Reincarnation Of The Strongest Sword God – ตอนที่ 2722

ตอนที่ 2722 ไม่เสียใจ

“ทำให้กิลต่างๆรู้ว่าตำแหน่งที่หกที่เป็นตำแหน่งสุดท้ายเป็นของเรางั้นหรอ ?! จะทำได้ยังไงกัน ?!” มู่ฉินเผยรอยยิ้มที่ขมขื่นออกมาเมื่อได้ยินคำพูดของซือเฟิง

“มันมีตำแหน่งสำรองอยู่หกตำแหน่งให้ไขว่คว้า แต่กิลต่างๆกับเลือกจะยอมแพ้ไปห้าจากหกตำแหน่งสำรองนี้ คุณคิดว่ามันเป็นเพราะอะไรล่ะ ?” ซือเฟิงตอบคำถามของมู่ฉินด้วยคำถาม

“มันไม่ชัดเจนงั้นหรอ ? มันก็เป็นห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดนั้นทรงพลังมากเกินไป ซึ่งมันทำให้ไม่มีทางที่กิลอื่นจะแข่งขันกับพวกเขาได้ ….” มู่ฉินตอบอย่างไม่เข้าใจว่าทำไมซือเฟิงถึงได้ถามเรื่องนี้

ใครที่จะได้เป็นเจ้าของห้าจากหกตำแหน่งสำรองนั้น ทุกคนก็สามารถจะมองออกได้อย่างชัดเจนอยู่แล้ว ไม่งั้นกิลต่างๆคงจะไม่แข่งกันอย่างบ้าคลั่งเพื่อแย่งชิงตำแหน่งที่หกที่เป็นตำแหน่งสุดท้ายที่เหลืออยู่หรอก บางกิลกระทั่งยอมเสี่ยงด้วยทุกอย่างที่พวกเขามีด้วยซ้ำ

“ถูกต้อง มันเป็นเพราะห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดนั้นทรงพลังมากเกินไป” ซือเฟิง
กล่าวพลางพยักหน้า “ดังนั้นกิลเหล่านี้จึงไม่กล้าจะแข่งขันและปะทะกับห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดนี้”

“คุณหมายถึงเราต้องทำให้กิลต่างๆเห็นว่าเราแข็งแกร่งเกินกว่าจะยั่วยุได้งั้นหรอ ? นั่นมันไม่น่าจะเป็นไปได้ ….” มู่ฉินพูดพลางส่ายหัว ตอนนี้เธอรู้สึกเหมือนกับว่าซือเฟิงกำลังพยายามจะสร้างปราสาทกลางอากาศ “ฟรอสต์ฮีฟเว่นไม่มีความแข็งแกร่งแบบที่ว่าในตอนนี้นะ ….”

“คุณพูดถูก ….” ซือเฟิงกล่าวอย่างเฉยเมย “นั่นคือเหตุผลที่เราต้องทำตัวบ้าคลั่งให้ถึงที่สุดบ้าคลั่งจนกิลอื่นๆกลัวเรา ซึ่งหากเราทำได้ เราก็จะมีโอกาสได้รับชัยชนะและได้รับตำแหน่งที่หกที่เป็นตำแหน่งสำรองสุดท้ายไปในครั้งนี้ ….”

พวกเขาไม่สามารถที่จะตั้งรับได้ และแม้ว่าพวกเขาจะตัดสินใจตั้งรับจริงๆ พวกเขาก็จะไม่สามารถปกป้องอะไรไว้ได้เลยแน่นอน เพราะตอนนี้กิลต่างๆทั้งหมดนอกเหนือจากห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดนั้นถือว่าเป็นศัตรูของฟรอสต์ฮีฟเว่นแล้ว และแม้แต่ซือเฟิงก็ไม่สามารถจะเปลี่ยนกระแสการต่อสู้ในครั้งนี้ได้ เพราะท้ายที่สุดแล้วนี่มันเป็นการแข่งขันเพื่อแย่งชิงพื้นที่ทรัพยากร ไม่ใช่การแข่งขันประชันด้านความแข็งแกร่ง และแม้ว่าเขาจะเข้ายึดพื้นที่ทรัพยากรทั้งหมดบนเกาะที่เขาอยู่ได้ แต่มันก็ยังมีเกาะอื่นๆอีกสิบเจ็ดเกาะที่ฟรอสต์ฮีฟเว่นไม่สามารถจะทำได้

นี่ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่าการจะยึดให้ได้ทั้งเกาะนั้นมันเป็นเรื่องท้าทายสำหรับเขามากๆ

ขนาดของเกาะหมายเลขสามนั้นเหมือนกับแผนที่เป็นกลางเลเวลหนึ่งร้อย หากผู้เล่นของกิลต่างๆซ่อนตัวจากเขา เขาก็จะมีปัญหาอย่างมากในการค้นหาผู้เหล่านี้ แม้ว่าเขาจะมีโดเมนมานาก็ตาม ยิ่งไปกว่านั้นผู้เล่นที่เข้าร่วมทุกคนยังเป็นผู้เชี่ยวชาญขั้นสาม ซึ่งเมื่อไม่อยู่ภายใต้ดีบัฟใดๆ ผู้เล่นเหล่านี้จะสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วมากๆ นอกจากนี้ในขณะที่เขาต้องเข้ายึดพื้นที่ทรัพยากรจำนวนมากบนเกาะ เขาก็ต้องทำให้มั่นใจด้วยว่าเขาและพรรคพวกของเขาจะสามารถรักษามันไว้ได้

“เราจะทำอย่างนั้นได้ยังไง ? แม้ว่าเราเลือกจะบ้าคลั่ง แต่เราก็ยังต้องการเป้าหมาย !!”

มู่ฉินเข้าใจถึงสิ่งที่ซือเฟิงพูด อย่างไรก็ตามเธอคิดว่ามันยากที่จะจินตนาการมากๆว่าพวกเขาจะทำให้กิลต่างๆหวาดกลัว และยอมแพ้ที่จะแข่งขันกับพวกเขาได้อย่างไร

“แน่นอนเรามีอยู่เป้าหนึ่ง ….” ซือเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่เขาจะกล่างเสริมว่า “และมันก็พร้อมให้เราเริ่มเคลื่อนไหวแล้วด้วย”

“คุณกำลังพูดถึงมิราเคิลใช่ไหม ?” มู่ฉินส่ายหัว “แม้ว่ามิราเคิลจะใช้กลอุบายแบบนี้กับเรา แต่ฉันคิดว่าแม้ว่าเราจะกวาดล้างมิราเคิลไปได้ กิลอื่นๆก็จะยังคงไม่ปล่อยเราไปอยู่ดี”

“ไม่ !! ไม่ใช่มิราเคิล !!! มิราเคิลจะไปมีคุณสมบัติเหมาะสำหรับบทดังกล่าวได้ยังไง ?” ซือเฟิงยิ้มขณะส่ายหัว “ก่อนหน้านี้คุณพูดถึงห้ากิลที่คนอื่นๆไม่กล้าจะแข่งขันและปะทะด้วยอยู่ไม่ใช่หรอ ?”

มู่ฉินอ้าปากค้างอย่างไม่ตั้งใจ เมื่อเธอได้ยินคำพูดของซือเฟิง “คุณกำลังจะบอกว่า ….”

“ถูกต้อง ห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดนั่นแหละ ….” ซือเฟิงพยักหน้า “แน่นอนว่าเราไม่จำเป็นต้องกำหนดเป้าหมายไปที่ทั้งห้ากิล แค่ไมโทโลจี้มันก็น่าจะเพียงพอแล้ว” ในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขา มิราเคิลได้อาศัยไมโทโลจี้เพื่อให้ตัวเองได้รับหนึ่งในตำแหน่งสำรองไประหว่างการแข่งขันครั้งแรก และเนื่องจากเขากำลังต่อสู้กับมิราเคิลอยู่ในชีวิตนี้ มันจึงเป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นก่อนที่เขาจะต้องปะทะกับไมโทโลจี้ ดังนั้นในกรณีนี้เขาจึงเลือกจะชิงความได้เปรียบด้วยการเข้าตีก่อน

“นี่มันจะไม่บ้าคลั่งเกินไปหน่อยงั้นหรอ ?! นั่นคือหนึ่งในห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดเลยนะที่เรากำลังพูดถึง !!!”

มู่ฉินอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกลัว เมื่อเอ่ยถึงการยั่วยุและตั้งตนเป็นศัตรูกับหนึ่งในห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุด

ห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดนั้นเป็นเหมือนดวงอาทิตย์ในอุตสาหกรรมเกมเสมือนจริง ในขณะที่กิลส่วนใหญ่ที่ถูกก่อตั้งขึ้นมาทีหลังอาจประกาศเป้าหมายที่อยากจะก้าวข้ามกิลเหล่านี้ แต่มันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งไปเลยหากจะต้องต่อสู้กับหนึ่งในนั้น

สำหรับมหาอำนาจต่างๆ ยิ่งพวกเขาแข็งแกร่งขึ้นมากเท่าไหร่ พวกเขาก็ยิ่งกลัวห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดมากขึ้นเท่านั้น เพราะท้ายที่สุดรากฐานของห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดนั้น มันเป็นสิ่งที่ไม่อาจหยั่งถึงได้เลย

“นี่มันไม่ใช่เรื่องบ้าคลั่งเกินไปเลย ….” ซือเฟิงส่ายหัว ก่อนที่เขาจะพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังต่อว่า “นี่มันเป็นทางออกเดียวของฟรอสต์ฮีฟเว่น”

“คุณจะได้ตำแหน่งสุดท้ายที่เหลือนี้มาหรือไม่ มันก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคุณ”

หลังจากพูดจบ ซือเฟิงก็หยุดการพยายามโน้มน้าวมู่ฉิน และให้เธอถ่ายทอดข้อความนี้ของเขาไปยังเซเว่นวอร์นเดอร์ ไม่ว่าพวกเขาจะทำตามแผนของเขาหรือไม่ มันก็จะขึ้นอยู่กับหัวหน้ากิลของฟรอสต์ฮีฟเว่นผู้นี้

“ประกาศสงครามกับไมโทโลจี้ ? แบล๊คเฟรมบ้าไปแล้วงั้นหรอ ?” บริลเลี่ยนบลูตัวสั่น เมื่อเขาได้ยินเรื่องคำแนะนำจากซือเฟิง ก่อนที่เขาจะรีบติดต่อกับเซเว่นวอร์นเดอร์ และทักท้วงว่า “หัวหน้ากิล นั่นคือหนึ่งในห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดเลยนะที่เรากำลังพูดถึง !!! แม้แต่ฟรอสต์ฮีฟเว่นสามกิลก็จะไม่สามารถต่อกรกับพวกเขาได้ !!!”

“ฉันเข้าใจ” เซเว่นวอร์นเดอร์กล่าวด้วยใบหน้าที่เศร้าหมอง ก่อนที่เขาจะกล่าวต่อแบบหมดหนทางว่า “อย่างไรก็ตามเรามีเพียงสองทางเลือกเท่านั้น หากเราต้องหากตำแหน่งสำรองที่เหลือหนึ่งตำแหน่งนั่น หนึ่งคือการต่อสู้กับกิลต่างๆจำนวนมากที่ร่วมมือกัน และสองคือต่อสู้กับไมโทโลจี้ มันไม่มีทางเลือกอื่น”

แผนของมิราเคิลนั้นโหดเหี้ยมมากเกินไป

หากฟรอสต์ฮีฟเว่นต้องต่อสู้กับมหาอำนาจต่างๆ พวกเขาก็จะไม่มีโอกาสใดๆเลย เพราะท้ายที่สุดแล้วในสถานการณ์แบบนี้ ฟรอสต์ฮีฟเว่นก็จะแทบหมดสิทไปโจมตีคนอื่น และทำได้เต็มที่แค่ป้องกันพื้นที่ของตนเองเท่านั้น อย่างไรก็ตามฟรอสต์ฮีฟเว่นจะป้องกันกิลจำนวนมากที่ถาโถมกันเข้ามาจากทุกด้านได้ยังไง ?

ดังนั้นทางเลือกเดียวที่ฟรอสต์ฮีฟเว่นเหลืออยู่ มันก็คือการโจมตีไมโทโลจี้ หากฟรอสต์ฮีฟเว่นประสบความสำเร็จในการทำให้ไมโทโลจี้ต้องสูญเสียสักประมาณหนึ่ง มันก็จะช่วยพวกเขาได้มากเลยในการแย่งชิงตำแหน่งสำรองที่เหลือตำแหน่งสุดท้าย

ในขณะเดียวกัน หลังจากที่เซเว่นวอร์นเดอร์พูดจบ บริลเลี่ยนบลูก็จมอยู่ในห้วงคิดของเขา

“ตอนนี้พูดกันตรงๆ เรามีทางเลือกเดียวเท่านั้น ….” เมื่อมองไปที่ใบหน้าของบริลเลี่ยนบลูที่ปรากฎขึ้นบนหน้าจอ เซเว่นวอร์นเดอร์ก็ถามว่า “เราจะสู้ไหม ?”

“หัวหน้ากิล แม้ว่าฉันจะต้องการจะสู้ แต่เราจะเคลื่อนไหวกันยังไงต่อไป ? นั่นคือไมโทโลจี้เลยนะที่เรากำลังพูดถึง เราจะไม่มีโอกาสใดๆสำหรับการแก้ตัว หากทำอะไรผิดพลาดไป ….” บริลเลี่ยนบลูกล่าวด้วยรอยยิ้มขมขื่น

เกาะหมายเลขสิบเอ็ดที่เขาถูกส่งมานั้น มันมีทีมของฟรอสต์ฮีฟเว่นอยู่เพียงสามทีม โดยหนึ่งคือทีมห้าร้อยคนที่นำโดยเขา อีกหนึ่งคือทีมสามร้อยคนที่นำโดยผู้อาวุโสของกิล ขณะที่ทีมสุดท้ายคือทีมหนึ่งร้อยคนที่นำโดยไวโอเล็ตคลาวด์ ซึ่งเมื่อนับรวมแล้ว พวกเขาก็จะมีผู้เล่นทั้งหมดเก้าร้อยคน

ในทางกลับกันไมโทโลจี้นั้นมีสมาชิกทั้งหมดอยู่สองพันหกร้อยคนบนเกาะหมายเลขสิบเอ็ด ยิ่งไปกว่านั้นบุคคลที่ทำทีมของไมโทโลจี้บนเกาะนี้ก็คือผู้มีฉายาว่าหอกศักสิทธิ์ เดมอนเร็ค หนึ่งในผู้บัญชาการกองกำลังหลักของไมโทโลจี้ และเป็นหนึ่งในตัวตนระดับตำนานของกิล

“คุณคิดว่าเกาะอื่นๆจะมีโอกาสชนะสูงงั้นหรอ ?” เซเว่นวอร์นเดอร์กลอกตาพลางมองไปยังบริลเลี่ยนบลู

สมาชิกของไมโทโลจี้นั้นถูกแบ่งออกไปอย่างเท่าเทียมกัน และทุกๆเกาะที่มีสมาชิกของไมโทโลจี้อยู่นั้น จะมีสมาชิกของไมโทโลจี้เป็นจำนวนอย่างน้อยสองพันคน และตามข้อมูลที่ทีมทั้งหมดของฟรอสต์ฮีฟเว่นรายงานมาจากทั้งเจ็ดเกาะ มันมีเพียงเกาะหมายเลขสิบเจ็ดเท่านั้นที่ไม่มีการปรากฎตัวของสมาชิกไมโทโลจี้

“อย่างไรก็ตามคุณไม่จำเป็นต้องรีบร้อนหรอก ไปรวมกลุ่มกับสมาชิกสภาสิบแปดปีกก่อนที่จะดำเนินการ” เซเว่นวอร์นเดอร์กล่าวเสริม

“ฉันเข้าใจแล้ว แม้ว่าฉันจะต้องตาย แต่ฉันก็จะทำให้สมาชิกของไมโทโลจี้ต้องทุกข์ทรมาณอย่างถึงที่สุด !!!” บริลเลี่ยนบลูไม่ได้คัดการตัดสินใจของเซเว่นวอร์นเดอร์ เนื่องจากการต่อสู้ที่จะเกิดขึ้นนี้มันจะเป็นตัวชี้วัดว่าฟรอสต์ฮีฟเว่นจะรุ่งโรจน์ขึ้นไปหรือตกต่ำลง

หลังจากนั้นเซเว่นวอร์นเดอร์ก็ได้เริ่มถ่ายทอดคำสั่งของเขาไปยังสมาชิกของฟรอสต์ฮีฟเว่นบนเกาะอื่นๆ ภายในสองชั่วโมง พวกเขาจะเริ่มโจมตีพื้นที่ทรัพยากรของไมโทโลจี้พร้อมกันบนเกาะทั้งหมดที่ฟรอสต์ฮีฟเว่นมีสมาชิกอยู่

ในขณะที่สมาชิกของฟรอสต์ฮีฟเว่นกำลังรอคอยช่วงเวลาแห่งการตัดสินชะตากรรมของพวกเขาให้มาถึงอย่างเงียบๆ การต่อสู้ที่เกิดขึ้นบนเกาะต่างๆมันก็เป็นไปอย่างดุเดือดมากๆ ซึ่งการปะทะกันระหว่างมหาอำนาจต่างๆที่เข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ มันก็ทำให้กิลขนาดใหญ่หลายกิลที่มาอยู่ที่นี่ในฐานะผู้ชมตกตะลึงอย่างมาก

พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่ารากฐานของมหาอำนาจนี้จะน่ากลัวมากๆ

หากไม่ใชเพราะการแข่งขันครั้งนี้ มันก็คงไม่มีใครรู้เลยว่ารุ่นเยาว์ของมหาอำนาจต่างๆได้พัฒนาไปถึงระดับที่น่ากลัวขนาดนี้แล้ว เพราะไม่เพียงแต่รุ่นเยาว์จำนวนมากนี้จะมาถึงขอบเขตอนันต์แล้ว แต่มันยังมีบางส่วนที่มาถึงขอบเขตโดเมนแล้วด้วย

หากได้รับเวลามากเพียงพอ เหล่ารุ่นเยาว์ที่อยู่ในขอบเขตโดเมนตอนนี้ ในอนาคตจะกลายเป็นหนึ่งในผู้นำของ God domain แน่นอน

ไม่นานหลังจากที่การต่อสู้เริ่มขึ้น พื้นที่ทรัพยากรต่างๆก็เริ่มตกไปอยู่ภายใต้การครอบครองของกิลต่างๆที่เข้าร่วม และมันก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเลย เมื่อเห็นพื้นที่ทรัพยากรต่างๆที่ห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งที่สุดได้ครอบครอง ขณะที่พวกกิลที่อยู่รองลงมาจากพวกเขาก็คือมิราเคิล และ Sacred Temple

โดยทั้งมิราเคิล และ Sacred Temple นั้นติดห้าอันดับแรกจากห้าเกาะที่พวกเขามีสมาชิกอยู่ ซึ่งหากสถานการณ์ยังคงเป็นแบบนี้ต่อไป มันก็จะเป็นหนึ่งในสองกิลนี้แน่นอนที่จะได้ตำแหน่งสำรองที่สุดท้ายที่เหลือ

อย่างไรก็ตามในขณะที่ทุกคนกำลังคาดเดาว่าสองกิลนี้ กิลใดกันจะได้รับตำแหน่งสุดท้ายไป ผู้เข้าชมบางส่วนก็เริ่มสังเกตเห็นถึงความผิดปกติ

“เกิดอะไขึ้นกับฟรอสต์ฮีฟเว่น พวกเขาไม่ได้พยายามจะต่อสู้เพื่อแย่งชิงพื้นที่ทรัพยากรใดๆเลย ….”

“นั่นสิ นอกเหนือจากเกาะหมายเลขสิบเจ็ดที่พวกเขาได้อันดับห้าแล้ว พวกเขาก็ยังไม่เคลื่อนไหวใดๆเลยบนเกาะอีกหกเกาะ”

“นี่พวกเขายังไม่ได้ยอมแพ้ใช่ไหม ? หรือว่าพวกเขาหวาดกลัวอะไรอยู่ ?”

ผู้เข้าชมหลายคนต่างเริ่มพูดคุยถึงเรื่องของฟรอสต์ฮีฟเว่นกันอย่างเย้ยหยัน ในตอนแรกพวกเขาคิดว่าฟรอสต์ฮีฟเว่นก็น่าจะมีสิทเล็กๆเช่นกันในตำแหน่งสุดท้ายที่เหลือ อันเนื่องมาจากม้ามืดอย่างสภาสิบแปดปีก อย่างไรก็ตามตอนนี้มันก็เป็นเพราะตัวตนของสภาสิบแปดปีกที่ทำให้ฟรอสต์ฮีฟเว่นนั้นไม่กล้าจะเริ่มเคลื่อนไหวเพื่อต่อสู้กับมหาอำนาจอื่นๆในการแย่งชิงพื้นที่ทรัพยากร

“รองหัวหน้า คุณคิดว่าฟรอสต์ฮีฟเว่นจะยอมแพ้ไปทั้งๆแบบนี้ไหม ?” เมื่อไวท์เฟเธอร์อ่านบทสรุปเกี่ยวกับสถานการณ์การต่อสู้ เธอก็อดไม่ได้ที่จะสงสัยเรื่องของ
ฟรอสต์ฮีฟเว่น

“ก็อาจจะนะ แผนการของมิราเคิลนั้นจัดว่าโหดเหี้ยมมากๆ ตราบเท่าที่ฟรอสต์ฮีฟเว่นเริ่มเคลื่อนไหว กิลอื่นๆทุกกิลก็จะกำหนดเป้าหมายมาที่พวกเขาแน่นอน” โคลท์ชาโด้วกล่าวด้วยรอยยิ้มบางๆ “ช่างน่าเสียดาย ถ้าฟรอสต์ฮีฟเว่นไม่ได้เชิญสภาสิบแปดปีกมาเข้าร่วมด้วย บางทีกิลอาจยังพอมีสิทชิงตำแหน่งที่เหลืออยู่บ้าง แต่ตอนนี้กิลไม่มีโอกาสเลย”
ในตอนนี้โคลท์ชาโด้วไม่ใช่คนเดียวที่คิดว่าฟรอสต์ฮีฟเว่นยอมแพ้ไปแล้ว มหาอำนาจต่างๆที่เข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ก็คิดเช่นกัน เพราะพวกเขาคิดว่ามันเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาดที่สุดแล้ว เนื่องจากถ้าฟรอสต์ฮีฟเว่นเลือกจะสู้ ผลที่จบลงมันก็จะเป็นการที่ฟรอสต์ฮีฟเว่นถูกทำลายล้างแน่นอน

การเลือกจะรักษาความแข็งแกร่งของตัวเองไว้ให้มากที่สุด แล้วยอมแพ้ไปเตรียมพร้อมเพื่อการแข่งขันนี้ในปีหน้า มันเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย

ในขณะที่กิลต่างๆกำลังเฝ้าดูคะแนนกิลของพวกเขาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้สมาชิกของฟรอสต์ฮีฟเว่นก็ได้เข้าประชิดพื้นที่ทรัพยากรของไมโทโลจี้กันแล้ว และตอนนี้หัวใจของสมาชิกของฟรอสต์ฮีฟเว่นก็เต็มไปด้วยความกังวลและตื่นเต้นมากๆ

หลังจากมองไปที่พื้นที่ทรัพยากรขั้นสูงที่อยู่ภายใต้การยึดครองของไมโทโลจี้ที่มีการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา ซือเฟิงก็ได้เช็คเวลาอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะตะโกนออกคำสั่งผ่านแชททีมว่า “มันถึงเวลาแล้ว !!! มาเริ่มกันได้ !!!”

Reincarnation Of The Strongest Sword God

Reincarnation Of The Strongest Sword God

เริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง เขาได้เข้ามาสู่ “เกมแห่งมีชีวิต” นี้อีกครั้งเพื่อที่จะควบคุมโชคชะตาของตัวเอง ครั้งนี้ , เขาจะไม่ถูกควบคุมจากคนอื่น ก่อนหน้านี้ราชาแห่งดาบเลเวล 200 , เขาได้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในชีวิต วิธีการที่จะได้รับเงิน! กลยุทธ์แห่งชัยชนะในดันเจี้ยน! เควสในตำนาน! สถานที่ดรอปอุปกรณ์! ทักษะที่ยังไม่ถูกค้นพบ! แม้แต่ความลับที่พวกผู้ทดสอบเบต้าไม่รู้ , เขารู้มันทั้งหมด สงครามอันยิ่งใหญ่ , ความก้าวหน้าในชีวิต , เข้าสู่ความเป็นพระเจ้า , บรรลุถึงจุดสูงสุดแห่งดาบ ตำนานของชายผู้ที่จะกลายเป็นเทพแห่งดาบได้เริ่มขึ้นแล้ว Starting over once more, he has entered this “living game” again in order to control his own fate. This time, he will not be controlled by others. Previously the Level 200 Sword King, he will rise to a higher peak in this life. Methods to earn money! Dungeon conquering strategies! Legendary Quests! Equipment drop locations! Undiscovered battle techniques! Even the secrets Beta Testers were unknowledgeable of, he knows of them all. Massive wars, life advancement, entering Godhood, sword reaching to the peak; a legend of a man becoming a Sword God has begun.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset