Reincarnation Of The Strongest Sword God – ตอนที่ 2887

ตอนที่ 2887 ความเป็นไปได้ของชายที่ชื่อซือเฟิง

ในตอนนี้ท่ามกลางฝูงชนที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวานั้น เมื่อผู้อาวุโสฉีและคนอื่นๆทรุดลงไปกับพื้น ผู้คนจำนวนมากก็เริ่มสังเกตเห็นถึงตัวตนของพวกเขา และนี่มันก็ทำให้ผู้คนจำนวนมากเริ่มพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องนี้

แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับตัวซือเฟิงนั้น เขาค่อยๆเดินออกมาจากฝูงชนอย่างสบายๆโดยที่มันไม่มีใครสังเกตเห็นถึงตัวตนของเขาเลย ซึ่งมันราวกับว่าเขาเป็นเพียงแค่ต้นไม้ หรือเศษหิน ดิน ทราย รอบๆเท่านั้น ….

“ปรมาจารย์ทางจิต ?!”

ฟางฉีหานจ้องมองไปยังซือเฟิง สลับกับผู้อาวุโสฉีและคนอื่นๆที่นอนกองอยู่บนพื้นด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความตกตะลึงถึงอย่างถึงที่สุดเหมือนกับโลกตรงหน้าเธอกำลังจะถล่มลงมาเลย

ผู้เชี่ยวชาญระดับสุดยอดปรมาจารย์แปดคน และระดับครึ่งก้าวสุดยอดปรมาจารย์หกคนนั้นจัดเป็นทีมที่แข็งแกร่ง และน่ากลัวมากๆ ซึ่งมันก็คงจะมีแต่ปรมาจารย์ทางจิตเท่านั้นที่จะรับมือกับทีมแบบนี้ได้ ….

แต่แล้วตัวตนของปรมาจารบ์ทางจิตนั้นคืออะไร ? และมันน่ากลัวแค่ไหน ?

ปรมาจารย์ทางจิตนั้นคือตัวตนที่ทรงอิทธิพลอย่างแท้จริงใน Upper Zone โดยพวกเขาส่วนใหญ่นั้นอาศัยอยู่ในชั้นกลางของ Upper Zone ด้วย และมหาอำนาจต่างๆในชั้นพื้นฐานนั้นก็ล้วนต้องการจะได้รับความโปรดปรานจากตัวตนระดับนี้อย่างมาก

ขณะเดียวกันกว่าที่เหล่าปรมาจารย์ทางจิตเหล่านี้จะไปถึงระดับปรมาจารย์ทางจิตได้นั้น พวกเขาก็ล้วนมีอายุมากกว่าสามสิบปีกันแล้ว แต่ตอนนี้ซือเฟิงอายุเท่าไหร่กัน ?

ตามข้อมูลเกี่ยวกับตัวของซือเฟิงที่เธอได้รับมาเมื่อไม่นานมานี้นั้น ระดับความสามารถทางจิตของเขายังคงอยู่ในเกรดพิเศษอยู่เลย และมันก็ยังคงอยู่ห่างไกลจากการกลายเป็นปรมาจารย์ทางจิตอย่างมาก แต่ตอนนี้ ….

เมื่อซือเฟิงเดินเข้ามาถึงตรงหน้าของฟางฉีหาน ฟางฉีหานก็กลับมาสติอีกครั้ง และตอนนี้มองไปยังซือเฟิงตรงห้าของเธอ พลางวิเคราะห์และตรวจสอบอย่างระมัดระวังมากๆราวกับว่าเธอพึ่งได้พบซือเฟิงเป็นครั้งแรก

“คุณ … ก้าวไปถึงระดับปรมาจารย์ทางจิตแล้วงั้นหรอ ?!!” ฟางฉีหานมองไปยังซือเฟิง และอดไม่ได้ที่จะถาม

แม้ว่าดูจากสิ่งที่เขาทำมาเมื่อครู่ทั้งหมด มันจะเป็นเรื่องแน่นอนแล้วว่าซือเฟิงกลายเป็นปรมาจารย์ทางจิตแล้ว แต่ฟางฉีหานก็ยังอดไม่ได้ที่จะต้องถามย้ำอยู่ดี ปรมาจารย์ทางจิตที่อายุน้อยกว่ายี่สิบห้าปีเนี่ยนะ ?!!

หากเรื่องนี้แพร่กระจายออกไป มันจะสร้างความตกตะลึงและฮือฮาไปทั่ว Upper Zone แน่นอน และเมื่อถึงเวลาบางทีพวกผู้บริหารระดับสูงของบริษัทกรีนก๊อดก็อาจมาสนใจในตัวของซือเฟิงด้วย

ซึ่งพวกผู้บริหารระดับสูงของบริษัทกรีนก๊อดนั้น แม้แต่ปรมาจารย์ทางจิตก็ยังต้องพยายามอย่างหนักกว่าจะสร้างมิตรภาพกับพวกเขาคนใดคนหนึ่งได้ และสำหรับตัวตนอย่างผู้จัดการชั้นสูงสุดของ Upper Zone นั้นก็แทบจะนับว่าเป็นผู้ยืนอยู่ในจุดสูงสุดของ Upper Zone เลย

“อืม ฉันก้าวสู่ระดับปรมาจารย์ทางจิตได้เมื่อไม่นานมานี้ ….”

ซือเฟิงพยักหน้าและตอบคำถามของฟางฉีหานอย่างตรงไปตรงมาโดยไม่ได้ปิดบังใดๆ ก่อนที่เขาจะหันไปมองผู้อาวุโสฉีและคนอื่นๆที่นอนกองอยู่กับพื้นที่แววตาที่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเช่นกัน

ในตอนที่เขารู้ตัวว่าตัวเองทะลวงเข้ามาสู่ขอบเขตปรมาจารย์ทางจิตได้นั้น เขารู้สึกว่าร่างกายทางกายภาพ และประสาทสัมผัสทั้งหมดของเขานั้นมันดีขึ้นอย่างมาก และความเฉียบคมของเขามันก็เพิ่มขึ้นในหลายๆด้าน

อย่างไรก็ตามซือเฟิงได้เข้าใจถึงพลังที่น่ากลัวของปรมาจารย์ทางจิตอย่างแท้จริงก็ตอนที่เขาได้มาต่อสู้กับผู้อาวุโสฉี และคนอื่นๆ

แม้ว่าโดยรวมแล้วหากวัดกันด้านความแข็งแกร่งอย่างเดียว มันจะไม่ได้แข็งแกร่งกว่าสุดยอดปรมาจารย์ทั่วไปมากนัก แต่การควบคุมเพื่อใช้ความแข็งแกร่งของตัวเองออกมานั้น ปรมาจารย์ทางจิตจัดว่าเหนือกว่าสุดยอดปรมาจารย์ทั่วไปมาก

ซึ่งการควบคุมเพื่อใช้ความแข็งแกร่งของตัวเองออกมาที่ว่านี้มันก็สะท้อนให้เห็นหลายด้าน โดยเฉพาะด้านการปรับตัวของกล้ามเนื้อ และรายละเอียดในการเคลื่อนไหวของตัวเอง นอกเหนือจากนี้มันก็ยังช่วยปรับปรุงการประมวลผล ควบคุม และสั่งการของสมองด้วย

ในช่วงเวลาแห่งการต่อสู้นั้นดวงตาของเขาเห็นภาพช้าลงราวสิบเท่าด้วยซ้ำ ซึ่งนี่มันหมายความว่าสำหรับการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วที่ทุกคนมองไม่เห็นหรือเป็นภาพเบลอนั้น เขาก็สามารถจะเห็นมันได้อย่างชัดเจนเลย

ซึ่งเมื่อมาถึงขั้นนี้นั้น มันก็ทำให้เขาสามารถใช้เทคนิค Void Steps จาก God domain เพื่อหลีกเลี่ยง และหลบระยะการมองเห็นกับระยะการรับรู้ของศัตรูในโลกแห่งความจริงได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมมหาอำนาจต่างๆใน Upper Zone ชั้นพื้นฐานถึงกลัวปรมาจารย์ทางจิตมาก

โชคดีที่เขาระวังตัวเองอย่างมากในเรื่องนี้ เพราะท้ายที่สุดหากเขาประมาทเพียงเล็กน้อย มันจะทำให้เกิดปัญหาใหญ่ตามมาแน่นอน เนื่องจากหากปรมาจารย์ทางจิตต้องการจะฆ่าสุดยอดปรมาจารย์ทั่วไปสักคน ปรมาจารย์ทางจิตนั้นจะสามารถทำได้ง่ายๆเลย

สำหรับฟางฉีหานในตอนนี้นั้น เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะต้องเผชิญหน้ากับซือเฟิงยังไง ไม่ต้องพูดถึงการพูดคุยเจรจาเลย

ในตอนแรกฟางฉีหานต้องการจะได้รับทรัพยากรส่วนหนึ่งของเมืองสภาสิบแปดปีกโดยแลกกับการปกป้องซือเฟิง ซึ่งเรื่องนี้มันก็จะช่วยให้สถานะของเธอในไมโทโลจี้สูงขึ้น และมันก็จะทำให้เก้าอี้รองหัวหน้ากิลลำดับที่หนึ่งของเธอในไมโทโลจี้มั่นคง

แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าทุกอย่างมันจะกลายเป็นเรื่องตลกไปแล้ว ….

เพราะมันแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่ปรมาจารย์ทางจิตคนหนึ่งจะกลัวอีกคนหนึ่ง แม้ว่าในระดับของปรมาจารย์ทางจิตมันจะมีช่องว่างระหว่างกันอยู่ก็ตาม แถมซือเฟิงนั้นยังกลายเป็นปรมาจารย์ทางจิตตั้งแต่อายุยังน้อย ซึ่งตราบใดที่บริษัทกรีนก๊อดได้ยินข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ พวกเขาก็จะต้องแสดงความสนใจในตัวของซือเฟิงมากแน่นอน และท้ายที่สุดแล้วหากซือเฟิงเลือกทางของตัวเองดีๆ ต่อให้เป็นอาจารย์ของหวังซวนมิง หรือปรมาจารย์ทางจิตขั้นสูงก็จะไม่มีทางที่จะมีสถานะเทียบเท่ากับซือเฟิงแน่นอน

ซึ่งหากมันเป็นไปตามนี้ ตราบใดที่อาจารย์ของหวังซวนหมิงไม่ได้โง่ ยังไงเขาก็จะต้องล้มเลิกความคิดในการจะแก้แค้นซือเฟิงแน่นอน ในทางตรงกันข้ามๆเผลอๆเขาอาจจะยินดีจะเชื่อม และซ่อมแซมความสัมพันธ์กับซือเฟิงใหม่ด้วยซ้ำ เพราะท้ายที่สุดพรสวรรค์ของซือเฟิงนั้นมันจัดว่าน่ากลัวมากๆ และในอนาคตเขาก็จะกลายเป็นหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลที่สุดของ Upper Zone แน่นอน

ขณะเดียวกันตอนนี้ซือเฟิงก็ได้มองไปยังฟางฉีหาน และถามว่า “ปัญหาทุกอย่างได้รับการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นมาคุยเรื่องของเราต่อดีกว่า … วันนี้ที่มิสฟางมา มิสฟางมีอะไรจะคุยกับฉันกัน ?”

เมื่อฟางฉีหานได้ยินคำพูดของซือเฟิง เธอก็หายจากอาการตกตะลึง และกลับมามีสติอีกครั้ง ก่อนที่เธอจะกล่าวต่อซือเฟิงด้วยความเคารพว่า “ปรมาจารย์ซือเฟิง คุณก็พูดไป ด้วยสถานะของคุณในตอนนี้นั้น ปัญหามันจะไม่ใช่แค่ได้รับการแก้ไข แต่คุณยังจะได้รับประโยชน์เพิ่มเติมมาอีกมหาศาลแน่นอน”

“อย่างนั้นหรอ ?”

ซือเฟิงมองไปยังท่าทีที่เต็มไปด้วยความเคารพของฟางฉีหานและรู้สึกอึดอัดขึ้นมาเล็กน้อย เพราะก่อนหน้านี้การพบกันแต่ละครั้งของพวกเขาก่อนหน้านี้นั้น ผู้หญิงคนนี้จะค่อนข้างหยิ่งผยองและถือตัวมากๆ

“ปรมาจารย์ซือเฟิงจริงๆแล้วเรื่องที่ฉันมาพูดคุยกับคุณมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรนักหรอก ….” ฟางฉีหานกล่าวพลางมองไปยังซือเฟิงด้วยรอยยิ้มบางๆ “ฉันแค่ต้องการจะมาขอร่วมมือกับสภาสิบแปดปีกเป็นการส่วนตัว”

“ร่วมมือเป็นการส่วนตัว ?” ซือเฟิงไม่ได้แปลกใจกับเรื่องนี้มากนัก และเขาก็พูดออกมาอย่างเฉยเมยว่า “มิสฟางมีแผนจะร่วมมือกับสภาสิบแปดปีกยังไง ?”

เมื่อได้ยินคำถามของซือเฟิง ฟางฉีหานก็สูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่เธอจะกล่าวออกมาอย่างจริงจังว่า “ฉันสามารถจะบริจาคเงินหนึ่งแสนล้านเครดิตให้กับสภาสิบแปดปีกเป็นการส่วนตัวเพื่อช่วยสภาสิบแปดปีกปรับปรุงอุปกรณ์และสถานที่ที่จำเป็นในการพัฒนาของตัวเองได้ ในขณะเดียวกันฉันก็จะมอบช่องเข้าสู่ Upper Zone อีกสิบช่องให้กับสภาสิบแปดปีก พร้อมกับโพชั่นต่างๆที่จำเป็นอีกมากกว่าหนึ่งพันขวดด้วย นอกเหนือจากนี้ใน God domain ฉันก็ยินดีจะนำคนของฉันทั้งหมด ซึ่งรวมไปถึงผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดหรือเก่งกาจกว่านั้นเข้าร่วมกับสภาสิบแปดปีกด้วย และฉันก็ยินดีจะมอบที่ดินในเมือง NPC ขนาดใหญ่ทั้งในทวีปด้านตะวันออก และตะวันตกราวสามร้อยผืนของไมโทโลจี้ที่อยู่ภายใต้ชื่อของฉันให้กับสภาสิบแปดปีก !!!”

เมื่อซือเฟิงได้ยินดังนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมาว่า “เงื่อนไขของคุณคืออะไร ?”

ไม่ต้องพูดถึงเงินทุนเป็นเครดิตที่จำเป็นสำหรับการขยายตัวในปัจจุบันของสภาสิบแปดปีกเลย แค่โพชั่นต่างๆที่จำเป็นมากกว่าหนึ่งพันขวด และฟางฉีหานกับคนของเธอทั้งหมด พร้อมกับที่ดินในเมือง NPC ขนาดใหญ่ทั้งในทวีปด้านตะวันออก และตะวันตกของไมโทโลจี้ภายใต้ชื่อของฟางฉีหานนั้น หากสภาสิบแปดปีกได้รับทั้งหมดนี้มา ความแข็งแกร่งของกิลก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมากแน่นอน และกิลก็จะขึ้นไปอยู่เหนือกว่าซุเปอร์กิลทั่วไปเลยด้วยซ้ำ

หากซือเฟิงบอกว่าข้อเสนอนี้มันไม่ได้ยั่วยวนเขาเลย เขาก็คงจะโกหกแน่นอน ….

โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ดินในเมือง NPC ขนาดใหญ่ทั้งในทวีปด้านตะวันออก และตะวันตกที่มันเป็นสิ่งที่สภาสิบแปดปีกต้องการอย่างมากในปัจจุบัน เพราะตราบใดที่มีที่ดินพวกนี้ วงเวทย์เทเลพอร์ตที่เชื่อมระหว่างสองทวีปของสภาสิบแปดปีกนั้นก็จะสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ และมันก็จะเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากสำหรับสภาสิบแปดปีกที่จะตั้งหลักในทวีปด้านตะวันตก

เมื่อได้ยินคำถามของซือเฟิง ฟางฉีหานก็ได้มองสบตากับซือเฟิง ก่อนที่เธอจะยิ้มและกล่าวออกมาว่า “มันง่ายมาก !! ช่วยมาเป็นผู้สนับสนุนของฉันที !!!”

“???”

เมื่อได้ยินคำพูดของฟางฉีหาน ซือเฟิงก็รู้สึกสับสนมากๆ และตอนนี้มันก็ต้องบอกเลยว่าเขาไม่เข้าใจมากๆว่ามันเกิดอะไรขึ้น ?

Reincarnation Of The Strongest Sword God

Reincarnation Of The Strongest Sword God

เริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง เขาได้เข้ามาสู่ “เกมแห่งมีชีวิต” นี้อีกครั้งเพื่อที่จะควบคุมโชคชะตาของตัวเอง ครั้งนี้ , เขาจะไม่ถูกควบคุมจากคนอื่น ก่อนหน้านี้ราชาแห่งดาบเลเวล 200 , เขาได้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในชีวิต วิธีการที่จะได้รับเงิน! กลยุทธ์แห่งชัยชนะในดันเจี้ยน! เควสในตำนาน! สถานที่ดรอปอุปกรณ์! ทักษะที่ยังไม่ถูกค้นพบ! แม้แต่ความลับที่พวกผู้ทดสอบเบต้าไม่รู้ , เขารู้มันทั้งหมด สงครามอันยิ่งใหญ่ , ความก้าวหน้าในชีวิต , เข้าสู่ความเป็นพระเจ้า , บรรลุถึงจุดสูงสุดแห่งดาบ ตำนานของชายผู้ที่จะกลายเป็นเทพแห่งดาบได้เริ่มขึ้นแล้ว Starting over once more, he has entered this “living game” again in order to control his own fate. This time, he will not be controlled by others. Previously the Level 200 Sword King, he will rise to a higher peak in this life. Methods to earn money! Dungeon conquering strategies! Legendary Quests! Equipment drop locations! Undiscovered battle techniques! Even the secrets Beta Testers were unknowledgeable of, he knows of them all. Massive wars, life advancement, entering Godhood, sword reaching to the peak; a legend of a man becoming a Sword God has begun.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset