Reincarnation Of The Strongest Sword God – ตอนที่ 2741

ตอนที่ 2741 จิตใจที่แข็งแกร่ง

ภายในทางเดินที่มืดมิด ซือเฟิงได้เดินตรงเข้ามาเป็นเวลาห้านาทีแล้ว ก่อนที่เขาจะมาถึงห้องโถงที่สว่างไสว ….

โดยห้องโถงนี้มีขนาดเท่ากับสนามบาสเก็ตบอลและไม่มีการตกแต่งใดๆ ห้องโถงนี้มีแสงที่เรืองแสงออกมาจากผนังห้องซึ่งมันช่วยส่องสว่างไปทั่วห้อง เมื่อเดินเข้ามาในห้องโถงนี้ ซือเฟิงก็รู้สึกราวกับว่าเขาพึ่งเดินเข้ามาในพื้นที่สีขาว

นี่คือเส้นทางจิตที่พวกเขาพูดถึงงั้นหรอ ?

ซือเฟิงรู้สึกตกตะลึงเล็กน้อย เมื่อเขาเห็นบันไดที่ทอดลงไปที่ปลายอีกด้านของห้องโถง

เหตุผลที่ทำให้เขาประหลาดใจคือเขามีความรู้สึกคุ้นเคยกับบันไดนี้มากๆ ซึ่งนี่มันทำให้เขาแปลกใจ แต่เขาก็จำไม่ได้ว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อน

บันไดทำด้วยหินสีขาวเหมือนหยกทั้งหมด ทำให้รู้สึกถึงความศักสิทธิ์และความสะดวกสบายที่คล้ายกับแสงแดดในฤดูหนาว และสายลมในฤดูร้อน ยิ่งไปกว่านั้นความรู้สึกมันก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ และยิ่งเขาเข้าใกล้บันไดมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งมีความต้องการจะพุ่งเข้าหามันมากขึ้น

ขณะที่ซือเฟิงก้าวเท้าลงไปที่บันไดสีขาวนี้ ความรู้สึกสบายที่ไม่อาจจะพรรณนาได้ก็ได้แผ่ไปทั่วร่างกายของเขา ครู่หนึ่งเขารู้สึกราวกับว่าเขาได้เกิดใหม่

อย่างไรก็ตามในทันทีหลังจากนั้น เขาก็รู้สึกราวกับว่ามีคนเอาค้อนมาทุบเข้าที่สมองของเขา ความคิดของเขากลายเป็นตื้อไปชั่วขณะ และเขาก็รู้สึกราวกับว่าวิญญาณของเขากำลังจะหลุดออกจากร่างเขา ซือเฟิงเริ่มเดินโซซัดโซเซ ขณะที่เขาเริ่มสูญเสียการควบคุมร่างกายไปชั่วขณะ ….

ดังนั้น นี่ก็คือเส้นทางจิตงั้นสินะ ? หลังจากกลับเข้ามาในห้องโถง ซือเฟิงก็จ้องมองไปที่บันไดสีขาวด้วยความไม่อยากจะเชื่อ ความแข็งแกร่งของการทำร้ายจิตใจของที่นี่มันน่ากลัวยิ่งกว่ารูปปั้นศักสิทธิ์ของเมืองไลท์ฟอร์จซะอีก ไม่น่าแปลกใจเลยที่บริษัทกรีนก๊อดจะจำกัดอายุไว้ต่ำกว่ายี่สิบปี !!!

หากดีไวน์วิลจากรูปปั้นศักสิทธิ์ของเมืองไลท์ฟอร์จเปรียบได้กับพายุที่โจมตีทั้งร่างกายของคนๆหนึ่ง งั้นการทำร้ายจิตใจของบันไดสีขาวนี้ก็เหมือนกับค้อนที่ทุบกระหน่ำลงมาอย่างแม่นยำและไร้ความปราณีที่ส่วนลึกที่สุดของสมอง

พลังการทำร้ายจิตใจของบันไดสีขาวนี้มันสูงกว่าดีไวน์วิลอย่างมาก

ในช่วงเวลาที่ซือเฟิงกำลังประหลาดใจกับเรื่องนี้ เหล่าผู้มาใหม่ของบริษัทกรีนก๊อดก็ได้ทยอยเดินเข้ามาในห้องโถงทีละคน

“คนๆนั้นยังคงอยู่ที่นี่ตามที่คาดไว้ ….”

“แน่นอนสิ เขาคิดว่าเส้นทางจิตมันจะผ่านไปได้ง่ายๆรึไง ? ถ้ามันผ่านกันง่ายขนาดนั้นคงไม่มีเพียงแค่สามถึงห้าคนจากผู้สมัครนับพันๆหรอกที่ได้รับสิทให้ผ่านเข้าไปอยู่ใน Upper Zone แต่ละปี”

“ฉันสงสัยจังว่า ฉันจะไปได้ไกลแค่ไหน ?”

เมื่อเหล่าผู้มาใหม่เห็นซือเฟิงยังคงยืนเฉยอยู่ต่อหน้าเส้นทางจิต พวกเขาก็ไม่ได้พบว่าปฎิกิริยาของซือเฟิงนั้นน่าแปลกใจเลย

เมื่อพวกเขาก้าวเท้าลงไปบนบันไดสีขาวครั้งแรก พวกเขาก็ตกใจกับพลังของมันมากเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นต้องบอกเลยว่ามันเป็นครั้งแรกที่หลายคนได้เผชิญหน้ากับการทำร้ายจิตใจที่น่ากลัวมากๆ และมันก็เจ็บมากๆ แต่ผู้ที่โดนกลับไม่สามารถจะกรีดร้องออกมาได้

ถ้าเป็นไปได้พวกเขาก็ไม่อยากจะสัมผัสกับความรู้สึกแบบนี้อีกเป็นครั้งที่สอง

“อย่างไรก็ตามพวกหน้าใหม่บางคนในครั้งนี้อาจจะผ่านมันไปได้นะ ….” หญิงสาววัยสิบเก้าปีในชุดขาวกล่าว เมื่อมองไปที่บันไดสีขาวเธอก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาอย่างหมดหนทาง และพูดต่อว่า “ถ้าเทียบกันแล้ว นี่มันเป็นโอกาสสุดท้ายของฉันแล้ว ถ้าฉันไม่สามารถผ่านมันไปได้ในตอนนี้ ฉันจะสามารถอาศัยอยู่ได้แค่ในเมืองเท่านั้น”

“คุณกำลังพูดถึงเรื่องการลงทะเบียนพิเศษใช่ไหม ?” เด็กสาวผมยาวในวัยใกล้เคียงกันพูด ขณะที่เธอมองไปยังเด็กหนุ่มอายุสิบเจ็ดปีที่มีผมสั้นใกล้ๆ “ช่างเป็นคนที่น่ากลัวมากๆ !!! บริษัทพึ่งจะคัดเลือกเขาเข้ามาแค่ไม่กี่เดือน แต่เขาก็สามารถมาเข้าร่วมการประเมินได้แล้ว เหล่าผู้บริหารของบริษัทนั้นประเมินเขาไว้สูงมาก นี่มันทำให้ฉันสงสัยจริงๆว่าหัวของเขาทำจากหินรึไง ? เขาไม่ได้แสดงปฎิกิริยาใดๆต่อการทำร้ายจิตใจเลย ….”

“จะมีใครซะอีกล่ะ ?” หญิงสาวในชุดขาวกล่าวตอบโต้ เมื่อเธอมองไปที่เด็กหนุ่มผมสั้นร่างผอมด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความอิจฉา “ถ้าฉันมีพรสวรรค์ได้สักครึ่งหนึ่งของเขา ฉันก็คงจะผ่านเส้นทางจิตนี้ไปได้ง่ายๆเลย”

“คนแบบเขาจะได้กลายเป็นสมาชิกภายในของบริษัทแน่นอน และหน้าตาเขาก็ดีเหมือนกันนะ ….” เด็กสาวผมยาวเลียริมฝีปากของเธอ ขณะที่พูดเรื่องนี้ “ฉันได้ยินมาว่าเขายังไม่มีแฟน หากเราฉวยโอกาสนี้ไว้ เราก็อาจจะมีโอกาสเข้าสู่ Upper Zone ได้เช่นกัน”

ขณะที่ผู้หญิงสองคนนี้กำลังกระซิบพูดคุยกัน เด็กหนุ่มผู้ที่ตกเป็นหัวข้อการพูดคุยก็เริ่มก้าวลงไปที่บันไดสีขาว

ช่วงเวลาต่อมาเด็กหนุ่มผู้นี้ก็ค่อยๆก้าวลงบันไดไปทีละก้าวด้วยความเร็วที่สม่ำเสมอ และตั้งแต่ต้นเขาก็ไม่ได้แสดงอาการตอบสนองต่อการทำร้ายจิตใจของเส้นทางจิตเลย และพูดกันตามตรงมันเหมือนกับว่าการทำร้ายจิตใจของเส้นทางจิตนั้นไม่มีจริงสำหรับเขาด้วยซ้ำ

ท่าทีของเด็กหนุ่มผู้นี้ทำให้พวกเขาที่เฝ้าดูอยู่ในห้องโถงอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจอย่างมาก

“ไม่มีทางน่า !! เขาไม่ได้แสดงปฎิกิริยาใดๆเลย !!!”

“นี่สมองของเขาทำจากเหล็กรึไงกัน ?!”

เมื่อเห็นเด็กหนุ่มผู้นี้ยังคงไม่สะทกสะท้านใดๆ แม้จะเดินลงมาเกินหนึ่งร้อยเมตรแล้ว เหล่าผู้มาใหม่ที่อยู่ในห้องโถง และซือเฟิงก็อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ ด้วยความสามารถขนาดนี้ มาตราฐานค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของเขาก็น่าจะอยู่ในขั้นสี่แล้วใน God domain

ซือเฟิงนั้นเข้าใจอย่างชัดเจนถึงการทำร้ายจิตใจของบันไดสีขาว และคนปกติทั่วไปจะไม่มีใครสามารถทนมันได้แน่นอน

อย่างไรก็ตามเด็กหนุ่มผู้นี้กับไม่มีปฎิกิริยาใดๆต่อการทำร้ายจิตใจนี้เลย ซึ่งมันแสดงให้เห็นได้ชัดว่านี่ยังอยู่ในขอบเขตความอดทนของจิตใจเด็กหนุ่มผู้นี้

แม้แต่ไวโอเล็ตคลาวด์ก็ยังไม่ได้มีความแข็งแกร่งทางจิตที่น่ากลัวขนาดนี้เลย ….

“ฮี่ๆ ตกใจใช่ไหม ?” เครุยที่พึ่งจะมาถึงห้องโถงหัวเราะคิกคัก เมื่อเห็นเด็กหนุ่มผมสั้นค่อยๆเดินก้าวไปเรื่อยๆ “ฉันบอกแล้วว่าให้ระวัง เส้นทางจิตนี้มันไม่ได้ง่ายอย่างที่คุณคิด สำหรับเด็กหนุ่มคนนั้นที่คุณมองดูเขาอยู่ เขามีชื่อว่าหยานหวู่หมิง เขาเป็นผู้มีพรสวรรค์ที่น่ากลัวที่บริษัทกรีนก๊อดได้ค้นหามานาน และบริษัทก็ถือว่าตัวเขานั้นเป็นคนที่มีพรสวรรค์สูงที่สุดในช่วงสองถึงสามทศวรรษที่ผ่านมา และแม้แต่ฉันกับพี่สาวของฉันก็ยังเทียบกับเขาไม่ได้เลย”

“หยานหวู่หมิง ?” ซือเฟิงเริ่มนึกถึงบางสิ่งบางอย่าง “เขาคือหยานหวู่หมิงงั้นหรอ ?”

“ถูกต้อง เขาคือหยานหวู่หมิง มันมีอะไรงั้นหรอ ?” เครุยรู้สึกสับสน ขณะที่เธอมองไปยังสีหน้าประหลาดใจของซือเฟิง

ฉันเข้าใจหล่ะ … นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้ค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของเขาสูงมากนี่เอง ซือเฟิงคิดพลางหัวเราะเบาๆ

ทุกคนใน God domain ในชีวิตที่ผ่านมาของเขาล้วนรู้จักฉายาของหยานหวู่หมิง

Invincible Swallow!

เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญในสายอาชีพนักเวทย์ที่สามารถร่ายเวทย์ได้อย่างง่ายดายเหมือนกับพูดปกติ เขานับเป็นเจ้าแห่งเวทย์มนต์อย่างแท้จริง และในชีวิตที่ผ่านมาของซือเฟิง ใน God domain นั้น เขาก็ได้ต่อสู้ PvP กับผู้เล่นคนอื่นๆมานับไม่ถ้วน และเขาก็ไม่เคยพ่ายแพ้เลย แม้แต่สัตว์ประหลาดเก่าแก่ที่แท้จริงของซุเปอร์กิลบางกิลก็ยังทนต่อการโจมตีของเขาได้ไม่เกินสามการเคลื่อนไหวด้วยซ้ำ

เมื่อ Invincible Swallow อยู่ในจุดสูงสุดของเขา มันมีเพียงผู้เชี่ยวชาญขั้นหก ขอบเขตพระเจ้าที่อยู่เหนือกว่าเขาหนึ่งขั้นเท่านั้นที่มีโอกาสจะต่อต้านเขาได้ เพียงแต่ว่าจำนวนผู้เชี่ยวชาญขั้นหกในเกมตอนนั้นสามารถนับได้ด้วยมือเดียวเลย ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาทั้งหมดยังเข้าใจยากอย่างไม่น่าเชื่อ และการจะค้นหาพวกเขาสักคนให้เจอก็ยากมากๆแล้ว ไม่ต้องพูดถึงเรื่องการไปขอดวลกับพวกเขาเลย

ในขณะเดียวกัน เมื่อ Invincible Swallow ไปถึงขั้นหก เขาก็ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย และไม่มีใครรู้ถึงสาเหตุการหายตัวไปของเขาเช่นกัน

การหายตัวไปของ Invincible Swallow ในตอนนั้นมันทำให้เกิดความปั่นป่วนอย่างมาก มันมีข่าวลือว่าแม้แต่บริษัทกรีนก๊อดก็ยังค้นหาเขาอย่างบ้าคลั่ง อย่างไรก็ตามมันก็ไม่มีใครเจอตัวเขาเลย

เรื่องนี้มันชักจะน่าสนใจแล้ว

ซือเฟิงไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะได้พบกับ Invincible Swallow ที่เป็นตัวตนระดับตำนานตอนนั้น ในวันนี้

“นี่คุณไม่ได้คิดจะท้าทายเส้นทางจิตจริงๆใช่ไหม ?” เครุยตกตะลึง เมื่อเธอเห็นว่าอารมณ์ของซือเฟิงเริ่มสดใสขึ้น พูดกันตามตรงเธอเริ่มสงสัยว่าหลายเรื่องที่เขาเผชิญมาในวันนี้มันทำให้ซือเฟิงบ้าไปแล้วรึปล่าว ?

“ท้าทาย ?” ซือเฟิงส่ายหัว “ฉันไม่ได้วางแผนที่จะท้าทายมัน ฉันแค่วางแผนที่จะเข้าไปที่ Upper Zone”

“มันแตกต่างจากที่ฉันพูดตรงไหน ?” เครุยรู้สึกงงงวยเล็กน้อย เมื่อได้ยินคำพูดของซือเฟิง

ถ้าซือเฟิงไม่สามารถผ่านเส้นทางจิตในวันนี้ไปได้ เขาก็ไม่ควรคิดว่าจะเข้าสู่ Upper Zone ได้ด้วยซ้ำ

“แน่นอนสิว่ามันแตกต่าง เพราะว่ามันหมายความว่าฉันไม่ได้คิดจะแบกรับการทำร้ายจิตใจนี้อีกต่อไป” ซือเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้มบางๆ

“???” เครุยเริ่มสับสนมากขึ้น

นี่การทำร้ายจิตมันสามารถจะหลีกเลี่ยงได้ง่ายๆเพียงเพราะว่าต้องการงั้นหรอ ?
อย่างไรก็ตามซือเฟิงไม่ได้คิดจะอธิบายใดๆเพิ่มเติม เขาได้รีบก้าวลงไปที่บันไดสีขาวทันที

ก่อนหน้านี้เขาเลือกจะใช้วิธีเดียวกับตอนที่เขาดูดซับดีไวน์วิลเพื่อเพิ่มค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของเขา อย่างไรก็ตามเมื่อต้องเผชิญหน้ากับบันไดสีขาวนี้ มันทำให้เขามีความคิดใหม่ๆขึ้นมา

และนั่นคือวิธีเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมจิตใจของเขา

เนื่องจากพลังการทำร้ายจิตใจของบันไดสีขาวนี้มันมีสูงมาก เขาจึงรวบโฟกัสทั้งหมดไปไว้ที่จุดเดียวแทนที่จะเป็นทั้งร่างกาย เขาจะเปลี่ยนความคิดของเขาให้กลายเป็นเหล็กกล้า และปกป้องเฉพาะส่วนที่ลึกที่สุดของสมองเขาเท่านั้น

ช่วงเวลาต่อมาที่ซือเฟิงก้าวลงสู่บันไดสีขาวขั้นแรก เขาก็หยุดลงชั่วคราว อย่างไรก็ตามมันไม่เหมือนกับก่อนหน้านี้ เพราะการแสดงออกของเขาไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย มันไม่มีความผิดปกติใดๆกับร่างกายเขาเช่นกัน เขายืนอยู่ตรงนั้นอย่างเงียบๆ

สำเร็จ !!! ดวงตาของซือเฟิงเบิกกว้างด้วยความยินดี อย่างไรก็ตามสถานะนี้มันก็ทำให้ฉันไม่สามารถควบคุมร่างกายได้ทั้งหมด ดูเหมือนว่าฉันจะต้องโฟกัสส่วนเล็กๆไว้ควบคุมร่างกาย พร้อมกับใช้สมาธิในการป้องกันการทำร้ายจิตใจนี้ไปด้วย หลัง
จากนั้นซือเฟิงก็เริ่มก้าวไปข้างหน้าอีกขั้น

Clang!

เขารู้สึกว่าความรู้สึกเหมือนถูกค้อนทุบจางๆพุ่งเข้ามาในจิตใจของเขา อย่างไรก็ตามนี่มันก็น้อยลงมากจนเขาแทบไม่รู้สึกใดๆเลย และร่างกายของเขาก็ไม่ได้มีท่าทีใดๆแม้แต่น้อย

มันได้ผล แต่การปรับตัวให้เข้ากับสถานะนี้ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ ….

ซือเฟิงอดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่นออกมา เมื่อเขารู้สึกได้ถึงความหนักอึ้งของร่างกาย

นี่เป็นครั้งแรกจริงๆที่เขาลองแบ่งจิตใจส่วนหนึ่งของเขาไปควบคุมร่างกายด้วย มันทำให้ตอนนี้เขารู้สึกว่าเขากำลังวนเวียนอยู่ระหว่างความรู้สึกตัว และไม่รู้สึกตัว ร่างกายของเขามันยังคงรู้สึกงุ่มง่ามอย่างไม่น่าเชื่อ

อย่างไรก็ตามหลังจากลองทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ซือเฟิงก็เริ่มเข้าใจสถานะนี้ได้ดีขึ้น

ในขณะเดียวกันจากมุมมองของคนที่เฝ้าดูอยู่ภายนอก ซือเฟิงตอนนี้ดูเหมือนกับว่าเขากำลังลงบันไดธรรมดา เขาไม่ได้แสดงปฎิกิริยาใดดๆต่อการทำร้ายจิตใจของบันไดสีขาวเลย ยิ่งไปกว่านั้นความเร็วของเขาก็ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเมื่อเวลาผ่านไป และภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที ซือเฟิงก็แซงหยานหวู่หมิงได้ หลังจากนั้นระยะห่างระหว่างทั้งสองก็เริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆด้วย

เป็นไปได้ยังไงกัน ?!

ดวงตาของเครุยแทบจะถลนออกจากเบ้า เมื่อเธอเห็นว่าซือเฟิงกำลังวิ่งลงบันได นี่เขามีภูมิคุ้มกันต่อการทำร้ายจิตใจเหมือนหยานหวู่หมิงงั้นหรอ ?

สำหรับผู้มาใหม่คนอื่นๆในห้อง พวกเขาก็ตกตะลึงกับสถานการณ์นี้มากเช่นกัน และก็แทบไม่มีใครอยากจะเชื่อสายตาของตัวเอง

ในท้ายที่สุดซือเฟิงก็ใช้เวลาน้อยกว่าสิบห้านาทีในการเดินผ่านเส้นทางจิต และเมื่อเขาไปถึงเป้าหมาย เสียงระฆังที่ไพเพราะก็ดังขึ้นไปทั่ว Upper Zone

Reincarnation Of The Strongest Sword God

Reincarnation Of The Strongest Sword God

เริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง เขาได้เข้ามาสู่ “เกมแห่งมีชีวิต” นี้อีกครั้งเพื่อที่จะควบคุมโชคชะตาของตัวเอง ครั้งนี้ , เขาจะไม่ถูกควบคุมจากคนอื่น ก่อนหน้านี้ราชาแห่งดาบเลเวล 200 , เขาได้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในชีวิต วิธีการที่จะได้รับเงิน! กลยุทธ์แห่งชัยชนะในดันเจี้ยน! เควสในตำนาน! สถานที่ดรอปอุปกรณ์! ทักษะที่ยังไม่ถูกค้นพบ! แม้แต่ความลับที่พวกผู้ทดสอบเบต้าไม่รู้ , เขารู้มันทั้งหมด สงครามอันยิ่งใหญ่ , ความก้าวหน้าในชีวิต , เข้าสู่ความเป็นพระเจ้า , บรรลุถึงจุดสูงสุดแห่งดาบ ตำนานของชายผู้ที่จะกลายเป็นเทพแห่งดาบได้เริ่มขึ้นแล้ว Starting over once more, he has entered this “living game” again in order to control his own fate. This time, he will not be controlled by others. Previously the Level 200 Sword King, he will rise to a higher peak in this life. Methods to earn money! Dungeon conquering strategies! Legendary Quests! Equipment drop locations! Undiscovered battle techniques! Even the secrets Beta Testers were unknowledgeable of, he knows of them all. Massive wars, life advancement, entering Godhood, sword reaching to the peak; a legend of a man becoming a Sword God has begun.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset