Reincarnation Of The Strongest Sword God – ตอนที่ 2894

ตอนที่ 2894 บ้าคลั่ง

“นี่คือพลังที่แท้จริงของอาชีพขั้นห้างั้นหรอ ?!!”

ไม่ว่าจะเป็นไวท์เฟเธอร์ โคลท์ชาโด้ว ไฟเออร์แดนซ์ และคนอื่นๆ พวกเขาล้วนตกตะลึงอย่างมากกับพลังที่ซือเฟิงแสดงออกมาในช่วงเวลานี้

ค่าสถานะของอสูรเลือดปีศาจนั้นมันสูงกว่าผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่ในเลเวลเดียวกันอย่างสิ้นเชิง และแม้จะมีเศษชิ้นส่วนไอเทมระดับตำนานติดตัว แต่มันก็ยังคงยากที่จะต่อสู้กับมอนสเตอร์แบบนี้ได้

อย่างไรก็ตามในเวลานี้ภายใต้การสร้างโลกของซือเฟิงนั้น อสูรเลือดปีศาจพวกนี้กับยากที่จะเคลื่อนไหวได้ ซึ่งนี่มันทำให้พวกเขาอดจะจินตนาการไม่ได้เลยว่า หากเป็นผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่ที่คิดจะต่อกรกับซือเฟิงนั้น ผลมันจะออกมาเป็นยังไง ….

แม้ว่าวีดีโอเกี่ยวกับการต่อสู้ต่างๆของซือเฟิงหลังจากที่เขากลายเป็นขั้นห้าจะถูกเผยแพร่ออกไปสู่สาธารณชนจนทำให้พวกเขาที่ได้ดูคิดว่าได้เข้าใจถึงพลังของขั้นห้าแล้ว แต่พอได้มาเห็นจริงๆนั้นพวกเขาก็ต้องบอกเลยว่ามันน่ากลัวกว่าที่คิดมากๆ

หากให้พูดตรงๆไม่ต้องพูดถึงการที่ผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่จะต่อสู้กับซือเฟิงเลย เพราะเพียงแค่การจะโจมตีซือเฟิงให้โดนมันก็ยากมากแล้ว

ขณะเดียวกันตอนนี้แม้แต่ตัวซือเฟิงก็ยังประหลาดใจกับผลลัพธ์นี้เช่นกัน

เขาไม่คิดเลยว่าหลังจากที่เขาได้สวมใส่อุปกรณ์ระดับตำนานแล้ว พลังของการสร้างโลกของเขามันจะเพิ่มขึ้นมากขนาดนี้ ….

“พวกคุณรีบจัดการกับอสูรเลือดปีศาจซะ !!! เดี๋ยวฉันจะตรึงพวกวิญญาณเลือดปีศาจเอาไว้ให้ !!!” ซือเฟิงตะโกนออกคำสั่ง ก่อนที่เขาจะเปิดใช้งานโดเมนดาบ และควบคุมดาบเวทย์มนต์ให้เข้าโจมตีวิญญาณเลือดปีศาจ

แม้ว่าโดเมนดาบจะเป็นเพียงสกิลมรดกขั้นสี่ แต่ภายใต้การควบคุมของซือเฟิงตอนนี้พลังของดาบเวทย์มนต์แต่ละเล่มนั้นอยู่ใกล้เคียงกับขั้นห้าเลย และมันก็ไม่ใช่อะไรที่มอนสเตอร์ระดับเทพนิยาย และเทพนิยายชั้นยอดจะสามารถต้านทานได้ง่ายๆ

ทันใดนั้นดาบเวทย์มนต์สี่เล่มของซือเฟิงก็โจมตีโดนเข้าที่วิญญาณเลือดปีศาจสี่ตัวเต็มๆ ซึ่งนี่มันทำให้วิญญาณเลือดปีศาจสี่ตัวนั้นส่งเสียงกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด พร้อมกันนั้นความเสียหายมากกว่าสามร้อยล้านก็ปรากฎขึ้นเหนือหัวของพวกมันแต่ละตัว และนี่ก็ทำให้ HP ของพวกมันลดลงในอัตราที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

นอกจากนี้แล้วด้วยการโจมตีนี้ของซือเฟิงมันก็ได้ทำให้พลังการต่อสู้ของวิญญาณเลือดปีศาจลดลงไปด้วยอันเนื่องมาจากอาการบาดเจ็บ

และในตอนนี้แม้แต่อสูรเลือดปีศาจบางส่วนก็ยังอดไม่ได้ที่จะมองไปยังซือเฟิงอย่างหวาดกลัว ซึ่งถ้าไม่ใช่เพราะว่าพวกมันคิดว่าตัวเองยังคงมีข้อได้เปรียบบางอย่างอยู่บ้าง พวกมันก็คงจะหันหลังกลับ และวิ่งหนีไปแล้ว

ขณะเดียวกันเมื่อได้เห็นพลังการโจมตีของซือเฟิงนั้น โคลท์ชาโด้วและคนอื่นๆก็รู้สึกพูดไม่ออกอย่างถึงที่สุด

ด้วยพลังที่น่ากลัวแบบนี้ ซือเฟิงสามารถจะจัดการมอนสเตอร์ทั้งหมดนี้ที่อยู่ตรงหน้าของเขาได้อย่างง่ายดายเลย

หลังจากซือเฟิงเห็นว่าตัวเองทำการดึงดูดค่าความโกรธของวิญญาณเลือดปีศาจได้แล้ว เขาก็ได้ตะโกนขึ้นมาว่า “เริ่มกันได้แล้ว !!!”

เมื่อไฟเออร์แดนซ์ และคนอื่นๆได้ยินคำสั่งของซือเฟิง พวกเขาก็ได้เริ่มกระจายตัว
กันออกไป และเริ่มเข้าปะทะกับอสูรเลือดปีศาจที่เคลื่อนตัวเข้ามาหาพวกเขาอย่างช้าๆ … โดยในตอนนี้นั้นด้วยผลของการสร้างโลกของซือเฟิงที่ช่วยปราบปรามอสูรเลือดปีศาจเอาไว้ มันจึงทำให้ทุกคนสามารถต่อสู้กับมอนสเตอร์เหล่านี้ได้ง่ายขึ้นมากๆ

และทุกคนในตอนนี้นั้นก็รู้ดีว่าพวกเขาจำเป็นจะต้องโฟกัส และตั้งใจเรียนรู้กับโอกาสที่ซือเฟิงสร้างให้อย่างถึงที่สุด เพราะหากพวกเขาไม่ทำตอนนี้มันอาจจะเป็นเรื่อง
ยากมากๆในอนาคต เนื่องจากเมื่อเข้าไปลึกขึ้นในดินแดนลับแบบนี้นั้น มันก็จะมีอันตรายที่เพิ่มขึ้นมากๆ

สำหรับซือเฟิงในตอนนี้เมื่อได้เห็นการเคลื่อนไหวล่าสุดของสมาชิกในกิลของเขา เขาก็อดไม่ได้ที่จะพยักหน้าอย่างพึงพอใจ

ในตอนนี้สมาชิกของสภาสิบแปดปีกทั้งหมดล้วนกำลังต่อสู้กับอสูรเลือดปีศาจกันอย่างน้อยคนละหนึ่งตัว ขณะเดียวกันในหมู่พวกเขานั้นมันก็มีคนอย่าง ไฟเออร์แดนซ์ไวโอเล็ตคลาวด์ อควาโรส เสวี่ยเหวินโหรว หยานเทียนซิง อี้ลั่วเฟย โคลท์ชาโด้ว และคนอื่นๆอีกนิดหน่อยที่กำลังต่อสู้กับอสูรเลือดปีศาจพร้อมกันสองตัว

หลังจากนั้นเวลาก็ค่อยๆผ่านไปทีละนิด และไม่นานสี่ชั่วโมงก็ได้ผ่านไป ….

แม้ว่า HP ของอสูรเลือดปีศาจที่ผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่แต่ละคนของสภาสิบแปดปีกต่อสู้อยู่จะยังคงเหลืออยู่มากกว่าเก้าสิบเปอเซ็นต์ แต่ผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่ทั้งหมดในปัจจุบันนั้นก็ได้รับการปรับปรุงไปอย่างมาก

ในตอนแรกที่ต่อสู้กับอสูรเลือดปีศาจนั้น เหล่าผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่ของสภาสิบแปดปีกยังคงเคลื่อนไหวอย่างเก้ๆกังๆอยู่ อย่างไรก็ตามตอนนี้พวกเขาสามารถที่จะต่อสู้ได้อย่างเป็นธรรมชาติ และลื่นไหลราวกับสายน้ำแล้ว ซึ่งมันเห็นได้ชัดเลยว่าพวกเขานั้นมีความเข้าใจต่อกฎการทำงานขององค์ประกอบธาตุเวทย์มนต์ขึ้นอย่างมาก

“นี่คือการทำงานขององค์ประกอบธาตุเวทย์มนต์ที่แท้จริงงั้นหรอ ?!”

ในระหว่างที่ไวท์เฟเธอร์เผชิญหน้ากับอสูรเลือดปีศาจสี่ตัวนั้น เธอก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง เพราะเธอไม่คิดเลยว่าดินแดนลับแห่งนี้มันจะช่วยให้เธอพัฒนาไปได้อย่างรวดเร็วขนาดนี้ โดยในตอนนี้นั้นเธอสามารถปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาของตัวเองไปได้มากกว่าหนึ่งร้อยสิบเปอเซ็นต์แล้ว

อย่างไรก็ตามมันไม่ใช่แค่ไวท์เฟเธอร์เท่านั้น ตอนนี้หลายๆคนนั้นก็มีความก้าวหน้าและพัฒนาไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน เพียงแต่ว่าความก้าวหน้าและการพัฒนาของแต่ละคนนั้นมันก็แตกต่างกันออกไป

โดยในส่วนของโคลท์ชาโด้วนั้นเธอสามารถจะปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาของตัวเองไปได้มากกว่าหนึ่งร้อยสิบห้าเปอเซ็นต์แล้ว ขณะที่อควาโรสกับเสวี่ยเหวินโหรวนั้นก็น่ากลัวยิ่งกว่า เพราะตอนนี้พวกเขาสามารถปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาของพวกเขามาได้ถึงหนึ่งร้อยยี่สิบเปอเซ็นต์แล้ว

ซึ่งในตอนนี้ซือเฟิงก็รู้สึกว่าถ้าอควาโรส และเสวี่ยเหวินโหรวต้องการนั้น พวกเขาก็น่าจะสามารถเลื่อนขั้นไปเป็นขั้นห้าได้ทันที

เนื่องจากในตอนนี้นั้นซือเฟิงสามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า เสวี่ยเหวินโหรว และอควาโรสนั้นสามารถควบคุมกับใช้งานองค์ประกอบธาตุเวทย์มนต์ได้อย่างสมบูรณ์แบบมากๆ ซึ่งนี่มันก็ทำให้เป็นไปได้เลยที่ทั้งสองจะเริ่มสร้างร่างมานาขั้นห้าได้แล้ว

ขณะเดียวกันรองลงมาจากอควาโรสและเสวี่ยเหวินโหรวนั้น ผู้ที่อยู่ใกล้เคียงกับการปลดล๊อคศักยภาพร่างมานาได้หนึ่งร้อยยี่สิบเปอเซ็นต์นั้นก็คือไฟเออร์แดนซ์ ไวโอเล็ตคลาวด์ หยานเทียนซิง อี้ลั่วเฟย และคนอื่นๆอีกนิดหน่อย ….

อย่างไรก็ตามในระหว่างที่ผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่ของสภาสิบแปดปีกกำลังฝึกอยู่กับอสูรเลือดปีศาจอย่างเมามันนั้น NPC จำนวนมากก็ได้เริ่มหลั่งไหลเข้ามาจากโลกอื่น ซึ่งนี่มันก็ทำให้เหล่าผู้เชี่ยวชาญในทวีปด้านตะวันออกที่เฝ้าดูสถานการณ์อยู่อดไม่ได้ที่จะตัวสั่น

“มันจบแล้ว !! มันจบแล้ว !!!”

“ทำไมถึงมี NPC ขั้นสี่จำนวนมากขนาดนี้ ?!!”

แอสซาซินขั้นสี่ที่เฝ้ามองอยู่จากระยะไกลอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหมดหวัง เมื่อได้เห็นกองทัพ NPC จากโลกอื่นที่กำลังเดินทางเข้ามา

เนื่องจากกองทัพ NPC เหล่านี้มีสัดส่วน NPC ขั้นสี่ที่สูงมากในกองทัพ โดยคิดเป็นราวหนึ่งต่อหนึ่งร้อย ในขณะเดียวกันกองทัพ NPC ที่เดินทางเข้ามานี้ก็มีจำนวนราวสิบล้านคน และจะมีมากขึ้นในอนาคตด้วย

กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือตอนนี้มันมี NPC ขั้นสี่หลั่งไหลเข้าสู่ทวีปด้านตะวันออกมากกว่าหนึ่งแสนคน

ขณะเดียวกันในด้านของทวีปหลักนั้น โดยทั่วไปแล้วอาณาจักรหนึ่งจะมี NPC ขั้นสี่อยู่ราวหนึ่งพันคนเท่านั้น และแม้ว่าจะมีพวก NPC ขั้นสี่ที่ปกปิดตัวตัวอยู่อีก แต่อย่างมากมันก็จะไม่เกินสองถึงสามพันคนแน่นอน สำหรับจักรวรรดิจำนวนก็อาจจะมากกว่าอาณาจักอยู่ประมาณหนึ่ง แต่มันก็ยังคงจัดว่าห่างไกลจากกองทัพ NPC ผู้รุกรานจากโลกอื่นมากๆ

ในสงครามโลกครั้งก่อนนั้น มันมีอาณาจักรในทวีปด้านตะวันออกถูกทำลายไปเกือบยี่สิบอาณาจักร และคราวนี้เมื่อดูจากจำนวนของกองทัพ NPC แล้ว แม้แต่จักรวรรดิก็จะไม่รอดชีวิตไปแน่นอน

เมื่อกองกำลังขนาดใหญ่ต่างๆในทวีปด้านตะวันออกได้รับข่าวนี้ พวกเขาก็รู้สึกสิ้นหวัง และพูดไม่ออกไปชั่วขณะ

เนื่องจากในตอนนี้นั้นจำนวน และคุณภาพของ NPC ที่มาจากในโลกอื่นนั้นมันสูงและแข็งแกร่งกว่าที่พวกเขาคาดการณ์ไว้มาก และนี่ก็ยังไม่นับรวมกองกำลังของผู้เล่นจากโลกอื่นอีก ซึ่งมันทำให้เป็นไปได้เลยที่กองกำลังขนาดใหญ่ในทวีปด้านตะวันออกจะสามารถต้านทานการรุกรานนี้ได้

และเนื่องจากแรงกดดันทั้งหมดนี้เองกองกำลังขนาดใหญ่ต่างๆในทวีปด้านตะวันออกจึงเริ่มรวบรวมกำลังพลกันอย่างบ้าคลั่ง ขณะที่มหาอำนาจบางส่วนก็เริ่มติดต่อกับมหาอำนาจในทวีปด้านตะวันตกให้เข้ามาช่วยเหลือ และแน่นอนว่ามหาอำนาจในทวีปด้านตะวันตกนั้นก็เต็มใจที่จะเข้ามาช่วยเหลือ เพราะท้ายที่สุดแล้วพวกเชารู้ดีว่า หากทวีปด้านตะวันออกถูกทำลาย ต่อไปมันก็จะเป็นคิวของพวกเขาแน่นอน

ซึ่งด้วยสถานการณ์ทั้งหมดนี้เอง มันก็ทำให้ทวีปด้านตะวันออกตกอยู่ในความวุ่น
วายมากๆ

อย่างไรก็ตามด้านของซือเฟิงกับคนอื่นๆที่อยู่ในดินแดนลับของเทพปีศาจนั้นก็ไม่ได้รู้อะไรเลย และพวกเขาก็ยังคงต่อสู้กับฝึกกับพวกมอนสเตอร์ภายในนี้อย่างเมามัน

หลังจากใช้เวลามากกว่าสิบชั่วโมงในการฝึกจนสามารถแก้ปัญหาก่อนหน้านี้ที่แต่ละคนต้องเผชิญได้ ซือเฟิงก็ได้ออกคำสั่งให้เริ่มการสังหารมอนสเตอร์เหล่านี้ ….

แต่อย่างไรก็ตามอสูรเลือดปีศาจที่ไฟเออร์แดนซ์กับคนอื่นๆรับมืออยู่นั้นมันก็จัดว่าแข็งแกร่งมากๆ ซึ่งพวกเขาก็ต้องใช้เวลาประมาณหนึ่งในการจะฆ่ามัน โดยหากจะพูดให้แม่นยำก็คือพวกเขาจะต้องใช้เวลาประมาณหนึ่งนาทีในการฆ่าพวกมันหนึ่งตัว

ในทางตรงกันข้ามซือเฟิงนั้นรวดเร็วกว่าพวกเขามากๆ โดยซือเฟิงได้ทำการฆ่าวิญญาณเลือดปีศาจสี่ตัวลงไปได้ในเวลาไม่ถึงยี่สิบนาที

เมื่อวิญญาณเลือดปีศาจสี่ตัวตายลง มันก็ทำให้ทั้งทีมนั้นได้รับ EXP จำนวนมหาศาล และมีเลเวลเพิ่มขึ้นหนึ่งเลเวลทันที ขณะที่ตัวซือเฟิงนั้นก็มีเลเวลเพิ่มขึ้นเป็นหนึ่งร้อยห้าสิบเจ็ด ซึ่งความเร็วในการเก็บเลเวลนี้มันเร็วพอๆกับขี่จรวดเลยทีเดียว

และหลังจากนั้นเมื่อวิญญาณเลือดปีศาจสี่ตัวที่ตายลงดรอปไอเทมออกมา มันก็ทำให้โคลท์ชาโด้วและคนอื่นๆตกตะลึงอย่างถึงที่สุด โดยพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะขยี้ตาด้วยซ้ำ เพราะพวกเขานึกว่าพวกเขาได้เห็นภาพหลอน

Reincarnation Of The Strongest Sword God

Reincarnation Of The Strongest Sword God

เริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง เขาได้เข้ามาสู่ “เกมแห่งมีชีวิต” นี้อีกครั้งเพื่อที่จะควบคุมโชคชะตาของตัวเอง ครั้งนี้ , เขาจะไม่ถูกควบคุมจากคนอื่น ก่อนหน้านี้ราชาแห่งดาบเลเวล 200 , เขาได้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในชีวิต วิธีการที่จะได้รับเงิน! กลยุทธ์แห่งชัยชนะในดันเจี้ยน! เควสในตำนาน! สถานที่ดรอปอุปกรณ์! ทักษะที่ยังไม่ถูกค้นพบ! แม้แต่ความลับที่พวกผู้ทดสอบเบต้าไม่รู้ , เขารู้มันทั้งหมด สงครามอันยิ่งใหญ่ , ความก้าวหน้าในชีวิต , เข้าสู่ความเป็นพระเจ้า , บรรลุถึงจุดสูงสุดแห่งดาบ ตำนานของชายผู้ที่จะกลายเป็นเทพแห่งดาบได้เริ่มขึ้นแล้ว Starting over once more, he has entered this “living game” again in order to control his own fate. This time, he will not be controlled by others. Previously the Level 200 Sword King, he will rise to a higher peak in this life. Methods to earn money! Dungeon conquering strategies! Legendary Quests! Equipment drop locations! Undiscovered battle techniques! Even the secrets Beta Testers were unknowledgeable of, he knows of them all. Massive wars, life advancement, entering Godhood, sword reaching to the peak; a legend of a man becoming a Sword God has begun.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset