Reincarnation Of The Strongest Sword God – ตอนที่ 2876

ตอนที่ 2876 ความเป็นไปได้ของมังกร

“เป็นไปได้ยังไงกัน ?!!”

ในขณะนี้ผู้เล่นทุกคนในเมืองหินโบราณนั้นแทบไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่พวกเขาได้เห็นกันตรงหน้าเลย

เพราะฉากที่เกิดขึ้นตรงหน้านี้มันเหนือจินตนาการของทุกคนไปมาก แม้แต่สมาชิกของสภาสิบแปดปีกที่มาเฝ้าดูเองก็เช่นกัน

ในปัจจุบันอาชีพขั้นสี่ใน God domain นั้นนับว่ามีพลังการต่อสู้อยู่สูงที่สุด และยิ่งกิลๆหนึ่งมีอาชีพขั้นสี่มากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งแสดงให้เห็นถึงภูมิหลังของกิลมากเท่านั้น

ในเวลานี้ภายใต้โดเมนของซือเฟิง ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ความแข็งแกร่งในการต่อสู้จะลดลงอย่างมากเลย พูดกันตามตรงแบบให้แม่นยำนั้นความแข็งแกร่งที่ละคนสามารถใช้ได้นั้นจะเหลือเพียงสองถึงสามในสิบจากเดิมเท่านั้น นอกเหนือจากนี้เมื่อตกอยู่ภายใต้โดเมนของซือเฟิง มันก็เป็นไปได้เลยที่จะระดมมานาจากภายนอกมาใช้ได้

และเมื่อถูกปราบปรามโดยโดเมนแบบนี้นั้นผู้เล่นระดับผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่ก็เหลือความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับผู้เล่นขั้นสามทั่วไปเท่านั้น ….

ในตอนนี้ไม่ต้องพูดถึงผู้เชี่ยวชาญขั้นห้าอย่างซือเฟิงเลย แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญทั่วไป ขั้นสี่ในเมืองหินโบราณที่ไม่ได้โดนผลจากโดเมนของซือเฟิงก็จะสามารถฆ่าคนเหล่านี้ได้สบายๆเลย

“นี่คือพลังของอาชีพขั้นห้างั้นหรอ ?!”

ผู้เล่นที่เลือกจะอพยพออกมาจากเมืองหินโบราณ และยังคงเฝ้าดูสถานการณ์ทั้งหมดอยู่จากระยะไกลเต็มไปด้วยความตกตะลึง และหวาดกลัวเช่นกัน เมื่อพวกเขาได้เห็นฉากนี้ ….

แม้ว่าผู้เล่นใน God domain ทุกคนจะรู้ว่าการเลื่อนขั้นเพิ่มขึ้นไปหนึ่งขั้นนั้นจะทำให้เกิดช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างขั้นที่เลื่อนไปกับขั้นก่อนหน้า แต่นี่มันก็ออกจะมากเกินไปหน่อยจริงๆ ….

และในตอนนี้เมื่อได้มาเห็นด้วยตานั้น ทุกคนก็ได้เข้าใจอย่างแท้จริงแล้วว่าช่องว่างระหว่างขั้นสี่กับขั้นห้ามันยิ่งใหญ่ขนาดไหน

เมื่ออยู่ต่อหน้าอาชีพขั้นห้า ข้อได้เปรียบด้านจำนวนของอาชีพขั้นสี่นั้นมันแทบจะกลายเป็นเรื่องตลกไปเลย !!

สำหรับมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายขั้นสี่จำนวนมากของจักรพรรดิอสูรนั้น พวกมันก็มีสภาพดีกว่าเหล่าผู้เล่นอยู่นิดหน่อย เนื่องจากเหล่ามอนสเตอร์นั้นอาศัยค่าสถานะของตัวเองเป็นหลัก พวกมันไม่ได้ต้องระดมมานามาใช้มากนัก แต่ถึงอย่างนั้นค่าสถานะของมังกรปีศาจแต่ละตัวก็ยังลดลงครึ่งหนึ่งเช่นกัน สำหรับมอนสเตอร์ Faux Saint ระดับเทพนิยายชั้นยอด เลเวลหนึ่งร้อยหกสิบนั้นค่าสถานะของพวกมันก็ลดลงไปมากกว่าสามสิบเปอเซ็นต์ แถมพวกมันยังไม่สามารถบินได้ ซึ่งหากการต่อสู้เริ่มขึ้นในสถานการณ์แบบนี้นั้น พวกมันจะกลายเป็นขนมหวานสำหรับผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่ของสภาสิบแปดปีกแน่นอน

อย่างไรก็ตามซือเฟิงที่ลอยอยู่กลางอากาศนั้นไม่ได้ประหลาดใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นมากนัก ….

เพราะท้ายที่สุดเขารู้ดีถึงพลังของขั้นห้า และสิ่งที่เขาใช้มันก็ไม่ใช่โดเมนมานาธรรมดา แต่เป็นการสร้างโลก ซึ่งภายใต้การสร้างโลกนี้ เขาจะสามารถจัดระเบียบมานาทั้งหมดภายในระยะการสร้างโลกของเขาได้ ก่อนที่เขาจะเปลี่ยนมันให้กลายเป็นโลกใบเล็กที่ซึ่งเขาเป็นผู้ปกครอง และควบคุมทุกอย่าง

แม้ว่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญขั้นห้าเหมือนกันที่มาเผชิญหน้ากัน แต่หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งสามารถใช้การสร้างโลกได้ แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขั้นห้าอีกฝ่ายที่เผชิญหน้ากันก็ยังจะต้องตกอยู่ในความเสียเปรียบ ดังนั้นก็ไม่ต้องพูดถึงผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่ และมอนสเตอร์ขั้นสี่เลย

จักรพรรดิอสูรมองไปที่ซือเฟิงที่ลอยอยู่กลางอากาศ แม้ว่าดวงตาของเขาจะปรากฎร่องรอยแห่งความกลัวขึ้นมาเล็กน้อย แต่เขาก็ยังคงกล่าวอย่างเย้ยหยันว่า “แบล๊คเฟรม อย่าพึ่งมั่นใจเกินไป !! อย่าลืมสิว่าที่นี่คือเมืองหินโบราณ !!!”

หลังจากที่จักรพรรดิอสูรพูดจบ วงเวทย์ขนาดมหึมาที่ซ้อนทับกันสามชั้นก็เริ่มแผ่ขยายเข้าปกคลุมเมืองหินโบราณทั้งเมือง โดยศูนย์กลางของวงเวทย์นั้นก็อยู่ที่คฤ
หาสถ์ลอร์ดผู้ปกครองเมือง ซึ่งหลังจากวงเวทย์นี้ถูกเปิดใช้งาน มันก็ทำให้เหล่าคนที่โดนผลจากการสร้างโลกของซือเฟิงรู้สึกตัวเบาขึ้นมาในระดับหนึ่ง

แม้ว่าทุกคนจะยังคงถูกปราบปรามโดยการสร้างโลกของซือเฟิง แต่พลังการต่อสู้ของพวกเขาก็กลับมาอยู่ที่ราวแปดสิบเปอเซ็นต์จากเดิมแล้ว ในขณะเดียวกันตอนนี้พวกเขาก็สามารถที่จะกลับมาบินได้อีกครั้ง และสามารถประสานงานกันล่ากับโจมตีซือเฟิงได้ ….

ซือเฟิงมองไปที่วงเวทย์ที่ปรากฎขึ้นด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย “วงเวทย์นี้มันน่าทึ่งจริงๆที่สามารถต่อต้านการสร้างโลกของฉันได้ ดูเหมือนว่าคุณจะลงทุนกับเมืองหินโบราณไม่น้อยเลยนะ …”

การสร้างโลกที่เขาใช้นั้นจะสามารถทำลายวงเวทย์ระดับปรมาจารย์ส่วนใหญ่ได้อย่างง่ายดายเลย ขณะที่สิ่งที่สามารถต่อต้านการสร้างโลกของเขาได้นั้นมันก็จะต้องแข็งแกร่งมากๆ แม้ว่าจะเป็นแค่วงเวทย์ระดับปรมาจารย์ก็ตาม และหากลงทุนสร้างเพื่อให้มันปกคลุมเมืองแบบนี้ มันก็จะต้องมีค่าไม่น้อยไปกว่าเศษชิ้นส่วนไอเทมระดับตำนานสองถึงสามชิ้นเลย

“แบล๊คเฟรม !! คุณคิดว่าฉันจะใช้แค่พวกมอนสเตอร์ กับกำลังคนปกป้องเมืองรึไง ?” จักรพรรดิอสูรกล่าวพลางมองไปยังซือเฟิงด้วยแววตาดูถูก “วงเวทย์ที่ฉันใช้เมื่อครู่นี้มันเป็นวงเวทย์โบราณ ระดับปรมาจารย์ที่หายสาบสูญไปนานมาก ซึ่งแม้ว่าเมืองหินโบราณจะยังไม่กลายเป็นเมืองหลัก แต่ตอนนี้มันก็มีความแข็งแกร่งในการป้องกันเทียบเท่ากับเมืองหลักแล้ว ดังนั้นมันยังเร็วไปสิบปีที่คิดจะมายึดเมืองหินโบราณ แม้ว่าคุณจะเป็นผู้เชี่ยวชาญขั้นห้าก็ตาม !!!”

วงเวทย์แบบนี้นั้นสามารถจะใช้ต้านทานการโจมตีขั้นห้าได้สบายๆเลย และหากการโจมตีขั้นห้าไม่สามารถทำให้แหล่งพลังงานสำรองวงเวทย์หมดลงไปได้ มันก็จะไม่มีทางเลยที่จะทำลายวงเวทย์นี้ลงได้

ซึ่งเมื่อพูดมาถึงจุดนี้นั้นมันก็ต้องบอกให้ชัดเจนขึ้นไปอีกว่าอาชีพขั้นห้าแค่คนเดียวนั้นไม่มีทางที่จะสามารถทำลายวงเวทย์แบบนี้ได้แน่นอน มันจะต้องอาศัยการโจมตีร่วมกันของอาชีพขั้นห้าจำนวนมาก หรือไม่ก็อาวุธสงคราม อาวุธปิดล้อมที่มีพลังการโจมตีเทียบเท่ากับขั้นห้า ไม่งั้นผู้โจมตีก็จะไม่มีทางเข้ายึดเมืองที่มีวงเวทย์แบบนี้ป้องกันได้แน่นอน

และตอนนี้ซือเฟิงก็เป็นเพียงอาชีพขั้นห้าคนเดียว ดังนั้นเขาจึงไม่มีความหวังที่จะยึดเมืองหินโบราณได้แน่นอน

เมื่อได้เห็นจักรพรรดิอสูรเปิดเผยไพ่ใบนี้ของตัวเองออกมานั้น เหล่าผู้มีอิทธิพลในเมืองหินโบราณก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนที่พวกเขาจะหันไปมองซือเฟิงอย่างเย้ยหยันอีกครั้ง

“คุณเป็นผู้เชี่ยวชาญขั้นห้าแล้วยังไงล่ะแบล๊คเฟรม ?”

“ใช่ๆ !! คุณคิดว่าคุณจะสามารถทำสิ่งที่ท้าทายสวรรค์ได้ด้วยตัวคนเดียวงั้นหรอ ?”

พลังที่ซือเฟิงแสดงออกมาก่อนหน้านี้นั้นทำให้ผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่ทุกคนในเมืองหินโบราณ ไม่เว้นแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่ของมือแห่งนักบุญรู้สึกกดดันมากๆ

อย่างไรก็ตามตอนนี้เมื่อวงเวทย์ป้องกันแบบนี้ถูกเปิดใช้งาน แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขั้นห้าอย่างซือฟิงก็ยังจะไม่สามารถทำอะไรกับพวกเขาได้แน่นอน

เพราะท้ายที่สุดแล้วพวกเขามีคริสตัลเวทย์มนต์สะสมอยู่มากพอที่จะใช้เสริมเข้าไปให้แหล่งพลังงานของวงเวทย์ป้องกันนี้เรื่อยๆ แถมสภาสิบแปดปีกก็ไม่ได้มีเวลามาทำสงครามกับพวกเขามากนักด้วย เนื่องจากตอนนี้กองกำลังผู้รุกรานจากโลกอื่นนั้นกำลังพุ่งเป้ามาที่สภาสิบแปดปีก และเตรียมจะก่อสงครามโลกครั้งที่สอง

ซึ่งด้วยปัจจัยทั้งหมดนี้เอง หากสภาสิบแปดปีกเลือกจะใช้เวลาอยู่กับพวกเขานานมากเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งส่งผลเสียต่อสภาสิบแปดปีกมากเท่านั้น !!!

“หัวหน้ากิล ออกคำสั่งให้พวกเราเข้าร่วมการต่อสู้นี้เถอะ !! ฉันอยากจะเห็นนักว่าพวกนั้นจะเสริมคริสตัลเวทย์มนต์ให้แหล่งพลังงานของวงเวทย์ป้องกันได้นานขนาดไหน !!!” ไฟเออร์แดนซ์มองไปยังเหล่าผู้เล่นที่ทำท่าทีเย่อหยิ่งของเมืองหินโบราณ และอดไม่ได้ที่จะขบฟันด้วยความโกรธ

“มันก็แค่วงเวทย์ป้องกันนั่นแหละ !! แม้ว่ามันจะสามารถทนทานการโจมตีขั้นห้าได้ในระดับหนึ่ง แต่ฉันคิดว่าฉันมีวิธีที่จะทำลายมันลงได้นะ !!!” จ้าวเยว่รู่กล่าวพลางพยักหน้า

สำหรับผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่คนอื่นๆของสภาสิบแปดปีกนั้น การจะโจมตีให้มีพลังเทียบเท่ากับขั้นห้านั้นมันอาจเป็นเรื่องยาก แต่สำหรับเธอนั้นไม่ใช่ เพราะเธอมีอาวุธที่เป็นเศษชิ้นส่วนไอเทมระดับตำนานอยู่ โดยอาวุธชิ้นนี้นั้นมันจะทำให้ทุกสกิล และเวทย์ของเธอใช้มีขั้นเพิ่มขึ้นหนึ่งขั้นโดยอัตโนมัติ

“ไม่ ! ไม่จำเป็น !!” ซือเฟิงส่ายหัว

พลังอันน่าเกรงขามนี้ของจ้าวเยว่รู่นั้นมันทำให้เธอเปรียบเสมือนป้อมปราการสงครามเคลื่อนที่ แม้ว่าเธอจะสามารถใช้สกิลและเวทย์ที่มีพลังเทียบเท่ากับขั้นห้าได้ง่ายๆ แต่มันก็ยังคงต้องใช้เวลาในระดับหนึ่งอยู่ดีกว่าจะทำลายวงเวทย์ป้องกันนี้ลงได้ ซึ่งนี่มันจะเป็นการเปิดโอกาสให้เมืองหินโบราณได้ตอบโต้ และอาจส่งผลอันตรายไปถึงจ้าวเยว่รู่ด้วยได้เลย …

“งั้นเราจะถอยกลับทั้งๆแบบนี้หรอ ?” จ้าวเยว่รู่ถามอย่างไม่ค่อยพอใจ

แม้ว่าเธอจะเข้าใจความหมายเบื้องหลังคำปฎิเสธนี้ของซือเฟิง แต่เธอก็ยังอดจะคิดไม่ได้ว่า การโจมตีของเธอนั้นแม้ว่ามันจะส่งผลไม่มากนัก และต้องใช้เวลานานกว่าจะทำลายวงเวทย์ป้องกันของเมืองหินโบราณได้ แต่มันก็ยังดีกว่าไม่มีเลยไม่ใช่หรอ ?

และหากครั้งนี้พวกเขาต้องกลับไปมือเปล่านั้น ชื่อเสียงของสภาสิบแปดปีกก็จะดิ่งลงเหวแน่นอน เพราะสภาสิบแปดปีกได้มาประกาศแบบชัดเจนแล้วว่าสภาสิบแปดปีกจะเข้ายึดเมืองป่าหินให้ได้

แถมมันก็เป็นการแน่นอนเลยว่าการเคลื่อนไหวของพวกเขาครั้งนี้นั้นจะถูกจับตาดูอยู่จากผู้คนทั่วทั้ง God domain แน่นอน ดังนั้นพวกเขาไม่สามารถจะปล่อยให้ผลลัพธ์มันออกมาเป็นแบบนี้ได้ ….

อีกทั้งหากสภาสิบแปดปีกได้รับชัยชนะจากสงครามครั้งนี้ แม้แต่ซุเปอร์กิลขนาดใหญ่ในทวีปด้านตะวันออกก็จะไม่สามารถหยุดพวกเขาได้อีกต่อไป ตรงกันข้าม หากสภาสิบแปดปีกพ่ายแพ้ หรือถูกบีบให้ต้องกลับไปมือเปล่าโดยที่ยังไม่ทันได้ทำอะไรเลย ศัตรูหลายกลุ่มของสภาสิบแปดปีกจะเข้ามาเป็นพันธมิตรของมือแห่งนักบุญเพื่อจัดการกับสภาสิบแปดปีกแน่นอน

“ไม่ แน่นอน …” ซือเฟิงส่ายหัว พลางกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ฉันบอกได้แค่ว่าตอนนี้คุณยังไม่ต้องเคลื่อนไหว แค่ดูมันไปก่อน …”
“ดูไปก่อน ?” จ้าวเยว่รู่มองไปยังซือเฟิงอย่างพูดไม่ออก

ด้านหน้าของพวกเขาคือเมืองกิลที่มีความแข็งแกร่งในการป้องกันเทียบเท่ากับเมืองหลัก การดูจะช่วยยึดเมืองได้ยังไง ?

ไม่ใช่แค่จ้าวเยว่รู่เท่านั้นที่รู้สึกแบบนี้ สมาชิกคนอื่นๆของสภาสิบแปดปีกก็รู้สึกเช่นกัน ตอนนี้พวกเขาไม่เข้าใจจริงๆว่าหัวหน้ากิลสภาสิบแปดปีกของพวกเขากำลังคิดอะไรอยู่ ….

อย่างไรก็ตามซือเฟิงนั้นไม่ได้คิดจะอธิบายอะไรเพิ่มเติม เขาได้เลือกจะกระโดดจนตัวเองมาอยู่ห่างจากเมืองหินโบราณแค่ไม่กี่ร้อยหลาเท่านั้น ก่อนที่เขาจะเริ่มร่ายเวทย์ และมานาจำนวนมหาศาลก็ได้ไปรวมกันรอบตัวเขา ….

เมื่อได้เห็นการเคลื่อนไหวล่าสุดของซือเฟิงนั้น ทุกคนในเมืองหินโบราณก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา

“คุณคิดจะใช้สกิลทำลายล้างล้างขนาดใหญ่แบบ AOE ขั้นห้างั้นหรอ ?” จักรพรรดิอสูรมองไปยังซือเฟิงด้วยความดูถูก “ไม่ต้องพูดถึงนักบุญแห่งดาบขั้นห้าเลย ต่อให้คุณเป็นมหาจอมเวทย์ขั้นห้า คุณก็ไม่มีทางจะทำลายวงเวทย์ป้องกันของเมืองหินโบราณได้ด้วยตัวคนเดียวแน่นอน !!!! เอาล่ะ ทุกคนเริ่มโจมตีได้ !!!”

“พุ่งเป้าไปที่เรือเหาะมังกรสีเลือดก่อน !!!”

สำหรับการเลือกโจมตีซือเฟิงนั้น จักรพรรดิอสูรรู้ดีว่ามันเป็นการกระทำที่ไร้ค่าและเปล่าประโยชน์ แต่อย่างไรก็ตามสำหรับเรือเหาะมังกรสีเลือดนั้นมันแตกต่างออกไป เพราะเมื่อมันถูกรุมจากผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่ มันก็จะทนได้ไม่นานนักแน่นอน แม้ว่ามันจะมีเหล่าผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่ของสภาสิบแปดปีกคอยช่วยป้องกันอยู่ก็ตาม

เมื่อได้ยินคำสั่งของจักรพรรดิอสูรนั้น ทุกคนก็พุ่งเป้ามายังเรือเหาะมังกรสีเลือดของสภาสิบแปดปีกทันที ไม่เว้นแม้แต่มังกรปีศาจขั้นสี่ที่มีจำนวนมากกว่าสามสิบตัว

ซึ่งนี่มันทำให้สมาชิกสภาสิบแปดปีกทั้งหมดบนเรือเหาะมังกรสีเลือดนั้นรู้สึกกดดันมากๆ

ไฟเออร์แดนซ์อดไม่ได้ที่จะตะโกนออกคำสั่งขึ้นมาว่า “พวกสายเวทย์มนต์ทั้งหมด เริ่มเปิดใช้งานวงเวทย์ป้องกันเดี๋ยวนี้ !!!”

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีของผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่ และมอนสเตอร์ขั้นสี่จำนวนมหาศาลขนาดนี้ เรือเหาะมังกรสีเลือดของพวกเขานั้นก็จะได้รับผลกระทบอย่างหนักแน่นอน หากพวกเขารับมือได้ไม่ดี ดังนั้นพวกเขาจึงจำเป็นจะต้องเตรียมทุกอย่างให้พร้อม

อย่างไรก็ตามในระหว่างที่ทั้งสองฝ่ายกำลังเตรียมตัวกันนั้น ซือเฟิงก็ได้ร่ายเวทย์บทสุดท้ายเสร็จเรียบร้อย ….

ทันใดนั้นท้องฟ้าทั่วบริเวณก็มืดสลัว ก่อนที่วงเวทย์ที่มีขนาดมหึมาจะปรากฎขึ้นปกคลุมเมืองหินโบราณ และนี่มันก็ทำให้ทุกคนนั้นอดไม่ได้ที่จะมองไปที่มัน ….

“นี่แบล๊คเฟรมจะทำอะไรกัน ?!”

ทุกคนมองไปยังสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยหัวใจที่เริ่มกลับมาเต็มไปด้วยความไม่สบายใจอีกครั้ง

เนื่องจากเมื่อพวกเขามองไปยังวงเวทย์ขนาดมหึมานั้น พวกเขาก็รู้สึกกลัวมาจากส่วนลึกของวิญญาณเลย

หลังจากนั้นก่อนที่ผู้คนจะทันได้ตั้งสติกันได้ ร่างขนาดใหญ่ก็ค่อยๆโผล่ออกมาจากวงเวทย์ขนาดมหึมา

และทุกคนนั้นก็ล้วนเต็มไปด้วยความตกตะลึงอย่างถึงที่สุด เมื่อได้เห็นร่างนี้เต็มๆตา

“มังกรหนุ่ม ขั้นสี่ ?!!”

Reincarnation Of The Strongest Sword God

Reincarnation Of The Strongest Sword God

เริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง เขาได้เข้ามาสู่ “เกมแห่งมีชีวิต” นี้อีกครั้งเพื่อที่จะควบคุมโชคชะตาของตัวเอง ครั้งนี้ , เขาจะไม่ถูกควบคุมจากคนอื่น ก่อนหน้านี้ราชาแห่งดาบเลเวล 200 , เขาได้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในชีวิต วิธีการที่จะได้รับเงิน! กลยุทธ์แห่งชัยชนะในดันเจี้ยน! เควสในตำนาน! สถานที่ดรอปอุปกรณ์! ทักษะที่ยังไม่ถูกค้นพบ! แม้แต่ความลับที่พวกผู้ทดสอบเบต้าไม่รู้ , เขารู้มันทั้งหมด สงครามอันยิ่งใหญ่ , ความก้าวหน้าในชีวิต , เข้าสู่ความเป็นพระเจ้า , บรรลุถึงจุดสูงสุดแห่งดาบ ตำนานของชายผู้ที่จะกลายเป็นเทพแห่งดาบได้เริ่มขึ้นแล้ว Starting over once more, he has entered this “living game” again in order to control his own fate. This time, he will not be controlled by others. Previously the Level 200 Sword King, he will rise to a higher peak in this life. Methods to earn money! Dungeon conquering strategies! Legendary Quests! Equipment drop locations! Undiscovered battle techniques! Even the secrets Beta Testers were unknowledgeable of, he knows of them all. Massive wars, life advancement, entering Godhood, sword reaching to the peak; a legend of a man becoming a Sword God has begun.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset