Reincarnation Of The Strongest Sword God – ตอนที่ 2762

ตอนที่ 2762 สมบัติโบราณ

ในขณะที่รูปสลักสัตว์อสูรโบราณดึงดูดความสนใจของซือเฟิงไป ผู้เล่นคนอื่นๆที่กำลังลาดตระเวน และพักผ่อนอยู่ในระยะไกลที่สังเกตเห็นไอเทมจำนวนมากที่โทเดลย่าดรอปออกมานั้นก็มีดวงตาที่เบิกกว้างด้วยความตกตะลึง

“อึก !! นี่มันมีไอเทมอะไรดรอปออกมาบ้างกัน ?!”

“ฉันไม่เคยเห็นไอเทมระดับอีปิค และวัสดุระดับตำนานดรอปออกมาพร้อมกันจำนวนมากขนาดนี้เลย !!!”

“บอสตัวนี้นั้นเป็นมอนสเตอร์ระดับผู้อาวุโสเทพนิยาย เลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบแปด ดังนั้นไอเทมที่มันน่าจะสามารถใช้ได้ถึงเลเวลหนึ่งร้อยห้าสิบแน่นอน แม้ว่าฉันจะมีส่วนร่วมอย่างมากมายในปฎิบัติการสำคัญๆของกิล แต่ฉันก็ได้รับมาแค่เบรเซอร์ระดับอีปิคคู่เดียวซึ่งสามารถใช้งานได้ถึงเลเวลหนึ่งร้อยสามสิบเท่านั้น (Bracers ไปเสริ์ชดูเอาอธิบายไม่ถูก ถ้าสงสัยว่ามันคืออะไร เพราะมันคล้ายๆเกราะแขนอะ) ….. ด้วยไอเทมระดับอีปิคที่ดรอปทั้มหมดที่นี่ มันอาจจะทำให้ฉันสามารถสวมใส่ไอเทมระดับอีปิคได้แบบครบทั้งตัวเลยนะ ….”

แม้ว่าทุกคนจะเป็นผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดหรือเก่งกาจกว่านั้นทั้งหมด แต่พวกเขาก็ยังอดไม่ได้ที่จะอิจฉา เมื่อได้เห็นไอเทมที่โทลย่าดรอปออกมา

แต่พูดกันตามตรง มันก็เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆที่พวกเขาจะต้องอิจฉา แม้ว่าอาวุธและอุปกรณ์ระดับอีปิคจะกลายเป็นเรื่องธรรมดามากขึ้นใน God domain ในปัจจุบัน แต่ส่วนใหญ่พวกมันก็จะสามารถใช้ได้ถึงแค่เลเวลหนึ่งร้อยเท่านั้น ขณะเดียวกันพวกที่สามารถใช้ได้จนถึงเลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบนั้นก็มีน้อยกว่ามาก ไม่ต้องพูดถึงเลเวลที่เหนือกว่านี้เลย …..

สำหรับไอเทมระดับอีปิคที่สามารถใช้ได้จนถึงเลเวลหนึ่งร้อยห้าสิบนั้น แม้แต่มหาอำนาจต่างๆในระยะนี้ก็ยังจะมีมันไม่ถึงสามสิบชิ้นกันแน่นอน

นี่ไม่ใช่เพราะมหาอำนาจต่างๆไม่ได้พยายามจะออกล่ามอนสเตอร์ระดับเทพนิยายเลเวลมากกว่าหนึ่งร้อย แต่เป็นเพราะมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายที่เลเวลนี้นั้นมีโอกาสจะดรอปไอเทมระดับอีปิคที่สามารถใช้ได้จนถึงเลเวลหนึ่งร้อยห้าสิบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
อย่างไรก็ตามตอนนี้โทเดลย่ากับดรอปไอเทมระดับอีปิคแบบนี้ออกมามากกว่าสิบชิ้น

นี่ยังไม่จำเป็นต้องพูดถึงเรื่องที่ว่าไอเทมที่ดรอปออกมาเหล่านี้นั้นทุกชิ้นจะสามารถใช้ได้จนถึงเลเวลหนึ่งร้อยห้าสิบแน่นอน เพราะท้ายที่สุดโทเดลย่านั้นเป็นมอนสเตอร์ระดับผู้อาวุโสเทพนิยาย เลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบแปด ซึ่งจากประสบการณ์ที่ผ่านมาของพวกเขาไอเทมระดับอีปิคที่ดรอปออกจากมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายเลเวลมากกว่าหนึ่งร้อยยี่สิบนั้นจะสามารถใช้ได้จนถึงเลเวลหนึ่งร้อยห้าสิบทั้งหมดแน่นอน อย่างไรก็ตามเรื่องนี้มันเป็นเพียงส่วนเล็กๆเท่านั้นของภูเขาน้ำแข็ง ส่วนที่ทำให้ดวงตาของทุกคนเปล่งประกายอย่างแท้จริงคือพวกวัสดุระดับตำนานที่ดรอปอยู่

วัสดุระดับตำนานพวกนี้สามารถจะนำไปใช้สร้างอาวุธและอุปกรณ์ระดับอีปิคที่เหมาะกับผู้เล่นคนนั้นๆโดยตรงได้ ซึ่งแน่นอนว่าไอเทมที่ถูกสร้างขึ้นนี้มันก็จะถูกจัดให้อยู่ในระดับอีปิคชั้นยอดเลย

อย่างไรก็ตามมันก็เป็นเช่นเดียวกับไอเทมระดับอีปิคที่สามารถใช้ได้จนถึงเลเวลหนึ่งร้อยห้าสิบ อัตราการดรอปวัสดุระดับตำนานพวกนี้มันต่ำมากๆ แม้แต่มอนสเตอร์ระดับผู้อาวุโสเทพนิยาย เลเวลมากกว่าหนึ่งร้อยส่วนใหญ่ก็จะดรอปแค่วัสดุระดับตำนานที่อ่อนแอบางส่วนพร้อมกับวัสดุระดับอีปิคเท่านั้น

อย่างไรก็ตามโทเดลย่ากับดรอปวัสดุระดับตำนานไว้ถึงเจ็ดชิ้น ซึ่งพูดอีกนัยหนึ่งคือ ด้วยวัสดุเหล่านี้ ผู้ที่ได้รับมันไปจะสามารถนำไปผลิตอาวุธและอุปกรณ์ระดับอีปิคที่เหมาะสมกับคนๆนั้นโดยตรงได้อีกเจ็ดชิ้นเลย และมันก็ยังจะสามารถใช้ได้จนถึงเลเวลหนึ่งร้อยห้าสิบด้วย

นี่ยังไม่ต้องพูดถึงวัสดุระดับตำนานที่อ่อนแออีกมากกว่ายี่สิบที่โทเดลย่าดรอปออกมา เพราะมันก็สามารถจะนำไปใช้ผลิตอาวุธและอุปกรณ์ระดับอีปิคชั้นยอดได้เช่นกัน

กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ โทเดลย่าตัวเดียวนั้นได้ดรอปอาวุธและอุปกรณ์ระดับอีปิคที่สามารถใช้ได้จนถึงเลเวลหนึ่งร้อยห้าสิบมามากกว่าสามสิบชิ้นแล้ว ซึ่งนี่มันทำให้มีมากพอที่จะให้ผู้เล่นสองคนได้สวมใส่อาวุธและอุปกรณ์ระดับอีปิค เลเวลหนึ่งร้อยห้าสิบครบเซ็ทเลย โดยสิ่งนี้นั้นมันยังเป็นไปไม่ได้สำหรับมหาอำนาจส่วนใหญ่ในระยะนี้ของเกมด้วยซ้ำ ….

ตามที่คาดไว้จากดินแดนต้องห้าม เพียงแค่ไอเทมที่ดรอปจากมอนสเตอร์ระดับผู้อาวุโสเทพนิยายตัวเดียว มันก็มีมากเท่ากับไอเทมที่ดรอปจากมอนสเตอร์ระดับผู้อาวุโสเทพนิยายสามถึงสี่ตัวในโลกภายนอกเลย แถมพูดกันตามตรงคุณภาพของไอเทมที่ดรอปที่นี่ยังดีกว่าโลกภายนอกอยู่นิดหน่อยด้วยซ้ำ อันยีลดิ้งฮาร์ทนั้นอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจกับสิ่งที่ได้เห็นเช่นกัน และในขณะเดียวกันเขาก็ตัดสินใจแล้วว่าเมื่อเขาไปถึงขั้นสี่ เขาจะนำทีมมาที่เทือกเขาที่ถูกทำลายเพื่อสำรวจมันอีกครั้งแน่นอน

อย่างไรก็ตามซือเฟิงไม่ได้ให้ความสนใจกับอาวุธ อุปกรณ์ และวัสดุที่โทเดลย่าดรอปออกมามากนัก ตอนนี้เขาให้ความสนใจกับรูปสลักสัตว์อสูรโบราณที่สูงหนึ่งเมตรนี้มากกว่า และเขาก็รีบเดินตรงเข้าไปหยิบ และเก็บมันเข้ากระเป๋าของเขาอย่างรวดเร็ว

ในความเห็นของซือเฟิง แม้จะนำมูลค่ารวมของไอเทมชิ้นอื่นๆทั้งหมดที่โทเดลย่าดรอปมารวมตัวกัน แต่มันก็ยังไม่สามารถจะเปรียบเทียบกับมูลค่าที่แท้จริงของรูปสลักสัตว์อสูรโบราณนี้ได้อยู่ดี

( รูปสลักสัตว์อสูรศักสิทธิ์ (สัตว์อสูรกลืนวิญญาณ)] (ระดับอีปิค และเป็นยูนีค ไอเทม(Unique Item))

หนึ่งในสิบสองรูปสลักสัตว์อสูรศักสิทธิ์ที่ถูกสร้างโดย เซเรโคโร่ บาเรสตั้น ซึ่งมันมีพลังที่น่าทึ่งอยู่

แต่อย่าประมาทรูปสลักนี้เพียงเพราะว่ามันเป็นไอเทมระดับอีปิคเชียวล่ะ !!

สำหรับผู้เล่นขั้นสี่หรือสูงกว่าขึ้นไป รูปสลักสัตว์อสูรนี้มันมีค่ามากกว่าไอเทมระดับตำนานเป็นพันเท่า

เซเรโคโร่ บาเรสตั้น เป็นเทพโบราณในดินแดนของ God domain ซึ่งเขาเป็นที่รู้จักกันในฐานะเทพแห่งสายธาตุ ตามตำนานเล่าว่า เขาสามารถจะควบคุมองค์ประกอบธาตุของเวทย์มนต์ทั้งหมดได้ และเขาก็แข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อแม้แต่ในหมู่เทพโบราณด้วยกัน

ใน God domain ไอเทมใดๆที่เคยเป็นของเทพมาก่อนนั้นมันก็จัดว่าเป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์มากแล้ว ไม่ต้องพูดถึงไอเทมที่เทพโบราณองค์หนึ่งสร้างขึ้นมาด้วยตัวเองเลย สำหรับเหล่าทวยเทพด้วยกันรูปสลักพวกนี้อาจเป็นขยะ แต่สำหรับผู้เล่นขั้นสี่หรือสูงกว่านั้น รูปสลักนี้มันมีค่าอย่างมาก ….

หากมองแค่พื้นผิว คนส่วนใหญ่ก็จะเข้าใจว่ารูปสลักสัตว์อสูรนี้มันมีไว้แค่ประดับห้องเท่านั้น อย่างไรก็ตามหากวางรูปสลักสัตว์อสูรนี้ไว้ในบริเวณที่มีมานาหนาแน่นมากๆ รูปสลักก็จะเริ่มแสดงประโยชน์ลึกลับของมันออกมา ซึ่งนั่นก็คือมันจะทำให้ผู้เล่นทุกคนในบริเวณหรือห้องนั้นๆสามารถรับรู้หลักการทำงาน และองค์ประกอบของธาตุเวทย์มนต์แบบเฉพาะเจาะจงได้

แม้ว่าการรับรู้ที่จะได้รับมันจะคลุมเครือ แต่มันก็ยังดีกว่าการพยายามที่จะใช้ความรู้สึกของตัวเองสรุปแบบสุ่มสี่สุ่มห้า

อย่างไรก็ตามหากสามารถสะสมรูปสลักสัตว์อสูรพวกนี้ได้เพิ่มขึ้น เอฟเฟคการรับรู้ที่จะได้รับมันก็จะเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ….

ในชีวิตที่ผ่านมาของซือเฟิง มันมีซุเปอร์กิล และมหาอำนาจหลายกลุ่มที่ทำงานร่วมกันเพื่อเข้าปล้นคลังสมบัติของเทพโบราณ ซึ่งหลังจากปฎิบัติการทั้งหมดสำเร็จ โดยแลกมากับการเสียชีวิตของผู้เล่นของพวกเขานับไม่ถ้วน

พวกเขาก็ได้ค้นพบรูปสลักสัตว์อสูรศักสิทธิ์สามในสิบสองในคลังสมบัตินั้น โดยหนึ่งในนั้นเป็นรูปสลักขนาดกลางที่เป็นเศษชิ้นส่วนไอเทมระดับตำนานด้วย

เนื่องจากรูปสลักทั้งสามนี้เอง มันทำให้ซุเปอร์กิลที่ได้รับมันไปกลายเป็นหนึ่งในสิบสองกิลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดใน God domain อย่างรวดเร็ว

แต่ตอนนี้พอซือเฟิงฆ่ามอนสเตอร์ระดับผู้อาวุโสเทพนิยายไปหนึ่งตัว เขากับได้รับหนึ่งในรูปสลักนี้มาแล้ว นี่มันไม่น่าเชื่อเลย ….

ครั้งนี้ฉันโชคดีมากจริงๆ แม้ว่ามันจะไม่มีเศษชิ้นส่วนไอเทมระดับตำนานดรอปแม้แต่ชิ้นเดียวก็ตาม แถมบอสยังดรอปคริสตัลคำแนะนำมรดกบางอย่างที่สมบูรณ์ออกมาด้วย ถ้ามหาอำนาจต่างๆรู้เรื่องนี้ พวกเขาจะได้ตายจากความอิจฉาซือเฟิงแน่นอน ตอนนี้แม้ว่าท่าทีภายนอกของเขาจะดูสงบ แต่ภายในของซือเฟิงนั้นก็เต็มไปด้วยความสุขมากจริงๆ เมื่อเขาหยิบคริสตัลความทรงจำสีแดงเข้มขึ้นมาจากบนพื้น

โดยปกติแล้ว คำแนะนำมรดกที่ผู้เล่นจะสามารถหาได้จากดินแดนต้องห้ามนั้นเป็นเพียงเศษชิ้นส่วนที่กระจัดกระจายเท่านั้น และเนื่องจากความไม่เสถียรนักของมานาในพื้นที่ เศษชิ้นส่วนเหล่านี้จึงจะหายไป หลังจากการใช้เพียงครั้งเดียว

อย่างไรก็ตามสำหรับคริสตัลคำแนะนำมรดกที่เป็นคริสตัลความทรงจำที่ซือเฟิงได้รับมานั้นมันเป็นเรื่องที่แตกต่างออกไป !!!

เนื่องจากมานาภายในคริสตัลนั้นยังคงมีความเสถียรและสมบูรณ์ ดังนั้นผู้เล่นจึงจะสามารถใช้มันได้หลายครั้ง โดยจ่ายเป็นคริสตัลเวทย์มนต์หนึ่งร้อยชิ้นต่อครั้งเท่านั้น

อย่างไรก็ตามเนื่องจากอายุที่ค่อนข้างเก่าแก่ของมัน ซือเฟิงก็ประเมินไว้ว่ามันน่าจะใช้ได้ราวแปดถึงเก้าครั้งเท่านั้น หรืออาจจะมากนั้นนิดหน่อย ….

ในชีวิตที่ผ่านมาของเขา มันมีมหาอำนาจบางส่วนที่เต็มใจจะแลกไอเทมระดับตำนานกับคริสตัลแบบนี้ด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตามมันก็ไม่มีใครยอมแลกเลยโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพวกกิลขนาดใหญ่และทีมนักผจญภัย

เพราะท้ายที่สุดแล้วคริสตัลคำแนะนำมรดกแบบนี้ มันอาจจะนำไปสู่การกำเนิดขึ้นของผู้เล่นขั้นห้า ซึ่งมันมีค่ามากกว่าไอเทมระดับตำนานหลายเท่า

ใน God domain นั้น เว้นแต่มันจะมีผู้เล่นขั้นหก ขอบเขตพระเจ้าปรากฎตัวขึ้น ไม่งั้นผู้เล่นขั้นห้าก็จะถูกนับว่ายืนอยู่ในจุดสูงสุดของเกมแล้ว และทรัพยากรที่ผู้เล่นขั้นห้าจะสามารถหามาได้ด้วยความแข็งแกร่งของพวกเขานั้นมันก็มากกว่ามูลค่าของไอ
เทมระดับตำนานหนึ่งชิ้นมากๆ

หลายนาทีต่อมา ซือเฟิงก็เก็บไอเทมที่ดรอปออกมาทั้งหมดเข้ากระเป๋าจนเรียบร้อย จากนั้นเขาก็ปล่อยให้ทุกคนพักผ่อนไปอีกสิบนาที ก่อนจะให้ทุกคนเริ่มเดินทางเข้าไปยังดินแดนลับเอิร์ธฟอลต่อทันที

ซือเฟิงนั้นไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องจัดให้สมาชิกที่ยังอยู่ในสถานะอ่อนแออยู่ที่ตรงกลางของทีม นอกจากนี้เขาก็ยังควบคุมให้ฟอร์เบโร่เปิดเส้นทางให้กับพวกเขา โดยการกำจัดลอร์ดบอสผู้ยิ่งใหญ่ และแกรนลอร์ด เลเวลมากกว่าหนึ่งร้อยยี่สิบห้าที่คิดจะเข้ามาโจมตีทีม โดยเขาไม่ได้คิดจะให้ทุกคนได้พักผ่อนนาน แต่อย่างใด

“ผู้บัญชาการ เราจะไม่รีบร้อนกันเกินไปหน่อยหรอ ?” โซริทารี่ไนน์กระซิบถามซือเฟิง ในขณะที่ใบหน้าของเขายังคงดูซีดเผือดอยู่

การต่อสู้กับโทเดลย่านั้นมันทำให้ค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของทุกคนลดลงไปเหลือต่ำกว่าาสิบเปอเซ็นต์ ซึ่งมันทำให้ตอนนี้พวกเขาอาจจะหมดสติได้ทุกเมื่อ และแม้แต่ซือเฟิงก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น

กระนั้นหลังจากให้พวกเขาพักผ่อนเพียงสิบนาที ซือเฟิงก็พาพวกเขาตรงลึกเข้ามาต่อ ซึ่งนี่มันจัดว่าเสี่ยงมากๆเลย ….

แถมในตอนนี้พวกเขาก็เดินทางกันต่อมาเกือบสองชั่วโมงแล้ว และทุกคนก็ต่อสู้กันตลอดช่วงเวลานี้ แม้ว่าโฟร์เบโร่จะจัดการช่วยเคลียร์มอนสเตอร์ส่วนใหญ่ออกไปได้ แต่ด้วยจำนวนของพวกมันที่มีมากมาย มันก็ยังมีหลุดมาให้ผู้เล่นต้องจัดการอยู่ดี และพวกเขาก็ไม่สามารถจะเหม่อหรือความระวังของตัวเองลงได้เลย เพราะหากพวกเขาพลาดแม้แต่นิดเดียว มันก็จะหมายถึงความตายแน่นอน

“ฉันรู้ แต่เราเหลือเวลาไม่มากแล้ว ….” ซือเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้มขมขื่น ขณะที่เขาควบคุมโฟร์เบโร่ ก่อนที่เขาจะพูดต่อว่า “ในตอนนี้ หากระยะเวลาของโฟร์เบโร่หมดลง …. ฉันก็จะไม่สามารถเรียกเจ้าชายปีศาจตนที่สองออกมาได้อีกต่อไป และหากมันเป็นแบบนั้นเราก็คงจะตายก่อนไปถึงจุดหมายแน่นอน ดังนั้นเราจึงต้องเร่งทำเวลาหน่อย”

เมื่อได้ยินคำพูดของซือเฟิง โซริทารี่ไนน์ก็มองไปยังมอนสเตอร์ที่บุกเข้ามาอย่างไม่มีที่สิ้นสุดรอบตัวเขา และรู้สึกขนลุก ในเวลาเดียวกันเขาก็ยกโล่ของตัวเองขึ้น และขยับเข้าใกล้ซือเฟิงโดยไม่รู้ตัว

ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าชายปีศาจ พวกเขาทั้งหมดก็คงจะตายไปแล้วแน่นอน อันที่จริงพวกเขาก็จะไม่สามารถรับมือกับมอนสเตอร์เหล่านี้ทั้งหมดได้ด้วยซ้ำ ต่อให้พวกเขามีผู้เล่นขั้นสี่ในทีมหลายคน เพราะท้ายที่สุดการต่อสู้ในเทือกเขาที่ถูกทำลายนั้น มันก็ต้องใช้ค่าสตามิน่าและค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจเช่นกันจำนวนมหาศาลเช่นกัน และนี่มันก็จะทำให้พวกเขาไม่สามารถรับมือกับมอนสเตอร์พวกนี้ได้นานนักแน่นอน

“เร็วขึ้นอีกหน่อย !!! เราใกล้จะถึงแล้ว !!!” ซือเฟิงกระตุ้นทุกคนผ่านแชททีม หลังจากเขาได้ตรวจสอบแผนที่ของเขา

เมื่อได้ยินคำพูดของซือเฟิง ทุกคนก็เพิ่มความเร็ว และย่นระยะห่างระหว่างพวกเขากับโฟร์เบโร่เข้ามาอย่างรวดเร็วทันที

หลังจากผ่านไปอีกหลายสิบนาที ในที่สุดทั้งทีมก็ค้นพบถ้ำขนาดใหญ่ในหุบเขา โดยทางเข้าของถ้ำนี้นั้นมันสูงหลายสิบเมตร มันก็มีแรงกดดันทางจิตมากกว่าโทเดลย่าซะอีก และมันก็ทำให้ทุกคนรู้สึกไม่สบายใจ

“หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม นี่คือสถานที่ที่คุณพูดถึงใช่ไหม ?” อิลูซะรี่เวิร์ดถามอย่างกังวลมากๆ ขณะที่จ้องมองไปยังถ้ำขนาดใหญ่ ความรู้สึกนี้ที่เธอกำลังประสบมันเหนือกว่าที่เธอประสบมากับโทเดลย่าซะอีก ดังนั้นมันจึงคิดออกไม่ยากเลยว่า หนทางข้างหน้าจะอันตรายแค่ไหน

เมื่อมองไปที่แผนที่ผู้สังหารเทพ ซือเฟิงก็พูดด้วยความมั่นใจว่า “มันน่าจะอยู่ที่นี่แหละ ….”

“แต่ … แรงกดดันทางจิตนี่มัน ….” อันยีลดิ้งฮาร์ทรู้สึกขนลุก และรู้สึกแบบเดียวกันกับอิลูซะรี่เวิร์ด ….

ถ้าตอนนี้มอนสเตอร์อีกตัวที่คล้ายกับโทเดลย่าโผล่ออกมาจากถ้ำ ครั้งนี้พวกเขาจะได้ตายจริงๆแน่นอน

“แรงกดดันทางจิตมันอาจจะรุนแรง แต่เราก็ได้พยายามอย่างมากเพื่อจะมาให้ถึงที่นี่ ดังนั้นเราไม่สามารถจะยอมแพ้ตอนนี้ได้ถูกไหม ?” ซือเฟิงนั้นเข้าใจความกังวลของทุกๆคนตอนนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอันยีลดิ้งฮาร์ท อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถจะถอยได้แล้ว เขาต้องได้รับสมบัติของผู้สังหารเทพมาให้ได้ และตอนนี้หากมีสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดเกิดขึ้น เขาก็เต็มใจจะใช้ไพ่ลับที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาเลยด้วย

“โอเค งั้นเข้าไปกัน ….”

อันยีลดิ้งฮาร์ทและคนอื่นๆพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของซือเฟิง ก่อนที่พวกเขาจะเดินตรงเข้าไปข้างในพร้อมกัน เพราะท้ายที่สุดแล้วสิ่งที่ซือเฟิงพูดมามันถูกทั้งหมด พวกเขาไม่สามารถจะยอมแพ้ตอนนี้ได้ หลังจากพยายามมาอย่างหนัก

อย่างไรก็ตามเมื่อทั้งทีมกำลังเดินผ่านทางเข้าถ้ำไป มันก็เกิดเหตุการณ์ที่น่าตกใจขึ้น

ทันทีที่โฟร์เบโร่พยายามจะก้าวเข้ามาในถ้ำนั้น มันก็มีลำแสงสีแดงที่ความเร็ง
สูงมากๆพุ่งตรงมายังมัน จนซือเฟิงไม่มีเวลาจะควบคุมให้โฟร์เบโร่หลบ และท้ายที่สุดแล้วเมื่อโดนลำแสงสีแดงนี้เข้าไปเจ้าชายปีศาจผู้แข็งแกร่ง และแทบจะเป็นอมตะในหมู่ขั้นเดียวกันก็ร่างระเบิดออก และกลายเป็นเปลวไฟหายไปอย่างไร้ร่องรอย

Reincarnation Of The Strongest Sword God

Reincarnation Of The Strongest Sword God

เริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง เขาได้เข้ามาสู่ “เกมแห่งมีชีวิต” นี้อีกครั้งเพื่อที่จะควบคุมโชคชะตาของตัวเอง ครั้งนี้ , เขาจะไม่ถูกควบคุมจากคนอื่น ก่อนหน้านี้ราชาแห่งดาบเลเวล 200 , เขาได้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในชีวิต วิธีการที่จะได้รับเงิน! กลยุทธ์แห่งชัยชนะในดันเจี้ยน! เควสในตำนาน! สถานที่ดรอปอุปกรณ์! ทักษะที่ยังไม่ถูกค้นพบ! แม้แต่ความลับที่พวกผู้ทดสอบเบต้าไม่รู้ , เขารู้มันทั้งหมด สงครามอันยิ่งใหญ่ , ความก้าวหน้าในชีวิต , เข้าสู่ความเป็นพระเจ้า , บรรลุถึงจุดสูงสุดแห่งดาบ ตำนานของชายผู้ที่จะกลายเป็นเทพแห่งดาบได้เริ่มขึ้นแล้ว Starting over once more, he has entered this “living game” again in order to control his own fate. This time, he will not be controlled by others. Previously the Level 200 Sword King, he will rise to a higher peak in this life. Methods to earn money! Dungeon conquering strategies! Legendary Quests! Equipment drop locations! Undiscovered battle techniques! Even the secrets Beta Testers were unknowledgeable of, he knows of them all. Massive wars, life advancement, entering Godhood, sword reaching to the peak; a legend of a man becoming a Sword God has begun.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset