Reincarnation Of The Strongest Sword God – ตอนที่ 2838

ตอนที่ 2838 ข่าวใหม่ที่น่าตกตะลึง

เมื่อไฟเออร์แดซ์ได้ออกไปแจ้งให้ทุกคนรู้ว่าสภาสิบแปดปีกกำลังวางแผนที่จะเปิดประมูลโควต้าเข้าสู่เมืองสภาสิบแปดปีกหนึ่งล้านช่องนั้น มันก็ทำให้เกิดเสียงครึกโครมไปทั่วทวีปด้านตะวันออก ไม่เว้นแม้แต่กับกองกำลังขนาดใหญ่ต่างๆ และมหาอำนาจที่แท้จริงที่พวกเขาล้วนรีบจัดการประชุมพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องนี้ทันที

จักรวรรออร์ค ป้อมปราการคริมสันเฟรม :

“สภาสิบแปดปีกจะหยิ่งผยองเกินไปแล้ว !!! พวกเขากล้าที่จะเปิดเผยอย่างตรงไปตรงมาว่าจะเปิดประมูลโควต้าเข้าสู่เมืองสภาสิบแปดปีกของตัวเอง แถมราคาประมูลหนึ่งช่องยังเริ่มต้นเป็นคริสตัลเวทย์มนต์สิบชิ้นต่อคนด้วย นี่มันบ้าชัดๆ !!!” สโนว์สการ์ เบอเซิกเกอร์ขั้นสี่ เลเวลหนึ่งร้อยสามสิบกล่าวด้วยความเย้ยหยัน ขณะที่เขามองไปยังข่าวล่าสุดของสภาสิบแปดปีกที่ฉายอยู่บนโต๊ะประชุม “นี่สภาสิบแปดปีกไม่รู้เลยรึไงว่าตอนนี้มือแห่งนักบุญนั้นได้ทำการร่วมมือกับมหาอำนาจมากกว่าหนึ่งโหลเพื่อสำรวจและบุกเบิกแผนที่เป็นกลางเลเวล หนึ่งร้อยสามอย่างเนินดำแล้ว แถมตอนนี้พวกเขาก็กำลังเริ่มสร้างเมืองขึ้นที่นั่นแล้วด้วย !!!”

เนินดำ !!

นี่มันคือแผนที่เป็นกลางที่อยู่ติดกับดินแดนต้องห้ามอย่างรอยแยกแห่งชีวิตและความตาย โดยรอยแยกแห่งชีวิตและความตายนี้มันเป็นดินแดนรกร้างว่างเปล่าที่อัน
ตรายมากๆสำหรับผู้เล่น อย่างไรก็ตามแม้ว่าข้างในจะอันตรายอย่างมาก แต่เท่าที่ผู้เล่นขั้นสี่ที่พวกเขาส่งไปสำรวจแข้งข้อมูลกลับมานั้น ที่นี่มันมีดินแดนมรดกขั้นสี่อยู่มากกว่าที่อื่นอย่างมาก นี่ยังไม่ต้องพูดถึงว่ามันมีไอเทมโบราณมากมายที่สามารถจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับผู้เล่นขั้นสี่อยู่ภายในด้วย

“รองหัวหน้ากิล ในครั้งนี้มือแห่งนักบุญยังได้ส่งคำเชิญมาให้เรา เพื่อให้เราไปร่วมสร้างเมืองเฮยชุ่ยด้วย โดยพวกเขาบอกว่าเมื่อเมืองสร้างเมืองเสร็จเรียบร้อย พวกเขาจะมอบหุ้นของเมืองให้เราสิบเปอเซ็นต์ แต่พวกเราจะต้องนำผู้เล่นขั้นสี่ พร้อมกับผู้เล่นขั้นสามจำนวนสองหมื่นคนเข้าประจำการในเมืองไว้ตลอดเวลา” จิงหยาง นักเวทย์ขั้นสี่ เลเวลหนึ่งร้อยสามสิบเอ็ดลุกขึ้นมากล่าวรายงานข่าวที่ได้รับมาล่าสุดแก่ซวนหวู่ ชิชาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเคารพ

“มือแห่งนักบุญนั้นคำณวนมาค่อนข้างจะดีจริงๆ พวกเขารู้ว่าแบล๊ควอเตอร์ของเรานั้นมีรากฐานที่ค่อนข้างพิเศษ แถมพวกเราก็ยังพัฒนาตัวเองอยู่ในจักรวรรดิออร์ค ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องง่ายกว่าที่จะร่วมมือกับพวกเราเพื่อกำจัดสภาสิบแปดปีก” แอสซาซินหญิงขั้นสี่ เลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบแปดที่ยืนอยู่ด้านข้างของซวนหวู่ ชิชากล่าวอย่างเย้ยหยัน “แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็ให้ราคาแบล๊ควอเตอร์ของเราต่ำไปสักหน่อยนะ !!!”

สโนว์สการ์ที่เป็นเบอเซิกเกอร์พยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของแอสซาซินหญิงขั้นสี่

ตอนนี้กิลแบล๊ควอเตอร์ของพวกเขานั้นแข็งแกร่งขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก และภายใต้การนำของรองหัวหน้ากิลซวนหวู่ ชิชานั้นกิลของพวกเขาก็มีความแข็งแกร่งเกือบจะเท่ากับซุเปอร์กิลแล้ว แถมในตอนนี้พวกเขาก็มีผู้เล่นขั้นสี่ถึงหกคน เพียงแต่ว่าพวกเขาไม่ได้บอกให้สาธาณรชนรู้เรื่องนี้ และพวกเขายังคงเก็บเรื่องนี้เป็นความลับก็เท่านั้น

“จิงหยาง ไปบอกมือแห่งนักบุญว่าถ้าพวกเขาต้องการจะร่วมมือกับเรา พวกเขาจะต้องแสดงความจริงใจออกมามากกว่านี้ ซึ่งอย่างน้อยพวกเขาควรจะมอบหุ้นสามสิบเปอเซ็นต์ของเมืองเฮยชุ่ยให้เรา” ซวนหวู่ชิชาที่นั่งอยู่หัวโต๊ะกล่าวด้วยรอยยิ้ม ซึ่งเมื่อเธอกล่าวขึ้นนั้น บรรดาผู้อาวุโสของกิลมากกว่ายี่สิบคนที่อยู่ในห้องประชุมก็เงียบลง และหันมาตั้งใจฟังเธอทันที “ในเวลาเดียวกันให้ไปแจ้งสภาสิบแปดปีกให้ทราบถึงความเคลื่อนไหวของมือแห่งนักบุญเพื่อแสดงเจตนาว่าเราต้องการจะร่วมมือกับสภาสิบแปดปีกต่อต้านกองกำลังพันธมิตรมือแห่งนักบุญ แต่ว่าเงื่อนไขสำหรับเรื่องนี้ก็คือสภาสิบแปดปีกจะต้องเปิดเมืองสภาสิบแปดปีกให้สมาชิกของแบล๊ควอเตอร์ทุกคนเข้าไปได้ ….”

“รองหัวหน้ากิล คุณก็รู้จักสภาสิบแปดปีกดี ฉันคิดว่าพวกเขาไม่น่าจะยอมรับเงื่อนไขนี้แน่ ….” จิงหยางกล่าวอย่างรู้สึกปวดหัว

ตลอดเวลาที่ผ่านมา สภาสิบแปดปีกนั้นขึ้นชื่อในเรื่องความหยิ่งผยองและไม่เคยแคร์ใคร แม้แต่มหาอำนาจต่างๆ ….. ดังนั้นก็ไม่ต้องพูดถึงตอนนี้ที่กิลกำลังเริ่มสั่งสมความแข็งแกร่งของตัวเองได้อย่างรวดเร็วเลย ซึ่งนี่มันทำให้มีสิทสูงมากที่พวกเขาจะไม่ยอมรับข้อเสนอของซวนหวู่ ชิชา

“มันไม่สำคัญเลย ต่อให้พวกเขาจะไม่ยอมรับในตอนนี้ก็ตาม …” ซวนหวู่ ชิชากล่าวอย่างเฉยเมย “เพราะเมื่อมือแห่งนักบุญทำการเปิดเมือง และเวลามาถึง หลายอย่างมันก็จะกลายเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขามากๆ ดังนั้นฉันเชื่อว่าพวกเขาน่าจะพิจารณาเงื่อนไขของเราอยู่บ้างแน่นอน …”

“รับทราบ ฉันเข้าใจแล้ว !!” จิงหยางกล่าวพลางพยักหน้า

ตอนนี้สภาสิบแปดปีกมีทั้งเงินทุน ทรัพยากร และความมั่นใจอย่างเต็มรูปแบบ แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเมืองเฮยชุ่ยถูกเปิดขึ้น สถานการณ์นี้มันก็อาจจะพลิกกลับในไม่ช้า เพราะท้ายที่สุดตอนนี้เลเวลเฉลี่ยของผู้เล่นระดับสูงนั้นมาถึงแค่ราวหนึ่งร้อยยี่สิบเท่านั้น แต่แผนที่ที่เมืองสภาสิบแปดปีกตั้งอยู่นั้นมันคือที่หุบเขาอาร์กติกแกรนด์ ซึ่งมันไม่ใช่สถานที่ที่ผู้เล่นระดับสูงจะไปได้ง่ายๆเลย

นอกจากนี้นี่ยังไม่นับรวมเรื่องที่มือแห่งนักบุญมีพันธมิตรเป็นมหาอำนาจมากกว่าหนึ่งโหลอีก ดังนั้นในเรื่องกำลังคน และทรัพยากรของพวกเขาในเรื่องนี้นั้นจึงแทบจะเทียบได้กับห้าซุเปอร์กิลที่แข็งแกร่งสุดเลย

ซึ่งนี่มันก็จะทำให้ข้อได้เปรียบเรื่องจำนวนผู้เล่นขั้นสี่ของสภาสิบแปดปีกหายไป

แถมนี่ยังไม่นับรวมเรื่องของสถานการณ์ในแผนที่เป็นกลางเลเวลหนึ่งร้อยสี่สิบด้วย หากสภาสิบแปดปีกมีกำลังคนไม่มากพอที่จะใช้ปกป้องเมืองสภาสิบแปดปีก เมืองของพวกเขาก็จะได้พินาศด้วยการโจมตีของเหล่ามอนสเตอร์หรือไม่ก็กองกำลัง NPC แน่นอน

ด้วยเหตุผลเหล่านี้ทั้งหมดเองมันจึงทำให้ซวนหวู่ ชิชาคิดว่าสภาสิบแปดปีกน่าจะหยิบเงื่อนไขของเธอขึ้นมาพิจารณาแน่นอน ….

ในระหว่างที่แบล๊ควอเตอร์กำลังรีบจะไปแจ้งข่าวเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของมือแห่งนักบุญให้สภาสิบแปดปีกรู้ มือแห่งนักบุญก็ได้ชิงประกาศเรื่องเมืองของพวกเขาให้สาธารณชนรับรู้ซะก่อน

แถมมือแห่งนักบุญยังประกาศว่าเมืองของพวกเขานั้นจะเปิดให้ทุกคนได้เข้าไปด้วย โดยค่าเข้าเมืองก็ถูกมากซึ่งมันมีราคาเป็นเงินห้าสิบเหรียญเงิน หรือไม่ก็เป็นคริสตัลเวทย์มนต์หนึ่งชิ้น

นี่มันจึงทำให้กองกำลังต่างๆที่เข้าติดต่อขอร่วมมือกับสภาสิบแปดปีกนั้นเปลี่ยนใจโดยทันที
แม้ว่าสภาพแวดล้อมของเมืองสภาสิบแปดปีกจะยอดเยี่ยมมากๆ แต่พูดกันตามตรงหลาบฝ่ายนั้นก็ไม่สามารถจะรับได้จริงๆเนื่องจากราคาโควต้าค่าเข้าเมืองที่ไม่คงที่ โดยในงานประมูลนั้นราคาโควต้าค่าเข้าเมืองต่อหนึ่งช่องมันอาจพุ่งไปสูงเป็นคริสตัลเวทย์มนต์ยี่สิบหรือยี่สิบห้าชิ้นต่อคนก็เป็นไปได้

ซึ่งค่าใช้จ่ายแบบนี้นั้น แม้แต่กิลชั้นสูงก็ยังยากจะแบกรับเลย เพราะพวกเขาจำเป็นจะต้องส่งผู้เล่นจำนวนมากของพวกเขาเข้าไปพัฒนาในเมือง ดังนั้นพอมือแห่งนักบุญประกาศข่าวเรื่องเมืองเฮยชุ่ย และเรื่องค่าเข้าเมือง พร้อมกับสถานที่ตั้งออกมา มันจึงทำให้พวกเขาเปลี่ยนใจได้ไม่ยาก ….

เมืองสกายสปริง สถานที่พักกิลสภาสิบแปดปีก :

“หัวหน้ากิล มือแห่งนักบุญนั้นช่างโหดเหี้ยมจริงๆ ด้วยประกาศเรื่องเมืองล่าสุดของพวกเขา มันทำให้กิลชั้นสูง และมหาอำนาจมากกว่าเก้าสิบเปอเซ็นต์ พร้อมกับทีมนักผจญภัยที่มีชื่อเสียงมากกว่าแปดสิบเปอเซ็นต์เปลี่ยนใจไม่มาร่วมมือและเข้าร่วมกับเราแล้ว …” ไฟเออร์แดนซ์กล่าวรายงานด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความขมขื่น “นี่มันจะทำให้กำไรที่เราคิดว่าจะทำได้จากหลายสิ่งในตอนแรกลดลงไปมาก …”

“ไม่ต้องไปสนใจใดๆในเรื่องนี้หรอก เราจะยังคงดำเนินการตามแผนเดิมของเราไม่เปลี่ยนแปลง เพราะท้ายที่สุดเป้าหมายหลักของเรามันไม่ได้เป็นไปเพื่อทำกำไรและรับเอาคริสตัลเวทย์มนต์ เราเพียงต้องการจะรักษาการดำเนินงานตามปกติของเมืองสภาสิบแปดปีกไว้ให้ได้เท่านั้น”

ไฟเออร์แดนซ์พยักหน้าอย่างเข้าใจ แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมาว่า “แต่ถ้าเป็นแบบนั้น ทำไมเราไม่เปิดเมืองให้พวก NPC เข้ามาช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่ายอีกทางล่ะ ? สำหรับเรื่องการป้องกันเมืองก็ย้ายป้อมปราการเคลื่อนที่ และผู้เล่นขั้นสามของเราไปป้องกันที่นั่นไว้ก่อนจนกว่าเราจะมีทุนมากพอที่จะจ้างทหาร NPC ที่แข็งแกร่งได้ครบตามจำนวนก็ได้นี่นา ….”

ไฟเออร์แดนซ์นั้นคิดว่าวิธีนี้มันน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด เพราะท้ายที่สุดแล้วนั้นตอนนี้สภาสิบแปดปีกมีผู้เล่นขั้นสามภายใต้คำสั่งอยู่มากกว่าห้าหมื่นคนแล้ว หากนับรวมผู้เล่นของทีมนักผจญภัยอาชูร่า และฮีฟเว่นเบลดด้วย และผู้เล่นส่วนใหญ่ทั้งหมดนี้ก็ได้เข้าไปฝึกที่เมืองสภาสิบแปดปีก ดังนั้นการเลือกจะใช้งานพวกเขาสักเล็กน้อย บวกกับใช้ความแข็งแกร่งของป้อมปราการเคลื่อนที่เพื่อช่วยแก้ปัญหามันก็น่าจะทำให้ผล
ออกมาดีกว่าตอนนี้ ….
“เลิกคิดเรื่องนั้นไปได้เลย …” ซือเฟิงกล่าวแย้ง และเขาก็สามารถจะเดาความคิดของไฟเออร์แดนซ์ออกได้ในทันที “อย่างไรก็ตาม เราสามารถจะเพิ่มจำนวนผู้เล่นขั้นสี่เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งโดยรวมให้กับกิลได้”

“เพิ่มจำนวนผู้เล่นขั้นสี่ ?” ไฟเออร์แดนซ์ที่ได้ยินอดไม่ได้ที่จะสงสัย และถามว่า “เรื่องแบบนี้มันทำได้ด้วยงั้นหรอ ?”

ในแง่ที่หลายสิ่งของสภาสิบแปดปีก โดยเฉพาะวิธี และสภาพแวดล้อมในการฝึกตอนนี้ได้มาถึงขีดจำกัดแล้วนั้น การจะเพิ่มจำนวนผู้เล่นขั้นสี่ของกิลขึ้นมันจึงต้องอาศัยโชคอย่างมาก ดังนั้นมันจึงยากที่จะจินตนาการเลยว่าซือเฟิงจะมีวิธีเพิ่มจำนวนผู้เล่นขั้นสี่ของกิลขึ้น ….

“แน่นอนสิทำได้ …” ซือเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ไปแจ้งเสวี่ยเหวินโหรว และคนอื่นๆ ให้พวกเขามารวมตัวกันที่คฤหาสถ์ของลอร์ดผู้ปกครองเมืองสภาสิบแปดปีก”

หากเป็นก่อนหน้านี้ เขาก็คงจะไม่มีวิธีอะไรแบบนี้จริงๆ แต่อย่างไรก็ตามหลังจากได้เดินทางไปที่โลกยุคโบราณของ God domain และได้เดินทางกลับมา เขาก็มีหนทางที่จะช่วยเพิ่มอัตราความสำเร็จในการทำเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่แล้ว

ซึ่งนั่นก็คือสมบัติที่เขาได้รับมาจากยุคโบราณ รูปสลักสัตว์อสูรโบราณ !!

Reincarnation Of The Strongest Sword God

Reincarnation Of The Strongest Sword God

เริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง เขาได้เข้ามาสู่ “เกมแห่งมีชีวิต” นี้อีกครั้งเพื่อที่จะควบคุมโชคชะตาของตัวเอง ครั้งนี้ , เขาจะไม่ถูกควบคุมจากคนอื่น ก่อนหน้านี้ราชาแห่งดาบเลเวล 200 , เขาได้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในชีวิต วิธีการที่จะได้รับเงิน! กลยุทธ์แห่งชัยชนะในดันเจี้ยน! เควสในตำนาน! สถานที่ดรอปอุปกรณ์! ทักษะที่ยังไม่ถูกค้นพบ! แม้แต่ความลับที่พวกผู้ทดสอบเบต้าไม่รู้ , เขารู้มันทั้งหมด สงครามอันยิ่งใหญ่ , ความก้าวหน้าในชีวิต , เข้าสู่ความเป็นพระเจ้า , บรรลุถึงจุดสูงสุดแห่งดาบ ตำนานของชายผู้ที่จะกลายเป็นเทพแห่งดาบได้เริ่มขึ้นแล้ว Starting over once more, he has entered this “living game” again in order to control his own fate. This time, he will not be controlled by others. Previously the Level 200 Sword King, he will rise to a higher peak in this life. Methods to earn money! Dungeon conquering strategies! Legendary Quests! Equipment drop locations! Undiscovered battle techniques! Even the secrets Beta Testers were unknowledgeable of, he knows of them all. Massive wars, life advancement, entering Godhood, sword reaching to the peak; a legend of a man becoming a Sword God has begun.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset