเอาชนะคู่ต่อสู้หลุดรอดไปเลยแม้แต่น้อย นับประสาอะไรกับการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับฝ่ายตรงข้าม

เพราะท้ายที่สุดแล้วอาชีพต่างๆของ God domain มันก็มีความแพ้ทางกันอยู่ และแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดหรือเก่งกาจกว่านั้นก็ยังจะมีปัญหา เมื่อเจอกับอาชีพที่พวกเขาแพ้ทาง ซึ่งในสถานการณ์ที่ฝ่ายหนึ่งแพ้ทางอีกฝ่ายอย่างมาก แถมอีกฝ่ายยังเข้าใจถึงค่าสถานะพื้นฐานและไอเทมของฝ่ายตรงข้ามอย่างถี่ถ้วน อีกฝ่ายก็จะสามารถจัดกำลังคนที่เหมาะสมเพื่อปราบปรามฝ่ายหนึ่งได้อย่างแม่นยำ

แต่ตอนนี้สภาสิบแปดปีกกับจงใจปล่อยให้ข้อมูลส่วนตัวของพวกเขารั่วไหลทั้งหมด ซึ่งนี่มันจะทำให้สมาชิกของพวกเขาถูกกดดันอย่างหนัก และถูกกำหนดเป็นเป้าหมายแรกๆแน่นอน

“นี่แบล๊คเฟรมคิดอะไรอยู่ ?”

“ไม่มีใครบอกเขาหรอว่าปฎิบัติการนี้ต้องปกปิดเป็นความลับ ?”

สายตาของกลุ่มผู้เล่นที่สวมเสื้อคลุมสีดำที่ยืนอยู่ขอบของพลาซ่านั้นแทบจะถลนออกจากเบ้า เมื่อพวกเขาเห็นสมาชิกสภาสิบแปดปีกเดินเข้ามา

การแข่งขันเพื่อจองตำแหน่งสำรองของสิบสองกิลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดถือเป็นเหตุการณ์ที่มีความสำคัญมากๆ และมหาอำนาจต่างๆก็ล้วนใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อปกปิดความแข็งแกร่งของตน มหาอำนาจบางกลุ่มกระทั่งซื้อไอเทมปกปิดตัวตนระดับสูงให้สมาชิกสำคัญๆของพวกเขาใช้ปกปิดตัวตนเลยด้วยซ้ำ เพราะกลัวว่าสมาชิกของพวกเขาจะถูกเพ่งเล็งและตอบโต้อย่างสมบูรณ์

อย่างไรก็ตามสภาสิบแปดปีกกับไม่ได้ทำสิ่งนั้น พวกเขาจงใจแสดงข้อมูลของตัวเองให้กับมหาอำนาจต่างๆได้รับรู้เลย

“หงซินหยวน นี่คือไพ่ลับที่คุณเลือกจะจ่ายสามช่องเข้าสู่ Upper Zone เพื่อรับสมัครมางั้นหรอ ? คุณได้เปิดตาแก่ชายแก่ผู้นี้อย่างแท้จริง !!!” ชายสูงอายุที่มีผมสีเทากล่าว ขณะที่เขามองไปยังหงซินหยวนที่นั่งอยู่ข้างๆเขา ความโกรธเกรี้ยวในน้ำเสียงของเขาทำให้มู่ฉินและรองหัวหน้ากิลคนอื่นๆอดไม่ได้ที่จะตัวสั่น

“ผู้อาวุโสสูงสุดบลู …. นี่น่าจะเป็น …. อุบัติเหตุ ….” มู่ฉินรับอธิบายให้ชายชราที่สวมชุดสีน้ำเงินที่ชื่อบริลเลี่ยนบลูฟัง

บริลเลี่ยนบลูนั้นจัดเป็นหนึ่งในห้าเสาน้ำแข็งที่เป็นผู้อาวุโสสูงสุดของฟรอสต์ฮีฟเว่น และก่อนหน้านี้บริลเลี่ยนบลูก็เกือบจะเลือกที่จะออกจากฟรอสต์ฮีฟเว่นไป อันเนื่องมาจากการที่หงซินหยวนเลือกจะมอบช่องสำหรับเข้าสู่ Upper Zone สามช่องให้กับสภาสิบแปดปีกเป็นค่าตอบแทน หากปฎิบัติการนี้ของพวกเขาสำเร็จ

ในอดีตบริษัทโบลเดอร์นั้นได้ปฎิเสธคำขอของบริลเลี่ยนบลูในเรื่องช่องสำหรับเข้าสู่ Upper Zone ของหลานชายเขา อย่างไรก็ตามในท้ายที่สุดแล้วเขาก็เลือกจะปล่อยวางเรื่องนี้ไป เพราะเขาเข้าใจว่าช่องพวกนี้นั้นมีค่ามาก และมันก็ใช่ว่าบริษัทกรีนก๊อดจะมอบช่องเหล่านี้ให้กับบริษัทโบลเดอร์ทุกปี

อย่างไรก็ตามตอนนี้หงซินหยวนกับตัดสินใจจะมอบช่องเหล่านี้ให้กับคนภายนอกโดยไม่ปรึกษาใคร ดังนั้นมันจึงไม่มีทางเลยที่บลูบริลเลี่ยนจะไม่โกรธเรื่องนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนที่สภาสิบแปดปีกซึ่งหงซินหยวนไปขอความช่วยเหลือทำแบบนี้

“อุบัติเหตุ ?” บริลเลี่ยนบลูหัวเราะเมื่อได้ยินเรื่องนี้ “ใช่แล้ว นี่มันต้องเป็นอุบัติเหตุแน่นอน อุบัติเหตุในระดับที่ชายแก่คนนี้ไม่เคยเห็นมาก่อน !!!”

ทันใดนั้นหงซินหยวนก็กล่าวขอโทษโดยไม่มีข้อแก้ตัวว่า “มันมีปัญหาบางอย่างเกิดขึ้นในครั้งนี้ แต่สมาชิกของสภาสิบแปดปีกทั้งหมดนั้นแข็งแกร่งมากอย่างไม่ต้องสงสัย”

“พวกเขาค่อนข้างจะดูดีจริงๆ จากทั้งหมดสิบเจ็ดคน แม้แต่ผู้ที่มีเลเวลต่ำที่สุดในหมู่พวกเขาก็ยังมีเลเวลหนึ่งร้อยสิบเจ็ด ในขณะที่คนที่มีเลเวลสูงที่สุดมีเลเวลที่หนึ่งร้อยยี่สิบเอ็ด แถมแต่ละคนยังมีไอเทมระดับอีปิคโดยเฉลี่ยหกชิ้น นี่มันนับเป็นภาพที่หาได้ดูได้ยากแม้แต่กับกองกำลังหลักของมหาอำนาจต่างๆ” บริลเลี่ยนบลูกล่าว จากนั้นเขาก็หันไปมองผู้อาวุโสสูงสุดคนอื่นๆและพูดต่อว่า “อย่างไรก็ตามตอนนี้พวกเขาได้เปิดเผยข้อมูลทั้งหมดของพวกเขาออกมาแล้ว ซึ่งมันจะทำให้เป็นเรื่องง่ายเลยสำหรับมหาอำนาจต่างๆที่จะหาทางตอบโต้พวกเขา !!!”

“ฟรอสต์ฮีฟเว่นนั้นไม่ใช่ว่าจะได้รับคริสตัลเจ็ดลูมินาลี่มาง่ายๆ ซึ่งทุกชิ้นกว่าเราจะได้มานั้นมันแลกมาด้วยหยาดเหงื่อและเลือดของสมาชิกกิลเรา ฉันไม่อยากจะเห็นคริสตัลเหล่านี้สูญเปล่า ฉันขอแนะนำให้ถอดสภาสิบแปดปีกออกตอนนี้ และให้หลานชายของฉันกับลูกน้องของเขาเติมเต็มช่องว่างที่เหลือให้เต็ม !!!”

เมื่อบริลเลี่ยนบลูพูดจบ เหล่าผู้อาวุโสสูงสุดของกิลที่มาเฝ้าดูการแข่งขันครั้งนี้ก็เงียบลงไปชั่วขณะ

“ฉันคิดว่าสิ่งที่ผู้อาวุโสบลูพูดนั้นมีเหตุผล ตอนนี้ในเมื่อสภาสิบแปดปีกทำผิดพลาดอย่างร้ายแรงมากๆ เราก็จำเป็นที่จะต้องถอดพวกเขาออก” รองหัวหน้ากิลคนหนึ่งที่นั่งอยู่ด้านหลังของบริลเลี่ยนบลูกล่าวขึ้นพลางพยักหน้า

“คำพูดของบลูนั้นไม่ใช่จะไร้เหตุผล ฉันก็คิดเช่นกันว่าเราจำเป็นจะต้องถอดพวกเขาออก” ผู้อาวุโสสูงสุดคนหนึ่งที่มีผมขาวกล่าว “ข้อพิพาทในเรื่องการจองตำแหน่งสำรองสำหรับสิบสองกิลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนั้นจะส่งผลต่ออนาคตของ God domain อย่างมาก และมันอาจจะกำหนดความเป็นและความตายของฟรอสต์ฮีฟเว่นเลยด้วยซ้ำ เราไม่สามารถที่จะเสี่ยงหรือปล่อยปะละเลยในเรื่องนี้ได้”

“ใช่แล้ว เราไม่สามารถที่จะยอมรับความเสี่ยงนี้ได้”

หลังผู้อาวุโสผมขาวพูดขึ้น บรรดาผู้อาวุโสสูงสุดคนอื่นๆในกิลก็ต่างแสดงท่าทีเห็นด้วยกับคำแนะนำของบริลเลี่ยนบลู สำหรับการค้นหาผู้ที่จะเข้ามาช่วยเหลือพวกเขาใหม่ หลังจากถอดสภาสิบแปดปีกออกไปมันก็ไม่ใช่เรื่องน่ากังวล มหาอำนาจต่างๆได้เตรียมการทดแทนไว้มากมายสำหรับการแข่งขันในวันนี้ และโดยธรรมชาติ แม้แต่
ฟรอสต์ฮีฟเว่นก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น

นี่ยังไม่ต้องพูดถึงว่าหลานชายของบริลเลี่ยนบลูนั้นก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน เพราะเขาก็เป็นหนึ่งในระดับพวกระดับสูงของดอกไม้แห่งเจ็ดบาป และในความเป็นจริงถ้าไม่ใช่เพราะเขาไปเข้าร่วมกับดอกไม้แห่งเจ็ดบาป เขาก็จะได้รับตำแหน่งหนึ่งในรองหัวหน้ากิลของฟรอสต์ฮีฟเว่นไปแล้ว

ในขณะเดียวกันดอกไม้แห่งเจ็ดบาปนั้นก็เป็นองค์กรขนาดใหญ่ที่เชี่ยวชาญในการลอบสังหาร ซึ่งสมาชิกของพวกเขาทุกคนล้วนเป็นนักฆ่าโดยธรรมชาติ และมันก็ไม่มีมหาอำนาจใดที่เชี่ยวชาญในการจัดการกับผู้เล่นไปมากกว่าดอกไม้แห่งเจ็ดบาปแล้ว และแม้แต่ซุเปอร์กิลก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น

หลานชายของบริลเลี่ยนบลูนั้นก็นับเป็นหนึ่งในไพ่หลักของฟรอสต์ฮีฟเว่นในการแข่งขันครั้งนี้ด้วย ซึ่งการนำผู้เชี่ยวชาญแบบนี้เข้าไปแทนที่สมาชิกของสภาสิบแปดปีก มันก็จะไม่เป็นปัญหาใดๆเลย

แน่นอนว่าความเห็นแก่ตัวของบริลเลี่ยนบลูก็มีส่วนในการตัดสินใจของเขาเช่นกัน ช่องเข้าสู่ Upper Zone ทั้งสามช่องที่หงซินหยวนเสนอให้สภาสิบแปดปีกเป็นค่าตอบแทนนั้น มันจัดเป็นสมบัติส่วนตัวของเขา ซึ่งมันไม่ใช่ของกิลหรือบริษัทโบลเดอร์เลย ดังนั้นบริลเลี่ยนบลูจึงไม่สามารถจะบังคับให้หงซินหยวนมอบช่องเหล่านี้ให้กับเขาได้ อย่างไรก็ตามหากสภาสิบแปดปีกถูกถอดออก และหลานชายของเขาสามารถช่วยให้ฟรอสต์ฮีฟเว่นได้รับที่ในฐานะสิบสองกิลที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ….

หงซินหยวนก็น่าจะต้องยอมมอบช่องเข้าสู่ Upper Zone สามช่องนี้ให้กับหลานชายของเขาเพื่อรักษาชื่อเสียงของตัวเอง

ขณะที่เหล่าผู้อาวุโสสูงสุดหลายคนกำลังจะบรรลุฉันทามติ มันก็มีคนเข้ามาขัดจังหวะพวกเขา “เรียนท่านผู้อาวุโสสูงสุดทั้งหลาย พวกท่านไม่คิดว่าพวกท่านทำเกินไปหน่อยงั้นหรอ ?” มู่ฉินกล่าว

“มู่ฉิน คุณคิดว่าพวกเราทำเกินไปงั้นหรอ ? นี่คุณคิดว่าคำพูดของฉันไม่มีเหตุผลงั้นหรอ ?” บริลเลี่ยนบลูถามด้วยความไม่พอใจ

“สิ่งที่ผู้อาวุโสบลูพูดมานั้นสมเหตุสมผล” มู่ฉินพยักหน้า “อย่างไรก็ตามลุงหงได้เป็นผู้บริจาคเกือบครึ่งของคริสตัลเจ็ดลูมินาลี่ที่เราใช้ในครั้งนี้ และถ้าไม่ใช่เพราะผลงานของเขา ฟรอสต์ฮีฟเว่นก็คงจะยากที่จะสามารถรวบรวมคริสตัลเจ็ดลูมินาลี่จำนวนมากได้ และตอนนี้ลุงหงก็ขอเพียงสิบเจ็ดช่องไว้สำหรับตัวเอง แต่คุณกำลังตัดสินใจที่จะถอดสภาสิบแปดปีกโดยพลการ นี่มันจะไม่เกินไปหน่อยงั้นหรอ ? อย่างน้อยเราก็ควรให้ลุงหงตัดสินใจด้วยตัวเอง”

เมื่อได้ยินคำพูดของมู่ฉินเหล่าผู้อาวุโสทั้งหมดก็เงียบลง

สิ่งที่มู่ฉินพูดเป็นความจริง หากไม่มีคริสตัลเจ็ดลูมินาลี่จากหงซินหยวนมาสนับสนุน พวกเขาก็จะไม่สามารถลงทะเบียนผู้ช่วยจากภายนอกสำหรับกิลได้มากมายขนาดนี้ และแม้ว่าตอนนี้หงซินหยวนจะไม่ใช่หนึ่งในห้าเสาน้ำแข็ง แต่ในเรื่องนี้พวกเขาก็ไม่มีสิทจะขัดขวางการตัดสินใจของหงซินหยวนเลย

“ที่คุณพูดมามันก็ถูก แต่เราก็ต้องทำเรื่องนี้โดยพิจารณาถึงอนาคตของกิลด้วย” บริลเลี่ยนบลูพยายามกล่าวให้ดูชอบธรรม “แล้วก็ผู้อาวุโสหง ไม่ใช่ว่าคุณบริจาคคริสตัลเหล่านี้เพื่อประโยชน์สูงสุดของกิลงั้นหรอ ?”

ในระหว่างที่บริลเลี่ยนบลูกำลังจะพูดอะไรมากกว่านี้ ชายวัยกลางคนที่สง่างามคนหนึ่งในหมู่พวกเขาก็พูดขึ้น

“หยุดเถียงกันได้แล้ว !!! นี่พวกคุณจะทำให้ตัวเองดูโง่เง่าต่อหน้ามหาอำนาจอื่นๆไปถึงไหนกัน ?!!”

ทันทีที่ชายวัยกลางคนผู้นี้พูดขึ้น ทุกคนก็เงียบลง และดวงตาของพวกเขาทั้งหมดก็เต็มไปด้วยความเคารพมากๆ ขณะที่มองไปยังชายคนนี้

อย่างไรก็ตามบริลเลี่ยนบลูยังคงปฎิเสธที่จะยอมแพ้ “หัวหน้ากิล เราไม่สามารถจะประมาทในเรื่องนี้ได้นะ …”

คนอื่นๆอาจจะกลัวเซเว่นวอร์นเดอร์ หัวหน้ากิลแห่งฟรอสต์ฮีฟเว่น แต่มันไม่ใช่สำหรับบริลเลี่ยนบลู เพราะไม่เพียงแต่บริลเลี่ยนบลูจะเป็นหนึ่งในห้าเสาน้ำแข็งของกิล แต่เขายังมีอายุมากกว่าเซเว่นวอร์นเดอร์อยู่รุ่นหนึ่งเลย ดังนั้นเซเว่นวอร์นเดอร์จึงจำเป็นจะต้องปฎิบัติกับเขาอย่างจริงจังเช่นกัน

“พอ !!!’ เซเว่นวอร์นเดอร์กล่าวพลางขมวดคิ้ว “เรื่องนี้จะต้องจบลงที่นี่ !!! เราจะไม่ถอดสภาสิบแปดปีออก !!! อย่างไรก็ตามสิ่งที่ผู้อาวุโสสูงสุดบลูพูดมันก็มีเหตุผลเช่นกัน แจ้งไปยังสภาสิบแปดปีกว่าเราจะไม่ช่วยเหลือพวกเขาใดๆทั้งสิ้นในการทดสอบรอบคัดเลือก นี่คือปัญหาของพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจะต้องไปแก้ด้วยตัวเอง
ฟรอสต์ฮีฟเว่นไม่ได้มีพลังมากพอจะมาช่วยแก้ปัญหาของพวกเขาด้วย !!!”

“หัวหน้ากิล !!!” มู่ฉินสะดุ้ง เธอไม่เคยคิดเลยว่าเซเว่นวอร์นเดอร์จะตัดสินใจแบบนี้ นี่มันเท่ากับการละทิ้งสภาสิบแปดปีกชัดๆ

หงซินหยวนขมวดคิ้วเช่นกัน เมื่อได้ยินการตัดสินใจนี้ หากปราศจากความช่วยเหลือจากฟรอสต์ฮีฟเว่น สภาสิบแปดปีกจะต้องเจอศึกหนักแน่นอนในการจะผ่านการทดสอบรอบคัดเลือดไปให้ได้ และต่อให้ผ่านไปได้จำนวนสมาชิกที่เหลือของพวกเขาก็น่าจะมีไม่มากนัก

“พอ !!! เอาตามนี้ !!!” เซเว่นวอร์นเดอร์กล่าวอย่างเฉียบขาด

“เข้าใจแล้ว” มู่ฉินกล่าวพลางถอนหายใจ

มู่ฉินนั้นไม่ได้มีอำนาจจะเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจของเซเว่นวอร์นเดอร์ ซึ่งเธอก็ได้ทำตามหน้าที่ของเธอโดยการถ่ายทอดข่าวนี้ไปยังซือเฟิงทันที ตอนนี้สภาสิบแปดปีกจะไปได้ไกลแค่ไหนมันก็ขึ้นอยู่กับตัวเองแล้ว

“หัวหน้ากิลนี่มันเท่ากับว่าฟรอสต์ฮีฟเว่นบอกให้เราปกป้องตัวเองนี่นา พวกเขาละทิ้งเราแล้วงั้นหรอ ? ….” หยานเทียนซิงกล่าวด้วยความตกใจ เมื่อเห็นข้อความที่ซือเฟิงแชร์ให้ทั้งทีมได้เห็น

หยานเทียนซิงแนะนำให้ซือเฟิงปกปิดข้อมูลของพวกเขาแต่แรก อย่างไรก็ตามซือเฟิงก็ปฎิเสธที่จะทำตามคำแนะนำของเขา

ตอนนี้ดูสิว่ามันเกิดอะไรขึ้นกัน ?

“ทุกคนคิดว่าไง ?” ซือเฟิงถามไฟเออร์แดนซ์และคนอื่นๆพลางหัวเราะเบาๆ

“ปล่อยพวกเขาไป เราเองก็มีทางของเรา ทำไมเราจะต้องไปเล่นตามกฎของพวกเขาล่ะ ?” ไฟเออร์แดนซ์กล่าวอย่างเมินเฉย

“พี่สาวไฟเออร์แดนซ์พูดถูก ตอนนี้ฉันเองก็รู้สึกคันไม้คันมือเช่นกัน ฉันต้องการจะต่อสู้ในการต่อสู้ที่ดีหน่อย” ไวโอเล็ตคลาวด์กล่าวด้วยความตื่นเต้นที่ปรากฎขึ้นในดวงตาของเธอ

ในทำนองเดียวกันโคล่าและคนอื่นๆก็กระตือรือร้นมากเช่นกัน เมื่อไวโอเล็ตคลาวด์พูดมาแบบนี้

“เนื่องจากมันเป็นแบบนี้ งั้นเราไปลงทะเบียนกันดีกว่า ….”

Reincarnation Of The Strongest Sword God

Reincarnation Of The Strongest Sword God

เริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง เขาได้เข้ามาสู่ “เกมแห่งมีชีวิต” นี้อีกครั้งเพื่อที่จะควบคุมโชคชะตาของตัวเอง ครั้งนี้ , เขาจะไม่ถูกควบคุมจากคนอื่น ก่อนหน้านี้ราชาแห่งดาบเลเวล 200 , เขาได้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในชีวิต วิธีการที่จะได้รับเงิน! กลยุทธ์แห่งชัยชนะในดันเจี้ยน! เควสในตำนาน! สถานที่ดรอปอุปกรณ์! ทักษะที่ยังไม่ถูกค้นพบ! แม้แต่ความลับที่พวกผู้ทดสอบเบต้าไม่รู้ , เขารู้มันทั้งหมด สงครามอันยิ่งใหญ่ , ความก้าวหน้าในชีวิต , เข้าสู่ความเป็นพระเจ้า , บรรลุถึงจุดสูงสุดแห่งดาบ ตำนานของชายผู้ที่จะกลายเป็นเทพแห่งดาบได้เริ่มขึ้นแล้ว Starting over once more, he has entered this “living game” again in order to control his own fate. This time, he will not be controlled by others. Previously the Level 200 Sword King, he will rise to a higher peak in this life. Methods to earn money! Dungeon conquering strategies! Legendary Quests! Equipment drop locations! Undiscovered battle techniques! Even the secrets Beta Testers were unknowledgeable of, he knows of them all. Massive wars, life advancement, entering Godhood, sword reaching to the peak; a legend of a man becoming a Sword God has begun.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset