Reincarnation Of The Strongest Sword God – ตอนที่ 2836

ตอนที่ 2836 ผลประโยชน์ใหม่ของเมืองสภาสิบแปดปีก

ข้อมูลที่เหลียงจิงได้เอาให้พวกเขาดูนั้นมันละเอียดมากๆ นอกเหนือจากเรื่องที่ว่าหุบเขาอาร์กติกแกรนด์อยู่ติดกับทะเล ขณะที่อีกด้านหนึ่งของมันก็อยู่ติดกับจุดสูงสุดของโลกแล้ว บริเวณหุบเขาอาร์กติกแกรนด์นี้มันก็น่าทึ่งมากๆเช่นกัน

ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่าหุบเขาอาร์กติกแกรนด์นั้นเป็นพื้นที่ที่มหาอำนาจในปัจจุบันก็ไม่สามารถจะย่างเท่าเข้าไปได้ง่ายๆเลย แค่ความจริงที่ว่าหุบเขาอาร์กติกแกรนด์นั้นเป็นแหล่งมรดกขั้นสี่ มันก็มากเพียงพอแล้วที่จะทำให้ผู้เล่นขั้นสามจำนวนนับไม่ถ้วนบ้าคลั่ง

ในตอนนี้ทุกคนล้วนรู้ดีว่าการจะเดินทางไปยังดินแดนมรดกขั้นสี่นั้นมันยากลำ
บากมากๆ ยิ่งเป็นที่ที่อยู่ในแผนที่เป็นกลางอีกยิ่งแล้วใหญ่ เพราะพวกเขาจะไม่สามารถทนอยู่ในสภาพแวดล้อมที่รุนแรงของแผนที่เป็นกลางได้นานนัก อย่างไรก็ตามตอนนี้เมืองสภาสิบแปดปีกได้เข้ามาแก้ปัญหานี้ได้อย่างชะงัด หากพวกเขาได้เข้าพักในเมืองสภาสิบแปดปีก และสามารถเดินทางไปยังเมืองสภาสิบแปดปีกได้แบบง่ายๆและโดยตรง ทุกอย่างมันก็จะง่ายขึ้นสำหรับพวกเขามากๆ ….

หลังจากได้อ่านข้อมูลทั้งหมดที่เหลียงเอาให้ดูโดยละเอียด ทุกคนในปัจจุบันก็สามารถที่จะจินตนาการได้เลยว่าตราบใดที่เมืองสภาสิบแปดปีกเปิดให้สาธารณชนเข้าเมื่อไหร่ เมืองจะทำให้ทุกคนใน God domain ตกตะลึงแน่นอน และเมืองก็น่าจะขึ้นไปเหนือกว่าเมืองส่วนใหญ่ของ NPC ได้ในเวลาไม่นาน

ในขณะนี้นับประสาอะไรกับสมาชิกสภาสิบแปดปีกในปัจจุบัน แม้แต่ดีไวน์ชาโด้ว รองผู้บัญชาการของฮีฟเว่นเบลดก็ยังมองไปที่ข้อมูลตรงหน้าของเขาด้วยดวงตาที่ร้อนผ่าว

ชั้นใต้ดินชั้นที่สี่ของหอคอยโลกนั้นมันนับเป็นสถานที่ที่ดีในการค้นหามรดกขั้นสี่แน่นอน แต่หากให้เทียบกัน มันก็แย่กว่าหุบเขาอาร์กติกแกรนด์อย่างไม่ต้องสงสัย

เนื่องจากป้อมปราการนั้นไม่สามารถจะถูกนำมาเทียบกับเมืองได้เลย โดยเฉพาะเมืองระดับเมืองหลักด้วย เพราะเมืองนั้นเป็นสถานที่พักผ่อนที่แท้จริงที่สามารถตอบสนองความต้องการในชีวิตที่หลากหลายของผู้เล่นได้ เช่นบ้านประมูล ซึ่งป้อมปราการไม่มีเลย แต่มันเป็นสิ่งที่ผู้เล่นต้องการมากที่สุด

หลังจากได้อ่านข้อมูลทั้งหมด ไฟเออร์แดนซ์ก็อดไม่ได้ที่จะมองไปยังซือเฟิง และถามว่า “หัวหน้ากิลเป้าหมายของหัวหน้าคือการจะไม่เปิดเมืองให้สาธารณชนเข้าไปอีกพักหนึ่ง และหัวหน้าก็จะส่งคนของเราทั้งหมดเข้าไปควานหาทรัพยากรก่อนใช่ไหม ?”

เมื่อทุกคนในห้องได้ยินคำพูดของไฟเออร์แดนซ์ พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะมองไปยังซือเฟิง

เนื่องจากหัวข้อในการประชุมครั้งนี้นั้นมันเกี่ยวกับการพัฒนาของเมืองสภาสิบแปดปีก ดังนั้นวิธีการที่จะพัฒนาเมืองไปให้ไวที่สุดนั้นก็ไม่ต้องสงสัยเลย เพราะมันคือการเปิดเมืองให้สาธารณชนเข้ามาโดยตรง ซึ่งนี่มันจะทำให้รายได้ในทุกๆด้านจากเมืองเพิ่มสูงขึ้นมาก และเมืองก็อาจจะสามารถขึ้นไปเทียบกับเมืองหลวงของจักรวรรดิได้เลย โดยเมืองก็จะกลายเป็นแหล่งรวมผู้เชี่ยวชาญขั้นสามนับไม่ถ้วน

การเลือกใช้วิธีการพัฒนาแบบนี้นั้นมันเป็นวิธีที่ดีที่สุดและสามารถจะพัฒนาเมืองไปได้อย่างเร็วที่สุดแบบไม่ต้องสงสัยเลย

แต่ถ้าเป็นกรณีนี้ซือเฟิงก็ไม่จำเป็นจะต้องเรียกพวกเขามาประชุมเลย เขาสามารถเปิดมันโดยตรงได้ทันที

“ใช่แล้ว เนื่องจากตอนนี้เมืองสภาสิบแปดปีกนั้นมอบผลประโยชน์และข้อได้เปรียบอย่างมากให้กับพวกเรา ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องปกติที่เราจะต้องใช้ประโยชน์จากมันให้เต็มที่ก่อนที่จะเปิดให้สาธารณชนเข้ามาอย่างเต็มที่” ซือเฟิงพยักหน้า “อย่างไรก็ตามเนื่องจากนี่มันเป็นเมืองหลักของกิล ดังนั้นฉันจึงเชื่อว่าทุกคนน่าจะเข้าใจดีว่าค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานประจำวันนั้นมันแพงแค่ไหน”

พูดกันตามตรง แค่การจ้างทหาร NPC สามหมื่นคนให้เข้ามาประจำการในเมืองนั้นมันก็มากพอที่จะทำให้กิลชั้นสูงทั่วไปล้มละลายได้แล้ว นี่ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่าเขาได้เพิ่มวงเวทย์รูปแบบสิบสองปีศาจเข้าไปอีก ซึ่งทำให้ความต้องการคริสตัลเวทย์มนต์ของเมืองเพิ่มขึ้นไปอีก

ด้วยเหตุนี้แผนเดิมที่จะอนุญาติให้สมาชิกแกนหลักของกิลหลายพันคนเข้าสู่เมืองสภาสิบแปดปีกไปเพื่อฝึกฝนและเตรียมตัวทำเควสเลื่อนขั้นจึงต้องถูกพับไปก่อน เพราะผู้เล่นแค่หลายพันคนมันไม่สามารถจะขับเคลื่อนเมืองหลักกิลทั้งเมืองได้

“งั้นเราก็อนุญาติให้สมาชิกทุกคนในกิลของเราเข้าสู่เมืองได้อย่างอิสระสิ เพียงแต่ว่าเราจะต้องมีการเรียกเก็บค่าเข้าเมืองบ้าง เพราะท้ายที่สุดในตอนที่เมืองหลักกิลยังไม่ได้ถูกเปิดอย่างเต็มที่แบบนี้ เราต้องรับเงินมาเอาไว้เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานประจำวันของเมืองบ้าง” ฟลายอิ้ชาโด้วกล่าวเสนอวิธี

“วิธีนั้นใช้ไม่ได้ …” ซือเฟิงกล่าวพลางส่ายหัว “ในปัจจุบันมีผู้คนมากมายที่มาเข้าร่วมกับสภาสิบแปดปีก หากมีสมาชิกของศัตรูที่ต้องการจะใช้ประโยชน์จากเมืองสภาสิบแปดปีกมาแกล้งเข้าร่วมกิล เราจะสูญเสียอย่างมหาศาล เพราะท้ายที่สุดแล้วนี่มันคือสวัสดิการของกิลสภาสิบแปดปีกเรา”

ทุกคนที่นั่งอยู่พยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของซือเฟิงทันที

สิ่งที่ซือเฟิงพูดมานั้นมันถูกทั้งหมด เพราะตอนนี้ที่หอคอยแห่งพันธสัญญาลับ และป้อมปราการเคลื่อนที่นั้นมันเป็นแบบนี้เลย หลายคนได้ให้คนของตัวเองมาสมัครและเข้าร่วมกับสภาสิบแปดปีก ก่อนจะลาออกไป หลังจากที่พวกเขาคิดว่า พวกเขาสามารถใช้ประโยชน์จากหอคอยแห่งพันธสัญญาลับ กับป้อมปราการเคลื่อนที่ได้คุ้มค่าแล้ว

สำหรับเรื่องกฎพิเศษที่ไฟเออร์แดนซ์คิดขึ้นมาที่ว่าจะให้เฉพาะแกนหลักของสภาสิบแปดปีกเท่านั้นที่มีสิทเข้าสู่เมืองสภาสิบแปดปีกได้ มันก็เป็นไปไม่ได้ เพราะการทำแบบนี้นั้นจะทำให้พวกหน้าใหม่หมดสิทไปเลย เนื่องจากการจะเข้าเป็นแกนหลักของสภาสิบแปดปีกได้นั้นมันต้องการมากกว่าความแข็งแกร่ง และส่วนใหญ่ต้องใช้เวลานานกว่าหนึ่งเดือนแน่นอนกว่าจะก้าวมาถึงตำแหน่งนี้ ซึ่งนี่มันจะทำให้พวกเขาแบกรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของเมืองไม่ไหวไปซะก่อน ….

แถมพูดกันตามตรง สมาชิกของทีมนักผจญภัยที่มาเข้าร่วมกับสภาสิบแปดปีกนั้นจะจงรักภักดีกับสภาสิบแปดปีกมากแค่ไหนก็ไม่รู้ บางทีเมื่อพวกเขาได้ประโยชน์มากเพียงพอแล้ว พวกเขาก็อาจจะทำการลาออกจากกิลทันทีก็เป็นไปได้

และก็แน่นอนว่าพวกสมาชิกของทีมนักผจญภัยที่ทำแบบนี้ก็จะไม่ได้รู้สึกรังเกียจ หรือรู้สึกผิดใดๆ เนื่องจากพวกเขาก็ต้องพยายามอย่างมากเช่นกันเพื่อจะให้ได้รับผลประโยชน์ที่สอดคล้องนี้

ยู่หลานอดไม่ได้ที่จะกล่าวแนะนำขึ้นว่า “งั้นในระยะแรกเราก็ปล่อยให้แค่แกนหลัก
ของกิลเข้าไปก่อนดีไหม ?”
“ฉันว่าเธอน่าจะรู้นะว่านั่นมันไม่เพียงพอ …” เหลียงจิงกล่าวพลางส่ายหัว ก่อนที่เธอจะกล่าวต่ออย่างช้าๆว่า “ในปัจจุบันจากการที่ฉันไปประเมินมา การจะทำให้เมืองสภาสิบแปดปีกดำเนินงานไปตามปกติได้ทุกวันนั้นจะต้องใช้คนประมาณแปดหมื่นคน และก็จะต้องคิดค่าเข้าเมืองเป็นคริสตัลเวทย์มนต์หนึ่งชิ้นต่อคนด้วย”

แค่ค่าใช้จ่ายในการคงการดำเนินงานของวงเวทย์รูปแบบสิบสองปีศาจที่ได้รับการเสริมพลังมันก็หนักมากแล้ว นี่ยังไม่ต้องพูดถึงด้านอื่นๆเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องค่าจ้างทหาร NPC ที่พวกเขาจะต้องจ้าง ทหาร NPC ขั้นสามเป็นอย่างน้อยจำนวนสามหมื่น

“มากขนาดนั้นเลยงั้นหรอ ?!” ยู่หลานอดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมื่อได้ยินเรื่องนี้

ถ้ามันเป็นตามที่เหลียงจิงว่า แล้วสภาสิบแปดปีกคิดจะทำแบบนี้นั้น พวกเขาก็จะต้องทำการรัดเข็มขัดค่าใช้จ่ายต่างๆกันอย่างหนักเลย ….

“ดังนั้นเหลียงจิงและฉันจึงได้วางแผนที่จะให้สิทธิ์การเข้าถึงเมืองสภาสิบแปดปีกแก่สมาชิกระดับสูงของกิลหรือเหนือกว่าขึ้นไปทั้งหมด รวมไปถึงกิล และทีมนักผจญภัยต่างๆที่อยู่ภายใต้กิลเราด้วย อย่างไรก็ตามค่าเทเลพอร์ตไปยังเมืองนั้นทุกคนก็จะต้องจ่ายเอง และเมืองก็จะเรียกเก็บค่าเข้าเมืองจากสมาชิกระดับสูงเป็นคริสตัลเวทย์มนต์สามชิ้น ขณะที่สำหรับสมาชิกแกนหลักเราจะเรียกเก็บคริสตัลเวทย์มนต์สองชิ้น” ซือเฟิงพูดอย่างช้าๆ “นอกเหนือจากทุกคนที่มารวมตัวกันในวันนี้ตรงหน้าฉัน คนอื่นๆนั้นล้วนตกลงไปหมดแล้ว ….”

“ค่าเข้าเมืองเป็นคริสตัลเวทย์มนต์สามชิ้นต่อหนึ่งคนงั้นหรอ ?”

คำพูดของซือเฟิงทำให้ทุกคนที่มาเข้าร่วมประชุมพูดไม่ออก หากซือเฟิงเอาตามนี้จริงๆ มันจะเป็นค่าเข้าเมืองกิลที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์ของ God domain เลย แต่มันก็จะมีหลายคนที่ยังเต็มใจจะเข้าสู่เมืองแน่นอน อย่างไรก็ตามสำหรับสมาชิกบางส่วน โดยเฉพาะสมาชิกภายในของกิล ราคานี้มันจัดว่ามหาโหดอย่างมาก เพราะท้ายที่สุดแหล่งที่มาของคริสตัลเวทย์มนต์นั้นมันมีน้อยเกินไป และคริสตัลเวทย์มนต์แต่ละชิ้นมันก็มีค่ามากๆสำหรับพวกเขา

สำหรับเรื่องการค้นหามรดกขั้นสี่นั้นมันก็ไม่ง่ายเลย เพราะท้ายที่สุดแล้วมันจะมีสักกี่คนกันที่ทำเควสเลื่อนขั้นไปเป็นขั้นสี่ได้สำเร็จ ?
พูดกันตามตรงผู้ที่ต้องการมรดกขั้นสี่อย่างมากก็คือตัวกิลเองต่างหาก เพราะกิลต้องการจะนำมันมาให้กับผู้เชี่ยวชาญที่พวกเขาคัดเลือกมาแล้ว และแน่ใจว่าจะสา
มารถทำเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่สำเร็จ แต่สำหรับผู้เล่นทั่วไปของกิลการได้ไปที่แผนที่เป็นกลางเลเวลหนึ่งร้อยสี่สิบนั้น มันก็เป็นไปเพื่อทำเควส ล่า และมารับรางวัลจากกิลเท่านั้น ซึ่งหากวัดกันจากความสูญเสียที่มีสิทจะเกิดแล้ว การต้องจ่ายด้วยคริสตัลเวทย์มนต์สามชิ้นต่อคนมันก็ดูจะไม่คุ้มค่าเลย

“รองผู้บัญชาการดีไวน์ชาโด้ว เราควรจะเข้าไปดูที่เมืองสภาสิบแปดปีกก่อนดีไหม ?” คลีนซิ่งเฟรมอดไม่ได้ที่จะกระซิบกับดีไน์ชาโด้วที่อยู่ข้างๆ “ท้ายที่สุดแล้ว แม้ว่าพวกที่เรานำมาด้วยในครั้งนี้จะเป็นแกนหลักของทีมนักผจญภัยของเราทั้งหมด แต่มันก็ยังมีค่าเข้าเป็นคริสตัลเวทย์มนต์สองชิ้นต่อคนเลย มันอาจจะฟังดูน้อย แต่สำหรับมากกว่าสองพันคน มันก็เป็นจำนวนที่ไม่น้อยเลย”

คลีนซิ่งเฟรมนั้นสนใจในเรื่องนี้มากเช่นกัน อย่างไรก็ตามเธอก็คิดว่าฮีฟเว่นเบลดนั้นจำเป็นจะต้องประเมินความคุ้มค่าในเรื่องนี้ซะก่อน

เพราะท้ายที่สุดหลังจากฮีฟเว่นเบลดของพวกเขานั้นต้องประกาศยุบตัว จากการที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากฝีมือของวอร์บลัดและพันธมิตรของวอร์บลัด สภาพคล่องของฮีฟเว่นเบลดนั้นก็ลดลงไปมากๆ ในปัจจุบันหากไม่นับทรัพสินย์ส่วนตัวบางส่วน ฮีฟเว่นเบลดต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการจะคงการดำเนินงานตามปกติรายวันเอาไว้ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถจะจ่ายคริสตัลเวทย์มนต์ที่หามาได้อย่างยากลำบากแบบมั่วๆได้

“อืม เราเข้าไปดูกันก่อนเถอะ หากสถานการณ์ในหุบเขาอาร์กติกแกรนด์ค่อนข้างดี เราก็สามารถที่จะเลือกและมาพัฒนาในเมืองสภาสิบแปดปีกได้ ซึ่งนี่มันก็จะทำให้เราไม่จำเป็นต้องง้อพวกมหาอำนาจบนเกาะดราก้อนฮาร์ทอีก เพราะฉันยินดีจะทำงานอย่างหนักต่อสู้เพื่อเรื่องนี้” ดีไวน์ชาโด้วกล่าว

หลังจากซือเฟิงและคนอื่นๆประชุมกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว สภาสิบแปดปีกก็ได้ประกาศสิทธิประโยชน์ใหม่ของกิล โดยในประกาศนั้นได้กล่าวถึงที่ตั้งของเมืองสภาสิบแปดปีก รวมไปถึงข้อมูล และค่าเข้าเมืองทั้งหมดด้วย

ซึ่งนี่มันก็ได้สร้างความตกตะลึงให้กับเหล่าสมาชิกสภาสิบแปดปีกมากๆ

“นี่มันนับเป็นสวัสดิการได้ยังไง ? แม้ว่าเมืองสภาสิบแปดปีกจะตั้งอยู่ในทำเลที่ดีมากๆ แต่ขนาดสมาชิกระดับสูงของกิลก็ยังต้องจ่ายคริสตัลเวทย์มนต์สามชิ้นต่อคนเพื่อจะเข้าสู่เมืองสภาสิบแปดปีกเนี่ยนะ ? …. กิลของเราเดือดร้อนเรื่องคริสตัลเวทย์มนต์รึไงกัน ?”

“ใช่แล้ว !!! เลเวลโดยเฉลี่ยของผู้เล่นขั้นสามของกิลเราอยู่ที่ราวหนึ่งร้อยยี่สิบสอง การไปล่าที่นั่นมันจะไม่ใช่เรื่องง่ายเลย หากเป็นสวัสดิการกิลจริงๆ กิลควรจะให้เข้าฟรีมากกว่าสิ ….”

“ฉันว่าราคามันก็สมเหตุสมผลนะ นั่นคือแผนที่เป็นกลางเลเวลหนึ่งร้อยสี่สิบที่เรากำลังพูดถึงกัน และยิ่งตอนนี้มันยังไม่มีใครเคยไปสำรวจด้วยแล้ว มันจะต้องมีหีบสมบัติ และทรัพยากรที่มีค่าต่างๆมากมายอยู่ที่นั่นแน่นอน ซึ่งผผลประโยชน์ที่เราจะได้รับจากการไปล่าที่นั่นมันก็น่าจะมากกว่าในแผนที่เป็นกลางเลเวลหนึ่งร้อยสาม
สิบอื่นๆ”

สมาชิกกิลสภาสิบแปดปีกทั้งหมดนั้นล้วนเริ่มพูดคุย และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้กันอย่างร้อนแรง บางคนก็คิดว่าราคามันแรงเกินไป ขณะที่บางคนก็คิดว่าทุกอย่างมันสมเหตุสมผล เมื่อวัดจากประโยชน์ที่จะได้รับ ….

“บอส พวกเราจะไปที่เมืองสภาสิบแปดปีกกันไหม ?” ซัมมอนเนอร์หนุ่มขั้นสามมองไปยังประกาศแล้วก็อดไม่ได้ที่จะถามหญิงสาวข้างๆเขา “เท่าที่ฉันเช็คมา คนส่วนใหญ่ยังคงวางแผนที่จะเข้าไปที่หอคอยแห่งพันธสัญญาลับมากกว่า เพราะพวกเขารู้สึกว่าด้วยราคา และเลเวลของแผนที่แล้ว มันยังเกินความจำเป็นไปมาก ….”

“ไปสิ ทำไมพวกเราจะไม่ไปล่ะ ?” เจียนโม่วโฉวที่อยู่ในชุดเกราะเบาสีแดงเลือดกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ฉันอยากจะไปในสถานที่ที่ทำให้ฉันมีโอกาสได้เลื่อนขั้นเป็นขั้นสี่มาตลอด ซึ่งเมื่อมันปรากฎขึ้นมาแล้ว ฉันจะพลาดโอกาสได้ยังไง ? และฉันก็ต้องการจะรู้ด้วยว่าเมืองหลักกิลเป็นยังไง ทำไมถึงทำให้สภาสิบแปดปีกกล้าตั้งราคาแบบนี้ มันไม่ใช่ว่าเราจะต้องตัดสินใจเข้าไปพัฒนาตัวเองในเมืองสภาสิบแปดปีกเลยซะเมื่อไหร่ ….”

ทันใดนั้นเจียนโม่วโฉวก็ได้พาคนของเธอมากกว่าสิบคนเดินทางไปยังห้องเทเลพอร์ตของเมืองสกายสปริงเพื่อเทเลพอร์ตไปยังเมืองสภาสิบแปดปีกโดยตรง ซึ่งกระบวนการทั้งหมดเป็นไปอย่างรวดเร็วมากๆ เพราะตอนนี้สมาชิกระดับสูงส่วนใหญ่ของสภาสิบแปดปีกยังคงไม่สนใจในเรื่องนี้กันมากนัก
เมื่อเทียบค่าใช้จ่ายเป็นคริสตัลเวทย์มนต์สามชิ้นที่ต้องจ่ายสำหรับการเข้าสู่เมืองสภาสิบแปดปีกแล้ว พวกเขาคิดว่าการจ่ายคริสตัลเวทย์มนต์หนึ่งชิ้นเพื่อเข้าสู่หอคอยแห่งพันธสัญญาลับนั้นคุ้มค่ากว่า เพราะท้ายที่สุดแล้วคริสตัลเวทย์มนต์มันไม่ได้งอกมาจากดินสักหน่อย

ขณะเดียวกันที่บริเวณห้องเทเลพอร์ตของเมืองสกายสปริงนั้น ตอนนี้มันก็มีสมาชิกของสภาสิบแปดปีกที่ชอบลองของมารวมกลุ่มกันหลายร้อยคน และทั้งหมดนี้ก็ได้พากันเทเลพอร์ตเดินทางไปยังห้องเทเลพอร์ตของเมืองสภาสิบแปดปีกทันที

Reincarnation Of The Strongest Sword God

Reincarnation Of The Strongest Sword God

เริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง เขาได้เข้ามาสู่ “เกมแห่งมีชีวิต” นี้อีกครั้งเพื่อที่จะควบคุมโชคชะตาของตัวเอง ครั้งนี้ , เขาจะไม่ถูกควบคุมจากคนอื่น ก่อนหน้านี้ราชาแห่งดาบเลเวล 200 , เขาได้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในชีวิต วิธีการที่จะได้รับเงิน! กลยุทธ์แห่งชัยชนะในดันเจี้ยน! เควสในตำนาน! สถานที่ดรอปอุปกรณ์! ทักษะที่ยังไม่ถูกค้นพบ! แม้แต่ความลับที่พวกผู้ทดสอบเบต้าไม่รู้ , เขารู้มันทั้งหมด สงครามอันยิ่งใหญ่ , ความก้าวหน้าในชีวิต , เข้าสู่ความเป็นพระเจ้า , บรรลุถึงจุดสูงสุดแห่งดาบ ตำนานของชายผู้ที่จะกลายเป็นเทพแห่งดาบได้เริ่มขึ้นแล้ว Starting over once more, he has entered this “living game” again in order to control his own fate. This time, he will not be controlled by others. Previously the Level 200 Sword King, he will rise to a higher peak in this life. Methods to earn money! Dungeon conquering strategies! Legendary Quests! Equipment drop locations! Undiscovered battle techniques! Even the secrets Beta Testers were unknowledgeable of, he knows of them all. Massive wars, life advancement, entering Godhood, sword reaching to the peak; a legend of a man becoming a Sword God has begun.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset