Reincarnation Of The Strongest Sword God – ตอนที่ 2822

ตอนที่ 2822 จุดสูงสุดของ God domain

“ป้อมปราการเคลื่อนที่ลอยฟ้า ?! นี่มันเป็นไปได้ยังไง ?!”

“นี่มันต้องเป็นเรื่องโกหก !! เรื่องโกหกอย่างแน่นอน !!! ของแบบนี้จะปรากฎขึ้นมาตอนนี้ได้ยังไง ?!”

“มันมีภาพถ่ายยืนยัน ทุกเรื่องเป็นเรื่องจริง !!! แถมจากข้อมูลที่ฉันได้ยินมา ดูเหมือนว่าป้อมปราการเคลื่อนที่ลอยฟ้านี้ก็จะเป็นสวรรค์สำหรับการฝึกฝน แถมมันยังช่วยปรับปรุงความสัมพันธ์ของผู้เล่นกับองค์ประกอบธาตุเวทย์มนต์ และมานาได้อีกมากด้วย”

“ด้วยเจ้านี่สภาสิบแปดปีกจะพุ่งทะยานขึ้นไปอีกขั้นแน่นอน !!!”

เหล่าผู้เล่นในอาณาจักรทวินทาวเวอร์นั้นแทบจะไม่อยากเชื่อเลยว่าข่าวเรื่องนี้ที่ถูกเผยแพร่ลงไปในฟอรั่มทางการของอาณาจักรจะเป็นเรื่องจริง และพวกเขาก็ไม่เข้าใจเลยว่าสภาสิบแปดปีกมีป้อมปราการที่น่าจะเป็นแค่จินตนาการในระยะนี้ของเกมได้อย่างไร …. อย่างไรก็ตามเมื่อทุกคนได้เห็นรูปภาพ และวีดีโอจำนวนมากที่ถูกปล่อยออกมา พวกเขาก็จำเป็นจะต้องยอมรับความจริงของสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า แม้ว่ามันจะน่าเหลือเชื่อมากๆก็ตาม

โดยในวีดีโอนั้นมันแสดงให้เห็นถึงป้อมปราการลอยฟ้าที่สูงหลายร้อยร้อยเมตร และอยู่บริเวณหอคอยแห่งพันธสัญญาลับอย่างชัดเจน

แถมมันก็มีอักษรรูนเวทย์มนต์จำนวนมากอยู่รอบๆป้อมปราการ พร้อมกับมีหมอกสีขาวจางๆปกคลุมโดยรอบด้วย ซึ่งทำให้มันดูเหมือนกับป้อมปราการที่หลุดมาจากเทพนิยายสักเรื่องเลย

“ป้อมปราการเคลื่อนที่ลอยฟ้านั้นมันเจ๋งมากๆ !!! แค่ได้ไปอยู่ในป้อมปราการแล้วดื่มชา พร้อมกับมองลงมายังทิวทัศน์เบื้องล่าง ฉันก็รู้สึกว่าชีวิตนี้มันเพียงพอแล้ว !!!”

“ป้อมปราการเคลื่อนที่ลอยฟ้านี้จะเปิดให้สาธารณชนเข้าชมเมื่อไหร่ ?”

“ฉันได้ยินมาว่าสภาสิบแปดปีกจะเปิดให้แค่เฉพาะสมาชิกกิลของตัวเอง พร้อมกับพันธมิตรเข้าไปเท่านั้น เพราะท้ายที่สุดแล้วป้อมปราการเคลื่อนที่ลอยฟ้านั้นมันมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก และมันสามารถจะรองรับจำนวนคนได้ราวหนึ่งถึงสองล้านคนเท่านั้น โดยพวกเขาก็ได้เลือกจะใช้มันเข้าประจำการ และปิดกั้นบริเวณหอคอยแห่งพันธสัญญาลับเอาไว้เพื่อไม่ให้ผู้เล่นคนอื่นเข้าใกล้ ซึ่งแค่หอคอยแห่งพันธสัญญาลับ ผู้เล่นที่ไม่ใช่สมาชิกกิลของสภาสิบแปดปีก กับกิลพันธมิตรของสภาสิบแปดปีกก็ยังไม่ได้รับอนุญาติให้เข้าไปได้เลย ดังนั้นก็ไม่ต้องพูดถึงป้อมปราการเคลื่อนที่ลอยฟ้าแห่งนี้”

“เข้าร่วมกับสภาสิบแปดปีก !! ฉันจะต้องเข้าร่วมกับสภาสิบแปดปีกให้ได้ !!!”

เมื่อได้รับรู้ถึงป้อมปราการเคลื่อนที่ลอยฟ้าที่มีอยู่จริง และผลประโยชน์ของมัน มันก็ทำให้ผู้เล่นอิสระจำนวนมาก และสมาชิกกองกำลังขนาดใหญ่หลายคนอดไม่ได้ที่จะน้ำลายไหลออกมา

ขณะเดียวกันตอนนี้มันก็มีผู้เล่นอิสระจำนวนมากที่เริ่มคิดจะเข้าร่วมกับสภาสิบแปดปีกแล้ว

การต่อสู้ในเมืองสกายสปริงนั้นได้พิสูจน์ให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่าพันธมิตรสามกิลของสภาสิบแปดปีกไม่อาจจะถูกสั่นคลอนได้ และสภาสิบแปดปีกก็ยังมีผู้เล่นขั้นสี่อยู่ห้าคน ซึ่งมันไม่สิ่งที่มหาอำนาจทั่วไปจะสามารถเทียบได้เลย และเมื่อบวกรวมเข้ากับป้อมปราการเคลื่อนที่ลอยฟ้า และหอคอยแห่งพันธสัญญาลับในปัจจุบัน แม้แต่มหาอำนาจที่แท้จริงบางกลุ่มก็ยังยากจะเทียบกับสภาสิบแปดปีกได้เลยในแง่ของสภาพแวดล้อมการฝึกและเก็บเลเวลของผู้เล่นในกิล

ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง จำนวนผู้เล่นที่ต้องการจะสมัครเข้าร่วมกับสภาสิบแปดปีกได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างมหาศาล ขณะที่ภายในกิลสภาสิบแปดปีกนั้น เหล่าสมาชิกส่วนหนึ่งของกิลก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจอย่างโล่งอกออกมาที่พวกเขาไม่ได้ตัดสินใจออกจากกิลไปซะก่อน

ที่บริเวณด้านหน้าหอคอยแห่งพันธสัญญาลับ อันยีลดิ้งฮาร์ท และอิลูซะรี่เวิร์ดได้มาถึงแล้วพร้อมกับผู้เชี่ยวชาญขั้นสามจำนวนมาก ซึ่งตอนนี้พวกเขาก็ทุกคนก็กำลังมองไปยังป้อมปราการเคลื่อนที่ลอยฟ้าตรงหน้าอย่างตกตะลึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งอันยีลดิ้งฮาร์ท และอิลูซะรี่เวิร์ด แม้ว่าทั้งสองจะรู้เรื่องนี้มาก่อนแล้ว แต่พวกเขาก็ยังอดไม่ได้จริงๆที่จะตกตะลึงเมื่อได้มาเห็นของจริงด้วยตาตัวเอง เพราะว่าป้อมปราการนี้นั้นมันน่าทึ่งมากจริงๆ

สำหรับผู้เล่นขั้นสามนั้นอาจจะมองเห็นผลประโยชน์ของป้อมปราการแห่งนี้ได้ไม่ทั้งหมด แต่สำหรับผู้เล่นขั้นสี่อย่างพวกเขานั้น พวกเขาสามารถรู้สึกได้ถึงพลังมานาอันมหาศาลของป้อมปราการที่ปกคลุมพื้นที่ในรัศมีมากกว่าหนึ่งหมื่นหลาได้อย่างชัดเจนเลย และมานาในรัศมีมากกว่าหนึ่งหมื่นหลาทั้งหมดนี้ก็ล้วนพุ่งเข้ามารวมกันที่ป้อมปราการแห่งนี้ทั้งหมด ซึ่งมันทำให้ป้อมปราการนี้ดูน่ากลัวอย่างแทบจะไม่สามารถอธิบายได้เลย

แถมทุกอย่างมันก็ตรงตามชื่อเลยป้อมปราการ “เคลื่อนที่” ป้อมปราการนี้นั้นสามารถจะเคลื่อนที่ได้ ซึ่งทำให้มันแทบจะเป็นอมตะเลยในระยะนี้ของเกม

“เมื่อมีป้อมปราการนี้ บวกกับ หากสภาสิบแปดปีกสามารถรักษาหอคอยแห่งพันธสัญญาลับไว้ได้ กิลก็จะนับว่ากลายเป็นกิลชั้นยอดที่แท้จริงใน God domain แล้ว” อันยีลดิ้งฮาร์ทกล่าวพลางมองไปยังป้อมปราการเคลื่อนที่ลอยฟ้านี้ด้วยความรู้สึกอิจฉา

เขาเป็นอีกคนหนึ่งที่ได้เรียนรู้เรื่องราวของสภาสิบแปดปีกมาตั้งแต่ครั้งที่กิลยังเป็นเพียงกิลเล็กๆ แต่ตอนนี้สภาสิบแปดปีกกับได้เติบโตขึ้นมาจนเป็นกิลขนาดใหญ่ที่แม้แต่อันยีลดิ้งโซลก็ยังทำได้แค่แหงนหน้ามอง

แต่ก็แน่นอนว่าในด้านโลกแห่งความจริง กับมรดกของกิลนั้น สภาสิบแปดปีกก็ยังคงนับว่าด้อยกว่ากิลชั้นยอดส่วนใหญ่อยู่ระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตามตราบใดที่พวกเขาสามารถรักษาหอคอยแห่งพันธสัญญาลับไว้ได้ เรื่องพวกนี้ทั้งหมดมันก็มีแนวโน้มที่จะพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นมากๆ

“แม้ว่าในครั้งนี้ ฉันจะไม่รู้ว่าเราจะสามารถยืนหยัดรักษาหอคอยแห่งพันธสัญญาลับไว้ได้ไหม แต่ต่อให้ทำไม่ได้ สภาสิบแปดปีกก็จะไม่ได้รับผลกระทบมากนักแน่นอน ด้วยป้อมปราการเคลื่อนที่นี้ สภาสิบแปดปีกจะสามารถเข้าไปยึดครองแผนที่อันตรายที่มีเลเวลหนึ่งร้อยสามสิบหรือมากกว่านั้นได้สบายๆเลย ซึ่งความเร็วในการเก็บเลเวล และผลประโยชน์ทั้งหมดที่แผนที่เหล่านั้นมอบให้ก็จะไม่ได้ด้อยไปกว่าหอคอยแห่งพันธสัญญาลับมากนักเลย เพียงแต่อัตราการเลี้ยงดูผู้เล่นขั้นสามขึ้นมาของพวกเขาก็จะลดลงไปสักหน่อยเท่านั้น” อิลูซะรี่เวิร์ดกล่าวพลางพยักหน้าเห็นด้วยกับอันยีลดิ้งฮาร์ท

หากสภาสิบแปดปีกในอดีตเป็นดั่งเสือดุร้ายที่แข็งแกร่ง แต่โดดเดี่ยวซึ่งสามารถต่อกรกับมหาอำนาจต่างๆได้ ตอนนี้ในปัจจุบันสภาสิบแปดปีกก็คือสัตว์ร้ายขนาดใหญ่ และตราบใดที่กิลยังมีป้อมปราการเคลื่อนที่อยู่ มหาอำนาจส่วนใหญ่ก็จะแทบไม่สามารถเขย่ารากฐานของกิลได้แน่นอน และมันก็จะไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไปสำหรับพวกเขาที่จะกำหนดเป้าหมายมาที่สภาสิบแปดปีก

“เข้าไปข้างในกันเถอะ ….” อันยีลดิ้งฮาร์ทกล่าวในขณะที่เขาตรวจสอบเวลา “อีกไม่กี่ชั่วโมง กองทัพมอนสเตอร์ Faux Saint ก็น่าจะมาถึงแล้ว”

“อืมมม” อิลูวะรี่เวิร์ดพยักหน้า ก่อนที่เธอจะเริ่มจัดกำลังพลผู้เล่นขั้นสามทั้งหมดให้เดินทางเข้าสู่ป้อมปราการเคลื่อนที่นี้อย่างเป็นระเบียบ และเธอก็ได้กล่าวต่ออีกนิดหน่อยว่า “หากสามารถรักษาหอคอยแห่งพันธสัญญาลับไว้ได้ นอกเหนือจากสภาสิบแปดปีกแล้ว สองกิลของเราก็จะได้รับประโยชน์อย่างมากเช่นกัน ซึ่งในอนาคตกิลทั้งสองของเราอาจจะเทียบกับพวกซุเปอร์กิลได้เลย หากสามารถรักษาหอคอยนี้ไว้ได้จริงๆ”

ในตอนที่ผู้เล่นขั้นสามหลายหมื่นคนของพันธมิตรสามกิลได้หลั่งไหลเข้าสู่ป้อมปราการเคลื่อนที่กัน ที่บริเวณป่าด้านนอกแผนที่หอคอยแห่งพันธสัญญาลับ กองทัพมอนสเตอร์ Faux Saint นับล้านก็ได้เข้ามากลืนกินทุกสิ่งที่ขวางหน้าไม่เว้นแม้แต่ NPC หรือผู้เล่นเพื่อมาเสริมกำลังให้ตน และตอนนี้กองทัพนี้ก็กำลังเดินทางเข้าใกล้หอคอยแห่งพันธสัญญาลับมากขึ้นเรื่อยๆ

“จักรพรรดิอสูร ตอนนี้สภาสิบแปดปีกได้นำป้อมปราการเคลื่อนที่ออกมาช่วยปกป้องหอคอยแห่งพันธสัญญาลับแล้ว แถมสภาสิบแปดปีกยังระดมกำลังพันธมิตรสามกิลที่เป็นผู้เล่นขั้นสามมากกว่าสี่หมื่นคนเข้ามาไว้ในป้อมปราการเคลื่อนที่ด้วย กองทัพของเราจะสามารถจัดการกับพวกเขาได้แน่นอนใช่ไหม ?” เมื่อได้รู้ถึงข้อมูลของป้อมปราการเคลื่อนที่ ลู่ชิงหลัวก็อดไม่ได้ที่จะถามจักรพรรดิอสูรอย่างกังวล

ในการต่อสู้ในเมืองสกายสปริงนั้นกิลของเขาได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง และมันก็ไม่สามารถจะฟื้นตัวขึ้นมาได้ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ แต่อย่างไรก็ตามถ้าเขาไม่สามารถจะเข้ายึดครองและควบคุมหอคอยแห่งพันธสัญญาลับได้ ตำแหน่งหัวหน้ากิลสตาร์ลิ้งของเขาก็มีสิทจะได้ถูกแทนที่ด้วยคนอื่นแน่นอน

เนื่องจากเขารู้นิสัยของเหล่าผู้อาวุโส และผู้อาวุโสสูงสุดในกิลของเขาดี เขาจะไม่สามารถยืนหยัดยึดตำแหน่งหัวหน้ากิลของสตาร์ลิ้งไว้ได้นานนักแน่นอน หากเขายังคงแพ้ซ้ำซาก และถึงกระทั่งล้มเหลวในการเข้ายึดครองกับควบคุมหอคอยแห่งพันธสัญญาลับ และที่ตอนนี้คนเหล่านั้นยังไม่ลงมือใดๆ หรือทำการปลดเขา มันก็เป็นเพราะว่าเขาไม่ได้ตายในการต่อสู้ครั้งก่อน และเขาสามารถไปขอความร่วมมือจากร้อยผีโดดเดี่ยวได้

แม้ว่าป้อมปราการจะไม่ได้มีการป้องกันที่แข็งแกร่งเท่ากับเมืองกิลขนาดใหญ่ แต่มันก็จะไม่มีปัญหาในการจะรับมือกับการโจมตีของมอนสเตอร์ระดับเทพนิยาย ขั้นสี่แน่นอน

“ไม่ต้องกังวล ป้อมปราการเคลื่อนที่นี้อาจจะทำให้มหาอำนาจอื่นๆไร้ทางต่อต้านสภาสิบแปดปีก เพราะมันลอยอยู่บนฟ้า และหากไม่มีการโจมตีทางอากาศที่แข็งแกร่งมากพอก็จะไม่สามารถทำลายมันลงได้เลย แต่นั่นมันไม่ใช่เลยสำหรับฉัน อย่าลืมสิว่าฉันมีมอนสเตอร์ Faux Saint หลายพันตัวที่บินได้ นี่ยังไม่นับรวมพวกที่เดินเท้าที่รอเข้าเสริมกำลังเมื่อป้อมปราการร่วงลงจากฟ้าอีกนับล้าน” จักรพรรดิอสูรกล่าวด้วยรอยยิ้ม “แม้ว่าป้อมปราการจะสามารถต้านทานการโจมตีของมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายขั้นสี่ได้ แต่มันก็ต้องใช้พลังงานและคริสตัลเวทย์มนต์เป็นจำนวนมาก ซึ่งเมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับการโจมตีของมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายหลายพันตัวพร้อมกัน มันจะทนได้นานสักแค่ไหนกัน ?”

หากพวกเขามีมอนสเตอร์ระดับเทพนิยาย ขั้นสี่ แค่หลายสิบตัวสถานการณ์มันก็อาจจะยากลำบากสำหรับพวกเขา อย่างไรก็ตามตอนนี้พวกเขามีมอนสเตอร์ระดับเทพนิยาย ขั้นสี่หลายพันตัว ซึ่งหากทั้งหมดนี้โจมตีพร้อมกัน ต่อให้เป็นป้อมปราการเคลื่อนที่ที่มีวงเวทย์ป้องกันที่แข็งแกร่ง มันก็ไม่น่าจะทนได้นานนักแน่นอน

“ก็จริงของคุณ ด้วยกองทัพมอนสเตอร์จำนวนมากขนาดนี้ แถมในกองทัพยังประกอบไปด้วยมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายอีกหลายพันตัว ใครจะสามารถจัดการกับกองทัพแบบนี้ได้กัน ?” ลู่ชิงหลัวกล่าวพลางเริ่มฟื้นคืนความมั่นใจของตัวเอง ….

ป้อมปราการเคลื่อนที่อาจจะทรงพลังมากๆ แต่มดจำนวนมากก็สามารถจะฆ่าช้างได้เช่นกัน !!!

แถมนอกเหนือจากมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายที่บินได้หลายพันตัวพวกนี้แล้ว กองทัพของพวกเขาก็ยังมีงูปีศาจโบราณขนาดยักษ์ซึ่งเป็นอะเม้าท์บินได้พิเศษของร้อยผีโดดเดี่ยวอีกสามตัวด้วย โดยงูปีศาจโบราณขนาดยักษ์พวกนี้นั้นมันนับว่าเป็นอะเม้าท์บินได้ระดับตำนาน และพลังในการต่อสู้ทางอากาศของมันก็น่ากลัวมากๆด้วย

หลังจากนั้นเมื่อเดินทางต่อมาอีกราวหกชั่วโมง ลู่ชิงหลัวที่อยู่บนหลังของอีกาเพลิงมืดก็ได้มองเห็นป้อมปราการเคลื่อนที่ลอยฟ้าขนาดใหญ่ปรากฎขึ้นที่เส้นขอบฟ้า
“นี่คือป้อมปราการเคลื่อนที่ลอยฟ้างั้นหรอ ?” จักรพรรดิอสูรอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจเช่นกัน เมื่อเขาได้เห็นป้อมปราการเคลื่อนที่ลอยฟ้าจริงๆ อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นเขาก็ยิ้มออกมาอย่างเย้ยหยันและกล่าวว่า “แบล๊คเฟรม คุณนี่มันเป็นคนพิเศษจริงๆ ใครจะไปนึกกันละว่าคุณจะสามารถสร้างของแบบนี้ขึ้นมาได้จริงๆ อย่างไรก็ตามคุณคิดว่าป้อมปราการของคุณจะสามารถต้านทานการโจมตีจากกองทัพของฉันได้งั้นหรอ ?”

เมื่อพูดจบ จักรพรรดิอสูรก็โบกมือเป็นเชิงส่งสัญญาณให้มอนสเตอร์ Faux Saint ระดับเทพนิยายขั้นสี่หลายพันตัวของเขาบินพุ่งเข้าโจมตีป้อมปราการนี้ทันที …. โดยความเร็วในการบินของมอนสเตอร์พวกนี้นั้นมันก็แย่กว่าอะเม้าท์บินได้แค่เล็กน้อยเท่านั้น ขณะเดียวกันในส่วนของสภาสิบแปดปีก มันก็ดูเหมือนว่าพวกเขาจะยังไม่มีปฎิกิริยาตอบสนองใดๆเลย

Reincarnation Of The Strongest Sword God

Reincarnation Of The Strongest Sword God

เริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง เขาได้เข้ามาสู่ “เกมแห่งมีชีวิต” นี้อีกครั้งเพื่อที่จะควบคุมโชคชะตาของตัวเอง ครั้งนี้ , เขาจะไม่ถูกควบคุมจากคนอื่น ก่อนหน้านี้ราชาแห่งดาบเลเวล 200 , เขาได้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในชีวิต วิธีการที่จะได้รับเงิน! กลยุทธ์แห่งชัยชนะในดันเจี้ยน! เควสในตำนาน! สถานที่ดรอปอุปกรณ์! ทักษะที่ยังไม่ถูกค้นพบ! แม้แต่ความลับที่พวกผู้ทดสอบเบต้าไม่รู้ , เขารู้มันทั้งหมด สงครามอันยิ่งใหญ่ , ความก้าวหน้าในชีวิต , เข้าสู่ความเป็นพระเจ้า , บรรลุถึงจุดสูงสุดแห่งดาบ ตำนานของชายผู้ที่จะกลายเป็นเทพแห่งดาบได้เริ่มขึ้นแล้ว Starting over once more, he has entered this “living game” again in order to control his own fate. This time, he will not be controlled by others. Previously the Level 200 Sword King, he will rise to a higher peak in this life. Methods to earn money! Dungeon conquering strategies! Legendary Quests! Equipment drop locations! Undiscovered battle techniques! Even the secrets Beta Testers were unknowledgeable of, he knows of them all. Massive wars, life advancement, entering Godhood, sword reaching to the peak; a legend of a man becoming a Sword God has begun.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset