Reincarnation Of The Strongest Sword God – ตอนที่ 2783

ตอนที่ 2783 ยุคแห่งการแย่งชิงความเป็นเจ้าโลก

Upper Zone หน้าทางเข้า :

ขณะที่เหลียงจิงและเหล่ยเปากำลังรู้สึกประหลาดใจอย่างมากกับฉากที่ได้เห็นตรงหน้า ซือเฟิงก็ได้ค่อยๆเดินเข้ามาหาพวกเขา

“เป็นไง ? Upper Zone นั้นแตกต่างจากที่จินตนาการเอาไว้ไหม ?” ซือเฟิงมองไปที่ทั้งสองคน และยิ้มบางๆ

การแสดงออกของทั้งสองคนนั้นมันเหมือนกับเขาในตอนที่พึ่งจะมาที่นี่ครั้งแรกเลย เพียงแต่ว่า หลังจากนั้นเขาก็ได้รู้ว่า Upper Zone นั้นไม่ได้ถูกล้อมรอบอยู่ภายใต้กำแพงเหล็ก แต่อยู่ใต้ดิน

“หัวหน้ากิล ใน Upper Zone นั้นเป็นยังไงบ้าง ?” เหลียงจิงกล่าวถามซือเฟิง “มันเหมือนกับในข่าวลือไหม ?”

มันมีข่าวลือมากมายเกี่ยวกับ Upper Zone ในโลกภายนอก อย่างไรก็ตามสุดท้ายแล้ว มันก็ไม่มีใครที่อยู่ในโลกภายนอกจะเข้าใจ และรู้เรื่องราวเกี่ยวกับ Upper Zone เท่ากับผู้ที่อยู่อาศัยภายใน ซึ่งพวกผู้อยู่อาศัยภายในก็มักปิดเรื่องราวส่วนใหญ่ของ Upper Zone เป็นความลับด้วย

ขณะเดียวกันก็ต้องบอกเลยว่าข่าวเกี่ยวกับ Upper Zone ในโลกภายนอกส่วนใหญ่นั้นล้วนเป็นแค่ข่าวลือทั้งหมด

หลังจากได้ยินคำถามของเหลียงจิง เหล่ยเปาก็หันมามองซือเฟิงด้วยความอยากรู้อยากเห็นเช่นกัน

สำหรับเขาสถานที่แบบ Upper Zone นี้เป็นสถานที่ที่เขาไม่เคยคิดฝันเลยว่าจะได้เข้ามาอยู่ เพราะแม้แต่แชมป์โลกการต่อสู้ในโลกภายนอกก็ยังไม่ได้รับสิทให้เข้ามาอยู่ ดังนั้นก็ไม่ต้องพูดคนอย่างเขาเลย ….

“มันน่าทึ่งมากๆ !!!” ซือเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “มันน่าทึ่งยิ่งกว่าในข่าวลือซะอีก !! แม้ว่าคนข้างในจะไม่ได้ออกกำลังและฝึกฝนมากนัก แต่ร่างกายของพวกเขาก็จะแข็งแกร่งขึ้นเสมอ !!!”
“แล้วข่าวลือที่ว่า แม้แต่แชมป์โลกการต่อสู้ในโลกภายนอกก็ยังจัดถูกจัดให้อยู่ในระดับล่างๆในด้านความสามารถการต่อสู้ เมื่อเข้าไปใน Upper Zone นั่นมันจริงไหม ?” เหล่ยเปาอดไม่ได้ที่จะถามซือเฟิงขึ้น เมื่อได้ยินดังนี้

สถานที่ที่สามารถจะช่วยเสริมสร้างสมรรถภาพทางกายได้อย่างต่อเนื่อง … นี่มันเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อสุดๆ และมันก็ได้ทำลายมุมมองรวมทั้งความเชื่อของเขาส่วนใหญ่ที่เกี่ยวกับการออกกำลังกายไป

“ข่าวลือมันก็ออกจะเกินจริงไปหน่อย แต่ก็ไม่ได้แตกต่างจากข่าวลือมากนักหรอก …” ซือเฟิงกล่าวโดยไม่คิดจะปิดบัง “แม้ว่าจะไม่ได้ออกกำลังและฝึกฝนใดๆ แต่ในที่สุดคุณภาพร่างกายทางกายภาพก็จะขึ้นไปเทียบได้กับปรมาจารย์เหิงเหลียน แต่หากผ่านการฝึกเรื่อยๆภายในนั้นรวมทั้งใช้โพชั่นและยาบางอย่างช่วย คุณภาพร่างกายทางกายภาพก็จะยิ่งน่าทึ่งยิ่งขึ้นไปอีก”

“มันน่าทึ่งขนาดนั้นเลยงั้นหรอ ?” เหล่ยเปารู้สึกตกตะลึง เมื่อได้ยิคำอธิบายของซือเฟิง

เขามาถึงจุดที่เขาเป็นอยู่ในปัจจุบันนี้อย่างยากลำบาก แต่เขากับสามารถจะเข้าถึงมันได้ง่ายๆโดยไม่ต้องออกกำลังและฝึกฝนใดๆใน Upper Zone หากข่าวเรื่องนี้แพร่กระจายออกไป ใครกันจะเชื่อ ?

แต่เขาก็รู้ดีว่าซือเฟิงนั้นไม่ได้โกหกเขา ทุกอย่างใน Upper Zone มันจะต้องเป็นไปตามที่ซือเฟิงบอกแน่นอน

ชั่วขณะหนึ่งเหล่ยเปารู้สึกว่าชีวิตของเขาไร้ค่าไปเลย และทุกสิ่งที่เขาพยายามทำมาจนถึงตอนนี้มันดูไร้ประโยชน์มากๆ

“ปรมาจารย์เหล่ยเปา คุณไม่ต้องท้อถอยไปหรอก ….” ซือเฟิงมองไปที่ท่าทีของเหล่ยเปาในปัจจุบัน ก่อนที่เขาจะกล่าวอย่างช้าๆ “กิลสภาสิบแปดปีกของเราจะเข้ามาพัฒนาใน Upper Zone แน่นอนในอนาคต และนอกเหนือจากฉัน ไป๋ฉิงเฉว (ชื่อในโลกจริงของเสวี่ยเหวินโหรว) อควาโรส ฉันก็จะเริ่มหาทางให้คนของเราได้เข้ามาที่นี่มากขึ้น และเราก็จะทำเหมือนกับพวกมหาอำนาจที่แท้จริงหลายกลุ่มที่ถือว่าพื้นที่ Upper Zone นั้นเป็นสำนักงานใหญ่หลักของตัวเอง”

แม้ว่าซือเฟิงจะพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ และไม่ได้ดังมากนัก แต่เหล่ยเปาและเหลียงจิงก็อดไม่ได้ที่จะเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและคาดหวัง

หากคนพูดเรื่องนี้ไม่ใช่ซือเฟิง พวกเขาจะมองว่ามันเป็นเรื่องตลก

แต่พวกเขารู้ดีว่าซือเฟิงนั้นเป็นคนที่คอยสร้างปาฎิหาริย์มาตลอดเวลา เขาสามารถพัฒนาสภาสิบแปดปีกมาถึงจุดปัจจุบันได้ด้วยตัวเอง ฉะนั้นมันก็ไม่มีอะไรที่จะเป็นไปไม่ได้สำหรับเขาแน่นอน

และซือเฟิงก็เป็นพวกที่จะไม่พูดอะไรเลย ถ้าไม่มั่นใจว่าจะทำได้ ซึ่งเมื่อเขาพูดออกมาแบบนี้ มันย่อมแสดงให้เห็นว่าเขามีวิธีที่จะบรรลุเป้าหมายนี้

“กิลสภาสิบแปดปีกของเราจะเข้ามาพัฒนาใน Upper Zone ในอนาคตงั้นหรอ ?” เหลียงจิงมองไปที่กำแพงเหล็กพลางพึมพำด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น

หากพวกเขาสามารถทำได้จริงๆ สภาสิบแปดปีกก็จะไปถึงจุดที่มหาอำนาจส่วนใหญ่ไม่สามารถจะทำอะไรกับกิลได้แล้วแน่นอน

ขณะเดียวกันตอนนี้เหล่ยเปาก็กำหมัดแน่นด้วยความคาดหวัง และความปราถนาที่เอ่อล้นในใจของเขา ตอนนี้เขารู้สึกว่าการเลือกเข้าร่วมกับสภาสิบแปดปีกเป็นสิ่งที่ฉลาดที่สุดที่เขาเคยทำมาในชีวิตเลย

“นี่คือโพชั่นเพิ่มพลังสามขวด เหลียงจิง นำสองขวดไปให้ไฟเออร์แดนซ์ กับไวโอเล็ตคลาวด์” ซือเฟิงหยิบโพชั่นเพิ่มพลังสามขวดออกมา ก่อนจะออกคำสั่งและยื่นให้กับเหลียงจิงไปสองขวด จากนั้นเขาก็หันไปหาเหล่ยเปาและกล่าวว่า “ปรมาจารย์เหล่ยเปา คุณเอาขวดสุดท้ายนี่ไป ฉันเชื่อว่าด้วยโพชั่นนี้มันน่าจะทำให้คุณไปได้ไกลกว่านี้”

ไฟเออร์แดนซ์ และไวโอเล็ตคลาวด์นั้นมักจะออกกำลัง และฝึกฝนอย่างจริงจังเสมอๆ ซึ่งความสามารถและพรสวรรค์ของทั้งสองนั้นก็มีสูงมาก แต่น่าเสียดายที่เนื่องจากทรัพยากรของพวกเธอมีจำกัด ดังนั้นการพัฒนาของพวกเธอจึงเป็นไปอย่างเชื่องช้ากว่าที่ควรจะเป็น แต่ตอนนี้เมื่อได้รับโพชั่นเพิ่มพลังไปช่วย ซือเฟิงเชื่อว่าทั้งสองน่าจะสามารถทลายขีดจำกัดของร่างกายทางกายภาพของตัวเองไปได้อีกขั้น ….

สำหรับปรมาจารย์เหล่ยเปา เขามีความสามารถสูงอยู่แล้ว และซือเฟิงก็ตั้งความหวังไว้กับเขาสูงมาก แต่เขาเคยชินกับการต้องดิ้นรนและต่อสู้มาเพียงลำพังมาเกือบตลอดชีวิต และเขาก็พึ่งจะมาได้รับการอัดฉีดทรัพยากรให้จริงๆก็หลังจากเข้าร่วมกับสภาสิบแปดปีก ดังนั้นซือเฟิงจึงต้องเร่งพัฒนาของเขาหน่อย เพราะท้ายที่สุดแล้วการฝึกหนักเพียงอย่างเดียวมันไม่เพียงพออีกแล้วในโลกยุคปัจจุบัน

มันจำเป็นจะต้องมีความร่ำรวยเพื่อรับเอาทรัพยาการที่ช่วยในการฝึกฝนมาด้วย !!!

และหากคนๆหนึ่งต้องการจะบรรลุเป้าหมายบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่จริงๆ คนๆนั้นก็จะต้องการทรัพยากรจำนวนมาก

แม้ว่าซือเฟิงจะให้สารอาหารเหลวระดับ S กับเหล่ยเปาไปจำนวนหนึ่งก่อนหน้านี้ แต่มันก็เห็นได้ชัดเลยว่าสารอาหารเหลวระดับ S ที่ซือเฟิงให้ไปนั้นมันไม่เพียงพอที่จะตอบสนองต่อการทำงานหนักของเหล่ยเปาได้

ดังนั้นตราบใดที่มีโพชั่นเพิ่มพลัง เหล่ยเปาก็น่าจะทะลุเข้าถึงขอบเขตครึ่งก้าวก่อนเข้าสู่ระดับสุดยอดปรมาจารย์เหิงเหลียนได้ไม่ยาก

ซึ่งหากเขาประสบความสำเร็จในการไปถึงระดับนั้น สภาสิบแปดปีกก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นไปอีก

“ขอบคุณหัวหน้ากิล ฉันจะไม่ทำให้คุณต้องผิดหวังแน่นอน !!!” เหล่ยเปามองไปที่โพชั่นเพิ่มพลังด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความขอบคุณ

เขาเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับโพชั่นเพิ่มพลังมาบ้าง สิ่งนี้มันเปรียบเสมือนกับยาแห่งสวรรค์ในโลกการต่อสู้ เพราะแค่ขวดเดียวมันก็สามารถจะช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางกายได้อย่างก้างกระโดด และมันมีข่าวลือว่ามันหายากยิ่งกว่าโพชั่นแห่งชีวิตด้วยซ้ำ ซึ่งแม้แต่พวกระดับปรมาจารย์ก็ยังยากจะได้รับมันมาสักขวด

พูดกันตามตรงจริงๆ แม้แต่ปรมาจารย์บางส่วนก็ยังต้องต่อสู้แย่งชิงกันเพื่อให้ได้มันมาสักขวด

แต่ตอนนี้ซือเฟิงกับหยิบโพชั่นนี้สามขวดออกมา และมอบหนึ่งขวดให้กับเขาโดยตรง ดังนั้นจะไม่ให้เขาตื่นเต้นได้อย่างไร ?

ด้วยโพชั่นเพิ่มพลังนี้ เขามั่นใจว่าเขาจะสามารถทะลุเข้าสู่ขอบเขตครึ่งก้าวก่อนเข้าสู่ระดับสุดยอดปรมาจารย์เหิงเหลียนได้แน่นอน และนี่มันก็จะทำให้เขาสามารถรับมือกับพวกระดับปรมาจารย์ที่มาก่อกวนสภาสิบแปดปีกอยู่เรื่อยๆตอนนี้ได้สบายๆ

“อย่างไรก็ตามหัวหน้ากิล ในปัจจุบันเนื่องจากมันมี NPC ปรากฎตัวขึ้นมามากขึ้นอีกระลอกใน God domain ดังนั้นมหาอำนาจต่างๆจึงเริ่มจะเล็งเป้ามาที่หอคอยแห่งพันธสัญญาลับกันแล้ว ตอนนี้มันมีการต่อสู้มากกว่าสิบครั้งเกิดขึ้นรอบเมืองสกายสปริง ยิ่งไปกว่านั้นพวกขั้นสามมากกว่าพันคนของฝ่ายเรายังถูกฆ่าหรือไม่ก็บาดเจ็บ” เหลียงจิงกล่าวขึ้นมาอย่างเป็นกังวล “แต่โชคดีที่รองหัวหน้ากิลอิลูซะรี่เวิร์ดแห่งจักรพรรดิคริมสัน และรองหัวหน้ากิลอันยีลดิ้งฮาร์ทแห่งอันยีลดิ้งโซลได้กลับมาถึงพร้อมกับกองกำลังผู้เล่นชั้นยอดจำนวนมาก ไม่งั้นผลที่ตามมามันอาจจะเป็นหายนะได้”

“ตอนนี้ทั้งสองรู้สึกว่าหากสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้ต่อไป พวกเขาก็คงจะทนได้อีกไม่นานเช่นกัน โดยในตอนนี้เนื่องจากการเพิ่มจำนวนขึ้นมาของ NPC อีกระลอก มันก็ทำให้กิลเล็กๆบางแห่งถึงกับต้องยุบกิล สำหรับกิลขนาดใหญ่ต่างๆ แม้ว่าพวกเขาจะมีกองกำลังจำนวนมากประจำการอยู่ตามเมืองกิลต่างๆของตัวเอง แต่ตอนนี้พวกกองกำลัง NPC ก็เริ่มก่อปัญหามากขึ้นในแต่ละเมืองของพวกเขาแล้ว ซึ่งนี่มันทำให้พวกกิลขนาดใหญ่ต่างๆปวดหัวอย่างมาก”

“ดังนั้นตอนนี้กิลขนาดใหญ่หลายแห่ง รวมไปถึงมหาอำนาจต่างๆจึงเริ่มจะเล็งเป้ามาที่หอคอยแห่งพันธสัญญาลับที่จะไม่มี NPC มาคอยรบกวนใดๆในระหว่างการล่าและเก็บเลเวล และตอนนี้เมื่อกองกำลังของ NPC เริ่มส่งผลต่อสถานการ์โดยรวมมากขึ้นเรื่อยๆ ฉันก็กลัวว่าวันหนึ่งกิลขนาดใหญ่หลายแห่งรวมไปถึงมหาอำนาจต่างๆพวกนี้จะไปถึงจุดที่บ้าคลั่งและพร้อมจะทำทุกอย่าง”

เมื่อเหลียงจิงรายงานสถานการณ์ล่าสุดของหอคอยแห่งพันธสัญญาลับ และโลกยุคปัจจุบันของ God domain ให้เขาฟัง ซือเฟิงก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเล็กน้อย

ฉันไม่คิดเลยจริงๆว่าเหตุการณ์หลายอย่างมันจะเกิดขึ้นเร็วแบบนี้ …. ดูเหมือนว่ามันถึงเวลาที่จะต้องทำ … แล้วสินะ

เมื่อสถานการณ์พัฒนามาถึงจุดนี้ มันก็หมายความว่าโลก God domain ยุคปัจจุบันนั้นได้พัฒนาถึงยุคแห่งการแย่งชิงความเป็นเจ้าโลกแล้ว และหอคอยแห่งพันธสัญญาลับก็ถือว่าเป็นดินแดนศักสิทธิ์สำหรับการเก็บเลเวล อีกไม่นานหลายกลุ่มก็คงจะต้องพยายามเคลื่อนไหวแบบโจ่งแจ้ง และหาทางเข้าไปในหอคอยแห่งพันธสัญญาลับให้ได้แน่นอน

“ฉันเข้าใจแล้ว” ซือเฟิงครุ่นคิดอยู่ภายในใจครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะมองไปที่เหลียงจิง และพูดว่า “ในตอนนี้ เมื่อเธอกลับไป อย่าปล่อยให้สมาชิกของเราออกไปล่าหรือทำงานด้านนอกแบบมั่วๆ ให้เน้นไปที่การส่งพวกเขาเข้าสู่หอคอยแห่งพันธสัญญาลับเพื่อเก็บเลเวล และลดกิจกรรมรอบๆเมืองกิลทั้งหมดของเราลง ตอนนี้เราจำเป็นที่จะต้องลดช่องว่างเรากับ NPC ลงให้ไวที่สุด ไม่งั้นในอนาคตเราจะมีปัญหาแน่นอน ….”

ในตอนแรกเขาคิดว่ามันน่าจะต้องใช้เวลาราวสิบวันหรือมากกว่านั้นกว่าที่กองกำลัง NPC จะเริ่มดำเนินการอะไรแบบนี้ เขาไม่ได้คิดเลยจริงๆว่าเรื่องนี้มันจะเกิดขึ้นเร็วมาๆ

เมื่อเป็นแบบนี้นั้นสถานการณ์ทั้งหมดมันก็จะยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อผู้เล่นออกจากเมืองกิลไปล่า พวกเขาก็มีสิทจะถูกกองกำลัง NPC ดักโจมตีในทุกรูปแบบ ซึ่งท้ายที่สุดแล้วนี่มันก็จะทำให้เหล่าผู้เล่นอ่อนแอลงเรื่อยๆจนไม่สามารถจะรักษา
เมืองกิลของตัวเองเอาไว้ได้ และในท้ายที่สุดแล้วพวกเขาก็จะต้องละทิ้งเมืองกิลนั้นๆของตัวเอง

“ฉันเข้าใจแล้ว ฉันจะรีบไปจัดการทุกอย่างตามสั่งทันที เมื่อฉันกลับไป …” เหลียง
จิงกล่าวพลางพยักหน้า

หลังจากนั้นซือเฟิงก็ได้พูดคุยเรื่องราวต่างๆกับเหลียงจิงอีกนิดหน่อย รวมทั้งเขายังสั่งให้เหลียงจิงเก็บรวบรวมวัสดุพื้นฐานที่จะใช้สร้างป้อมปราการเคลื่อนที่ขนาดเล็กอย่างลับๆ ก่อนที่เขาจะนำไป๋ฉิงเฉว และอควาโรสมุ่งหน้าเข้าสู่ Upper Zone ท่ามกลางสายตาอิจฉาของเหล่ยเปา และเหลียงจิง

เมื่อซือเฟิงพาทั้งสองเข้ามาใน Upper Zone สภาพของทั้งสองก็ดูดีขึ้นกว่าตอนที่อยู่ในโลกภายนอกอย่างเห็นได้ชัด ตอนนี้ทั้งสองไม่ได้ดูเย็นชา และให้ความรู้สึกแปลกแยกแบบก่อนหน้านี้ แถมตอนนี้ดูเหมือนปัญหาสภาพจิตใจของพวกเขาก็จะลดลงไปมากเช่นกัน

นอกจากนี้แล้วซือเฟิงก็ยังเลือกชุดอาหารสุดหรูที่มีราคาเป็นคะแนนการค้าสามร้อยแต้มให้กับทั้งสองได้กิน ซึ่งนี่ทำให้สภาพจิตใจของทั้งสองมีแนวโน้มกลับมามั่นคงขึ้น โดยพูดกันตามตรงอย่างน้อยตอนนี้ทั้งสองก็สามารถพูดคุยปกติได้บ้างแล้ว ไม่เหมือนกับก่อนหน้านี้ที่ทั้งสองดูไม่สนใจโลกเลย
อย่างน้อยตอนนี้ Upper Zone มันก็ช่วยทั้งสองคนได้จริงๆ …. ซือเฟิงคิดและอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

“สภาพแวดล้อมที่นี่ดูเหมือนมันจะช่วยทั้งสองคนได้อย่างมากจริงๆ ขั้นตอนต่อไปฉันจะต้องหาวิธีการรักษาตำแหน่งยี่สิบอันดับแรกในการแข่งขันเพื่อเก็บคะแนนสะสมไว้ให้” ซือเฟิงพึมพำ และครุ่นคิดขณะที่เขาเตรียมจะใช้ห้องเกมเคบินล๊อคอินกลับเข้าสู่ God domain พร้อมกับสองสาว โดยในตอนนี้ซือเฟิงก็เริ่มวางแผนที่จะทำการรวบรวมคริสตัลเจ็ดลูมินาลี่ใน God domain อย่างจริงจังด้วย

ซือเฟิงรู้ดีว่าการแข่งขันเพื่อเก็บคะแนนสะสมในตอนนี้มันเป็นเพียงแค่การอุ่นเครื่อง และหากเขาต้องการจะติดอยู่ในยี่สิบอันดับแรกจริงๆ เขาก็จะต้องมีคะแนนสะสมอย่างน้อยสองแสนแต้ม ซึ่งนี่มันก็เท่ากับว่าเขาต้องการคริสตัลเจ็ดลูมินาลี่อีกอย่างน้อย
หนึ่งหมื่นห้าพันชิ้น ….

โดยตัวเลขนี้มันนับว่าสูงมาก แม้แต่กับซุเปอร์กิลทั้งห้า ….

หลังจากนั้นซือเฟิงก็ทำการดื่มโพชั่นเพิ่มพลัง และโพชั่นแห่งชีวิตอย่างละขวด ก่อนจะล๊อคอินกลับเข้าสู่ God domain ทันที

ป.ล. คือในอนาคตสามารถจะขายคะแนนได้ แต่สถิติคะแนนสะสมที่เก็บรวบรวมมาจะยังอยู่ ดังนั้นซือเฟิงเลยยังตั้งเป้าที่จะไปติดยี่สิบอันดับแรกในการแข่งขันเพื่อเก็บคะแนนสะสมของบริษัทกรีนก๊อดอยู่เหมือนเดิม ….

Reincarnation Of The Strongest Sword God

Reincarnation Of The Strongest Sword God

เริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง เขาได้เข้ามาสู่ “เกมแห่งมีชีวิต” นี้อีกครั้งเพื่อที่จะควบคุมโชคชะตาของตัวเอง ครั้งนี้ , เขาจะไม่ถูกควบคุมจากคนอื่น ก่อนหน้านี้ราชาแห่งดาบเลเวล 200 , เขาได้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในชีวิต วิธีการที่จะได้รับเงิน! กลยุทธ์แห่งชัยชนะในดันเจี้ยน! เควสในตำนาน! สถานที่ดรอปอุปกรณ์! ทักษะที่ยังไม่ถูกค้นพบ! แม้แต่ความลับที่พวกผู้ทดสอบเบต้าไม่รู้ , เขารู้มันทั้งหมด สงครามอันยิ่งใหญ่ , ความก้าวหน้าในชีวิต , เข้าสู่ความเป็นพระเจ้า , บรรลุถึงจุดสูงสุดแห่งดาบ ตำนานของชายผู้ที่จะกลายเป็นเทพแห่งดาบได้เริ่มขึ้นแล้ว Starting over once more, he has entered this “living game” again in order to control his own fate. This time, he will not be controlled by others. Previously the Level 200 Sword King, he will rise to a higher peak in this life. Methods to earn money! Dungeon conquering strategies! Legendary Quests! Equipment drop locations! Undiscovered battle techniques! Even the secrets Beta Testers were unknowledgeable of, he knows of them all. Massive wars, life advancement, entering Godhood, sword reaching to the peak; a legend of a man becoming a Sword God has begun.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset