Reincarnation Of The Strongest Sword God – ตอนที่ 2858

ตอนที่ 2858 การเทเลพอร์ตข้ามทวีป

ป้อมปราการแสงดาว หอคอยอัญเชิญ :

หลังจากใช้คริสตัลเวทย์มนต์ไปมากกว่าแปดหมื่นชิ้นเพื่อซื้อวัสดุที่ต้องการจากเผ่าศักสิทธิ์ ซือเฟิงก็ได้เริ่มจัดเรียง และวาดวงเวทย์ขึ้นในหอคอยอัญเชิญ ….

เดิมทีหอคอยอัญเชิญนั้นถูกใช้ในการอัญเชิญมอนสเตอร์ออกมาต่อสู้ และมันก็จัดเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของป้อมปราการแสงดาว

อย่างไรก็ตามหอคอยอัญเชิญนั้นก็นับเป็นหอคอยเทเลพอร์ตแบบหนึ่งเช่นกัน โดยมันมีวงเวทย์เทเลพอร์ตหลงเหลืออยู่มาจากยุคโบราณ ดังนั้นมันจึงสามารถใช้อัญเชิญมอนสเตอร์จากโลกอื่นออกมาเป็นผู้พิทักษ์ป้อมปราการได้นั่นเอง

แต่โดยปกตินั้นมันก็ไม่สามารถจะใช้เชื่อมต่อเส้นทางการเดินทางทั้งสองทวีปเข้าด้วยกันได้

อย่างไรก็ตามในตอนนี้นั้นสถานการณ์ทุกอย่างมันเปลี่ยนไป เมื่อซือเฟิงอยู่ใกล้เคียงกับการกลายเป็นสุดยอดปรมาจารย์วงเวทย์แล้ว และเขาก็ยังมีความเชี่ยวชาญในเรื่องวงเวทย์เทเลพอร์ตค่อนข้างมาก ดังนั้นตอนนี้มันจึงมีความเป็นไปได้แล้วที่จะทำได้ ….

ในชีวิตที่แล้วของซือเฟิง มันมีจุดเทเลพอร์ตที่เชื่อมต่อทวีปหลักสองด้านเข้าด้วยกันอยู่ในหลายเมือง ซึ่งพวกมันทั้งหมดล้วนเป็นวงเวทย์เทเลพอร์ตที่ผู้เล่นสร้างขึ้นเอง ไม่ใช่วงเวทย์เทเลพอร์ตที่หลงเหลือมาจากสมัยโบราณ

แต่ถึงกระนั้นผู้เล่นก็จำเป็นจะต้องปฎิบัติตามเงื่อนไขสามข้อก่อน พวกเขาจึงจะสามารถสร้างวงเวทย์เทเลพอร์ตที่ใช้เชื่อมต่อทวีปหลักสองด้านเข้าด้วยกันได้

หนึ่งคือผู้เล่นต้องอยู่ใกล้เคียงกับการกลายเป็นสุดยอดปรมาจารย์วงเวทย์แล้ว และมีความเชี่ยวชาญในเรื่องวงเวทย์เทเลพอร์ตค่อนข้างมาก

สองคือผู้เล่นจำเป็นจะต้องมีแบบแปลนวงเวทย์วงเวทย์เทเลพอร์ตอยู่กับตัว

ส่วนอย่างที่สามคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ซึ่งนั่นก็คือ จุดที่จะทำการติดตั้งและสร้างวงเวทย์เทเลพอร์ตที่ใช้เชื่อมต่อทวีปหลักสองด้านเข้าด้วยกัน

เมื่อปฎิบัติตามเงื่อนไขทั้งสามข้อนี้ได้ผู้เล่นก็จะสามารถสร้างวงเวทย์เทเลพอร์ตที่ใช้เชื่อมต่อทวีปหลักสองด้านเข้าด้วยกันได้ หรือที่หลายคนในชีวิตที่ผ่านมาของซือเฟิงเรียกมันในแบบที่ง่ายๆว่า วงเวทย์เทเลพอร์ตข้ามทวีป

แต่อย่างไรก็ตาม ตามข้อที่สามนั้นมันก็มีพื้นที่ในการจะใช้สร้างวงเวทย์เทเลพอร์ตนี้อยู่มากกว่ายี่สิบแห่งเพียงเล็กน้อยเท่านั้นในทวีปหลักทั้งสองด้าน แถมบางแห่งยังอยู่ในดินแดนต้องห้ามหรือ สถานที่ที่อันตรายมากๆด้วย โดยเมื่อมหาอำนาจต่างๆในชีวิตที่ผ่านมาของเขารู้เรื่องนี้กัน พวกเขาก็ล้วนต่อสู้แย่งชิงพื้นที่แต่ละแห่งกันอย่างบ้าคลั่ง

อย่างไรก็ตามตราบใดที่สามารถจะสร้างวงเวทย์เทเลพอร์ตข้ามทวีปนี้ขึ้นมาได้ ผู้เป็นเจ้าของก็จะไม่ถูกจำกัดจากเงื่อนไขจำนวนคน และเวลาในการเดินทางอีกต่อไป เพราะวงเวทย์ที่ถูกสร้างขึ้นนี้มันสามารถจะใช้ได้อย่างไม่จำกัดใดๆ

และนี่ก็เป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงเลือกจะเขายึดป้อมปราการแสงดาวตั้งแต่แรก ….

ข้อเสียเพียงประการเดียวของการเทเลพอร์ตข้ามทวีปนั่นก็คือมันต้องใช้พลังงานที่มหาศาลมากๆ โดยคริสตัลเวทย์มนต์ทั่วไปไม่สามารถจะให้พลังงานนี้ได้ ขณะที่สิ่งที่มีพลังมากพอจะให้พลังงานแบบนี้ได้นั้นมันก็คือ คริสตัลเจ็ดลูมินาลี่ โดยการเดินทางหนึ่งครั้งจะต้องใช้คริสตัลเจ็ดลูมินาลี่สิบชิ้น ซึ่งในตอนนั้นนักเล่นแร่แปรธาตุบางส่วนเริ่มจะสังเคราะห์มันขึ้นมาได้แล้ว หากแต่ว่ามันก็ต้องใช้คริสตัลเวทย์มนต์เป็นตัวตั้งต้นในการสังเคราะห์จำนวนมหาศาลเช่นกัน ดังนั้นมหาอำนาจต่างๆในชีวิตที่ผ่านมาของซือเฟิงจึงยังคงโดนจำกัดอยู่ในระดับหนึ่งด้วยเงื่อนไขของราคา

แต่ถึงกระนั้นสิ่งๆนี้มันก็ยังจัดว่ามีประโยชน์และทรงพลังมากๆอยู่ดี ….

เพราะท้ายที่สุดแล้วทรัพยากรทั้งสองทวีปนั้นมันมีความแตกต่างกันมากๆ และการทำธุรกรรมระหว่างทั้งสองทวีปนั้นมันก็สามารถสร้างผลกำไรได้อย่างมหาศาล โดยเมื่อเทียบกับการขนส่งทางทะเล และทางอากาศ การขนส่งแบบนี้จะง่ายกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย

นอกจากนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดของวงเวทย์เทเลพอร์ตข้ามทวีปก็คือ การทำให้กองกำลังหนึ่งที่มีฐานที่มั่นอยู่ในทั้งสองทวีปนั้นสามารถจะเชื่อมต่อฐานอำนาจของตัวเองได้อย่างสมบูรณ์โดยไร้อุปสรรค

ขณะเดียวกันในระหว่างที่ซือเฟิงกำลังทำการจัดเรียง และวาดวงเวทย์ขึ้นในหอคอยอัญเชิญนั้น เผ่าศักสิทธิ์ก็ได้เรียกประชุมพวกระดับสูงของกิลในสถานที่พักกิลชั่วคราวของพวกเขาในป้อมปราการแสงดาว ….

“ฟิธาเลีย สิ่งที่คุณพูดมามันเป็นความจริงงั้นหรอ ? แบล๊คเฟรมสามารถจะสร้างวงเวทย์เทเลพอร์ตข้ามทวีปได้จริงๆงั้นหรอ ?” อดอล์ฟ ผู้อาวุโสสูงสุดอดไม่ได้ที่จะมองไปยังฟิธาเลียด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

นอกเหนือจากข่าวที่ว่าซือเฟิงได้กลายเป็นครึ่งก้าวขั้นห้าแล้ว และเขาก็ได้ฆ่า NPC ขั้นสี่ไปมากกว่าสิบคนพร้อมกัน มันยังมีเรื่องการสร้างวงเวทย์เทเลพอร์ตข้ามทวีปนี่อีก ซึ่งเรื่องพวกนี้นั้นไม่ว่าใครจะได้ยินก็คงจะรู้สึกไม่เชื่อ และไม่สามารถจะยอมรับได้เป็นเวลานานแน่นอน

แต่อย่างไรก็ตามอดอล์ฟรู้ดีว่าฟิธาเลียนั้นไม่ใช่คนที่จะพูดอะไรเกินจริง เพียงแต่ว่าเรื่องนี้มันก็ยังยากที่จะเชื่อมากๆ ดังนั้นเขาจึงได้เลือกจะขอคำยืนยัน ….

“ด้วยบุคลิกและนิสัยของแบล๊คเฟรมนั้น สิ่งที่เขาพูดมันน่าจะเป็นความจริงแน่นอน และเขาก็ไม่จำเป็นจะต้องมาโกหกอะไรฉันเลย ….” ฟิธาเลียครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง และพูดอย่างช้าๆว่า “อย่างไรก็ตามแม้ว่าเขาจะไม่สามารถสร้างวงเวทย์เทเลพอร์ตข้ามทวีปได้ แต่ด้วยความแข็งแกร่งและศักยภาพที่เขาแสดงออกมา ควบคู่ไปกับการสนับสนุนของป้อมปราการแสงดาว แม้ว่าสภาสิบแปดปีกจะสูญเสียอย่างหนักจนไม่อาจจะอยู่ในทวีปด้านตะวันออกได้ แต่พวกเขาก็จะสามารถเลือกมาพัฒนาในทวีปด้านตะวันตกอย่างช้าๆได้ โดยที่ไม่ต้องการ การสนับสนุนหรือช่วยเหลือจากเราเลย”

“อืม เรื่องนี้ฉันเห็นด้วย …” อดอล์ฟพยักหน้ารับ

มันมีมังกรเงินศักสิทธิ์ขั้นสี่คอยคุ้มกันป้อมปราการแสงดาวอยู่ เว้นแต่ว่าจะมีผู้เชี่ยวชาญขั้นหกโผล่ออกมา หรือไม่ก็มีกลุ่มผู้เชี่ยวชาญขั้นห้า ไม่งั้นก็จะไม่มีใครที่จะสามารถเขย่าป้อมปราการแสงดาวได้เลย นี่ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่าซือเฟิงมีสิทสูงมากที่จะกลายเป็นผู้เล่นขั้นห้าคนแรกๆของ God domain ในอนาคตอีก

“ในครั้งนี้ที่ฉันเรียกทุกคนมาประชุมที่นี่ก็เพราะฉันต้องการจะเสนอให้เรากระชับความสัมพันธ์กับสภาสิบแปดปีกให้มากยิ่งขึ้น” ฟิธาเลียกล่าวพลางนำเอาสำเนาข้อมูลของทวีปด้านตะวันออกที่เธอรวบรวมมาแจกจ่ายให้ทุกคน “ข้อมูลนี้เป็นข่าวล่าสุดจากทวีปด้านตะวันออก ในตอนนี้สถานการณ์สงครามที่นั่นถูกผลักดันให้เกือบจะเข้าสู่สภาวะหยุดนิ่ง และแม้ว่าช่วงนี้มันจะไม่มีสงครามขนาดใหญ่เกิดขึ้นในระยะเวลาสั้นๆ แต่กองกำลังผู้รุกรานจากโลกอื่นพวกนี้ก็จะทำให้เกิดแรงเสียดทานอย่างมากในทวีปด้านตะวันออกแน่นอน ซึ่งสภาสิบแปดปีกนั้นก็มีรากฐานและทรัพยากรที่ไม่ธรรมดาอยู่ที่นั่น ดังนั้นพวกเขาน่าจะตกเป็นหนึ่งในเป้าหมายแน่นอน ….”

“ดังนั้นฉันจึงอยากจะขอเสนอให้กิลของเราส่งผู้เล่นขั้นสี่เข้าไปช่วยสนับสนุนสภาสิบแปดปีกในทวีปด้านตะวันออก เพื่อให้กิลของเราสามารถจะริเริ่มพูดคุยเกี่ยวกับความร่วมมือในอนาคตกับสภาสิบแปดปีกได้”

เมื่อฟิธาเลียพูดจบ ทุกคนก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย

ก่อนหน้านี้พวกเขาร่วมมือกับสภาสิบแปดปีกในฐานะแบบเดียวกับมหาอำนาจทั่วไปเท่านั้น และมันก็ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านี้ แต่หลังจากเหตุการณ์ในวันนี้ สภาสิบแปดปีกจะไม่สามารถถือได้ว่าเป็นมหาอำนาจทั่วไปอีกแล้ว

เพราะสภาสิบแปดปีกไม่เพียงแต่จะมีผู้เล่นครึ่งก้าวขั้นห้าอย่างซือเฟิง แต่กิลยังจะมีวงเวทย์เทเลพอร์ตที่ใช้เดินทางไปมาระหว่างทวีปได้ ซึ่งนี่มันก็จะทำให้ป้อมปราการแสงดาวกลายเป็นศูนย์กลางของทวีปด้านตะวันตกอย่างไม่ต้องสงสัย

และเมื่อตอนนั้นมาถึงป้อมปราการแสงดาวก็จะสามารถให้ประโยชน์มากกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ได้มากกว่าสิบเท่าแน่นอน

ซึ่งหากเผ่าศักสิทธิ์ของพวกเขาได้รับส่วนแบ่งจากป้อมปราการแสงดาว มันก็จะช่วยเผ่าศักสิทธิ์ของพวกเขาได้ในหลายด้านมากๆ และด้วยทรัพยากรที่มีอยู่มากมาย และภูมิหลังที่ทรงพลัง เผ่าศักสิทธิ์ของพวกเขาก็จะสามารถพัฒนากลายเป็นซุเปอร์กิลได้อย่างรวดเร็วแน่นอน

“ฉันไม่มีปัญหากับเรื่องนี้ …” อดอล์ฟมองไปยังฟิธาเลีย และครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่เขาจะกล่าวว่า “เนื่องจากเราจะเดินทางไปยังทวีปด้านตะวันออกเพื่อช่วยสนับสนุนสภาสิบแปดปีก ดังนั้นฉันจะให้แม๊คอาฟรี่ กับคริมสันวิชติดตามไปช่วยคุณด้วย ฉันเชื่อว่าพวกเขาน่าจะช่วยสภาสิบแปดปีกแก้ไขปัญหาได้มากมายแน่นอน”
“ขอบคุณผู้อาวุโสสูงสุด” ฟิธาเลียกล่าวขอบคุณอย่างเต็มไปด้วยความสุข

แม๊คอาฟรี่ และคริมสันวิชนั้นนับเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลังที่สุดของเผ่าศักสิทธิ์อย่างไม่ต้องสงสัย พวกเขาไม่เพียงแต่จะสวมใส่เศษชิ้นส่วนไอเทมระดับตำนาน แต่แม้แต่อุปกรณ์กับอาวุธที่อ่อนแอที่สุดของพวกเขาก็ยังอยู่ในระดับอีปิค และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือทั้งสองนั้นมีร่างมานาที่ทะลุขีดจำกัดหนึ่งร้อยเปอเซ็นต์แล้ว โดย
เฉพาะคริมสันวิชที่ตอนนี้สามารถปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาไปได้ถึงหนึ่งร้อยห้าเปอเซ็นต์แล้ว

อาจกล่าวได้ว่ายกเว้นผู้อาวุโสสูงสุดอดอล์ฟนั้น คริมสันวิชก็จะนับเป็นอันดับหนึ่งของผู้ที่สามารถปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาไปได้มากที่สุดแน่นอน

หากไม่ใช่เพราะว่าเธอมีอาวุธเป็นเศษชิ้นส่วนไอเทมระดับตำนานแล้ว เธอก็คิดว่าเธอคงจะไม่สามารถต่อกรกับคริมสันวิชได้แน่นอน

“เอาล่ะเดี๋ยวหลังจากนี้ฉันจะไปแจ้งให้แม๊คอาฟรี่กับคริมสันวิชรู้เรื่องนี้ แล้วเดี๋ยวฉันจะส่งมอบอำนาจการสั่งการให้กับคุณในภายหลัง …” อดอล์ฟกล่าวพลางพยักหน้า

เดิมแม๊คอาฟรี่และคริมสันวิชนั้นจัดว่ามีประโยชน์ทั้งคู่ แต่เมื่อพิจารณาถึงคุณค่าของสภาสิบแปดปีกในอนาคตแล้วมันก็คุ้มค่าแน่นอนที่จะทำแบบนี้

และแล้วไม่นานหลังจากที่การประชุมของเผ่าศักสิทธิ์เสร็จสิ้น ซือเฟิงก็ได้จัดเรียงและวาดวงเวทย์ที่จำเป็นทั้งหมดที่หอคอยอัญเชิญเรียบร้อยแล้ว

“เสร็จสักที !!! ต่อไปก็เหลือแค่การไปตั้งค่าวงเวทย์เทเลพอร์ตให้ที่ทวีปด้านตะวันออกเพื่อให้มันเชื่อมต่อกับทวีปด้านตะวันออกเท่านั้น และทีนี้ทุกอย่างมันก็จะเสร็จสมบูรณ์ !!!”

ซือเฟิงมองไปยังวงเวทย์เทเลพอร์ตที่เขาสร้างขึ้นตรงหน้าด้วยความรู้สึกพึงพอใจมากๆ

และไม่นานหลังจากนั้นซือเฟิงก็ได้รับคำขอติดต่อสื่อสารเข้ามา ….

“หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม ฉันได้จัดเตรียมทุกสิ่งที่ต้องการเอาไว้แล้ว” ฟิธาเลียมองไปที่ซือเฟิงที่อยู่ในวีดีโอคอล และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “พวกเราจะสามารถเดินทางไปด้วยกันได้เลย วงเวทย์เทเลพอร์ตโบราณข้ามทวีปนั้นอยู่ที่บริเวณเมืองคุกโมริ โดยมันจะถึงเวลาคูลดาวน์ใช้งานในอีกสองวัน”

“ด้วยกัน ?” ซือเฟิงได้ถามอย่างประหลาดใจว่า “ผู้บัญชาการฟิธาเลีย คุณมีแผนจะเดินทางไปยังทวีปด้านตะวันออกด้วยงั้นหรอ ?”

เท่าที่เขารู้เผ่าศักสิทธิ์ไม่ได้แสดงความสนใจในทวีปด้านตะวันออกมากนักเลย และกิลก็ทุ่มเทแทบทุกสิ่งทุกอย่างที่มีในการพัฒนาในทวีปด้านตะวันตก นับประสาอะไรกับตอนนี้ที่ทวีปด้านตะวันออกนั้นมีความอันตรายอย่างมาก

ขณะเดียวกันสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการเดินทางไปยังทวีปด้านตะวันออกนั้นไม่ได้มีราคาที่ถูกเลย ….

แม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองกิลจะดีมากๆจะดีมากๆ แต่โควต้าการเทเลพอร์ตแต่ละครั้งก็ยังต้องใช้คริสตัลเวทย์มนต์เจ็ดพันถึงแปดพันชิ้น แถมนี่ยังไม่นับรวมเรื่องวัสดุล้ำค่าต่างๆเลย หากความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองไม่ดีนั้นมันก็คงจะได้เลิกคิดเรื่องโควต้าไปเลย

และยิ่งส่งคนไปที่นั่นมากเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งมีค่าใช้จ่ายมากขึ้นด้วย ….

ฟิธาเลียพยักหน้า และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “อืม กิลของเรามีแผนจะเดินทางไปยังทวีปด้านตะวันออกเพื่อรวบรวมข้อมูลต่างๆน่ะ ฉันคงต้องขอรบกวนคุณหน่อยแล้ว หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม”

“ผู้บัญชาการฟิธาเลีย คุณก็สุภาพเกินไป กิลของคุณได้ช่วยสภาสิบแปดปีกไว้ไม่น้อยในทวีปด้านตะวันตก” ซือเฟิงหัวเราะออกมาเมื่อได้ยินคำพูดของฟิธาเลีย “เมื่อไปถึงทวีปด้านตะวันออก หากผู้บัญชาการฟิธาเลียมีปัญหาอะไร คุณก็สามารถจะติดต่อฉันมาได้โดยตรงเลย”

“เมื่อหัวหน้ากิลแบล๊คเฟรมกล่าวแบบนี้ ฉันก็จะขอไม่เกรงใจล่ะนะ …” ฟิธาเลียอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา เมื่อได้ยินคำพูดของซือเฟิง

“ตามนั้นเลย …” ซือเฟิงกล่าวพลางพยักหน้า

ไม่ต้องพูดถึงสถานะของเผ่าศักสิทธิ์ในทวีปด้านตะวันตกเลย แค่ฟิธาเลียคนเดียวมันก็มีค่ามากพอสำหรับเขาที่จะสร้างมิตรภาพด้วยแล้ว เพราะท้ายที่สุดแล้วผู้เล่นที่สามารถเติบโตไปจนถึงขั้นหก ขอบเขตพระเจ้าใน God domain ได้นั้นมันหา
ยากมากๆ

หลังจากพูดคุยกับฟิธาเลียเรียบร้อย ซือเฟิงก็ได้เริ่มแบ่งรายได้ของป้อมปราการแสงดาวที่ได้รับมาในช่วงเวลานี้เป็นส่วนๆเพื่อที่จะให้ง่ายต่อการใช้งาน ก่อนที่เขาจะนำคริสตัลเวทย์มนต์ที่เหลืออีกเก้าแสนสามหมื่นชิ้นเดินทางไปพบกลุ่มของฟิธาเลียที่มีสามคนเพื่อรีบเดินทางตรงไปยังวงเวทย์เทเลพอร์ตโบราณข้ามทวีปที่อยู่บริเวณเมืองคุกโมริ

และหลังจากรอจนคูลดาวน์ใช้งานของวงเวทย์เทเลพอร์ตโบราณนี้เสร็จสิ้น ซือเฟิง ฟิธาเลีย แม๊คอาฟรี่ และคริมสันวิชก็ได้รีบเปิดใช้งานมัน ก่อนที่พวกเขาจะกลายเป็นลำแสงสีขาว และหายไปจากบริเวณที่พวกเขาเคยอยู่ทันที

Reincarnation Of The Strongest Sword God

Reincarnation Of The Strongest Sword God

เริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง เขาได้เข้ามาสู่ “เกมแห่งมีชีวิต” นี้อีกครั้งเพื่อที่จะควบคุมโชคชะตาของตัวเอง ครั้งนี้ , เขาจะไม่ถูกควบคุมจากคนอื่น ก่อนหน้านี้ราชาแห่งดาบเลเวล 200 , เขาได้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในชีวิต วิธีการที่จะได้รับเงิน! กลยุทธ์แห่งชัยชนะในดันเจี้ยน! เควสในตำนาน! สถานที่ดรอปอุปกรณ์! ทักษะที่ยังไม่ถูกค้นพบ! แม้แต่ความลับที่พวกผู้ทดสอบเบต้าไม่รู้ , เขารู้มันทั้งหมด สงครามอันยิ่งใหญ่ , ความก้าวหน้าในชีวิต , เข้าสู่ความเป็นพระเจ้า , บรรลุถึงจุดสูงสุดแห่งดาบ ตำนานของชายผู้ที่จะกลายเป็นเทพแห่งดาบได้เริ่มขึ้นแล้ว Starting over once more, he has entered this “living game” again in order to control his own fate. This time, he will not be controlled by others. Previously the Level 200 Sword King, he will rise to a higher peak in this life. Methods to earn money! Dungeon conquering strategies! Legendary Quests! Equipment drop locations! Undiscovered battle techniques! Even the secrets Beta Testers were unknowledgeable of, he knows of them all. Massive wars, life advancement, entering Godhood, sword reaching to the peak; a legend of a man becoming a Sword God has begun.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset