Reincarnation Of The Strongest Sword God – ตอนที่ 2883

ตอนที่ 2883 การันตี

“แลกเปลี่ยนในเงื่อนไขทรัพยากรแบบหนึ่งต่อหนึ่ง ?” หานอี้เฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อย “คุณซือเฟิง ราคาที่คุณต้องการมันจะไม่สูงเกินไปหน่อยงั้นหรอ ?”

ในตอนนี้ไม่ใช่แค่หานอี้เฟิงเท่านั้นที่รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย แม้แต่จั้วหลิงฉิวที่ยืนอยู่ข้างประตูก็อดไม่ได้ที่จะจ้องมองไปยังซือเฟิงด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจ และเย้ยหยัน

เงื่อนไขอัตราส่วนการแลกเปลี่ยนทรัพยากรแบบหนึ่งต่อหนึ่งนั้นไม่ต้องพูดถึงบริษัทไฟฟ์สเตทเลย เพราะแม้แต่มหาอำนาจต่างๆใน Upper Zone ของเมืองหยวนเทียนนั้นก็ไม่มีความสามารถมากพอจะแลกเปลี่ยนแบบนี้ได้แน่นอน

โพชั่นแห่งชีวิต และโพชั่นแฟนธ่อมนั้นต่างก็เป็นของล้ำค่าสำหรับมหาอำนาจต่างๆใน Upper Zone โดยมหาอำนาจต่างๆนั้นก็ต้องใช้เวลาสะสมอย่างยาวนานมากๆกว่าที่จะมีพวกมันในครอบครองเป็นจำนวนมหาศาล พูดง่ายๆคือมันไม่ใช่สิ่งของที่จะหามาได้ง่ายๆเป็นจำนวนมากในชั่วข้ามคืนเลย

และเมื่อต้องนำมันมาแลกเปลี่ยนในเงื่อนไขทรัพยากรแบบหนึ่งต่อหนึ่งนั้น จะไม่ให้พวกเขาคิดว่ามันมากเกินไปได้ยังไง ?

ขณะเดียวกันต่อให้บริษัทไฟฟ์เสตทตกลงแลกเปลี่ยนแบบนี้จริงๆ พวกเขาก็มักจะตกลงแลกเปลี่ยนกับบริษัทยักษ์ใหญ่เท่านั้น และอัตราการแลกเปลี่ยนที่พวกเขาตกลงแลกเปลี่ยนก็ยังจะเป็นแบบหนึ่งต่อสองด้วย แล้วซือเฟิงนี่มีความสามารถอะไรกัน หรือยิ่งใหญ่มาจากไหน ถึงมาเรียกร้องมากขนาดนี้ ?

“นายน้อยหาน อย่าพึ่งรีบปฎิเสธสิ ….” ซือเฟิงส่ายหัวพลางมองไปยังหานอี้เฟิงที่ตอนนี้ดูเย็นชาเล็กน้อยด้วยรอยยิ้ม “ราคาที่ฉันเรียกร้องไปแบบหนึ่งต่อหนึ่งนั้นนับว่ายุติธรรมมากๆ !!”

“ยุติธรรม ?” หานอี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะยิ้ม “ฉันสงสัยจังว่าคุณซือเฟิงคิดว่ามันยุติธรรมยังไง ?”

“เพราะฉันสามารถช่วยให้นายน้อยหานเข้าสู่พื้นที่ชั้นกลางได้ !!” ซือเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ฉันสงสัยจังว่านายน้อยหานจะยังคิดว่าข้อเสนอของฉันไม่ยุติธรรมอยู่รึปล่าว ?”

เมื่อได้ยินคำพูดล่าสุดของซือเฟิงนั้น การแสดงออกที่ไม่แยแสบนใบหน้าของ
หานอี้เฟิงก็เปลี่ยนไปอย่างกระทันหัน แต่อย่างไรก็ตามใบหน้าของเขานั้นก็กลับมาไม่แยแสและเรียบเฉยดังเดิมได้อย่างรวดเร็ว ก่อนที่เขาจะมองไปยังซือเฟิง และกล่าวถามว่า “คุณซือเฟิง ดูเหมือนคุณจะมีความมั่นใจมากจริงๆนะ เอางี้แล้วกัน ถ้าคุณสามารถทำได้ตามที่พูดจริงๆ ฉันก็ยินดีจะยอมรับข้อเสนอของคุณในแบบหนึ่งต่อหนึ่ง ว่าแต่คุณมีวิธีอะไรที่จะช่วยให้ฉันเข้าสู่พื้นที่ชั้นกลางได้ ?”

“คะแนนสะสมหกแสนแต้ม !!! ซึ่งด้วยคะแนนสะสมจำนวนมากขนาดนี้นั้น แม้ว่ามันจะไม่ได้ช่วยให้นายน้อยหานการันตีอันดับหนึ่งได้ แต่มันก็จะช่วยให้นายน้อยหานการันตีสามอันดับแรกได้อย่างไม่มีปัญหาแน่นอน”

ตามข้อมูลที่เขาได้รับมาจากมู่ฉินนั้น ดูเหมือนว่าขีดจำกัดคะแนนสะสมของสามอันดับแรกจะอยู่ที่เกือบหนึ่งล้านคะแนนเท่านั้น และยิ่งเวลาผ่านไปนั้นการจะได้รับคะแนนสะสมแบบนี้มันก็จะยิ่งทำได้ยากมากขึ้นเรื่อยๆ เว้นแต่ว่าคนๆนั้นจะได้รับคริสตัลเจ็ดลูมินาลี่จำนวนมากจาก God domain แต่อย่างไรก็ตามคริสตัลเจ็ดลูมินาลี่นั้นมันก็จัดว่ามีค่ามากๆ และแม้แต่มหาอำนาจต่างๆใน God domain ก็ยังมีพวกมันไม่มากนัก …..

ตามการคาดการณ์ของเขา หานอี้เฟิงนั้นจะไม่มีปัญหาแน่นอนในการรวบรวมคะแนนสะสมเจ็ดแสนถึงแปดแสนแต้มผ่านความแข็งแกร่งของบริษัทไฟฟ์สเตท ดังนั้นหากหานอี้เฟิงได้รับคะแนนสะสมนอกเหนือจากการอาศัยความแข็งแกร่งของบริษัทไฟฟ์
สเตทเพิ่มไปอีกหกแสนแต้มนั้น หานอี้เฟิงก็จะสามารถการันตีตำแหน่งสามอันดับแรกให้กับตัวเองได้แน่นอน

ในขณะที่ซือเฟิงกล่าวถึงคะแนนสะสมหกแสนแต้มนั้น จั้วหลิงฉิวที่ยืนอยู่ข้างประตูก็อดไม่ได้ที่จะจ้องมองไปยังซือเฟิงด้วยความไม่เชื่อ

เพราะท้ายที่สุดแล้ว แม้ว่าบริษัทไฟฟ์สเตทของพวกเขาจะพยายามอย่างหนักโดยใช้ความแข็งแกร่งของตัวเอง แต่พูดกันตามตรงพวกเขาก็ได้รับคะแนนสะสมนี้มามากกว่าซือเฟิงแค่ไม่กี่แสนเท่านั้น และหากซือเฟิงมีคะแนนสะสมมากขนาดนี้จริงๆ แม้ว่าเขาจะไม่สามารถเข้ามาติดหนึ่งในสามได้ แต่เขาก็สามารถนำมันไปขายให้ใครก็ได้ใน Upper Zone แน่นอน เพราะท้ายที่สุดแล้วตอนนี้ทุกกองกำลังใน Upper Zone นั้นกำลังรับซื้อพวกมันในราคาที่สูงมากๆ

และสำหรับบริษัทไฟฟ์สเตทของพวกเขานั้น มันก็เป็นอย่างที่ซือเฟิงว่ามาคือถ้าพวกเขาได้รับคะแนนสะสมมาอีกหกแสนแต้มนั้น พวกเขาก็จะสามารถการันตีตำแหน่งสามอันดับแรกได้แน่นอน

ขณะเดียวกันตอนนี้แม้แต่หานอี้เฟิงนั้นก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงมากๆ ….

“คะแนนสะสมหกแสนแต้ม !!! นี่เขามีความแข็งแกร่งมากขนาดนี้เลยงั้นหรอ ?!!”

ในความคิดของหานอี้เฟิง หากซือเฟิงได้รับคะแนนสะสมมาสักสองแสนแต้มนั้นมันก็จัดว่าเขามีความสามารถที่ท้าทายสวรรค์มากแล้ว เพราะท้ายที่สุดคริสตัลเจ็ดลูมินาลี่ใน God domain นั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะได้รับมา และซือเฟิงก็ได้เคยแลกเปลี่ยนส่วนหนึ่งไปแล้วด้วย

แถมพูดกันตามตรง หากซือเฟิงมีคะแนนสะสมมากขนาดนี้ และมีความสามารถที่จะหาคะแนนสะสมได้แบบนี้ เขาน่าจะมีสิทแย่งชิงตำแหน่งสามอันดับแรกได้ด้วยซ้ำ

ซือเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “นายน้อยหานคิดยังไงกับเรื่องนี้ล่ะ ?”

หากหานอี้เฟิงมีคะแนนสะสมมากกว่าหนึ่งล้านแต้มเมื่อไหร่ เขาจะไม่มีปัญหาแน่นอนในการการันตีตำแหน่งสามอันดับแรก และหากเขาสามารถรับซื้อเพิ่มได้อีกสักสองถึงสามแสนแต้ม เขาก็น่าจะได้อันดับหนึ่งแบบสบายๆเลย

หานอี้เฟิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะกัดฟันและพูดว่า “คะแนนสะสมหกแสนแต้มของคุณนั้นมันมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะการันตีตำแหน่งสามอันดับแรกให้ฉันจริงๆ …. แต่จำนวนแลกเปลี่ยนแบบหนึ่งต่อหนึ่งนั้นมันมากเกินไป แม้แต่กับบริษัทไฟฟ์สเตทของเรา เราไม่ได้มีโพชั่นพวกนั้นอยู่มากขนาดนั้น”

คะแนนสะสมหกแสนแต้มนั้นมันก็จะเท่ากับคะแนนการค้าหกสิบล้านแต้ม และหากเปลี่ยนมันเป็นโพชั่นนั้นมันก็จะเท่ากับหนึ่งหมื่นสองพันขวด ซึ่งจำนวนมากขนาดนี้นั้นมันไม่ใช่เรื่องตลกเลย ….

ซือเฟิงไม่ได้รู้สึกแปลกใจใดๆกับเรื่องนี้ ตรงกันข้ามเขาได้หัวเราะออกมา และพูดว่า “เนื่องจากบริษัทไฟฟ์สเตทไม่สามารถหาโพชั่นมาได้มากขนาดนั้น งั้นฉันก็จะขอโพชั่นแค่สองพันขวดก็แล้วกัน ส่วนที่เหลือฉันก็จะขอให้จ่ายเป็นวิลล่าหลังใหญ่แบบนี้แทน ฉันจำได้ว่าบริษัทไฟฟ์สเตทยังมีสิทจะซื้อได้นี่นา …”

วิลล่าหลังใหญ่สิบหลังในชั้นพื้นฐานนั้นมีคนอาศัยอยู่แค่แปดหลังเท่านั้น ส่วนที่เหลืออีกสองหลังยังว่างเปล่า

ซือเฟิงนั้นได้เรียนรู้มาแล้วว่าวิลล่าหลังใหญ่แบบนี้นั้นมันเป็นสถานที่ที่ดีมากๆ เพราะไม่เพียงแต่มันจะสามารถใช้อยู่ร่วมกันราวสี่สิบคนได้สบายๆ แต่พลังงานของที่นี่ยังมีมาก และเสถียรกว่าในบ้านทั่วไปด้วย ซึ่งมันก็จะนับว่าเป็นประโยชน์มากๆสำหรับเสวี่ยเหวินโหรว และอควาโรส

“ซือเฟิง อย่าไปไกลเกินไปนัก !!!” จั้วหลิงฉิวอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น “การแลกเปลี่ยนทรัพยากรแบบหนึ่งต่อหนึ่งนั้นแม้มันจะมีราคาสูง แต่วิลล่าหลังใหญ่นั้นก็ต้องใช้คะแนนการค้าถึงหนึ่งร้อยสี่สิบล้านแต้มในการซื้อ ขณะที่มูลค่ารวมของคะแนนที่คุณนำมาแลกนั้นมันอยู่ที่หกสิบล้านแต้มเท่านั้นนะ นี่คุณจะปล้นกันรึไง ?!”

หากคำณวนค่าใช้จ่ายทั้งหมด และนำเทียบกันจริงๆแล้วนั้น นี่มันแทบจะเท่ากับว่าราคาเพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัวเลยทีเดียว มันจึงไม่ต่างจากการปล้นเลย

“วิลล่าหลังใหญ่นั้นอาจจะมีราคาแพงกว่าเล็กน้อย แต่วิลล่าหลังใหญ่นั้นมันไม่ได้จำเป็นต้องใช้คะแนนสะสมเพื่อซื้อขายนี่นา เพราเพียงแค่มีประวัติคะแนนสะสมเกินหนึ่งร้อยล้านแต้มนั้นมันก็สามารถจะซื้อได้แล้ว ขณะเดียวกันสิ่งที่ฉันจะให้คุณก็คือคริสตัลเจ็ดลูมินาลี่ ซึ่งมันไม่เพียงแต่จะนำไปแลกเป็นคะแนนสะสมได้เท่านั้น แต่มันยังจะมีรางวัลเป็นคะแนนการค้าให้อีกด้วย ดังนั้นราคามันจึงดูไม่ได้แตกต่างกันมากขนาดนั้นนะ หากคิดรวมเรื่องนี้น่ะ …” ซือเฟิงกล่าวอย่างช้าๆ “แน่นอนว่าถ้าบริษัทไฟฟ์สเตทไม่สนใจ ฉันก็จะไปเสนอเงื่อนไขนี้กับคนอื่น เพราะฉันมั่นใจว่าพวกเขาจะสนใจแน่นอน โดยเฉพาะพวกที่อยู่ในสามอันดับแรกตอนนี้ …”

“คุณ ….”

จั้วหลิงฉิวมองไปยังซือเฟิง และแม้ว่าเขาจะรู้สึกไม่พอใจ แต่เขาก็ไม่สามารถจะเถียงอะไรซือเฟิงได้ เพราะที่ซือเฟิงพูดมานั้นมันไม่ผิดเลย ….

“พอแล้ว !! ผู้อาวุโสจั้ว” หานอี้เฟิงเหลือบไปมองที่จั้วหลิงฉิว ก่อนที่เขาจะหันกลับมามองซือเฟิง และพูดว่า “ฉันยอมรับข้อเสนอของคุณ แต่เรื่องวิลล่าหลังใหญ่มันต้องใช้เวลาสักพัก สำหรับโพชั่นฉันก็สามารถจะมอบให้ได้หนึ่งพันขวดก่อน ส่วนอีกหนึ่งพันขวด และวิลล่าหลังใหญ่นั้นฉันจะมอบให้คุณภายในห้าวัน คุณโอเคไหม ?”

“โอเค ฉันไม่มีปัญหา !” ซือเฟิงพยักหน้า

เวลาห้าวันที่หานอี้เฟิงขอนั้นมันก็นับว่าสมเหตุสมผล เพราะท้ายที่สุดแล้วซือเฟิงรู้ดีว่าสิ่งที่เขาเรียกร้องไปทั้งหมดนั้นมันไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถจัดหามาให้ได้อย่างรวดเร็ว

หลังจากนั้นหานอี้เฟิงก็ได้ทำการเซ็นสัญญากับซือเฟิง โดยซือเฟิงจะต้องการทำการโอนย้ายคริสตัลเจ็ดลูมินาลี่หกหมื่นชิ้นไปให้ตัวของหานอี้เฟิงใน God domain ภายในครึ่งวัน ขณะที่หานอี้เฟิงนั้นก็จะต้องจ่ายซือเฟิงด้วยโพชั่นแห่งชีวิตหนึ่งพันห้าร้อยขวด โพชั่นแฟนธ่อมห้าร้อยขวด และวิลล่าหลังใหญ่หนึ่งหลัง โดยหานอี้เฟิงจะต้องชำระทุกอย่างให้เสร็จสิ้นภายในห้าวัน ….

หลังจากเซ็นสัญญากันเรียบร้อย หานอี้เฟิงก็ได้ให้จั้วหลิงฉิวไปนำโพชั่นแห่งชีวิตหนึ่งร้อยขวดมาจ่ายให้กับซือเฟิงเป็นมัดจำก่อน ในขณะที่ส่วนที่เหลือจะถูกส่งไปที่
บ้านของซือเฟิงอย่างเงียบๆ (ชุดแรกที่ว่าหนึ่งพันขวดแรกน่ะ)

เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ซือเฟิงก็ได้กลับออกมาจากวิลล่าของบริษัทไฟฟ์สเตท พร้อมกับกล่องโพชั่นแห่งชีวิตกล่องใหญ่

หลังจากซือเฟิงจากไป จั้วหลิงฉิวก็มองไปยังหานอี้เฟิง และอดไม่ได้ที่จะกระซิบถามว่า “นายน้อย ฉันคิดว่าการทำธุรกรรมกับซือเฟิงครั้งนี้มันค่อนข้างจะมากเกินไปหน่อยนะ หากพวกผู้อาวุโสคนอื่นๆรู้เข้า พวกเขาจะเพ่งเล็งคุณแน่ๆ …”

“หึ ! คุณคิดว่าฉันจะต้องสนใจพวกเขางั้นหรอเมื่อฉันได้เข้าสู่ชั้นกลางแล้ว ?”
หานอี้เฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน เมื่อได้ยินคำพูดของจั้วหลิงฉิว

ชั้นกลางของ Upper Zone นั้นเป็นสิ่งที่ผู้ที่อยู่อาศัยในชั้นพื้นฐานทุกคนล้วนใฝ่ฝันจะได้ขึ้นไป ซึ่งสภาพแวดล้อมที่ชั้นกลางนั้นมันก็ดีกว่าที่ชั้นพื้นฐานมาก และแม้แต่ปรมาจารย์ทางจิตก็ยังอาศัยอยู่ที่นั่น ซึ่งหากเขาสามารถเชื่อมสัมพันธ์กับคนแบบนี้ที่อยู่อาศัยในชั้นกลางได้สักคนเมื่อไหร่ มันก็ไม่มีทางที่ตำแหน่งของเขาในบริษัทไฟฟ์สเตทจะสั่นคลอนแน่นอน
หานอี้เฟิงมองไปยังพื้นทีชั้นกลางที่เป็นวิวนอกหน้าต่างของวิลล่าของเขาด้วยความกระตือรือร้น “ไปเตรียมตัวได้แล้ว !! ฉันจะเดินทางไปหากองกำลังต่างๆเพื่อรับซื้อคะแนนสะสม แม้ว่ามันจะเป็นแบบหนึ่งต่อหนึ่งจุดห้าก็ตาม !!!”

ในระหว่างที่หานอี้เฟิงกำลังเตรียมการไปรับซื้อคะแนนสะสมนั้น ซือเฟิงก็ได้เดินตรงไปยังทางเข้าออกของ Upper Zone พร้อมกับกล่องโพชั่นแห่งชีวิต

เนื่องจากการขาดทรัพยากร แม้ว่าสภาสิบแปดปีกจะได้รับมรดกขอบเขตโดเมนที่สมบูรณ์มาแล้ว แต่มันก็มีผู้เชี่ยวชาญไม่มากนักที่สามารถจะฝึกฝนได้

แต่ตอนนี้สถานการณ์ทุกอย่างมันกำลังจะเปลี่ยนไปแล้วเมื่อซือเฟิงมีโพชั่นแห่งชีวิตมากเพียงพอ และตอนนี้ไม่ต้องพูดถึงผู้เชี่ยวชาญขอบเขตอนันต์เลย เขามั่นใจว่าเขาจะสามารถสร้างผู้เชี่ยวชาญขอบเขตโดเมนขึ้นมาได้เป็นจำนวนมากด้วยซ้ำ และเขาก็น่าจะทำได้เร็วกว่ามหาอำนาจต่างๆด้วย เพราะท้ายที่สุดแล้วมหาอำนาจต่างๆนั้นใช้เพียงสารอาหารเหลวระดับ S เท่านั้นในการเลี้ยงดูผู้เชี่ยวชาญให้ก้าวขึ้นมาถึงขอบเขตโดเมน ขณะที่ตัวเขานั้นจะใช้โพชั่นแห่งชีวิต

เมื่อเห็นซือเฟิงเดินออกไปจาก Upper Zone ผู้อาวุโสฉี และคนอื่นๆที่เฝ้าจับตาดูการเคลื่อนไหวของซือเฟิงอยู่ก็พูดไม่ออก ….

“นี่เด็กหนุ่มคนนี้ไม่ได้บ้าใช่ไหม ?” สุดยอดปรมาจารย์เหิงเหลียนคนหนึ่งมองไปยังซือเฟิงด้วยความรู้สึกที่เขาไม่สามารถจะประมวลผลได้ “นี่เขากล้าที่จะออกจาก Upper Zone ในเวลาแบบนี้เนี่ยนะ ?”

“เป็นไปได้ไหมที่เขาจะยังไม่ค้นพบพวกเรา ?” สุดยอดปรมาจารย์กำลังภายในคนหนึ่งกล่าวขึ้น

“ไม่ นั่นเป็นไปไม่ได้แน่นอน !!! ฉันมั่นใจว่าเขาค้นพบพวกเราแล้ว !!!” ผู้อาวุโสฉีมองไปยังซือเฟิงที่เดินออกจาก Upper Zone ไปด้วยสายตาเย็นชา “ในเมื่อเขากล้าขนาดไม่เห็นพวกเราอยู่ในสายตา ฉันก็คงจะต้องสอนบทเรียนแบบรุนแรงให้เขาสักหน่อย !!! ทุกคนเตรียมพร้อมไปปฎิบัติการด้านนอก ฉันอยากจะเห็นนักว่าเด็กคนนี้จะทำอะไรได้บ้าง !!!”

เมื่อพูดจบผู้อาวุโสฉีก็ได้นำพรรคพวกของเขาทั้งหมดไล่ตามซือเฟิงไป …..

Reincarnation Of The Strongest Sword God

Reincarnation Of The Strongest Sword God

เริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง เขาได้เข้ามาสู่ “เกมแห่งมีชีวิต” นี้อีกครั้งเพื่อที่จะควบคุมโชคชะตาของตัวเอง ครั้งนี้ , เขาจะไม่ถูกควบคุมจากคนอื่น ก่อนหน้านี้ราชาแห่งดาบเลเวล 200 , เขาได้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในชีวิต วิธีการที่จะได้รับเงิน! กลยุทธ์แห่งชัยชนะในดันเจี้ยน! เควสในตำนาน! สถานที่ดรอปอุปกรณ์! ทักษะที่ยังไม่ถูกค้นพบ! แม้แต่ความลับที่พวกผู้ทดสอบเบต้าไม่รู้ , เขารู้มันทั้งหมด สงครามอันยิ่งใหญ่ , ความก้าวหน้าในชีวิต , เข้าสู่ความเป็นพระเจ้า , บรรลุถึงจุดสูงสุดแห่งดาบ ตำนานของชายผู้ที่จะกลายเป็นเทพแห่งดาบได้เริ่มขึ้นแล้ว Starting over once more, he has entered this “living game” again in order to control his own fate. This time, he will not be controlled by others. Previously the Level 200 Sword King, he will rise to a higher peak in this life. Methods to earn money! Dungeon conquering strategies! Legendary Quests! Equipment drop locations! Undiscovered battle techniques! Even the secrets Beta Testers were unknowledgeable of, he knows of them all. Massive wars, life advancement, entering Godhood, sword reaching to the peak; a legend of a man becoming a Sword God has begun.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset