Reincarnation Of The Strongest Sword God – ตอนที่ 2897

ตอนที่ 2897 ชายหนุ่มลึกลับที่น่ากลัว

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคำสาปขั้นห้าที่โจมตีเข้ามาอย่างกระทันหัน ซือเฟิงนั้นก็รู้สึกตกตะลึงมากๆ แต่ถึงกระนั้นเขาก็ได้รีบชักดาบแสงแห่งสองโลกออกจากฝัก และเปิดใช้งานสกิลของมันพร้อมทั้งฟาดฟันมันไปด้านหน้าเพื่อรับมือกับคำสาปขั้นห้าที่เข้ามาทันที

แสงทลายโลก !

เมื่อการโจมตีทั้งสองปะทะกันนั้นมันก็ทำให้เกิดคลื่นกระแทกที่รุนแรงที่เปลี่ยนแปลงภูมิประเทศโดยรอบไปทันที …. และซือเฟิงก็ได้โดนผลจากคลื่นกระแทกที่รุนแรงนี้ผลักดันให้ถอยกลับไปไกลหลายสิบหลา นอกเหนือจากนี้ HP ของซือเฟิงก็ยังลดลงไปมากกว่าเก้าล้านด้วย

ซึ่งในการปะทะกันครั้งแรกนี้ ซือเฟิงไม่เพียงแต่จะสูญเสีย HP ไปมากกว่าหนึ่งในห้า แต่ร่างกายของเขาทั้งหมดก็ยังสั่นสะท้านด้วย และแขนทั้งสองข้างของเขาก็ชาอย่างถึงที่สุด

อย่างไรก็ตามหลังจากการปะทะกันครั้งแรกนั้นชายหนุ่มลึกลับที่โจมตีซือเฟิงก็ยังคงยืนอยู่ที่จุดเดิมของเขาอย่างเงียบๆ ในขณะที่มืออีกข้างหนึ่งของเขานั้นก็ยังพยายามรวบรวมวงเวทย์อยู่ และเขาไม่ได้มีท่าทีที่คิดจะเข้าโจมตีซือเฟิงต่อเลย

“สมกับเป็นคนที่กล้าปล้น และก่อเรื่องอย่างโจ่งแจ้งในเมืองแบล๊ควิงจริงๆ ขนาดหันมาใช้คำสาปขั้นห้าโจมตีฉัน เขาก็ยังจะสามารถพยายามรวบรวมวงเวทย์ที่เขาทำอยู่ไปพร้อมกันได้ด้วย” ซือเฟิงพึมพำ และยิ้มอย่างขมขื่น ขณะที่เขามองไปยังแขนที่สั่นเทาทั้งสองข้างของตัวเอง

และในตอนนี้เขาก็ได้ถูกผลักดันให้มาถึงช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดช่วงหนึ่งใน God domain ของเขาแล้ว

แม้ว่าเขาจะรู้มานานแล้วว่าชายหนุ่มลึกลับคนนี้นั้นทรงพลัง และน่ากลัวมากๆ แต่เขาก็ไม่คิดเลยว่าชายหนุ่มลึกลับคนนี้จะทรงพลังมากขนาดที่สามารถใช้คำสาปขั้นห้าได้โดยที่ไม่ต้องร่าย แถมชายหนุ่มลึกลับคนนี้ก็ยังใช้คำสาปขั้นห้าไปพร้อมกับการพยายามรวบรวมวงเวทย์ที่ซับซ้อนได้ด้วย …..

ซึ่งถ้าไม่ใช่เพราะพลังของดาบแสงแห่งสองโลก ความตายมันก็จะเป็นสิ่งที่แน่นอนอย่างถึงที่สุดสำหรับเขา

หลังจากนั้นเมื่อแขนของซือเฟิงเริ่มหายจากอาการชา เขาก็สังเกตเห็นว่าด้วยผลจากการปะทะกันในครั้งแรกนั้นมันทำให้พื้นที่บริเวณที่ชายหนุ่มลึกลับพยายามจะรวบรวมวงเวทย์อยู่ได้แตกออก และนี่มันก็ทำให้เขาสังเกตเห็นถึงผู้หญิงคนหนึ่งที่มีปีกสีดำแปดคู่ โดยในเวลานี้แม้ว่าเธอจะดูอ่อนแอมากๆ และ HP ของเธอก็เหลือไม่ถึงสิบเปอเซ็นต์ แต่เธอก็ยังคงแผ่ออร่าที่ทำให้ซือเฟิงรู้สึกไม่ดีออกมาอยู่เรื่อยๆ

“ได้ยังไงกัน ?!!”

ซือเฟิงมองไปที่ผู้หญิงที่มีปีกสีดำแปดคู่ด้วยความตกตะลึง

เทพีตกสวรรค์ !!!

แถมยังเป็นเทพีตกสวรรค์ขั้นสูงด้วย !!!

สำหรับเรื่องความทรงพลังนั้น หากเป็นเทพีตกสวรรค์ทั่วไป ตัวตนระดับนี้ก็จะมีความแข็งแกร่งไม่ด้อยไปกว่ามังกรโตเต็มวัยขั้นห้าเลย ขณะที่เทพีตกสวรรค์ขั้นสูงนั้นก็จะไม่ได้อ่อนแอไปกว่ามังกรศักสิทธิ์โตเต็มวัยขั้นห้าเลย

แต่ตอนนี้เทพีตกสวรรค์ขั้นสูงตรงหน้าของเขาซึ่งมีเลเวลหนึ่งร้อยแปดสิบ และอยู่ในขั้นห้านั้นกับถูกพันธนาการไว้โดยชายหนุ่มลึกลับผู้นี้ แถม HP ของเทพีผู้นี้ก็ยังลดลงไปเรื่อยๆตลอดเวลา ซึ่งทำให้เห็นได้ชัดเลยว่าเธออยู่ไม่ไกลจากความตายแล้ว ….

ในขณะที่ซือเฟิงกำลังรู้สึกตกตะลึงกับเรื่องเทพีตกสวรรค์ขั้นสูงนั้น ชายหนุ่มลึกลับก็มีท่าทีประหลาดใจเล็กน้อยในขณะที่เขามองไปยังดาบแสงแห่งสองโลกในมือของซือเฟิง

“คุณนี่โชคดีมากจริงๆ !! คุณกระทั่งได้รับดาบแสงแห่งสองโลกมา !!!” ชายหนุ่มลึกลับกล่าวอย่างเย็นชา “แต่น่าเสียดายที่ดาบแสงแห่งสองโลกนั้นมันได้รับความเสียหายมาอย่างหนัก และคุณก็ยังซ่อมมันไม่เสร็จ ไม่งั้นหากคุณซ่อมมันเสร็จแล้ว คุณคงพอจะทำให้ฉันบาดเจ็บได้บ้าง ….”

แม้ว่าคำพูดของชายหนุ่มลึกลับจะฟังดูหยิ่งผยองมากๆ แต่ซือเฟิงก็ไม่ได้คิดจะลบล้างใดๆ เพราะท้ายที่สุดแล้วชายหนุ่มลึกลับคนนี้นั้นพูดถูกมากๆ

เท่าที่ซือเฟิงคาดการณ์ชายหนุ่มลึกลับผู้นี้นั้นน่าจะอยู่ในสถานะร่างครึ่งเทพที่ใกล้เคียงกับการเข้าสู่ขั้นหกแล้วอย่างมาก และแม้ว่าเขาจะซ่อมดาบแสงแห่งสองโลกจนมันกลับมาอยู่ในสถานะสูงสุดได้แล้ว แต่มันก็ยังคงยากอยู่ดีที่จะจัดการชายหนุ่มลึกลับคนนี้ได้ เพราะท้ายที่สุดช่องว่างระหว่างทั้งสองฝ่ายในด้านพลังส่วนตัวนั้นมันมีมากเกินไป

ดังนั้นนี่มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่ชายหนุ่มลึกลับจะกล่าวว่าเขาโชคดีมากๆ เพราะท้ายที่สุดแล้วเขาพึ่งจะก้าวเข้าสู่ขั้นห้า แต่เขากับได้รับอาวุธระดับตำนานมาแล้ว ในขณะที่พวกขั้นหกบางคน รวมไปถึงผู้ที่อยู่ใกล้ขั้นหกมากๆแล้วแบบชายหนุ่มลึกลับนั้นยังไม่มีอาวุธระดับตำนานใช้ด้วยซ้ำ

และหากไม่ใช่เพราะชายหนุ่มลึกลับได้ใช้ความแข็งแกร่งส่วนใหญ่ของตัวเองไปกับการจัดการเทพีตกสวรรค์ขั้นสูง บางทีเขาก็อาจจะโดนโจมตีจนตายไปนานแล้วก็ได้

“แต่อย่างไรก็ตามการละเล่นระหว่างเรานั้นจำเป็นจะต้องจบลงตรงนี้ เพราะฉันจำเป็นจะต้องรีบจัดการกับแม่เทพีตกสวรรค์นี่ ดังนั้นคุณช่วยตายตอนนี้เลยได้ไหม ?”

เมื่อชายหนุ่มลึกลับพูดจบ เขาก็ได้เริ่มทำการร่ายเวทย์ทันที

หลังจากนั้นซือเฟิงก็รู้สึกว่ามานาภายในห้องโถงนั้นได้หายไปทั้งหมด ซึ่งนี่มันก็ทำให้ซือเฟิงรู้สึกหายใจไม่ออกเลย

และต่อจากนั้นอีกไม่กี่วินาที วงเวทย์สีเงินขาวสี่ชั้นก็ก่อตัวขึ้น ก่อนที่มันจะเข้าปกคลุมเกือบทั่วทั้งห้องโถง

“คำสาปขั้นห้า ทลายพื้นที่งั้นหรอ ?!”

ซือเฟิงมองไปที่วงเวทย์สีเงินขาวที่ค่อยๆก่อตัวขึ้นด้วยรอยยิ้มขมขื่น ….

คำสาปขั้นห้าทลายพื้นที่นั้นจัดเป็นคำสาปขั้นห้าที่อยู่ในระดับที่สูงมากๆ และเมื่อเผชิญกับคำสาปขั้นห้าแบบนี้นั้น แม้แต่เทพขั้นหกก็ยังจะต้องระมัดระวังตัวอย่างมาก

“ตายซะ !!!”

เมื่อชายหนุ่มลึกลับกล่าวจบ เขาก็ผลักวงเวทย์สีเงินขาวนี้ให้พุ่งเข้าใส่ซือเฟิง

และเมื่อซือเฟิงเห็นดังนี้นั้นเขาก็รู้ได้ทันทีว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหลบหนีจากคำสาปขั้นห้าอันนี้ ….

“อยากให้ฉันตายงั้นหรอ ? มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกเว้ย !!!”

ซือเฟิงมองไปยังการโจมตีล่าสุดของชายหนุ่มลึกลับที่กำลังเข้ามาใกล้เขาด้วยรอยยิ้มขมขื่น ก่อนที่เขาจะตัดสินใจหยิบขลุ่ยเรียกมังกรซึ่งเป็นไอเทมระดับตำนานที่เขาได้รับเมื่อนานมาแล้วออกมา และจัดการเปิดใช้งานมันด้วยการจ่ายแกนเวทย์มนต์ขั้นสูงสามพันชิ้นทันที

ซึ่งเมื่อซือเฟิงเปิดใช้งานขลุ่ยเรียกมังกรนั้น พื้นที่เหนือเขาก็เริ่มบิดเบี้ยว ก่อนที่มันจะเกิดเป็นรอยแยกมิติ และหลังจากนั้นไม่นานมันก็มีมังกรห้าตัวบินออกมาจากรอยแยกมิตินี้ โดยพวกมันก็ได้รีบเข้ามาปกป้องซือเฟิงทันที

ตู้ม !!

มังกรขั้นห้า เลเวลหนึ่งร้อยแปดสิบทั้งห้าตัวที่ถูกอัญเชิญออกมานั้นได้ทำลายคำสาปขั้นห้าอันล่าสุดที่ชายหนุ่มลึกลับใช้โจมตีเข้ามาใส่ซือเฟิงลงไปอย่างสิ้นเชิงและรวดเร็วมากๆ

และด้วยการปรากฎตัวของมังกรขั้นห้า เลเวลหนึ่งร้อยแปดสิบ ห้าตัวนี้ มันก็ดูเหมือนจะทำให้สถานการณ์ของซือเฟิงนั้นดูดีขึ้นมาในระดับหนึ่ง

แต่อย่างไรก็ตามชายหนุ่มลึกลับนั้นก็ยังคงดูมีท่าทีไม่สนใจใดๆเท่าไหร่นัก แม้ว่าเขาจะเห็นตัวตนของมังกรขั้นห้า ทั้งห้าตัวแล้วก็ตาม

“หื้ม ?”

“ดูเหมือนว่าผู้อัญเชิญของเราจะเจอกับปัญหาใหญ่เลยทีเดียว ….”

“ฉันบอกตั้งแต่ตอนแรกแล้วว่าเราไม่ควรจะขายขลุ่ยเรียกมังกรออกไปเลย !!! แต่ก็ไม่มีใครฟังฉัน …. ทีนี้เป็นยังไงละ ?”

มังกรขั้นห้า ทั้งห้าตัวพูดคุยกัน และหัวเราะอย่างขมขื่นในขณะที่มองไปยังชายหนุ่มลึกลับ ….

ขณะเดียวกันด้านของชายหนุ่มลึกลับนั้นเขาก็มองไปยังมังกรขั้นห้า ทั้งห้าตัวเช่นกัน และเขาก็ได้กล่าวออกมาว่า “นี่พวกแกอยากจะเป็นศัตรูกับฉันงั้นหรอ ?”

“เอางี้เป็นไง ? คุณช่วยปล่อยผู้ที่ได้รับพรจากสวรรค์คนนี้ไปที …. แล้วเดี๋ยวเราจะช่วยคุณทำงานที่คุณทำอยู่ให้สำเร็จลงอย่างรวดเร็ว ….”

หนึ่งในมังกรขั้นห้าที่ดูเหมือนจะเป็นผู้นำกลุ่มมังกรที่ถูกอัญเชิญออกมาได้ยื่นข้อเสนอให้กับชายหนุ่มลึกลับ ซึ่งเมื่อซือเฟิงได้ยินนั้น เขาก็ไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆออกมา และเขาก็ทำเพียงแค่มองไปยังชายหนุ่มลึกลับตรงหน้าอย่างเงียบๆเท่านั้น

“หื้ม ? เขาเป็นหนึ่งในสามตัวละคร และเป็นนักวิชาการที่ฟีนิกซ์เรนเคยเตือนฉันมางั้นหรอ ?” ซือเฟิงที่นึกถึงสิ่งที่ฟีนิกซ์เรนเคยเตือนขึ้นมาได้ก็ได้ลองพยายามตรวจสอบชายหนุ่มลึกลับตรงหน้าของเขาอย่างละเอียดอีกครั้ง และเมื่อมาถึงตรงนี้นั้นเขาก็เข้าใจแล้วว่าทำไมฟีนิกซ์เรนถึงได้พูดแบบนั้น

และซือเฟิงก็สามารถบอกได้เลยว่าแม้แต่มังกรขั้นห้า ห้าตัวก็ยังจะต้องรู้สึกปวดหัวมากๆ หากคิดจะต่อกรกับชายหนุ่มลึกลับคนนี้

หลังจากได้ยินข้อเสนอของหนึ่งในมังกรขั้นห้าที่ดูเหมือนจะเป็นผู้นำกลุ่มนั้น ชายหนุ่มลึกลับก็ยิ้มออกมาอย่างเย็นชาและกล่าวว่า “นี่พวกกิ้งก้าห้าตัวไม่ได้เจียมกะลาหัวตัวเองกันเลยรึไง ? กล้าดียังไงมาต่อรองกับฉันกัน ?”

เมื่อกล่าวจบชายหนุ่มลึกลับก็ได้นำเอาคทาทองคำซึ่งเป็นอาวุธของตัวเองออกมา ….

ซึ่งเมื่อซือเฟิงได้เห็นคทาทองคำนี้เขาก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงอย่างถึงที่สุด

หนึ่งในสิบอาวุธระดับตำนานที่แข็งแกร่งที่สุดใน God domain !

“เวิร์ลโซไซตี้ !!!”
“ดูเหมือนว่ายังไงก็จะต้องสู้เท่านั้นสินะ …” มังกรขั้นห้าที่เป็นผู้นำกลุ่มกล่าวด้วยรอยยิ้มขมขื่น ก่อนที่มันจะหันมามองซือเฟิงและกล่าวว่า “ช่วยรอสักแปปนึงแล้วกัน เดี๋ยวพวกเราจะจัดการตรึงเขาไว้ให้ เพียงแต่ว่าพวกเราก็คงจะตรึงเขาไว้ได้ไม่นานนัก ให้คุณใช้โอกาสนี้รีบหนีออกไปจากที่นี่ และหนีออกจากดินแดนลึกลับซะ ซึ่งหากคุณหนีออกไปได้ ชายหนุ่มคนนี้ก็จะจัดการคุณได้ยากขึ้นมากๆ”

เมื่อมังกรขั้นห้าที่เป็นผู้นำกลุ่มกล่าวจบนั้น มังกรอีกสี่ตัวก็ได้ปลดปล่อยพลังงานทั้งหมดที่ตัวเองมีออกมา ซึ่งมันก็เห็นได้ชัดเลยว่ามังกรทั้งห้าตัวนั้นตั้งใจจะต่อสู้กับชายหนุ่มลึกลับอย่างถึงที่สุด

ซือเฟิงนั้นพยักหน้าให้กับคำพูดของมังกรขั้นห้าที่เป็นผู้นำกลุ่ม ….

อย่างไรก็ตามซือเฟิงยังไม่ทันจะได้คิดอะไรเพิ่มเติม มังกรขั้นห้าทั้งห้าตัวก็ได้พุ่งเข้าใส่ชายหนุ่มลึกลับแล้ว

ซึ่งเมื่อเห็นดังนี้นั้นชายหนุ่มลึกลับก็ได้กระแทกคทาของเขาลงกับพื้นเพื่อสร้างบาเรียขึ้นมาป้องกัน และตัดขาดตัวเองออกจากมังกรขั้นห้าทั้งห้าตัวทันที

“ช่างรนหาที่ตายจริงๆ !!! ถ้าไม่ใช่เพราะว่าตอนนี้ฉันมีงานสำคัญที่ต้องทำให้เสร็จ ฉันจะฆ่าพวกแกทั้งห้าตัวซะเดี๋ยวนี้เลย !!!” ชายหนุ่มลึกลับกล่าวด้วยความไม่พอใจ ขณะที่เขาเหลือบมองไปยังมังกรทั้งห้าตัว

ขณะเดียวกันนั้น มังกรขั้นห้าที่เป็นผู้นำกลุ่มก็ได้หันไปบอกกับซือเฟิงว่า “ตอนนี้แหละ !! คุณรีบหนีไปได้แล้ว !!!”

มังกรทั้งห้าตัวนั้นพยายามโจมตีเข้าใส่ชายหนุ่มลึกลับอย่างบ้าคลั่ง แต่มันก็เห็นได้ชัดเลยว่าทุกการโจมตีนั้นไม่สามารถจะผ่านบาเรียที่ชายหนุ่มลึกลับสร้างขึ้นมาได้เลย

“หนี ?”

ในตอนนี้ซือเฟิงรู้สึกว่าหากเขาปล่อยให้ชายหนุ่มลึกลับทำงานที่ตัวเองทำอยู่ตอนนี้ให้สำเร็จได้นั้น มันจะต้องเกิดเหตุการณ์ใหญ่บางอย่างขึ้นแน่นอน และเมื่อเวลานั้นมาถึง แม้กระทั่งเขาก็ยังยากที่จะหลบหนีไปจากเงื้อมมือของชายหนุ่มลึกลับผู้นี้ได้แน่นอน ดังนั้นตอนนี้ซือเฟิงจึงเริ่มจะเปลี่ยนความคิด ….

“ดูเหมือนว่าการสู้อยู่ตรงนี้มันจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า !!”

ซือเฟิงกัดฟัน และเลือกจะเรียนรู้สกิลมรดกขั้นห้าที่เป็นสกิลเบอเซิกร์ซึ่งเขายังไม่ได้เรียนรู้ทันที

ใน God domain แม้ว่าผู้เล่นจะเลื่อนขั้นมาเป็นขั้นห้าได้แล้ว แต่พวกเขาก็ยังคงจะต้องใช้เวลาประมาณหนึ่งในการเก็บสะสมคะแนนสกิลมรดกเพื่อจะเรียนรู้สกิลมรดกขั้นห้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสกิลมรดกขั้นห้าที่เป็นสกิลเบอเซิกเกอร์ด้วย อย่างไรก็ตามซือเฟิงนั้นแตกต่างออกไป เพราะหลังจากเขาจับจักรพรรดิอสูรไปมอบให้กับวิหารเทพสงครามได้ เขาก็ได้รับคะแนนสกิลมรดกมาจำนวนมาก ซึ่งมันก็เพียงพอที่จะใช้ในการเรียนรู้สกิลมรดกขั้นห้าที่เขาต้องการ ….

สำหรับก่อนหน้านี้ที่ซือเฟิงยังไม่ได้เลือกจะเรียนรู้สกิลมรดกขั้นห้า แม้ว่าจะมีคะแนนสกิลมรดกเพียงพอ มันก็เป็นเพราะว่าเขาต้องการจะเก็บมันไว้ตัดสินใจ และเรียนรู้ในตอนที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น ซึ่งตอนนี้นั้นมันก็นับว่าเป็นแบบนี้แล้ว ดังนั้นซือเฟิงจึงได้เลือกจะเรียนรู้สกิลมรดกขั้นห้าโดยไม่ลังเลเลย

หลังจากเรียนรู้สกิลมรดกขั้นห้าที่ตัวเองต้องการเสร็จเรียบร้อย ซือเฟิงก็ได้จัดการเปิดใช้งานมันทันที ซึ่งนี่มันก็ทำให้พลังจำนวนมหาศาลค่อยๆแผ่เข้าสู่ร่างกายของซือเฟิง และมันก็ส่งผลให้ค่าสถานะ กับชนชนชั้นสิ่งมีชีวิตของซือเฟิงนั้นพุ่งสูงขึ้นทันที

โดยในตอนนี้ค่าสถานะพื้นฐานทั้งหมดของซือเฟิงนั้นได้ทะลุสองหมื่นแต้มไปแล้ว และพร้อมกันนั้นเขาก็มี HP มากกว่าหนึ่งร้อยล้าน ซึ่งนี่มันเกือบจะเทียบเท่ากับพวกขั้นหกเลย

“สามสิบวินาที !!! ฉันขอเวลาสามสิบวินาทีเพื่อจะทำลายแผนการของเขา !!! หากฉันทำไม่ได้ ฉันจะรีบหลบหนีออกไปจากที่นี่ทันที !!!” ซือเฟิงกล่าวพลางมองไปยัง สกิลมรดกขั้นห้าที่มีชื่อว่าหัวใจแห่งดาบที่เขาเปิดใช้งาน สกิลนี้นั้นมันมีผลอยู่สี่สิบห้าวินาที และเท่าที่ซือเฟิงคำณวนหากสามสิบวินาทีนี้เขาไม่สามารถจะทำลายการของชายหนุ่มลึกลับได้ เวลาที่เหลือของสกิลอีกสิบห้าวินาทีมันก็น่าจะเพียงพอที่จะทำให้เขาหลบหนีออกไปได้

เมื่อคิดมาถึงจุดนี้นั้น ซือเฟิงก็ได้รีบพุ่งเข้าใส่เทพีตกสวรรค์ที่ถูกพันธนาการไว้ทันที

สำหรับเรื่องการจะไปจัดการกับชายหนุ่มลึกลับนั้นมันเป็นไปไม่ได้เลย ซือเฟิงรู้ถึงความจริงในข้อนี้ดี เพราะแม้แต่มังกรขั้นห้า ห้าตัวก็ยังยากจะจัดการกับชายหนุ่มคนนี้ได้ ดังนั้นต่อให้เพิ่มเขาเข้าไป ผลลัพธ์มันก็จะไม่ได้แตกต่างจากเดิมมากนัก นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาเบนเข็มมาหาเทพีตกสวรรค์แทน เพราะถ้าเขาสามารถจัดการกับเทพีตกสวรรค์ได้ เขาก็จะสามารถทำลายแผนการของชายหนุ่มลึกลับผู้นี้ได้ และเขาก็น่าจะสามารถทำให้ชายหนุ่มลึกลับผู้นี้ตกอยู่ในสถานะอ่อนแอไปสักพักหนึ่งได้

“ช่างรนหาที่ตายกันจริงๆ !!!”

เมื่อชายหนุ่มลึกลับเห็นการเคลื่อนไหวของซือเฟิง เขาก็สามารถเดาความตั้งใจของซือเฟิงออกได้ทันที ซึ่งนี่มันก็ทำให้เขารีบร่ายเวทย์ของตัวเองอย่างรวดเร็ว

คำสาขั้นห้า พื้นที่แห่งความมืด !!!

ทันใดนั้นโซ่จำนวนมากก็ปรากฎขึ้นเหนือห้องโถงนี้ และพวกมันก็ได้พุ่งเข้ามาหาซือเฟิงอย่างรวดเร็วเพื่อที่จะพันธนาการซือเฟิงเอาไว้ และไม่ให้เข้าใกล้เทพีตกสวรรค์

ซึ่งเมื่อเห็นดังนี้นั้นซือเฟิงก็ได้ใช้สกิลแยกร่างออกมาสามสิบหกร่างทันที ก่อนที่เขาจะทำการสลับตัวไปมากับร่างแยกของเขาทั้งหมดเพื่อหลบหลีกโซ่จำนวนมากนี้ และพยายามขยับเข้าใกล้เทพีตกสวรรค์

หลังจากนั้นสองวินาทีซือเฟิงก็ได้มาปรากฎตัวขึ้นข้างๆเทพีตกสวรรค์ และใช้ดาบที่สอง โฮลี่ดีวอร์โจมตีเข้าใส่เทพีตกสวรรค์ทันที !!!

ในตอนนี้ค่าสถานะและชนชั้นสิ่งมีชีวิตของซือเฟิงนั้นเกือบจะเทียบได้กับพวกขั้นหกแล้ว ดังนั้นเขาจึงสามารถจะใช้โฮลี่ดีวอร์ในแบบฉบับที่สมบูรณ์ออกมาได้

-5,416,541,412!

ความเสียหายมากกว่าห้าพันสี่ร้อยล้านปรากฎขึ้นเหนือหัวของเทพีตกสวรรค์ ซึ่งการโจมตีนี้ของซือเฟิง มันก็ได้ทำให้ HP ของเธอลดลงไปมากกว่าสองเปอเซ็นต์ทันที แต่ถึงกระนั้นเทพีตกสวรรค์ผู้นี้ก็ยังคงเหลือ HP อยู่อีกราวสองเปอเซ็นต์

“ไอ้สารเลว !!! ตอนนี้คุณทำให้ฉันโกรธจริงๆแล้วนะ !!!”

ชายหนุ่มลึกลับตะโกนออกมาอย่างเกรี้ยวกราด เมื่อได้เห็นการกระทำของซือเฟิง แต่อย่างไรก็ตามแม้ว่าเขาจะอยากโจมตีซือเฟิงแค่ไหน แต่เขาก็ไม่สามารถทำได้ เพราะในตอนนี้นั้นมังกรขั้นห้าทั้งห้าตัวได้ใช้ลมหายใจมังกรเพื่อโจมตีเขาเข้ามาพร้อมกันแล้ว

ซึ่งเมื่อซือเฟิงเห็นดังนี้นั้นเขาก็รู้ดีว่าเขาต้องรีบแล้ว เพราะหากชายหนุ่มลึกลับผละออกมาจากมังกรขั้นห้า ทั้งห้าตัวได้เมื่อไหร่ คิวต่อไปมันก็คงจะเป็นเขาที่จะต้องตาย
อย่างแน่นอน ….

“ขอโทษที แต่ช่วยตายเพื่อฉันหน่อยแล้วกัน !!!”

ซือเฟิงรู้ดีว่าหากเขาปล่อยให้สถานการณ์แบบนั้นเกิดขึ้น เขาก็จะหมดสิทที่จะทำลายแผนการของชายหนุ่มลึกลับได้ ดังนั้นเขาจึงได้ตัดสินใจที่จะใช้เทคนิคมานาที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างดาบที่สาม การทำลายล้างศักสิทธิ์ทันที !!!

ซึ่งการโจมตีด้วยการใช้ดาบที่สาม การทำลายล้างศักสิทธิ์ของซือเฟิงนั้นมันก็ได้กลืนกิน HP ทั้งหมดที่เหลืออยู่ของเทพีตกสวรรค์ไปในทันที

และเมื่อเทพีตกสวรรค์ผู้นี้ตายลงนั้น ซือเฟิงก็ได้รับ EXP อย่างมหาศาลจนเลเวลของเขาพุ่งทะยายขึ้นไปอย่างมาก พร้อมกันนั้นเทพีตกสวรรค์ก็ได้ดรอปไอเทมออกมาหลายร้อยชิ้น ท่ามกลางสายตาเฝ้ามองของชายหนุ่มลึกลับตอนนี้ที่ดูเหมือนจะบ้าคลั่งอย่างถึงที่สุดแล้ว

ในส่วนของซือเฟิง ตัวเขาเองนั้นรู้ดีว่าสถานการณ์ตอนนี้มันเป็นอย่างไร ดังนั้นเขาจึงไม่ได้คิดที่จะจับปลาสองมือแต่อย่างใด โดยเขาก็ได้รีบพุ่งเข้าไปหยิบไอเทมที่แข็งแกร่งที่สุดบางส่วน และรีบหนีออกไปจากห้องโถงนี้ในทันที

Reincarnation Of The Strongest Sword God

Reincarnation Of The Strongest Sword God

เริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง เขาได้เข้ามาสู่ “เกมแห่งมีชีวิต” นี้อีกครั้งเพื่อที่จะควบคุมโชคชะตาของตัวเอง ครั้งนี้ , เขาจะไม่ถูกควบคุมจากคนอื่น ก่อนหน้านี้ราชาแห่งดาบเลเวล 200 , เขาได้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในชีวิต วิธีการที่จะได้รับเงิน! กลยุทธ์แห่งชัยชนะในดันเจี้ยน! เควสในตำนาน! สถานที่ดรอปอุปกรณ์! ทักษะที่ยังไม่ถูกค้นพบ! แม้แต่ความลับที่พวกผู้ทดสอบเบต้าไม่รู้ , เขารู้มันทั้งหมด สงครามอันยิ่งใหญ่ , ความก้าวหน้าในชีวิต , เข้าสู่ความเป็นพระเจ้า , บรรลุถึงจุดสูงสุดแห่งดาบ ตำนานของชายผู้ที่จะกลายเป็นเทพแห่งดาบได้เริ่มขึ้นแล้ว Starting over once more, he has entered this “living game” again in order to control his own fate. This time, he will not be controlled by others. Previously the Level 200 Sword King, he will rise to a higher peak in this life. Methods to earn money! Dungeon conquering strategies! Legendary Quests! Equipment drop locations! Undiscovered battle techniques! Even the secrets Beta Testers were unknowledgeable of, he knows of them all. Massive wars, life advancement, entering Godhood, sword reaching to the peak; a legend of a man becoming a Sword God has begun.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset