Reincarnation Of The Strongest Sword God – ตอนที่ 2797

ตอนที่ 2797 หนึ่งดาบตัดผ่านภูเขาและทะเล

โดยเสียงที่พูดล่าสุดนั้นมันก็ไม่ใช่เสียงใครอื่นนอกจากเสียงของซือเฟิง และนี่มันก็ทำให้เหล่าสมาชิกของทีมนักผจญภัยวอร์บลัดที่เฝ้าดูอยู่จากระยะไกลอดไม่ได้ที่จะอ้าปากค้างเมื่อได้เห็นฉากตรงหน้า

ทุกคนนั้นแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าสิ่งที่พวกเขาได้เห็นมันเป็นความจริง

ดีไวน์ชาโด้ว คลีนซิ่งเฟรม และสมาชิกคนอื่นๆของฮีฟเว่นเบลดนั้นก็ตกตะลึงมากเช่นกัน ตอนนี้พวกเขารู้สึกได้เลยว่าซือเฟิงได้ทำลายสิ่งที่พวกเขาคิดว่ารู้เกี่ยวกับอาชีพขั้นสี่ลงไปอย่างสิ้นเชิง

สำหรับพลังของโซ่แห่งเลือดนั้น พวกเขาได้เรียนรู้มาด้วยตัวเองเป็นการส่วนตัวแล้ว พลังของเวทย์นี้มันแข็งแกร่งมากๆ และแม้แต่มอนสเตอร์ระดับเทพนิยายขั้นสี่ที่เลเวลเดียวกันกับผู้ใช้ก็ยังไม่น่าจะดิ้นหลุดไปได้

แต่ตอนนี้โซ่สีเลือดนี้กับหยุดอยู่ห่างจากซือเฟิงราวหนึ่งหลา และไม่สามารถขยับเข้าใกล้ซือเฟิงได้เลยเป็นเวลาราวสามสิบวินาทีแล้ว !!!

พวกเขาไม่ได้เห็นซือเฟิงทำการเคลื่อนไหวใดๆแบบชัดเจนเลย ที่พวกเขาเห็นจริงๆก็คือซือเฟิงยืนอยู่อย่างสงบ ณ จุดเดิมไม่ได้ขยับไปไหนใดๆ แต่โซ่ทั้งหมดนั้นกับดูเหมือนจะกลัวซือเฟิง และมันก็ได้หยุดลงห่างจากซือเฟิงเพียงหนึ่งหลา โดยที่ไม่กล้าจะขยับเข้าไปใกล้ซือเฟิงเพิ่มขึ้นอีกเลยแม้แต่นิดเดียว

“เป็นไปไม่ได้ !!!”

“นี่มันเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน !!!”

ออทั่มแพล้นมองไปยังซือเฟิงที่ไม่ได้ทำอะไรเลยด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความตกตะลึง และเมื่อเทียบกับคนอื่นๆแล้ว เขามีความตกตะลึงกับงงงวยในสถานการณ์นี้มากกว่ามาก

เพราะท้ายที่สุดผู้ที่ใช้เวทย์ไปเมื่อครู่นั้นคือตัวเขาเอง และนั่นมันก็เป็นเวทย์พันธนาการที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาแล้ว เขาไม่เหลืออะไรให้ใช้อีกแล้ว

“มันเป็นไปไม่ได้แน่นอนที่จะต้านทานเวทย์ขั้นสี่ได้โดยไม่ใช้สกิลหรือเวทย์ใดๆ !!!” ตอนนี้ออทั่มแพล้นนั้นได้แต่มองไปยังซือเฟิงอย่างไม่เข้าใจ “นี่คุณทำบ้าอะไรกัน ?!”

หากซือเฟิงใช้สกิลหรือเวทย์เพื่อต่อต้านเวทย์มนต์ของเขาเมื่อครู่ ทุกอย่างมันก็จะยังอยู่ในขอบเขตที่เขาพอจะเข้าใจได้ แต่นี่ซือเฟิงกับไม่ได้ทำอะไรเลย สิ่งที่เขาทำมันมีเพียงแค่การแผ่ระลอกคลื่นมานาออกมาจากร่างของเขาเท่านั้น ซึ่งนี่มันก็ได้ทำให้โซ่สีเลือดไม่สามารถเข้าใกล้เขาได้เลย ใครมันจะไปเชื่อเรื่องนี้ได้กัน ?

ในตอนนี้ไม่ต้องพูดถึงออทั่มแพล้นเลย แม้แต่ทั้งสามคนที่มากับซือเฟิงก็ยังรู้สึกตกตะลึงและงงงวยกับเรื่องนี้

พวกเขารู้ดีว่าซือเฟิงนั้นแข็งแกร่งมากๆ และซือเฟิงก็เกือบจะฆ่าไลอ้อนฮาร์ทได้ในการโจมตีเดียว แต่เมื่อเผชิญหน้ากับเวทย์ขั้นสี่ที่ถูกใช้โดยจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ขั้นสี่ พวกเขามีแต่จะต้องเปิดใช้งานสกิลเบอเซิกร์ของตัวเองเท่านั้นจึงจะพอมีสิทดิ้นหลุดได้ แต่ตอนนี้ซือเฟิงกับทำได้ในทุกสิ่งที่มันเหนือความคาดหมายของพวกเขาไปมาก

“นี่คุณยังมองเห็นไม่ชัดอีกงั้นหรอ ?” ซือเฟิงมองไปยังออทั่มแพล้น ก่อนที่เขาจะกล่าวออกมาอย่างเรียบๆว่า “ในฐานะจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ขั้นสี่ คุณน่าจะเห็นมันได้ชัดเจนมากกว่าคนอื่นๆนะ มันก็แค่ระดับของมานาเท่านั้น คุณคิดว่าโซ่เล็กๆง่อยๆนี้จะสามารถใช้พันธนาการช้างได้งั้นหรอ ?”

หลังจากที่เขาได้รับคะแนนอำนาจในโลก God domain มาเพิ่มขึ้นสองแต้มจากการทำเควสช่วยเหลือแองเจริก้า เทเรซ่าเสร็จสิ้น มันก็ทำให้ความสัมพันธ์ของเขากับโลกเพิ่มขึ้นตามคะแนนอำนาจที่เขาได้รับมา ซึ่งนี่มันก็ทำให้เขาสามารถปรับปรุงการควบคุมมานา และรับรู้ถึงกฎการใช้กับหลักการทำงานของมานาได้ดีขึ้นอย่างมาก ดังนั้นมานาที่เขาใช้ตอนนี้มันจึงแข็งแกร่งกว่าก่อนหน้านี้อย่างเทียบไม่ติด

ทุกวันนี้มานาที่เขาสามารถดึงดูด หรือใช้ออกมาจากร่างของตัวเองได้นั้น มันมากและแข็งแกร่งกว่าตอนที่เขาพึ่งปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาระดับอีปิคของตัวเองได้หนึ่งร้อยสิบเปอเซ็นต์ราวห้าสิบเปอเซ็นต์เลย

มันอาจกล่าวได้ว่าซือเฟิงจะมีความเข้าใจถึงเวทย์มนต์ทั้งหมดที่เข้ามาในโดเมนมานาของเขาอย่างชัดเจน ไม่ต้องพูดถึงเวทย์พันธนาการขั้นสี่ที่มีอัตราความสำเร็จในการใช้สกิลต่ำกว่าหนึ่งร้อยเปอเซ็นต์เลย มันเป็นแค่เรื่องตลกเท่านั้นแหละที่คิดจะใช้เวทย์แบบนี้พันธนาการเขา
และมันสามารถจะกล่าวได้เลยว่าการโจมตีเขาแบบนี้ไม่มีประสิทธิภาพมากเท่ากับการโจมตีเขาโดยตรงด้วยซ้ำ

“คุณหมายความว่ายังไงกัน ?” ออทั่มแพล้นยังคงรู้สึกตกตะลึงกับงงงวย และเขาไม่เข้าใจสิ่งที่ซือเฟิงพูดเลย

เรื่องนี้มันเหมือนกับการเทียบกันในด้านความเข้าใจและพลังของมานาทั้งหมด ซึ่งเขาเป็นจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ขั้นสี่ แล้วเขาจะมาแพ้ให้กับจักรพรรดิดาบขั้นสี่ในด้านนี้ได้ยังไง ?

“เฮ้อ …. งั้นคุณก็ลองสัมผัสมันด้วยตัวเองแล้วกัน !!!!” ซือเฟิงกล่าวพลางถอนหายใจออกมา เรื่องนี้มันทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะส่ายหัวและหัวเราะเบาๆ

หลังจากนั้นเมื่อซือเฟิงกล่าวจบ โดยที่มีซือเฟิงเป็นศูนย์กลาง เขาก็จัดการแผ่ระลอกคลื่นมานาออกมาจนครอบคลุมรัศมีหนึ่งพันหลาซึ่งเป็นขีดจำกัดสูงสุดของโดเมนมานาของเขาทันที โดยพื้นที่ภายในโดเมนมานาของซือเฟิงนั้นมืดลง และมีความบิดเบี้ยวเกิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แม้จะมองจากระยะไกลก็ตาม

ในขณะเดียวกันออทั่มแพล้นที่อยู่ภายในโดเมนมานานี้ด้วยนั้นอยู่ๆเขาก็รู้สึกราวกับว่าตัวเองจมลึกลงไปในโคลนตม และแค่จะทำการขยับ กับเคลื่อนไหวร่างกายเขาก็ยังทำได้อย่างยากลำบากมากๆ นี่ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่าเขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าตอนนี้มานาโดยรอบนั้นไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของเขาอีกต่อไป และมันยังมีแรงกดดันมหาศาลกดลงมายังตัวเขาด้วย ซึ่งเมื่อรวมทั้งหมดนี้แล้ว มันทำให้ตัวเขาแทบจะยืนไม่อยู่ และอยากจะอาเจียนออกมาเลย

“ไม่ ! เป็นไปไม่ได้ !! นี่คุณมีมานาที่ทรงพลังมากขนาดนี้ได้ยังไงกัน ?!!” ออทั่มแพล้นตะโกนพลางมองไปยังซือเฟิง ในเวลานี้ดวงตาของเขามันหลงเหลือเพียงแค่ร่องรอยแห่งความกลัวและบ้าคลั่งเท่านั้น เพราะเขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันจะมีคนแบบนี้อยู่บนโลกด้วย

ที่ระยะไกลออกไป เมื่ออิ้งเฟเธอร์มองไปยังออทั่มแพล้นที่มีท่าทีบ้าคลั่งมากๆเมื่อยืนอยู่ต่อหน้าของซือเฟิงตอนนี้ เธอก็ได้ติดต่อเขาไปโดยตรงทันที

“รองผู้บัญชาการออทั่มแพล้น มันเกิดอะไรขึ้น ?” อิ้งเฟเธอร์กล่าวถามด้วยความประหลาดใจ เมื่อเธอเห็นท่าทีของออทั่มแพล้น “ต้องการให้เราช่วยไหม ?”
มันเห็นได้ชัดเลยว่าเมื่อหนึ่งวินาทีก่อนนั้นออทั่มแพล้นยังเป็นปกติอยู่เลย แต่ในวินาทีต่อมา หลังจากพื้นที่โดยรอบตัวเขามืดลง และบิดเบี้ยว ออทั่มแพล้นก็แสงอาการบ้าคลั่งและผิดปกติออกมาทันที ซึ่งมันสามารถมองเห็นได้ชัดเลยจากระยะไกล

“ไม่ต้อง !! หนี !!! หนีไป !!!” ออทั่มแพล้นกล่าวกับอิ้งเฟเธอร์ด้วยท่าทีบ้าคลั่ง ก่อนที่เขาจะกล่าวต่ออีกว่า “เขาไม่ใช่มนุษย์ เขาไม่ใช่มนุษย์อีกแล้ว !!!”

“ไม่ใช่มนุษย์ ? หมายความว่ายังไง ?” อิ้งเฟเธอร์รู้สึกงุนงง เมื่อได้ยินคำพูดของ
ออทั่มแพล้น เธอไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าออทั่มแพล้นหมายถึงอะไร

“มานาที่เขาสามารถจัดการและควบคุมได้นั้นมันน่ากลัวมากๆ !!! เราไม่สามารถเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้แน่นอน !!!” ออทั่มแพล้นกล่าวต่อด้วยความกลัวว่า “คุณต้องรีบหนีไป !! หนีไปแจ้งเรื่องนี้ให้ผู้บัญชาการรู้เพื่อให้เขาติดต่อไปยังหัวหน้ากิลของมือลับ ตอนนี้มันมีเพียงมือลับเท่านั้นที่จะสามารถรับมือกับเขาได้ !!!”

“มีแค่มือลับเท่านั้นที่จะสามารถรับมือกับเขาได้งั้นหรอ ?”

อิ้งเฟเธอร์รู้สึกว่าออทั่มแพล้นบ้าไปแล้ว เมื่อเธอได้ยินคำพูดของเขา ซือเฟิงนั้นเป็นเพียงแค่จักรพรรดิดาบขั้นสี่ และแม้ว่าเขาจะเป็นคนแรกที่ได้รับการเลื่อนขั้นเป็นขั้นสี่ใน God domain แต่เขาก็ไม่น่าจะสามารถเทียบกับพวกกิลมือลับ ซึ่งเป็นกองกำลัง NPC ที่ใหญ่และทรงพลังที่สุดบนเกาะดราก้อนฮาร์ทได้ นี่ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่ายังไงซะซือเฟิงก็ไม่มีทางจะทำลายคุกเทพแห่งท้องทะเลของพวกเขาได้ด้วยซ้ำ

ผลของคุกเทพแห่งท้องทะเลนั้น นอกเหนือจากมันจะลดค่าสถานะพื้นฐาน และร่างกายทางกายภาพของผู้เล่นลงไปสามสิบเปอเซ็นต์ มันจะยังเพิ่มอัตราการผลาญค่าสตามิน่าและค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจของผู้เล่นขึ้นอย่างมากด้วย ซึ่งแม้แต่ผู้เล่นขั้นสี่ก็จะต่อสู้ภายในนี้ได้ไม่เกินสิบนาทีเท่านั้น

และเมื่อค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจกับค่าสตามิน่าหมดลง ผู้เล่นก็จะไม่สามารถเคลื่อนไหวใดๆได้เลย และไม่สามารถจะตายได้ด้วยซ้ำ และแม้ว่าพวกเขาจะเลือกไม่ทำอะไรซือเฟิงในตอนนั้น แต่ซือเฟิงก็ยังจะต้องติดอยู่ในคุกเทพแห่งท้องทะเลไปตลอดชีวิตแน่นอน

เมื่อเห็นว่าอิ้งเฟเธอร์มองมายังตัวเขาราวกับมองคนบ้า และเธอดูไม่เชื่อใดๆเลย ออทั่มแพล้นก็รีบกล่าวต่อว่า “ไม่ !! ฟังฉันนะ !! เขาไม่ใช่คนที่คุณเคยรู้จักอีกต่อไปแล้ว !!!”

อย่างไรก็ตามในระหว่างที่ออทั่มแพล้นกำลังจะพูดอะไรบางอย่างต่อ ในที่สุดซือเฟิงก็เริ่มเคลื่อนไหว

ซือเฟิงชัก Abyssal Blade ของเขาออกมาจากฝัก ก่อนที่เขาจะจับมันด้วยสองมือและชูขึ้นไปบนอากาศ

เทคนิคมานา ไลท์ชาโด้ว !!!

ทันใดนั้นเงาดาบขนาดใหญ่ที่มีความยาวหลายร้อยเมตรก็ปรากฎขึ้น ก่อนที่ซือเฟิงจะใช้มันฟันลงมาโดยตรง ซึ่งทุกสิ่งที่มันเคลื่อนไหวผ่านมานั้นก็แปรเปลี่ยนเป็นความว่างเปล่าทันที และพื้นที่บริเวณนี้ทั้งหมดมันก็ดูเหมือนจะถูกตัดขาดออกเป็นสองซีกเลย

สำหรับคุกเทพแห่งท้องทะเลที่ล้อมรอบซือเฟิงและอีกสามคนอยู่นั้น มันได้แตกออกเป็นสองส่วนทันที เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีนี้ของซือเฟิง ก่อนที่มันจะบังเกิดรอยแยกในทะเลซึ่งทอดตัวยาวไปหลายพันหลาทันที …. (ทะเลแยกน่ะ)

ซึ่งรอยแยกนี้นั้นมันก็ทำให้เรือรอบๆถูกดูดเข้าไปทั้งหมด ก่อนที่ผู้เล่นบนเรือนั้นจะกลายเป็นขี้เถ้า และตายทันทีภายในรอยแยกนี้

ผลจากการโจมตีนี้ของซือเฟิงมันทำให้เหล่าสมาชิกหลายคนที่ทำหน้าที่ควบคุมคุกเทพแห่งท้องทะเลอยู่กระอักเลือดออกมา และตอนนี้มันก็ทำให้แต่ละคนตกอยู่ในสภาพที่น่าสังเวชมากๆ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเจอผลสะท้อนกลับของวงเวทย์คุกเทพแห่งท้องทะเลที่ถูกทำลายไป

ขณะเดียวกันตอนนี้ร่างของออทั่มแพล้นก็หายไปอย่างสมบูรณ์จากจุดที่เขาเคยยืนอยู่

ตอนนี้ในพื้นที่มืดภายในโดเมนมานาของซือเฟิงนั้น มันไม่มีร่องรอยว่าออทั่มแพล้นเคยอยู่หลงเหลือด้วยซ้ำ มันเหลือแต่เพียงซือเฟิง กับอีกสามคนที่มากับเขาเท่านั้นที่ยังคงอยู่ ….

Reincarnation Of The Strongest Sword God

Reincarnation Of The Strongest Sword God

เริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง เขาได้เข้ามาสู่ “เกมแห่งมีชีวิต” นี้อีกครั้งเพื่อที่จะควบคุมโชคชะตาของตัวเอง ครั้งนี้ , เขาจะไม่ถูกควบคุมจากคนอื่น ก่อนหน้านี้ราชาแห่งดาบเลเวล 200 , เขาได้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในชีวิต วิธีการที่จะได้รับเงิน! กลยุทธ์แห่งชัยชนะในดันเจี้ยน! เควสในตำนาน! สถานที่ดรอปอุปกรณ์! ทักษะที่ยังไม่ถูกค้นพบ! แม้แต่ความลับที่พวกผู้ทดสอบเบต้าไม่รู้ , เขารู้มันทั้งหมด สงครามอันยิ่งใหญ่ , ความก้าวหน้าในชีวิต , เข้าสู่ความเป็นพระเจ้า , บรรลุถึงจุดสูงสุดแห่งดาบ ตำนานของชายผู้ที่จะกลายเป็นเทพแห่งดาบได้เริ่มขึ้นแล้ว Starting over once more, he has entered this “living game” again in order to control his own fate. This time, he will not be controlled by others. Previously the Level 200 Sword King, he will rise to a higher peak in this life. Methods to earn money! Dungeon conquering strategies! Legendary Quests! Equipment drop locations! Undiscovered battle techniques! Even the secrets Beta Testers were unknowledgeable of, he knows of them all. Massive wars, life advancement, entering Godhood, sword reaching to the peak; a legend of a man becoming a Sword God has begun.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset