Reincarnation Of The Strongest Sword God – ตอนที่ 2713

ตอนที่ 2713 ชื่อเสียงแพร่กระจายไปทั่วจักรวรรดิมังกรไฟ

เมื่อไวท์เฟเธอร์ได้ยินคำพูดของโคลท์ชาโด้ว สมองของเธอก็ตกตะลึงไปชั่วขณะ

“เป็นไปได้ยังไง ?” ไวท์เฟเธอร์อุทานออกมาโดยสัญชาตญาณ “การทดสอบรอบคัดเลือกใช้เวลาไม่ถึงสิบนาที !!! ผู้เชี่ยวชาญขั้นสามเก้าร้อยคนจะเข่นฆ่ากันได้เกือบหมดได้ยังไง ในเวลาแค่นี้” หากไม่มีช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างผู้เชี่ยวชาญขั้นสามด้วยกัน เมื่อมีการปะทะกันเกิดขึ้น มันน่าจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองถึงห้านาทีเลยกว่าผู้เชี่ยวชาญขั้นสามที่ปะทะกันแบบตัวต่อตัวจะปรากฎผลลัพธ์ของการต่อสู้ออกมา

เรื่องนี้มันเป็นดั่งกฎที่ได้รับการยอมรับทั่วไปใน God domain

เมื่อผู้เล่นมาถึงขั้นสามกัน ผู้เล่นเกือบทุกคนจะมีสกิลช่วยชีวิตกันอยู่จำนวนหนึ่ง ซึ่งนี่มันจะทำให้ผู้เล่นสามารถต่อสู้กันในแบบถึงเลือดถึงเนื้อได้ในระดับหนึ่งเลย ดังนั้นมันจึงมีคำกล่าวที่เป็นที่นิยมว่า แม้ว่าจะสามารถเอาชนะผู้เชี่ยวชาญขั้นสามได้อย่างง่ายดาย แต่การจะฆ่าผู้เชี่ยวชาญขั้นสามให้ได้นั้น มันก็เป็นเรื่องที่ท้าทายมากๆ

“ไม่ ! พวกเขาไม่ได้ต่อสู้หรือเข่นฆ่ากันเอง” โคลท์ชาโด้วส่ายหัว จากนั้นเธอก็พูดต่ออย่างใจเย็นว่า “ตามข้อมูลที่เราได้รับจากพวกที่อยู่ด้านใน ทีมช่วยเหลือของมหาอำนาจมากกว่าครึ่งเลือกจะยอมแพ้”

“ยอมแพ้ ?” ไวท์เฟเธอร์เริ่มรู้สึกสับสนมากขึ้นให้กับการเปิดเผยของข้อมูลนี้ เธอรู้สึกว่ายิ่งเธอรู้ลึกเรื่องนี้มากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจมากขึ้น

ในขณะเดียวกันภายในห้องโถงตอนนี้ เธ้าซั่นไมล์และพวกระดับสูงของมหาอำนาจต่างๆหลายกลุ่มที่อยู่ตรงนี้ในปัจจุบันก็เริ่มจะได้รับข่าวคราวเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นภายในการทดสอบรอบคัดเลือกแล้ว และพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะสับสน

“นี่พวกเขาเสียสติกันไปแล้วรึไง ?! ยอมแพ้มากกว่าครึ่ง ?!” เธ้าซั่นไมล์สบถออกมาเสียงดัง เมื่อเห็นรายงานของลูกน้องของเขา “รีบไปสืบสวนทันที !!! ใครก็ตามที่เลือกจะยอมแพ้ไม่ควรคิดว่าจะได้รับผลประโยชน์ใดๆตามสัญญาที่ตกลงกันไว้ !!!”

ด้วยความได้เปรียบด้านจำนวนอย่างมาก พวกเขาควรจะสามารถทำลายล้างสมาชิกสภาสิบแปดปีกได้อย่างง่ายๆด้วยซ้ำ แม้ว่าสมาชิกสภาสิบแปดปีกจะปลุกศพพรรคพวกของตัวเองที่ตายไปในระหว่างการปะทะขึ้นมาก็ตาม
“รองหัวหน้ากิลไมล์” เบอเซิกเกอร์ชุดเทาที่ยืนอยู่ต่อหน้าเธ้าซั่นไมล์ตัวหดลงเล็กน้อย ก่อนจะพูดขึ้นมาเบาว่าๆ “พวกที่เลือกจะยอมแพ้ …. ไม่ใช่ทีมช่วยเหลือของกิลเรา ….”

“แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับทีมช่วยเหลือของกิลเรา ?” เธ้าซั่นไมล์ถาม

“ทีมช่วยเหลือของกิลเรา ….” หลังจากมองไปที่เธ้าซั่นไมล์ เบอร์เซิกเกอร์ชุดเทาก็กล่าวขึ้นมาอย่างกล้าๆกลัวๆว่า “แบล๊คเฟรมได้ฆ่าพวกเขาทั้งหมด ยิ่งไปกว่านั้นเขายังไม่ได้ฆ่าแค่ทีมช่วยเหลือของกิลเรา เขายังฆ่าทีมช่วยเหลือของอีกสามกิลด้วย ….”

“คุณแน่ใจงั้นหรอว่าแบล๊คเฟรมทำคนเดียว ? ไม่ใช่ว่าพวกเขาล้อเล่นอะไรกับคุณหรอ ?” เธ้าซั่นไมล์ตอบด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

“ฉันได้ทำการยืนยันจากพวกเขามาเป็นอย่างดีแล้ว ….” เบอเซิกเกอร์ชุดเทากล่าวพลางพยักหน้า “แบล๊คเฟรมฆ่าพวกเขาทั้งหมดด้วยตัวเองจริงๆ ผู้เล่นสี่ร้อยคนที่พุ่งเป้าไปที่สภาสิบแปดปีกนั้นไม่มีใครรอดชีวิตเลย”

“คนเดียว ? เขาฆ่าผู้เชี่ยวชาญขั้นสาม สี่ร้อยคนด้วยตัวเองคนเดียว ?” ทันใดนั้นเธ้าซั่นไมล์ก็รู้สึกเวียนหัวเล็กน้อย เมื่อได้รับคำยืนยันแบบนี้

ข้อมูลนี้มันมากเกินไปสำหรับสมองของเขาที่จะประมวลผลได้ เขาเริ่มคิดด้วยซ้ำว่าตอนนี้เขากำลังหลอนอะไรรึปล่าว ….

“ตามที่พวกทีมช่วยเหลือรายงานมา แบล๊คเฟรมนั้นมีโดเมนมานาในครอบครองแล้ว โดยขอบเขตกับความแข็งแกร่งของโดเมนมานาของเขามันก็น่ากลัวมากเช่นกัน ผู้เชี่ยวชาญขั้นสามจะไม่สามารถใช้พลังในการต่อสู้ของตัวเองได้ถึงสิบเปอเซ็นต์เลยเมื่ออยู่ภายใน และแค่จะขยับร่างกายตัวเองภายในโดเมนมานาของแบล๊คเฟรม มันก็เป็นงานที่ท้าทายแล้ว ….” เบอเซิกเกอร์รายงาน หลังจากเรียกความกล้าของตัวเองออกมา

ไม่เพียงแต่จะมีผู้เล่นคนหนึ่งได้รับโดเมนมานามา แต่โดเมนมานาของผู้เล่นคนนั้นยังแข็งแกร่งและน่ากลัวมากๆด้วย ถ้ามีใครมาบอกเขาเรื่องนี้ก่อนหน้านี้ เขาคงจะคิดว่าคนๆนั้นบ้า หรือไม่ก็เป็นพวกหน้าใหม่ที่พึ่งเข้ามาเล่น God domain แน่นอน

“โดเมนมานา ?” การแสดงออกของเธ้าซั่นไมล์แข็งค้างไป “เขามีโดเมนมานาได้ยังไงกัน ?”

ในเวลานี้เธ้าซั่นไมล์นั้นไม่ใช่คนเดียวที่ตกตะลึง พวกระดับสูงของมหาอำนาจอื่นๆเองก็ตกตะลึงมากพอกันเมื่อพวกเขาได้ยินข่าวนี้ เพราะท้ายที่สุดเรื่องที่ซือเฟิงมีโดเมนมานา และทำลายล้างทีมช่วยเหลือสี่ทีมด้วยตัวเองนั้น มันจัดว่าไม่น่าเชื่อเอามากๆเลยทีเดียว

ใน God domain โดเมนมานานั้นเป็นตัวใช้กำหนดมาตราฐานว่า NPC แข็งแกร่งหรืออ่อนแอ ซึ่งตราบใดที่ NPC มีโดเมนมานา พวกเขาก็จะถือว่าเป็นตัวตนที่ทรงพลังอย่างแท้จริงใน God domain !!!

หลังจากสมาชิกของฟรอสต์ฮีฟเว่นได้รับรายงานโดยละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างการทดสอบรอบคัดเลือก พวกเขาก็เงียบลงไปเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริลเลี่ยนบลูที่ตอนนี้มีสีหน้าที่เหี่ยวย่นและบิดเบี้ยวอย่างน่าเกลียด

ก่อนหน้านี้ไม่มีใครจากฟรอสต์ฮีฟเว่นเชื่อในสิ่งที่ซือเฟิงพูด และในความคิดของพวกเขา ซือเฟิงนั้นก็แค่โม้เท่านั้น แถมบริลเลี่ยนบลูยังมีท่าทีล้อเลียนว่าซือเฟิงหยิ่งยโสด้วย

อย่างไรก็ตามตอนนี้พวกที่ได้เข้าร่วมการทดสอบรอบคัดเลือกนั้นได้รายงานมายังพวกเขาแล้วว่าทุกเรื่องเป็นเรื่องจริง ยิ่งไปกว่านั้นสถานการณ์มันยังน่ากลัวกว่าที่ซือเฟิงอธิบายไว้ด้วยซ้ำ

“ผู้อาวุโสหง คุณกับมู่ฉินรู้เรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นแล้วงั้นหรอ ?” เซเว่นวอร์นเดอร์อดไม่ได้ที่จะถามหงซินหยวน

“เรารู้นิดหน่อยแหละ ….” หลังจากนั้นหงซินหยวนก็กล่าวเสริมว่า “อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นรักษาความลับให้สามารถไปถึงเป้าหมายได้ เราจึงไม่ได้บอกใคร”

มู่ฉินพยักหน้าเห็นด้วย เธอเพียงแค่ประหลาดใจกับสถิติการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมเท่านั้น เพราะเธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าโดเมนมานาของซือเฟิงจะทรงพลังมากขนาดนี้ เมื่อมันถูกปล่อยออกมาอย่างเต็มที่ มันแข็งแกร่งกว่าตอนที่เธอเผชิญราวสิบเท่าได้เลย

“คุณสองคนช่างรู้วิธีจะทำให้เราตามืดบอดจริงๆ ….” เมื่อเซเว่นวอร์นเดอร์มองไปที่การแสดงออกที่ไม่แยแสของหงซินหยวน และนึกถึงสถานการณ์ของซือเฟิงก่อนหน้านี้ เขาก็ยิ้มอย่างขมขื่น ก่อนจะกล่าวต่อว่า “เมื่อเป็นแบบนี้ ฉันจะปล่อยเรื่องสภาสิบแปดปีกทั้งตอนนี้และในอนาคตให้คุณจัดการแล้วกัน”

หลังจากมองไปที่บริลเลี่ยนบลูที่ยังคงเงียบอยู่ หงซินหยวนก็ยิ้มจางๆและพูดว่า “หัวหน้ากิล โปรดวางใจได้เลย”

หลังจากสิ้นสุดการทดสอบรอบคัดเลือก ข่าวเรื่องสภาสิบแปดปีกก็แพร่ออกไปอย่งรวดเร็วเช่นเดียวกับโรคระบาด นี่เป็นเรื่องจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับแบล๊คเฟรม ซึ่งนี่มันทำให้กิลขนาดใหญ่หลายกิลที่มาเข้าชมการแข่งขันล้วนเต็มไปด้วยความตกตะลึง

ไม่เพียงแต่แบล๊คเฟรมจะจัดการเรื่องการทดสอบรอบคัดเลือกด้วยตัวคนเดียว แต่ตามข่าวลือแล้ว เขายังครอบครองโดเมนมานาอีกด้วย

และบันทึกการต่อสู้ในครั้งนี้ของแบล๊คเฟรมก็ทำให้แบล๊คเฟรมกลายเป็นจุดสนใจของผู้เล่นทั่วจักรวรรดิมังกรไฟ ผู้เล่นของจักรวรรดิจำนวนไม่น้อยถึงกับต้องการจะเข้าร่วมกิลกึ่งมหาอำนาจที่มีชื่อว่า สภาสิบแปดปีก

วิหารเทพสงคราม ห้อง VIP ของไมโทโลจี้ :

“รองหัวหน้ากิล ตอนนี้สถานการณ์นั้นค่อนข้างจะลำบากแล้ว แบล๊คเฟรมนั้นไม่เพียงแต่จะมีโดเมนมานาเท่านั้น แต่ชื่อเสียงของเขามันยังแพร่กระจายไปทั่วจักรวรรดิมังกรไฟอีกด้วย ฉันคิดว่านี่มันจะทำให้เป็นเรื่องยากมากเลยทีเดียวสำหรับพวกเราที่จะเข้าซื้อกิจการของพวกเขา” ไวท์เฟเธอร์กล่าวอย่างกังวล เมื่อเธอเห็นชื่อของแบล๊คเฟรมอยู่ในโพสของฟอรั่มทางการของจักรวรรดิมังกรไฟทุกโพส “สถานการณ์นี้อาจส่งผลต่ออันดับของมิราเคิลด้วยซ้ำ”

ไมโทโลจี้ได้เลือกที่จะเป็นพันธมิตรกับมิราเคิลในการแข่งขันครั้งนี้ ซึ่งในแง่รากฐานและความแข็งแกร่งของกิลนั้นมิราเคิลอยู่เหนือฟรอสต์ฮีฟเว่น อย่างไรก็ตามตอนนี้ไม่เพียงแต่มิราเคิลจะสูญเสียความช่วยเหลือจากทีมช่วยเหลือของพวกเขาทั้งหมด แต่ฟรอสต์ฮีฟเว่นยังมีสภาสิบแปดปีกสนับสนุนด้วย ตอนนี้ช่องว่างความแข็งแกร่งของทั้งสองกิลนั้นมันแคบลงด้วยขอบเขตขนาดใหญ่เลย

“แบล๊คเฟรมได้กลายเป็นตัวแปรสำคัญแล้วในตอนนี้ ….” เมื่อได้อ่านรายงานการต่อสู้ทั้งหมดโคลท์ชาโด้วก็ยิ้ม ก่อนที่เธอจะกล่าวเสริมว่า “อย่างไรก็ตามในท้ายที่สุดแล้ว การต่อสู้เพื่อแย่งชิงตำแหน่งสำรองทั้งหกนี้ มันไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถตัดสินได้ด้วยความแข็งแกร่งของคนเพียงคนเดียว ไม่ต้องพูดถึงเรื่องโดเมนมานาเลย แม้แต่แบล๊คเฟรมก็อาจจะอยู่รอดได้ไม่นานนักในการแข่งขันอย่างเป็นทางการ เพราะบุคคลที่ยิ่งใหญ่คนหนึ่งได้บอกแล้วว่าเขาจะจัดการกับแบล๊คเฟรมเป็นการส่วนตัว !!!”

“บุคคลที่ยิ่งใหญ่กำลังจะเคลื่อนไหวงั้นหรอ ?” ข่าวนี้ทำให้ไวท์เฟเธอร์ประหลาดใจ

“อืม ตอนนี้แบล๊คเฟรมคงจะคิดว่าเขาเป็นอมตะในหมู่ผู้เล่นในปัจจุบัน เพราะเขามีโดเมนมานา แต่เขาไม่ได้รู้เลยว่ามันมักจะมีคนที่แข็งแกร่งกว่าตัวเองอยู่เสมอ และแม้แต่โดเมนมานาก็จะไม่สามารถช่วยให้เขารับมือกับคนๆนี้ได้แน่นอน” โคลท์ชาโด้วยิ้มเยาะ เมื่อเธออ่านรายงานโดยละเอียดเกี่ยวกับซือเฟิง

แม้ว่าโดเมนมานาจะทรงพลัง แต่มันก็นับว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย เมื่ออยู่ต่อหน้าความแข็งแกร่งที่แท้จริง

ในขณะที่มหาอำนาจต่างๆกำลังอดทนรอให้การแข่งขันอย่างเป็นทางการเริ่มต้นขึ้น ซือเฟิงก็ได้แอบเข้าไปที่บาร์แห่งหนึ่งที่มีชื่อว่ามูนไฟร์ ในเขตชาตเมืองของเมืองมังกรไฟ

ในเวลานี้มันมีผู้หญิงเพียงคนเดียวที่นั่งอยู่เงียบๆที่เค้าเตอร์ของบาร์

โดยผู้หญิงคนนี้นั้นสวมเสื้อคลุมสีฟ้าอ่อน และมีร่างที่บอบบางมากๆ ซึ่งแค่มองเธอจากด้านหลัง เธอก็จะสามารถสะกดจิตผู้คนนับไม่ถ้วนให้หลงใหลได้ อย่างไรก็ตามออร่าของผู้หญิงคนนี้นั้นร้อนแรงราวกับเปลวไฟ ทำให้ผู้คนนั้นไม่กล้าที่จะเข้าใกล้ตัวเธอ

“คุณมาแล้วสินะ …” เมื่อผู้หญิงคนนี้เห็นซือเฟิงเข้ามาในบาร์ เธอก็ทักทายเขาราวกับเจอกับเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอมานาน

ในขณะเดียวกันผู้หญิงคนนี้ก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากปรมาจารย์ฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยนของ
ดราก้อนฟีนิกซ์พาวิลเลี่ยน

ราชินีปีศาจ ฟีนิกซ์เรน !!!

Reincarnation Of The Strongest Sword God

Reincarnation Of The Strongest Sword God

เริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง เขาได้เข้ามาสู่ “เกมแห่งมีชีวิต” นี้อีกครั้งเพื่อที่จะควบคุมโชคชะตาของตัวเอง ครั้งนี้ , เขาจะไม่ถูกควบคุมจากคนอื่น ก่อนหน้านี้ราชาแห่งดาบเลเวล 200 , เขาได้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในชีวิต วิธีการที่จะได้รับเงิน! กลยุทธ์แห่งชัยชนะในดันเจี้ยน! เควสในตำนาน! สถานที่ดรอปอุปกรณ์! ทักษะที่ยังไม่ถูกค้นพบ! แม้แต่ความลับที่พวกผู้ทดสอบเบต้าไม่รู้ , เขารู้มันทั้งหมด สงครามอันยิ่งใหญ่ , ความก้าวหน้าในชีวิต , เข้าสู่ความเป็นพระเจ้า , บรรลุถึงจุดสูงสุดแห่งดาบ ตำนานของชายผู้ที่จะกลายเป็นเทพแห่งดาบได้เริ่มขึ้นแล้ว Starting over once more, he has entered this “living game” again in order to control his own fate. This time, he will not be controlled by others. Previously the Level 200 Sword King, he will rise to a higher peak in this life. Methods to earn money! Dungeon conquering strategies! Legendary Quests! Equipment drop locations! Undiscovered battle techniques! Even the secrets Beta Testers were unknowledgeable of, he knows of them all. Massive wars, life advancement, entering Godhood, sword reaching to the peak; a legend of a man becoming a Sword God has begun.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset